การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 599 เริ่มธุรกิจ
บทที่ 599 เริ่มธุรกิจ
ฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยมองสิ่งต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายบนพื้นด้วยความสงสัย และคนแรกที่เริ่มขยับก่อนคือฟักขาวน้อย เธอขยับตัวเมื่อเห็นลูกคิดสีทองตรงหน้า เด็กน้อยคว้ามันก่อนจะเขย่าเสียงดังจนลูกคิดกระทบกันดัง แป๊ก แป๊ก แป๊ก… หลังได้ยินเสียงนั้นแล้วเธอก็ยังเขย่าต่อไปอย่างสนุกสนาน
“โอ้… เยว่ลู่ของเราเก่งจริง ๆ จับลูกคิดสีทองไว้ในกำมือแน่นเชียวนะ”
ทันทีที่หญิงชราเห็นหลานสาวตัวน้อยกำลังสนุกสนานกับลูกคิด ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความยินดี
จิงเจ้อหรงและถังหลานเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นลูกสาวกำลังเพลิดเพลินกับเสียงของลูกคิด
หลังจากนั้นทุกคนหันมองฟักทองน้อย
เวลานี้ฟักทองน้อยจับบางอย่างขึ้นมา มันคือหนังสือเล่มใหม่เอี่ยม
ผู้เฒ่าจิงถึงกับยิ้มกว้าง “ดูเหมือนว่าฟักทองน้อยคงจะกลายเป็นหนอนหนังสือในอนาคตแน่ ๆ”
ทุกคนที่มองเห็นต่างก็รู้สึกมีความสุข
แต่เพราะวันนี้เด็กน้อยทั้งสองคนได้ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกอยู่นาน จนตอนนี้พวกเขาเริ่มเหนื่อยแล้ว ทั้งสองก็ทิ้งทุกอย่างในมือก่อนจะหาวคำใหญ่
ถังหลานกับหัวเฟยเฟิ่งรีบพาเด็กน้อยสองคนไปพักผ่อน
ส่วนจิงเจ้อหรง โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานยังคงทักทายแขกที่มาเยี่ยมเยียนในบ้านตระกูลจิงต่อสักพัก
พานลี่ฮวาเองก็มาที่บ้านตระกูลจิงด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเวลานี้ถังซวงว่างแล้ว เธอก็รีบเข้ามาหา “ซวงเอ๋อร์ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้เธอว่างไหม? เราไปเมืองเผิงเพื่อไปดูสถานที่สักหน่อยมั้ย”
เธอรู้อยู่แล้วว่าถังซวงจะเปิดสาขาบริษัทเครื่องสำอางในเมืองเผิง เธอจึงอยากจะพูดคุยกับถังซวงเรื่องนี้
ถังซวงที่เห็นว่าช่วงนี้ไม่มีอะไรแล้ว จึงพยักหน้ารับ “ค่ะคุณป้า ไว้เราไปที่นั่นด้วยกัน”
“จ้ะ”
หลังจากทั้งสองนั่งลง พานลี่ฮวากล่าวเข้าประเด็นทันที “ซวงเอ๋อร์ ป้าว่าความคิดของเธอดีมาก ตอนนี้นโยบายใหม่ประกาศออกมาแล้ว เมืองเผิงจะพัฒนาไปอีกมากและกิจการของเราจะต้องรุ่งเรือง”
แต่ยังไงแล้วเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะกังวล
“ซวงเอ๋อร์ แต่ว่า… ป้ายังมีข้อสงสัย ราคาของเราจะตั้งเท่ากันไหม? ถ้าราคาในเมืองก่างเฉิงแพงที่สุด แล้วใครจะมาซื้อล่ะ?”
เห็นความกังวลของพานลี่ฮวาแล้ว ถังซวงยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณป้าคะ ราคาจะต้องเท่ากันทุกสาขาค่ะ ส่วนใครจะซื้อหรือไม่ซื้อไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล เครื่องสำอางของเราเป็นของดี ใช้แล้วเห็นผล ทุกคนที่เคยใช้รู้ดีอยู่แล้วค่ะ”
พานลี่ฮวายกยิ้ม “ใช่ สินค้าของพวกเรามีคุณภาพสูงมาก ใช้แล้วก็จะต้องกลับมาซื้อซ้ำอีก เอาละ งั้นเรามาเปิดร้านกันอีกดีกว่า”
หลังพูดจบ พานลี่ฮวาก็ถามถังซวงว่าจะไปเมืองเผิงเมื่อไหร่
“เราไปพรุ่งนี้กันเลยค่ะ จะได้รีบไปรีบกลับ”
“ได้จ้ะ”
พานลี่ฮวาพยักหน้ารับ ขณะเดียวกันก็พูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ ถ้าสามารถเปิดร้านที่เมืองเผิงได้แล้ว ก็ต้องมีผู้จัดการร้านคอยดูแล ถ้าชุนหยานเต็มใจไปที่นั่นก็คงดี แต่ถ้าเธอไม่อยากไป ป้าก็สามารถหาคนให้ได้ อาจจะเป็นคนที่เธอรู้จัก ซุนเฉียนซีน่ะ”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“คุณป้าคะ ป้าจะย้ายซุนเฉียนซีไปที่เมืองเผิงหรือคะ? แล้วเธอยินดีไหม?”
พานลี่ฮวายกยิ้ม “แน่นอนว่าเธอเต็มใจ และหลังจากที่เธอเข้าเมืองเผิงแล้ว ตำแหน่งของเธอจะถูกเลื่อนขึ้น ถ้าเธอไม่ต้องการ เธอคงไม่เข้ามาคุยกับป้าก่อนหรอก”
เมื่อนึกถึงซุนเฉียนซีแล้ว พานลี่ฮวาก็รู้สึกว่าคนเช่นนี้หาได้ยาก
“ผู้หญิงคนนี้เก่งมากเลยละ อดทน ขยัน ทำงานหนัก และยังฉลาดมากด้วย จดจำทุกอย่างที่เห็นได้ และสามารถอธิบายสรรพคุณสินค้าของเราทั้งหมดได้ ป้าคิดว่าเธอเหมาะที่จะไปเมืองเผิง”
ถังซวงพยักหน้ารับ “อย่างนั้นให้ซุนเฉียนซีไปประจำที่เมืองเผิงแล้วกันค่ะ ส่วนชุนหยานอาจจะไม่อยากไป เราจะเปิดร้านในเมืองเผิงก่อนแล้วค่อยเปิดในเมืองหลวงทีหลัง ชุนหยานจะเป็นคนรับผิดชอบสาขาของเมืองหลวง หนูเลยไม่คิดจะให้เธอไปประจำที่เมืองเผิงค่ะ”
เห็นถังซวงวางแผนไว้อย่างนั้น พานลี่ฮวาก็เข้าใจ “อย่างนั้นก็ดีเลย”
หลังจากพานลี่ฮวาพูดคุยกับถังซวงสักพัก เธอก็กลับไปที่บ้านของผู้อาวุโสเฮ่อซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก พานลี่ฮวาจึงสามารถเดินกลับได้
หลังจากพานลี่ฮวากลับไป เกอชิงเหม่ยก็เข้ามา
“ซวงเอ๋อร์ ว่างไหมจ๊ะ?”
ถังซวงรีบถามทันที “ป้าเกอ หนูว่างอยู่พอดีเลยค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”
เกอชิงเหม่ยนั่งลงก่อนจะพูดว่า “ป้าอยากให้เธอช่วยตรวจชีพจรให้สักหน่อยน่ะจ้ะ”
เกอชิงเหม่ยยื่นมือออกมาและรอฟังคำตอบจากถังซวงเงียบ ๆ
หลังจากถังซวงตรวจสอบชีพจรเสร็จแล้ว เธอหันมองเกอชิงเหม่ยด้วยรอยยิ้ม “ป้าเกอคะ ไม่มีอะไรน่ากังวลเลยค่ะ”
เกอชิงเหม่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีจังเลย”
หลังจากนั้นเกอชิงเหม่ยก็ถามเพิ่มเติมถึงเรื่องที่ต้องระมัดระวังระหว่างตั้งครรภ์ หลังจากจดทุกอย่างใส่กระดาษแล้ว เธอก็คิดกลับออกไป
เวลานี้ซ่างสยงเยี่ยเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ชิงเหม่ย เป็นยังไงบ้างหรือครับ?”
เกอชิงเหม่ยยิ้มและพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยยิ้มจนแก้มปริ เขามีความสุขมาก จึงหันกลับมากล่าวขอบคุณถังซวง
ถังซวงก็ยิ้มรับ “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ แค่ดูแลป้าเกอให้ดีก็พอแล้วค่ะ” ในตอนท้ายถังซวงยังบอกกล่าวกับซ่างสยงเยี่ยว่าควรระมัดระวังอะไรบ้าง
“แน่นอน”
หลังจากเกอชิงเหม่ยและคนอื่น ๆ กลับไปแล้ว ถังซวงไปหาถังหลานเพื่อบอกกล่าวว่าเธอจะไปเมืองเผิงสักระยะ
ถังหลานได้ยินว่าถังซวงกำลังจะออกไปข้างนอกอีกครั้งก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะลูก” ลูกสาวคนโตของเธอวิ่งไปวิ่งมาทุกวันแบบนี้ ถังซวงคงเหนื่อยมาก แต่ถังหลานคงไม่รู้ว่าความจริงแล้วถังซวงไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ทั้งอยากจะยุ่งให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ
พอโม่เจ๋อหยวนได้ข่าวว่าถังซวงจะไปเมืองเผิง เขาก็อยากจะไปด้วยทันที
“อาหยวน ช่วงนี้พี่ยุ่งอยู่ไม่ใช่หรือ? อาจารย์ของพี่ทำโครงงานอยู่ไม่ใช่หรือคะ?”
โม่เจ๋อหยวนเงียบไปสักครู่ ความจริงแล้วช่วงนี้เขาก็ยุ่งมากจริง ๆ นั่นแหละ เพิ่งจะมีเวลาว่างมาพบถังซวงในวันนี้เอง
“ไม่เป็นไรหรอกอาหยวน ฉันจะรีบกลับ ไม่ต้องห่วง”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้ารับ “อื้ม”
วันรุ่งขึ้น ถังซวงและพานลี่ฮวาเดินทางไปยังเมืองเผิงพร้อมกับฉีเสียนและคนอื่น ๆ