การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 583 ทวงทุกสิ่งที่เป็นของเธอกลับมา
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 583 ทวงทุกสิ่งที่เป็นของเธอกลับมา
บทที่ 583 ทวงทุกสิ่งที่เป็นของเธอกลับมา
หลังจากตระกูลจูกลับไป ถังสือก็หายไปอีกครั้ง
เฮ่อจื่อกุยและพานลี่ฮวาหันมองถังซวง แม้แต่จิงเหวินรุ่ยเองก็ยังลังเล แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะถามบางอย่าง จูรุ่ยก็เดินออกมา
จิงเหวินรุ่ยเห็นจูรุ่ย เขาก็รีบไปหาเธออย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวรุ่ย คุณตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่? เป็นยังไงบ้าง?”
ถังซวงหันมองจูรุ่ยแล้วพูดขึ้นว่า “เธอคงเห็นทุกอย่างแล้ว”
จูรุ่ยพยักหน้ารับ “อื้ม ฉันเห็นแล้วค่ะ”
เธอตื่นขึ้นมาตอนที่ครอบครัวของเธอมาที่นี่ แต่หลบอยู่ที่มุมห้องและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดชัดเจน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังซวงจึงมอบที่ดินที่เพิ่งได้รับมาให้กับจูรุ่ย
“แม้ว่าทำเลของมันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในอนาคตมันจะดีแน่นอน ฉันคิดว่าเธอน่าจะได้ใช้มัน” ถังซวงมองจูรุ่ยด้วยความสงสัย “ฉันจำได้ว่าแม่เลี้ยงของเธอถูกจัดการไปแล้ว แต่ทำไมหล่อนถึงจับเธอขังได้อีกล่ะ?”
จูรุ่ยหลบสายตาด้วยความอับอาย
“ฉัน… ใจอ่อนเกินไป เพราะเป็นห่วงพ่อ… เรื่องเลยเป็นแบบนี้”
แม้เธอจะไม่สนใจหร่วนปี้เฟิงและจูเหลียน แต่เธอก็ยังห่วงใยพ่อของตนเอง ทำให้หร่วนปี้เฟิงกับจูเหลียนสบโอกาส ถ้าหากไม่ได้ถังซวงช่วยเอาไว้ เธออาจจะต้องถูกบังคับให้หมั้นกับหลี่เจียหมิงจริง ๆ และกำหนดการแต่งงานก็เร็วมาก
หากตระกูลหลี่เป็นสถานที่ที่ดี จูเหลียนคงจะยอมแต่งงานด้วยตนเองไปแล้ว ไม่ใช้วิธีน่ารังเกียจอย่างนี้เพื่อกักขังเธอหรอก
จูรุ่ยโค้งคำนับต่อถังซวงอย่างซาบซึ้งใจ
“พี่สาวซวง ขอบคุณ ฉันขอบคุณพี่จริง ๆ”
หลังจากนั้นเธอหันมองจิงเหวินรุ่ยและถังชุนหยาน และกล่าวขอบคุณซ้ำ ๆ แล้วยังหันไปขอบคุณพานลี่ฮวาด้วย “ขอบคุณคุณพานมากนะคะ ที่ไปที่นั่นตั้งหลายครั้ง ขอบคุณที่เป็นห่วงฉัน”
จูรุ่ยถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างอดกลั้น
เธอถูกครอบครัวของตัวเองจับขัง แต่กลับได้เพื่อนที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดช่วยเหลือเอาไว้
ถังซวงพูดจากด้านข้าง “ใช่ อย่าร้องไห้เลย การร้องไห้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เธอควรคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดีกว่า”
ถังชุนหยานกล่าวเสริมด้วยเช่นกัน “ใช่จูรุ่ย เธอต้องคิดแผนต่อไปแล้ว ถึงจะออกจากบ้านมาได้ แต่ถ้าพ่อของเธอกลับมาจับเธอไปอีกครั้ง… หรือว่าเธอจะตามพวกเรากลับเมืองหลวง?”
ถังชุนหยานรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ดี จึงมองจูรุ่ยด้วยความคาดหวัง
แม้แต่จิงเหวินรุ่ยเองก็ยังคาดหวังในคำตอบของจูรุ่ย
ส่วนถังซวงไม่พูดอะไร แค่ต้องการรู้ว่าจูรุ่ยคิดอย่างไร และมองอยู่เงียบ ๆ
หลังจากจูรุ่ยได้ยินถังชุนหยานพูด เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังช่วยเหลือตน แต่… เธอไม่เต็มใจที่จะละทิ้งทุกอย่าง ทุกอย่างของเธอคือตระกูลจู มันเป็นทรัพย์สินของแม่ผู้ล่วงลับไปแล้ว และเงินทั้งหมดเป็นสิ่งที่แม่ของเธอหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ทำไมเธอจะต้องมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับหร่วนปี้เฟิงและจูเหลียนด้วย? และเธอจะไม่ให้พ่อของตัวเองได้เสวยสุขอีกต่อไป
เธอต้องเอาทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลจูกลับคืนมา คราวนี้เธอจะไม่ใจอ่อนให้กับพ่ออีกเด็ดขาด เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อของเธอด้วยซ้ำ
“ชุนหยาน… ฉันจะไปเมืองหลวงแน่นอน ถึงตอนนี้ฉันออกจากบ้านแล้วก็จริง แต่ฉันต้องการจะทวงเอาทุกอย่างของฉันคืน”
ดวงตาของจูรุ่ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ถังซวงถึงกับหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
“ใช่แล้ว เพราะทั้งหมดเป็นของของเธอ เธอต้องเอากลับคืนมา”
จูรุ่ยที่ได้ยินคำพูดของถังซวง ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพร้อมสนับสนุนเธอ “พี่สาวซวง คราวนี้ฉันจะทำทุกอย่างให้ดี ไม่ให้พี่ต้องผิดหวังแน่นอน”
“อื้ม ฉันเชื่อใจเธอ”
แน่นอนจิงเหวินรุ่ยเองก็คาดหวังให้จูรุ่ยกลับเมืองหลวงไปพร้อมกัน แต่เมื่อเห็นว่าจูรุ่ยตัดสินใจอย่างนั้นแล้ว เขาก็ไม่แย้งอะไร เพียงเป็นห่วงว่า “เสี่ยวรุ่ย ตอนนี้หิวหรือยัง? กินข้าวสักหน่อยไหม”
“ฉันหิวนิดหน่อยค่ะ”
พานลี่ฮวาที่ได้ยิน รีบพูดขึ้นว่า “เราไปกินข้าวกันเถอะ ป้าก็หิวแล้วเหมือนกัน” เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาถูกขัดจังหวะขณะกำลังจะกินข้าวพอดี
ทั้งหมดจึงนั่งลง และเริ่มรับประทานอาหาร
หลังมื้อเย็น จูรุ่ย ถังซวง และถังชุนหยานพูดคุยกันหลายเรื่อง และบอกเล่าถึงสถานการณ์ในเวลานี้
หลังจากถังชุนหยานได้ยินจูรุ่ยบอกกล่าวรายละเอียดของสถานการณ์เพิ่มเติม เธอยิ่งโกรธจัด “จูรุ่ย พ่อของเธอทำไมถึงทำแบบนี้! เขาสนใจแต่ลูกสาวคนนั้น ไม่สนใจความเป็นความตายของเธอสักนิด ฉันได้ยินว่ามันมีบางอย่างผิดปกติกับหลานชายคนโตตระกูลหลี่ด้วยนะ!”
“อะไรหรือ?”
จูรุ่ยไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อน เธอรู้เพียงว่าหลี่เจียหมิงไม่ค่อยสูง แต่อย่างอื่นก็นับว่าดูดีแค่นั้น
พอเห็นจูรุ่ยไม่รู้ ถังชุนหยานก็กระซิบสิ่งที่พานลี่ฮวาบอกมาก่อนหน้านี้
“ถ้าเธอต้องแต่งงานกับคนแบบนั้น ในอนาคตเธอจะต้องลำบากแน่นอน พี่เหวินรุ่ยของเราดีกว่าเขาตั้งหลายเท่า เพราะเขาไม่ได้รับจดหมายจากเธอ เขาจึงขอให้พี่สาวซวงช่วยติดต่อเธอให้ หลังจากที่ไม่ได้คำตอบอะไร ทุกคนจึงคิดว่าควรมาหาเธอที่นี่”
ใบหน้าของจูรุ่ยแดงขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความสุข
เธอไม่คิดจริง ๆ ว่าจิงเหวินรุ่ยจะมาที่เมืองก่างเฉิงเพื่อเธอ และเขายังพาถังซวงกับคนอื่น ๆ มาช่วยเหลือเธอด้วย เธอที่รู้สึกชอบจิงเหวินรุ่ยอยู่แล้ว หลังจากเหตุการณ์นี้ เธอก็สัมผัสได้ว่าเขาได้เข้ามานั่งในใจของเธอแล้ว
ถังชุนหยานหัวเราะ พาถังซวงออกไป และปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่กันสองต่อสอง
ถังซวงและถังชุนหยานเดินออกไปแล้ว จิงเหวินรุ่ยก็เข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ “เสี่ยวรุ่ย กินแอปเปิลก่อนนะ”
“ค่ะ”
จูรุ่ยตอบรับ จากนั้นก็หยิบแอปเปิลชิ้นหนึ่งส่งให้จิงเหวินรุ่ยแล้วพูดขึ้นว่า “เหวินรุ่ย ฉันตกลงค่ะ”
“หือ…”
ร่างกายของจิงเหวินรุ่ยชะงักค้างไป
จูรุ่ยพูดย้ำอีกครั้ง “เหวินรุ่ย เรามาเป็นคนรักกันเถอะ แต่คุณจะ…”
จิงเหวินรุ่ยตกใจจนนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ เมื่อได้สติกลับมา เขาก็กุมมือของจูรุ่ยเอาไว้ “ผมฝันถึงเรื่องนี้ทุกวัน…”
จูรุ่ยยกยิ้มออกมาเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของจิงเหวินรุ่ย
“งั้นสวัสดีค่ะ ที่รัก”