การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 598 พิธีเสี่ยงทายอนาคต
บทที่ 598 พิธีเสี่ยงทายอนาคต
“จิงเหวินตี้ จิงเยว่ลู่ สุขสันต์วันเกิดจ้ะ”
ถังซวงและถังเซวี่ยมาช่วยถังหลานในตอนเช้า เมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความน่ารัก และมอบของขวัญให้กับพวกเขาด้วย
“ฟักทองน้อย นี่ของขวัญของหนูนะ ฟักขาวน้อย กล่องสีชมพูนี้ของหนู”
“พี่… พี่…”
ถังเซวี่ยตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยทั้งสองคนเริ่มเรียกพวกเธอได้แล้ว “จ้า… พี่อยู่นี่แล้ว”
ไม่ใช่แค่ถังเซวี่ย แม้แต่ถังซวงเองก็ยังใจละลายเช่นกัน “ฟักทองน้อย ฟักขาวน้อย เรียกพี่สาวเป็นแล้วหรือ เรียกอีกครั้งได้ไหม”
“พี่…”
ฟักขาวน้อยร้องออกมาพร้อมกับเหยียดมือเพื่อให้ถังซวงกอด
“โอ้ย… ฟักขาวน้อยของพี่สาวน่ารักจังเลย”
ถังซวงอุ้มฟักขาวน้อยขึ้นมาพร้อมกับหอมแก้มนุ่มแน่นอย่างรักใคร่ ไม่อยากจะวางเจ้าตัวน้อยลงเลย
ถังหลานหัวเราะหลังเห็นว่าเด็กทั้งหมดเข้ากันได้ดี “เจ้าตัวน้อยทั้งสองนี่ไปลอบเรียนการเรียกพี่สาวแล้ว ไม่รู้ว่าเขาพูดคำอื่นได้ด้วย เรียกแค่พ่อกับแม่เท่านั้น”
ถังเซวี่ยอุ้มฟักทองน้อยขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่บ้าง “นอกจากพ่อกับแม่แล้ว ฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยเรียกหนูว่าพี่สาวด้วย ดีใจจังเลยค่ะ”
ทุกคนกอดกันสักครู่ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
“แม่คะ เสี่ยวเซวี่ยกับหนูจะไปที่โรงแรมก่อนนะคะ แม่กับพ่อไปพร้อมกับน้องได้เลย ไม่ต้องห่วงที่โรงแรมค่ะ ตอนนี้เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานไปรอแล้ว และคุณป้าก็จะช่วยรับแขกด้วย”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นแล้ว ถังหลานก็ยกยิ้ม “จ้ะ พวกลูกรีบไปเถอะ เดี๋ยวแม่เตรียมข้าวของเสร็จแล้วจะพาน้อง ๆ ไปเหมือนกัน”
ถังซวงและถังเซวี่ยตรงไปยังโรงแรมทันทีหลังออกจากบ้าน
พวกเธอไม่คิดว่าทั้งโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานจะยืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ทางนี้”
เฟิงเยี่ยหานเองก็ก้าวไปหาถังเซวี่ยก่อนจะเอ่ยปากทักทาย “เสี่ยวเซวี่ย ทำไมมาเร็วจังล่ะ? ความจริง แค่ฉันกับโม่เจ๋อหยวนก็พอแล้วนะ” เขาเพิ่งมาเมืองหลวงเมื่อวานนี้ ได้พบกับเสี่ยวเซวี่ยเมื่อคืนแล้ว แต่ทั้งสองคนยังไม่ได้พูดคุยกันเลย วันนี้พวกเขาก็อาจจะไม่มีเวลาพูดคุยกันอีก คงต้องรอจนกว่างานเลี้ยงจะจบลงก่อน
เมื่อถังเซวี่ยได้ยินเฟิงเยี่ยหานพูดอย่างนั้น เธอจึงกล่าวตอบไปว่า “ตอนนี้คนยังน้อยอยู่ คุณเลยยังรับไหวน่ะสิ เดี๋ยวอีกสักพักคนก็จะมาก คุณจะต้องยุ่งแน่นอน”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน ก็มีคนเดินเข้ามาเพิ่ม
“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกเธอมาแล้วหรือ”
ซูเหนียนอวิ๋น หลี่จงอี้ เกอชิงเหม่ย และซ่างสยงเยี่ยเดินเข้ามา พวกเขาคิดว่าหากมาให้เร็วสักหน่อยอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
ทันทีที่เห็นทุกคน พวกเขาก็ยกยิ้มทักทาย “คุณปู่หลี่ คุณย่าซู มาเร็วจังเลยค่ะ”
ซูเหนียนอวิ๋นยิ้มกว้าง “ฉันมาดูว่าเผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างน่ะ”
“คุณย่าซูพวกเราจะอยู่ตรงนี้เองค่ะ พวกคุณเข้าไปด้านในเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้น “ครับ คุณย่าซูเข้าไปด้านในดีกว่า เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”
ซูเหนียนอวิ๋นไม่ดื้อรั้น พยักหน้ารับก่อนจะเดินตามเข้าไปด้านใน
หลังจากหลี่จงอี้ ซูเหนียนอวิ๋น และคนอื่น ๆ เข้าไปแล้ว อวี๋มินกับเมิ่งผิงก็มาถึง พวกเธอเห็นว่าแขกเหรื่อมากันมากมาย จึงอดไม่ได้ที่จะเขินอาย “ซวงเอ๋อร์ พวกเรามาสายไปหรือ ถ้ารู้ก่อนหน้าคงจะมาเร็วกว่านี้”
ถังซวงรีบตอบกลับ “คุณป้าไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ พวกคุณไม่ได้มาสายด้วย” ความจริงแล้วนี่ก็ยังไม่สายเกินไป ยังพอมีเวลาเหลือก่อนจะเริ่มงานเลี้ยง
แม้ถังซวงจะพูดอย่างนั้น แต่อวี๋มินและเมิ่งผิงก็ยังรู้สึกละอายใจ ทั้งสองจึงบอกให้ถังซวงกับคนอื่น ๆ ไปพัก “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวพวกเราจะอยู่ตรงนี้เองจ้ะ พวกเธอเข้าไปนั่งด้านในได้แล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้า พวกเราจะอยู่ตรงนี้เอง”
อวี๋มินอยากจะให้ทุกคนเข้าไปในงาน แต่เวลานี้เองก็มีแขกอีกคนเดินเข้ามา เป็นครอบครัวเฮ่อ เธอกับเมิ่งผิงจึงรีบหันกลับไปทักทาย “คุณเฮ่อ มาถึงแล้วหรือคะ”
“พวกเรารีบมาเพราะอยากจะพบเจอเด็กทั้งสองคนเร็ว ๆ น่ะ”
“คุณเฮ่อ ฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยยังไม่มาเลยค่ะ น่าจะมาหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าและกินจนอิ่ม”
เมื่อคิดว่าเด็กน้อยยังกินอะไรไม่ได้ คุณปู่เฮ่อพยักหน้ารับ “อื้ม พวกเขาต้องกินให้อิ่มก่อนจึงจะเข้าร่วมงานเลี้ยงได้”
“คุณเฮ่อคะ อย่างนั้นฉันพาคุณไปนั่งดีกว่า”
อวี๋มินพาครอบครัวเฮ่อเข้าไปนั่งด้านใน
ก่อนพานลี่ฮวาจะเข้าไป เธอหันกลับมากระซิบกับถังซวงว่า “ซวงเอ๋อร์ ป้ามีบางอย่างจะเล่าให้ฟัง”
ถังซวงพยักหน้ารับ
แขกเริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เวลานี้จิงเจ้อหรงกับถังหลานเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสองคน ตามหลังมาด้วยคุณปู่จิงและคุณย่าจิง
“สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง ขอบคุณที่ช่วยพวกเราทำงานอย่างหนัก”
ได้ยินว่าคุณย่าจิงพูดอย่างนั้น อวี๋มินและเมิ่งผิงก็ส่ายศีรษะ “คุณแม่คะ พวกเราเพิ่งมา ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ซวงเอ๋อร์กับคนอื่นนี่สิเหนื่อยกว่าเรามาก”
“ฮ่าฮ่า… ขอบคุณทุกคนมาก”
คุณย่าจิงอยากอยู่ช่วย แต่อวี๋มินและเมิ่งผิงก็ให้เธอเข้าไปด้านใน “คุณแม่คะ พวกเราอยู่ตรงนี้เอง แม่เข้าไปด้านในเถอะค่ะ” หลังพูดอย่างนั้น เธอหันมองถังหลาน “อาหลาน ไปที่โต๊ะก่อนเลยจ้ะ เดี๋ยวพอแขกมาครบแล้วพวกเราจะตามเข้าไป”
“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รอง ขอบคุณนะคะ”
“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณหรอก รีบเข้าไปก่อนเถอะ”
หลังจากถังหลานและคนอื่น ๆ เดินเข้าไป แขกเหรื่อก็ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง เปาลี่ผิงและเฉินกวงหยางก็มาถึงแล้วเช่นกัน
“พี่เฉิน มาได้ยังไงคะเนี่ย”
ถังซวงเห็นว่าเฉินกวงหยางมาที่นี่ด้วยตัวเอง ก็ถึงกับประหลาดใจ “รีบเข้าไปนั่งก่อนเถอะค่ะ”
เฉินกวงหยางยกยิ้มเมื่อได้พบกับถังซวง “ซวงเอ๋อร์ ไม่ได้เจอกันเสียนาน เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ เลยนะ”
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเราค่อยนั่งคุยกันหลังทานอาหารเสร็จนะ”
เฉินกวงหยางยกยิ้มรับ จากนั้นหันมองถังเซวี่ยแล้วทักทาย “เสี่ยวเซวี่ยของเราก็โตขึ้นมาก”
“พี่เฉิน ไม่ได้เจอกันตั้งนานค่ะ”
ถังเซวี่ยดีใจมากที่ได้เจอเฉินกวงหยางอีกครั้ง เธอกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้น แขกที่เหลือก็มาถึง ถังซวงกับคนอื่น ๆ ก็ทยอยเข้ามานั่งด้านใน
“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานฉลองวันเกิดของลูกผมทั้งสองคน จิงเหวินตี้ และ จิงเยว่ลู่ ผมขอกล่าวขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะครับ” จิงเจ้อหรงกล่าวคำขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาหาฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยให้พวกเด็ก ๆ ทักทายกับแขก ซึ่งทั้งสองก็คำนับให้อย่างน่ารัก
แม้ยังเดินไม่ได้ แต่พวกเขาก็สามารถยืนได้แล้ว ทั้งสองคนโค้งคำนับพร้อมยกมือขึ้น สร้างความเอ็นดูให้กับแขกอย่างมาก
“ว้าว… ทั้งสองคนฉลาดจริง ๆ น่ารักจังเลย”
“ใช่ ๆ น่ารัก แถมยังฉลาดอีก”
“คิคิคิ…”
ไม่รู้เด็กน้อยได้ยินคำชมเหล่านั้นหรืออย่างไร พวกเขาส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสดใส
ทุกคนที่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของฟักขาวน้อยและฟักทองน้อยก็อดไม่ได้ที่จะใจละลาย
“ไอหยา ฉันอยากบีบแก้มเจ้าตัวเล็กจริง ๆ น่ารักมาก”
“ฉันก็อยากกอดพวกเขาจัง”
ทุกคนที่เห็นเด็กน้อยทั้งสองคนต่างชื่นชมความน่ารัก เมื่ออาหารถูกวางขึ้นโต๊ะแล้ว ทั้งหมดอวยพรให้กับเด็กน้อยทั้งสองคนในงานวันเกิดครั้งแรกของพวกเขา ในงานวันนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและชื่นมื่น
หลังจากถังซวงและคนอื่น ๆ กลับมาถึงบ้านหลังจากส่งแขกเสร็จแล้ว พวกเขาก็ให้เด็กน้อยทั้งสองคนเข้าพิธีทำนายอนาคต