การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 603 ค่าจ้างครั้งแรกของถังเซวี่ย (1)
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 603 ค่าจ้างครั้งแรกของถังเซวี่ย (1)
บทที่ 603 ค่าจ้างครั้งแรกของถังเซวี่ย (1)
หลังจากโจวต้าจู่กลับมาจากก่างเฉิง เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก
“หัวหน้าครับ คุณรอบคอบมากจริง ๆ โชคดีที่พวกเราไปกันหลายคน ไม่อย่างนั้นคุณนายถัง น้องสาว และลูกของหล่อนคงจะตกอยู่ในอันตราย ผมไม่คิดเลยว่าพวกเราจะเจอโจรปล้นฆ่าระหว่างทาง เมืองก่างเฉิงนี่อันตรายจริง ๆ”
สวี่อวิ๋นถงที่ยืนอยู่ด้านข้างพยักหน้ารับ “ครับ อันตรายมาก ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าภารกิจนี้จะง่าย แต่มันกลับเกิดเรื่องจนได้ แถมมีพี่น้องของเราหลายคนได้รับบาดเจ็บ”
สวี่อวิ๋นถงเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของฉีเสียน และเหตุผลที่ถังซวงประทับใจในตัวเขาเพราะเขาดูอ่อนโยนมากที่สุดในหมู่ชายร่างกำยำ แต่ทันทีที่เขาเปิดปาก ความอ่อนโยนของเขาก็ถูกทำลายพังพินาศทันที
ถังซวงประหลาดใจหลังได้ยินสิ่งที่โจวต้าจู่กับสวี่อวิ๋นถงพูด
“ปล้นระหว่างทางงั้นหรือ?”
“ใช่ครับ อีกฝ่ายมีคนเยอะมาก และเป้าหมายของพวกมันคือเด็กทารก” ในตอนท้าย โจวต้าจู่อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ “น่าสงสารจริง ๆ เด็กน้อยเพิ่งจะเกิดแต่กลับต้องมาพบเจอความโชคร้ายแบบนี้”
พานลี่ฮวาที่อยู่ข้าง ๆ เงียบไปครู่หนึ่ง เดิมทีเธอเพียงต้องการให้คุณนายถังและคนอื่น ๆ เดินทางโดยปลอดภัยและมีคนคอยช่วยเหลือสักหน่อย จึงแนะนำผู้คุ้มกันให้ แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะถูกไล่ล่าเช่นนี้ หลังจากหวั่นใจอยู่สักพัก เธอก็เอ่ยปากถามขึ้นว่า “แล้วคุณนายถังกับเด็กปลอดภัยไหม?”
“คุณพานไม่ต้องห่วงครับ ทุกคนสบายดีและไปถึงเมืองก่างเฉิงโดยสวัสดิภาพ คราวแรกพวกเธอต้องการกลับไปที่บ้านของคุณนายถัง แต่พวกเธอตัดสินใจไปยังตระกูลถังโดยตรง”
หลังได้ยินอย่างนั้น พานลี่ฮวาก็พยักหน้ารับ “ใช่ ดีแล้วแหละ ถ้าอยู่ในตระกูลถังจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างคุณนายถังไม่ได้บอกกับผู้เฒ่าถังด้วยว่าเด็กน้อยมาคลอดที่เมืองเผิง ถ้าผู้เฒ่าถังได้ทราบเรื่องก่อนหน้านี้ พวกเขาคงส่งคนมาคอยดูแลแล้วละ แต่ก็ดีแล้วที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
ในตอนท้ายของประโยค พานลี่ฮวาหันมองถังซวงก่อนจะพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ของพวกเราเก่งกาจจริง ๆ ทั้งฉลาดและรอบคอบมาก”
“คุณป้าคะ หนูไม่ได้ฉลาดอะไรหรอกค่ะ หนูแค่อยากให้ต้าจู่และคนอื่น ๆ ไปเที่ยวเมืองก่างเฉิงเฉย ๆ”
โจวต้าจู่กล่าวอย่างอดไม่ได้ “หัวหน้า พวกเราได้เห็นแล้วครับ เมืองก่างเฉิงเจริญจริง ๆ แต่ยังไงรังเงินรังทองเหล่านั้นไม่ดีเท่าบ้านของเรา ผมคิดว่าบ้านของเรายอดเยี่ยมกว่ามาก ฮ่าฮ่า…”
สวี่อวิ๋นถงเห็นด้วย แม้เมืองก่างเฉิงจะดูดี แต่ว่ารากฐานของพวกเขาอยู่ที่นี่
โจวต้าจู่หยิบถุงกระดาษออกมาแล้วพูดว่า “หัวหน้าครับ คุณนายถังมอบมันให้เราเพื่อแทนคำขอบคุณในคราวนี้ครับ”
ถังซวงรับมาดูและเห็นว่าภายในเต็มไปด้วยเงินมากมาย เธอจึงไม่รับไว้แต่หันมองโจวต้าจู่แล้วพูดขึ้นว่า “แบ่งให้พี่น้องทุกคนที่ไปเมืองก่างเฉิงในคราวนี้เถอะ ส่วนคนเจ็บก็ให้มากหน่อย”
“หัว… หัวหน้า นี่มันมากเกินไปนะครับ”
โจวต้าจู่ไม่กล้าที่จะรับไว้ แม้จะยังไม่ได้นับ แต่มองด้วยตาแล้วก็ประมาณได้ว่าหลายพันหยวน แต่หัวหน้ากลับไม่สนใจเงินจำนวนนี้และให้พวกเขามาแบ่งกัน นี่มัน… มากเกินไป
ถังซวงโบกมือ “ไม่มากหรอก ยังไงคนที่ไปทำภารกิจในคราวนี้ก็มีมาก นอกจากคุณแล้วยังมีพี่น้องจากโถงยี่ชี่ด้วย หากแบ่งเท่า ๆ กันแล้วก็จะได้รับเงินน้อยลง ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ให้ฉีเสียนเป็นคนแบ่งมันเถอะ”
“ครับหัวหน้า”
ถังซวงโบกมือเพื่อบอกกล่าวให้พวกเขาออกไป โจวต้าจู่และคนอื่น ๆ ก็ไม่คิดอยู่ต่อ พวกเขาจากไปพร้อมกับถุงเงินในมือ
หลังจากทั้งสองคนได้พบฉีเสียนแล้ว พวกเขาเล่าเรื่องที่ถังซวงบอกกล่าวให้ฟัง
ฉีเสียนได้ยินก็ถึงกับอุทานออกมา “หัวหน้าของเรายอดเยี่ยมจริง ๆ เราจะติดตามเธอตลอดไป! เอาละ เงินจำนวนนี้จะแบ่งตามที่หัวหน้าสั่งไว้ พวกนายจะได้รับเท่า ๆ กัน ส่วนพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเพิ่มอีกหนึ่งร้อยหยวน”
“พี่ใหญ่ พี่จะแบ่งเงินให้พวกเราจริงหรือ? พระเจ้า! หัวหน้าของเราใจดีจัง อย่างนี้เราจะต้องทำงานให้ดีแล้วแหละ!”
โจวต้าจู่มีความสุขมาก การที่เขาเข้าเมืองเผิงคราวนี้ก็ทำเงินได้มากมาย แน่นอนว่าเขาไม่ลืมฉีเสียน และอยากแบ่งเงินให้อีกฝ่ายด้วย
สวี่อวิ๋นถงเองก็คิดแบบเดียวกัน
ทว่าฉีเสียนรีบปฏิเสธ “เก็บเงินนี้ไว้เถอะ คราวนี้ฉันไม่ได้ไปด้วย ฉันจะรับเงินได้ยังไง? พวกนายไม่ต้องคิดมากหรอก ยังไงแล้วพวกเราทุกคนก็ได้ทำงานกับหัวหน้า จะไม่มีใครต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไปแล้วละ”
ได้ยินฉีเสียนพูดอย่างนั้น โจวต้าจู่และสวี่อวิ๋นถงก็ไม่ซักไซ้
อีกด้าน พานลี่ฮวากำลังพูดคุยกับถังซวงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ป้าคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับภรรยาคนใหม่ของหลูตงเหวินแน่ ไม่อย่างนั้นคนร้ายจะต้องการตัวเด็กไปทำไม? ฮึ่ม… หลูตงเหวินมัวแต่คิดอะไรอยู่นะ การพาผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในบ้านไม่ต่างอะไรกับการพาความวุ่นวายเข้ามาไม่จบสิ้น”
ถังซวงรู้สึกว่าการคาดเดาของพานลี่ฮวาถูกต้อง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครสนใจทารกแรกเกิดแบบนี้แน่นอน
“ใช่ค่ะ น่าจะเป็นภรรยาน้อยของหลูตงเหวิน แต่เรื่องราวในคราวนี้ทำให้คนจำนวนมากรู้จักบริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิงแล้ว บางทีเราอาจจะได้รับการจ้างงานจากเมืองก่างเฉิงด้วย”
พานลี่ฮวาหันมองอย่างอดไม่ได้ “ซวงเอ๋อร์ ป้ากลัวว่าเรื่องพวกนี้จะมาเกี่ยวข้องกับเธอน่ะสิ ยังไงการลอบทำร้ายก็ล้มเหลว ไม่รู้ว่าภรรยาน้อยของหลูตงเหวินจะทำอะไรอีก ผู้หญิงคนนั้นใจดำและโหดเหี้ยมมากจริง ๆ ป้ากลัวว่าหล่อนจะคิดลงมือกับเธอ ที่แผนการของหล่อนล้มเหลวเพราะบริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิง”
“แต่ตระกูลเฮ่อของเราก็ไม่ยอมง่าย ๆ เหมือนกัน หล่อนเป็นแค่ภรรยาน้อย… หลังจากป้ากลับไปที่เมืองก่างเฉิง ป้าจะไปจัดการกับนังผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นเอง”
เห็นว่าพานลี่ฮวากำลังปกป้องตน ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณป้า หนูไม่เป็นอะไรหรอก คุณป้าลืมแล้วหรือคะว่าหนูมีคนติดตามตั้งมาก ยิ่งกว่านั้นป้าบอกว่าหล่อนเป็นแค่ภรรยาน้อย หล่อนคงไม่สามารถสร้างปัญหาอะไรได้นักหรอกค่ะ แถมหล่อนยังกล้าทำร้ายสายเลือดของตระกูลหลูด้วย หลูตงเหวินจะไม่ปล่อยไปแน่นอน แต่มันก็ไม่ผิดถ้าหากหลูตงเหวินไม่คิดทำอะไร จริง ๆ ป้าควรชวนให้คุณนายถังเกลี้ยกล่อมน้องสาวให้ออกจากตระกูลหลูจะดีกว่า หากจะต้องอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าแต่กลับไม่รักใคร สู้หล่อนออกมาเลี้ยงลูกคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
พานลี่ฮวาหัวเราะหลังได้ยินถังซวงพูด
“หลานคิดว่าการหย่าร้างมันง่ายหรือ? น้องสาวคุณนายถังคลอดเด็กชายสายเลือดตระกูลหลูออกมา ตระกูลหลูจะไม่มีวันยอมปล่อยหล่อนไปง่าย ๆ แน่”
ถังซวงส่ายศีรษะ ไม่รู้จะพูดยังไง เธอเองก็ไม่รู้ด้วยว่าตระกูลหลูจะจัดการเรื่องนี้ยังไง
แต่ก่อนที่ข่าวนั้นจะดังมาถึงหูของถังซวง เฟ่ยไห่ชางเดินทางมาจากเมืองก่างเฉิงและบอกกล่าวถึงสถานการณ์ที่นั่นแล้ว
“หัวหน้าครับ พวกเราได้ชื่อเสียงล้นหลามจากการพาภรรยาของตระกูลหลูกลับเมืองก่างเฉิงอย่างปลอดภัย มีคนจำนวนมากต้องการจ้างคนของเราไปคุ้มครองความปลอดภัย ตอนนี้เรามีงานล้นมือเลยครับ”
ถังซวงยกยิ้ม “ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี บริษัทรักษาความปลอดภัยของเรากำลังจะรุ่งเรืองแล้ว”
“ใช่ครับ”