การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 602-2 ค่อนข้างมีชื่อเสียง (2)
บทที่ 602 ค่อนข้างมีชื่อเสียง (2)
พานลี่ฮวาเห็นว่าถังซวงจัดการงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอจึงอยากจะพาถังซวงออกไปทานอาหารอร่อย ๆ
“ซวงเอ๋อร์ ช่วงนี้เธอทำงานเยอะมาก คืนนี้ต้องกินให้มาก ๆ นะจ๊ะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณป้า”
หลังจากทั้งสองคนนั่งลง พวกเขามองเห็นคนคุ้นเคยเดินเข้ามา
พานลี่ฮวาถึงกับตกตะลึง กล่าวทักทายทันที “คุณนายถัง ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะคะ?”
คุณนายถังเองก็ประหลาดใจที่เห็นว่าถังซวงและพานลี่ฮวาอยู่ที่นี่
“คุณนายเฮ่อ คุณถัง พวกคุณมาที่เมืองเผิงตั้งแต่เมื่อไหร่”
พานลี่ฮวายินดีที่ได้พบเจอคนรู้จัก เธอโบกมือให้กับคุณนายถัง “คุณนายถัง คุณมาทานอาหารที่นี่หรือคะ? มานั่งกับพวกเราไหม?”
คุณนายถังไม่ปฏิเสธ หลังจากนั่งลง พานลี่ฮวาก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของหล่อนไม่ค่อยดีนัก
“คุณนายถัง เป็นอะไรไปคะ? ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ เมื่อคืนคุณพักผ่อนไม่พอหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น คุณนายถังก็หดหู่ “คุณนายเฮ่อ จำเรื่องที่ฉันบอกคุณก่อนหน้านี้ได้ไหม เฮ้อ… มันเกิดขึ้นแล้วละ”
พานลี่ฮวาจำได้ทันที
คราวนั้นเธอพาถังซวงและถังชุนหยานไปเยี่ยมชมร้าน และเจอกับคุณนายถังที่หน้าประตู อีกฝ่ายพาเธอออกไปคุยสักครู่ และตอนนั้นเองที่ถังซวงได้ไปปะทะกับลูกจ้างในร้าน “อ๋อ… จำได้ค่ะ เรื่องน้องสาวของคุณ ตอนนี้หล่อนเป็นยังไงบ้างหรือ?”
“เธอคลอดแล้วล่ะ”
เมื่อพูดถึงน้องสาว คุณนายถังคล้ายว่าอับจนปัญญา “เธอคลอดในโรงพยาบาลที่เมืองเผิงนี่แหละ ฉันเลยมาที่นี่เพื่อจะมาดูแลเธอ”
ถังซวงสับสนเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอไม่รู้เลยว่าต้นสายปลายเหตุคืออะไร
กลับกัน พานลี่ฮวาอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ… น้องสาวของคุณมาคลอดบุตรที่เมืองเผิงเลยหรือคะ ทำไม… เธอถึงไม่คลอดในเมืองก่างเฉิงล่ะ? หล่อนเป็นคนเมืองก่างเฉิงไม่ใช่หรือ สวัสดิการต่าง ๆ ที่นั่นย่อมดีกว่าอยู่แล้ว”
“เฮ้อ… เธอไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าลูกน่ะสิ เลยออกจากตระกูลหลูมา และมาคลอดบุตรที่เมืองเผิงเพียงเพราะไม่ต้องการให้หลูตงเหวินทราบเรื่อง”
หลังได้ยินเรื่องนี้ ถังซวงก็ยังสับสน หลากอารมณ์ ชัดเจนว่าสามีของน้องสาวคุณนายถังมีรักใหม่แล้ว หล่อนจึงหนีมาพร้อมกับลูกในท้อง และมาคลอดลูกที่เมืองเผิง
พานลี่ฮวาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ทำไมตระกูลหลูถึงไร้ยางอายขนาดนี้ พวกเขาแต่งงานกัน และชะตากำหนดแล้วว่าจะต้องเป็นคู่สมรสเดียวไปตลอดชีวิต แต่นี่เขากลับเลือกภรรยาใหม่ เขาทำเกินไปจริง ๆ ค่ะ” แต่เธอก็รู้ดีว่าในเมืองก่างเฉิง เรื่องเหล่านี้เป็นปกติมากสำหรับเหล่าคนร่ำรวย ผู้ชายมากมายที่มีภรรยาน้อย
คุณนายถังได้ยินคำพูดของพานลี่ฮวา เธอก็ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้มอ่อน “ถึงกฎนี้จะถูกตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่ดูเอาเถอะว่าครอบครัวไหนบ้างที่ไม่มีภรรยาน้อย? ครอบครัวของน้องสาวของฉันก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน แต่ถ้าหากหล่อนยังได้เป็นภรรยาหลักมันก็คงไม่เป็นไร แต่เมื่อหล่อนต้องหนีออกมาแบบนี้นั่นหมายความว่าให้คนอื่นแทนที่หล่อนแล้วหรือเปล่า?”
แต่ดูเหมือนคุณนายถังจะตระหนักถึงบางอย่างได้ เธอหันมองพานลี่ฮวาด้วยความอิจฉา “อ้อ ฉันลืมไปเลยว่าครอบครัวของคุณไม่มีเรื่องแบบนั้น ทั้งคุณชายเฮ่อและผู้เฒ่าเฮ่อ พวกเขาต่างรักครอบครัว”
พานลี่ฮวาอดไม่ได้ที่จะเขินอาย ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ตระกูลเฮ่อเป็นครอบครัวที่รักเดียวใจเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ครอบครัวในเมืองก่างเฉิง เหล่าสะใภ้ในเมืองก่างเฉิงล้วนแต่อิจฉาเธอทั้งนั้น
แต่ไม่นานพานลี่ฮวาก็ตระหนักได้ว่าตนกำลังพูดคุยถึงเรื่องของน้องสาวคุณนายถัง เลยถามขึ้นอีกครั้ง
“น้องสาวของคุณคลอดลูกแล้วแบบนี้ คุณคิดจะให้หล่อนกลับไปที่ตระกูลหลูอีกไหมคะ? ยังไงการอยู่ในเมืองเผิงแบบนี้จะไม่เป็นไรจริงหรือ?”
คุณนายถังพยักหน้า “ใช่ ฉันวางแผนว่าจะส่งหล่อนกับลูกกลับเมืองก่างเฉิง”
“ค่ะ กลับเมืองก่างเฉิงคงจะดีเสียกว่า คุณควรจะพูดกับหล่อนให้ดี ไม่ว่ายังไง หล่อนก็คือภรรยาหลักของตระกูลหลู และยิ่งมีลูกแล้ว เธอจะให้คนอื่นเอาเปรียบไม่ได้” ขณะพูด พานลี่ฮวาตบหน้าผากก่อนจะพูดว่า “โอ๊ย ฉันมัวแต่โกรธเรื่องนั้น เลยลืมแสดงความยินดีกับน้องสาวของคุณเลย ว่าแต่เธอคลอดเด็กชายหรือเด็กหญิงคะ?”
“เด็กผู้ชายน่ะ”
พานลี่ฮวารีบพูดออกมา “อย่างนั้นต้องรีบแสดงความยินดีแล้ว หลังหล่อนฟื้น คุณควรจะรีบพาหล่อนกลับเมืองก่างเฉิงในทันทีนะคะ”
“อื้ม ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
คุณนายถังรู้สึกดีขึ้น จึงหันมองพานลี่ฮวาแล้วถามว่า “คุณนายเฮ่อ คุณจะกลับเมืองก่างเฉิงเมื่อไหร่ล่ะ? เรากลับพร้อมกันไหม หากกลับไปพร้อม ๆ กันจะได้ดูแลกันได้”
แต่พานลี่ฮวากล่าวด้วยความละอายใจ “ต้องขอโทษแล้วล่ะค่ะคุณนายถัง ฉันมีเรื่องที่ต้องการจัดการในเมืองเผิงอีกมาก ยังไม่มีแผนจะกลับเมืองก่างเฉิงในเร็ว ๆ นี้หรอกค่ะ”
เห็นท่าทางเสียใจของคุณนายถัง พานลี่ฮวาก็กล่าวแนะนำ “ถ้าคุณต้องการใครสักคนคอยดูแลคุณไปตลอดเส้นทาง คุณสามารถจ้างคนกลุ่มหนึ่งได้นะคะ ไม่เพียงแต่จะทำให้การเดินทางของคุณปลอดภัย แต่ยังช่วยเหลือคุณได้ตลอดรอดฝั่งด้วย”
“โอ้… เราสามารถจ้างคนเหล่านั้นได้ด้วยหรือ?”
“แน่นอนค่ะ”
พานลี่ฮวาแนะนำบริษัทใหม่ของถังซวงด้วยความภาคภูมิใจ “ซวงเอ๋อร์ของเราเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัยเมื่อไม่กี่วันก่อน และได้งานใหญ่มาด้วย พวกเราส่งสินค้าชุดหนึ่งจากเมืองเผิงไปที่เมืองหยางได้อย่างปลอดภัย เพราะงั้นคุณสามารถวางใจใช้บริการนี้ได้เลยค่ะ”
คุณนายถังหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ “คุณถัง คุณเป็นคนเก่งจริง ๆ ธุรกิจของคุณใหญ่ขึ้นอีกแล้ว” เธอรู้ดีว่าที่บริษัทเครื่องสำอางยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะถังซวง จนตอนนี้เครื่องสำอางเหล่านั้นกลายเป็นที่นิยมในเมืองก่างเฉิงมาก แถมสาวน้อยตรงหน้าเธอได้เปิดธุรกิจใหม่อีกแล้ว
“ดีเลย อย่างนั้นฉันขอให้คุณถังส่งคนมาให้เราสามคนด้วยนะคะ”
คุณนายถังเชื่อใจพานลี่ฮวาและถังซวงมาก จึงว่าจ้างผู้รักษาความปลอดภัยสองสามคนเพื่อเดินทาง เพราะพวกเธอล้วนแต่เป็นผู้หญิงไร้กำลัง แถมยังมีทารกแรกเกิดด้วย มันคงจะดีกว่าหากมีคนคอยดูแล
ถังซวงพยักหน้ารับทันที
เดิมทีฉีเสียนต้องการจะไปทำงานนี้ด้วยตัวเอง แต่เพราะอาการบาดเจ็บของเขาจึงเป็นโจวต้าจู่ที่รับหน้าที่ผู้นำแทน และยังมีพี่น้องของโถงยี่ชี่ร่วมเดินทางไปด้วย
“หัวหน้า นี่… ก็มากพอแล้วละครับ”
โจวต้าจู่รู้สึกว่าไม่ควรใช้คนจำนวนมากแค่เพื่อไปส่งผู้หญิงสองคนและทารกแรกเกิดกลับเมืองก่างเฉิง
“คุณคงจะไม่เคยไปเมืองก่างเฉิง อย่างนั้นไปด้วยกันนั่นแหละ คิดซะว่าไปเดินเล่นก็ได้” หายากที่พวกเขาจะได้ออกไปข้างนอก ถังซวงจึงต้องการให้พวกเขาพบเจอโลกให้มากที่สุด
โจวต้าจู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครับหัวหน้า อย่างนั้นพวกเราจะไปเดินเล่นสักหน่อย และแวะซื้อของที่เมืองก่างเฉิงด้วย”
ไม่กี่วันต่อมา โจวต้าจู่รู้สึกขอบคุณที่พวกเขาพาคนจำนวนมากมาด้วย ไม่อย่างนั้นภารกิจคราวนี้คงต้องพังพินาศแน่นอน และเพราะการคุ้มกันในคราวนี้ทำให้บริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิงมีชื่อเสียงในเมืองก่างเฉิงมากขึ้นด้วย