การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 606 ความเกลียดชังที่ยากอธิบาย (1)
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 606 ความเกลียดชังที่ยากอธิบาย (1)
บทที่ 606 ความเกลียดชังที่ยากอธิบาย (1)
เมื่อผู้เฒ่าตระกูลเห็นว่าถังหลานและครอบครัวมาเยี่ยม เขารีบเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม กล่าวทักทายถังซวง “ท่านผู้นำตระกูล”
ถังซวงตอบรับทันที “สวัสดีปีใหม่นะคะผู้เฒ่าตระกูล”
ถังคุนหาวที่อยู่ข้าง ๆ เชิญทุกคนเข้ามาด้านในด้วยรอยยิ้ม “ซวงเอ๋อร์ เข้าไปด้านในเถอะ” ขณะพูด เขาก็หันมองฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยด้วยแววตาแห่งความรักใคร่ “ฟักขาวน้อยกับฟักทองน้อยก็มาด้วยหรือ จำคุณตาของพวกหลานได้ไหม?”
ฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยมองถังคุนหาวพร้อมส่ายศีรษะน้อย ๆ
ถังคุนหาวรู้ดีว่าตัวเขาไม่ได้พบเด็กน้อยทั้งสองคนนี้บ่อยนัก จึงไม่คาดหวังว่าทั้งสองจะจดจำเขาได้ แต่อย่างไรแล้วก็ไม่สายเกินไปที่จะทักทายกันในวันนี้ “ตาเป็นคุณตาของพวกหลานทั้งสองคน”
“คุณตา…”
ฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยส่งเสียงหวานเรียก
หัวใจของถังคุนหาวแทบละลายอยู่ตรงนั้น “เฮ้อ… หลานรักของตา” ขณะพูด เขาก็อุ้มเด็กสองคนไว้ในแขนคนละข้าง
หลังจากทุกคนเข้ามานั่งแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลหันมองฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยอย่างเอ็นดู เด็กสองคนนี้น่ารักจริง ๆ ยิ่งฟังน้ำเสียงหวาน ๆ ของทั้งคู่ขณะพูดถังคุนหาว เขาอดไม่ได้ที่จะอยากคุยด้วย “ฟักทองน้อย ฟักขาวน้อย แล้วรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
เด็กน้อยทั้งสองคนส่ายศีรษะ แต่ไม่นานนักดวงตาของฟักทองน้อยเปล่งประกายราวคิดบางอย่างได้ เขาอุทานขึ้นว่า “ผู้เฒ่า… แม่บอกว่าคนผมขาวเรียกว่าผู้เฒ่า”
ฟักทองน้อยพยักหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ถูกต้อง ถูกต้องเลย” ผู้เฒ่าตระกูลหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา “นี่รางวัลสำหรับเธอนะ”
ถังหลานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ความจริงแล้วเธอเพียงพูดไปอย่างไม่ตั้งใจ ไม่คิดว่าเด็กสองคนจะจำได้ เวลานี้เด็กน้อยยังไม่ยอมรับของตรงหน้า เพราะพวกเขารู้ว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากแม่ก่อน
ถังหลานจึงพยักหน้าเบา ๆ ให้ลูกน้อย ฟั0กทองน้อยและฟักขาวน้อยก็รับของขวัญมา
ผู้เฒ่าตระกูลบอกเล่าเรื่องราวในตระกูลถังให้ถังซวงรับทราบ
ถังซวงก็พยักหน้า “ผู้เฒ่าตระกูล แค่มีคุณคอยดูแลบ้านก็ทำให้ฉันสบายใจได้แล้วค่ะ”
ผู้เฒ่าตระกูลหัวเราะออกมา “ฉันไม่กล้ารับความดีความชอบนี้ไว้คนเดียวหรอก ยังไงมันก็เป็นการจัดการของคุณตาของเธอ บางสิ่งฉันก็ต้องให้เขาทำ”
“ผู้เฒ่าตระกูล ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณที่คุณยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติค่ะ คุณกับคุณตาทำงานหนักเพื่อพวกเรา ฉันขอดื่มอวยพรให้กับพวกคุณค่ะ”
ผู้เฒ่าตระกูลพยักหน้ารับ “อื้ม งั้นเรามาดื่มกันเถอะ”
เมื่อถังซวงและคนอื่น ๆ มาถึง มันก็เย็นแล้ว ทั้งหมดพูดคุยกันเพียงเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายไปพักผ่อนแล้วกลับมาพบกันใหม่ในเวลาอาหารเย็น
แม้พวกเขาจะไม่ได้กลับมาที่นี่นานพอสมควร แต่ในห้องก็สะอาดสะอ้าน จิงเจ้อหรงกับถังหลานพาเด็กน้อยสองคนไปพักผ่อน ส่วนถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานออกมาพูดคุยกันหลังจากเก็บของเสร็จแล้ว
“เสี่ยวเซวี่ย คุณยายบอกให้เราไปที่ตระกูลหัวด้วยหรือ?”
ถังเซวี่ยพยักหน้า “ค่ะ คุณยายให้คนมาส่งข่าวก่อนหน้านี้ ยายบอกว่าอยากให้เราไปทานอาหารที่ตระกูลหัวด้วย พี่คิดว่าเราควรจะไปวันไหนดีคะ?”
“งั้นเราค่อยไปวันที่ 7 แล้วกัน”
“ค่ะ”
แน่นอนถังเซวี่ยไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะเธอเองก็อยากจะถามบางอย่างกับคุณทวดด้วยเหมือนกัน เธอรู้สึกว่าหลังจากลองจัดการกับหินมากมายเหล่านั้น มันเริ่มไม่มีประโยชน์แล้ว ในช่วงแรก ๆ เธอรู้สึกว่าโชคของตัวเองดีขึ้นมาก แต่หลังจากใช้มันไปสักพัก เธอกลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
ขณะทุกคนกำลังพูดคุยกัน มีคนเข้ามาตามหาถังซวง
“ผู้นำตระกูล ท่านผู้เฒ่าตระกูลกำลังตามหาคุณ”
ถังซวงหันมองโม่เจ๋อหยวนแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันขอตัวก่อน ถ้าพวกคุณเหนื่อยก็ไปพักสักหน่อยเถอะ”
“อื้ม”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้า
จากนั้นถังซวงตรงไปที่ลานบ้านของผู้เฒ่าตระกูล
“ผู้เฒ่าตระกูลเรียกหาฉันหรือคะ”
ผู้เฒ่าตระกูลเห็นว่าถังซวงมาแล้ว ก็กวักมือเรียกเธอ “ผู้นำตระกูล ฉันจะบอกว่าพวกเราจะเปิดโถงบรรพบุรุษเพื่อสักการะในวันพรุ่งนี้”
ถังซวงถึงกับประหลาดใจ
“ที่นี่ยังไม่ได้ไหว้บรรพบุรุษหรือคะ?” ถังซวงคิดว่าพวกเขาทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วซะอีก
ผู้เฒ่าตระกูลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เพราะพวกเรารอเธอมาที่นี่ และฉันก็ตรวจสอบเรียบร้อย พรุ่งนี้เป็นฤกษ์ดี เราจึงจะเปิดโถงบรรพบุรุษกัน แน่นอนว่าในฐานะผู้นำตระกูลถัง พวกเราจะต้องรอให้เธอมาพาทุกคนสักการะบรรพบุรุษ”
ถังซวงไม่คิดเลยว่าผู้เฒ่าตระกูลจะพิธีรีตองมากขนาดนี้ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ แต่คุณต้องบอกว่าฉันควรทำอะไรบ้าง เพราะฉันไม่เคยทำเรื่องนี้มาก่อนเลย”
“แน่นอน ฉันถึงเรียกเธอมาที่นี่ไง”
ผู้เฒ่าตระกูลบอกกล่าวถึงสิ่งที่ถังซวงต้องกระทำและกล่าวเสริมขึ้นว่า “พรุ่งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เธอพาครอบครัวมาสักการะบรรพบุรุษ ดังนั้นใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ทุกคนเข้าใจดี” ขณะพูดคุยกัน เขาก็พูดถึงเรื่องที่ครอบครัวอื่น ๆ เข้ามาอวยพรปีใหม่ในวันปีใหม่ด้วย “พรุ่งนี้ก็คงจะมีคนเข้ามาอวยพรปีใหม่ตามความเหมาะสม ยังไงเสียก็เป็นสถานการณ์ที่พวกเราต้องพบเจออยู่แล้ว”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
ถังซวงเข้าใจสิ่งที่ผู้เฒ่าตระกูลกล่าวออกมาทั้งหมด และตอนนี้ก็ถึงเวลาทานมื้อเย็นแล้ว
“เรียบร้อยแล้ว ผู้นำตระกูลไปทานข้าวเถอะ เดี๋ยวคุณทวดของเธอก็จะมาร่วมทานมื้อเย็นด้วย ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสของเธอ พวกเราก็แค่นั่งลงร่วมทานอาหาร ไม่ต้องไปสนใจพวกเขานักก็ได้”
ถังซวงยกยิ้มตอบกลับ “ผู้เฒ่าตระกูลไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไร ยังไงพวกเขาก็คือพ่อแม่ทางสายเลือดของคุณตา ฉันจะไม่ทำให้เรื่องวุ่นวายแน่นอนค่ะ”
และเมื่อถังซวงกับผู้เฒ่าตระกูลมาถึงห้องอาหาร ถังหลานและคนอื่น ๆ ก็มาถึงแล้ว ฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยก็นั่งนิ่งเชื่อฟัง กำลังรออาหารอย่างใจจดใจจ่อ
และเมื่อผู้อาวุโสถังทั้งสองคนเห็นถังซวงเดินเข้ามา สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความซับซ้อนหลากหลายอารมณ์ หลานสาวคนนี้ดูโดดเด่นอย่างบอกไม่ถูก โดดเด่นเสียจนพวกเขาหมดสิ้นความสำคัญในครอบครัว
นึกถึงเรื่องนี้แล้ว คุณทวดถังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ
เขาเคยเป็นผู้นำตระกูล แต่ก็ถูกถังซวงชิงตำแหน่งไปง่าย ๆ กลายเป็นคนแก่ที่ไม่มีงานทำ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบถังซวง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยายามยกยิ้มเพื่อให้บรรยากาศในการทานอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น
ผู้เฒ่าตระกูลไม่คิดสนใจผู้เฒ่าถังแม้แต่น้อย เขามัวแต่สนุกสนานกับฟักทองน้อยและฟักขาวน้อย ถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งเองก็เฝ้าดูเด็กน้อยสองคนอย่างระมัดระวัง เพราะทั้งสองยังเด็กมาก ส่วนคนอื่น ๆ ก็รับประทานอาหารไปอย่างเอร็ดอร่อย