การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 607 อีกหนึ่งที่นั่ง (1)
บทที่ 607 อีกหนึ่งที่นั่ง (1)
ได้ยินหยินจิงหงพูดออกมาอย่างนั้น ถังซวงยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นเพื่อนของถังอวี้สือ ไม่คิดเลยว่าถังอวี้สือที่ออกจากตระกูลไปเนิ่นนานแล้ว ยังมีคนวิ่งมาคิดกระเสือกกระสนเจอหล่อนอยู่
“เป็นเพื่อนของถังอวี้สืองั้นหรือ แต่ดูเหมือนเธอจะมาช้าไปนะ ถังอวี้สือออกจากตระกูลไปตั้งนานแล้ว นี่มาทวงคืนความยุติธรรมช้าไปหน่อยไหม? ทำไม… คิดจะแสดงความรักต่อหน้าฉัน แล้วทำไมไม่มาให้มันเร็วกว่านี้สักหน่อย…”
“ถังซวง…”
ได้ยินถ้อยคำเหน็บแนมของถังซวง หยินจิงหงก็ลืมที่รับปากกับพ่อของตนไว้เสียสนิท ดึงดาบออกมาแล้วพุ่งเข้าหาถังซวงทันที
“จิงหง…”
หยินเยี่ยนหมิงเห็นว่าลูกสาวไม่ฟัง เขาก็โกรธมาก
ถังคุนอวี้ที่อยู่ด้านข้างอยากจะหยุดหล่อนเอาไว้ แต่ถังซวงกลับเข้าไปเผชิญหน้ากับหล่อนเสียแล้ว “หืม… มาถึงตระกูลถัง แล้วยังกล้าโจมตีผู้นำตระกูลถัง ฉันล่ะอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเธอจะมีความสามารถสักแค่ไหน”
หยินจิงหงเย้ยหยันกลับ “ฉันต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้น เธอมีความสามารถอะไรกัน ทำไมถึงเป็นผู้นำตระกูลได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ ผู้หญิงที่เติบโตจากโลกภายนอกไม่มีคุณสมบัติจะเทียบกับพวกเรา ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าตระกูลถังคัดเลือกผู้นำตระกูลยังไง!”
ขณะทั้งสองกำลังพูดคุย พวกเธอก็เริ่มแลกเปลี่ยนกระบวนท่านับสิบกระบวนท่า
ถังซวงเห็นหยินจิงหงมีดาบ เธอเองก็ไม่คิดจะออมมือ คว้าหอกที่ใช้ประดับผนังออกมาเพื่อป้องกันการโจมตี
ในคราวแรก หยินจิงหงไม่ได้คิดจะเอาจริงเลย แม้เธอจะทราบจากพ่อว่าถังซวงฝีมือไม่ธรรมดา แต่เธอก็คิดเพียงว่าถังซวงเป็นเพียงหญิงที่เติบโตจากโลกภายนอก ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างแท้จริง จะเอาอะไรมาสู้เธอที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก แต่ทว่า เวลานี้เธอกลับตระหนักได้ว่าเป็นเธอเองประเมินศัตรูต่ำเกินไป ถังซวงคนนี้เก่งจริง ๆ
“หึ… เธอก็ค่อนข้างจะมีฝีมือเลยนี่ อย่างนั้นฉันจะไม่เกรงใจแล้ว!”
หยินจิงหงที่เคยหวาดกลัวว่าตนจะพลั้งมือทำร้ายถังซวง เวลานี้ เมื่อเห็นว่าถังซวงเองก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ เธอจึงเริ่มใช้ทักษะของตัวเองอย่างเต็มที่ ทุกกระบวนท่ามีเป้าหมายคือจุดตาย หากว่าคู่ต่อสู้เพลี่ยงพล้ำแม้แต่น้อย คนผู้นั้นจะตายในทันที
ถังซวงเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มต่อสู้หมายเอาชีวิต ความเย็นชาก็วูบไหวในดวงตา ไม่คิดจะยั้งมืออีกต่อไป
ส่วนหยินเยี่ยนหมิงที่เห็นว่าลูกสาวของเขายั่วยุถังซวง แม้ตนจะตะโกนห้ามเสียงดัง แต่เขาก็ไม่คิดจะหยุด และมองดูถังซวงกับหยินจิงหงต่อสู้กัน ส่วนตัวแล้วเขาค่อนข้างเชื่อมั่นในฝีมือของลูกสาว แม้ทักษะของถังซวงนับว่าโดดเด่น แต่ลูกสาวของเขาคืออันดับหนึ่งในเหล่าคนรุ่นใหม่ของตระกูล มันจึงไม่มีอะไรให้เขาต้องกังวลใจ
เขารู้ว่าลูกสาวของตนมีความสามารถ แม้ทักษะของถังซวงจะไม่ด้อยไปกว่า แต่ลูกสาวของเขาจะไม่ถึงขั้นสาหัสแน่ แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าตนจะประเมินถังซวงต่ำเกินไปหน่อย เพราะถังซวงทั้งรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และยังดูแข็งแกร่งกว่าคราวก่อน กระบวนท่าซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น จนลูกสาวของเขาพลาดท่าให้กับถังซวงโดยสมบูรณ์
หยินเยี่ยนหมิงไม่สามารถทนมองได้อีกต่อไป
ทว่าขณะที่เขากำลังจะก้าวเข้าไป ถังคุนอวี้กลับมาขวางทางเอาไว้
“คุณหยิน ผู้นำตระกูลกำลังพูดคุยกับลูกสาวของคุณอยู่ โปรดอย่าเข้าไปยุ่ง” ในคราวแรก ถังคุนอวี้ตื่นตระหนก แต่เมื่อเห็นถังซวงสามารถตอบโต้อีกฝ่ายอย่างง่ายดาย ความผ่อนคลายก็ปรากฏบนใบหน้า และเพราะหยินจิงหงเป็นคนเริ่มก่อน หยินจิงหงจึงสมควรได้รับผลแห่งการกระทำ หากพวกเขาต้องการสู้ พวกเขาก็จะได้สู้ แต่ถ้าหากคิดออกจากการต่อสู้ เกรงว่าโลกใบนี้คงไม่ใจดีมากขนาดนั้น
หยินเยี่ยนหมิงได้ยินถังคุนอวี้พูดออกมาอย่างนั้น ก็คิดจะทำอะไรบางอย่าง แต่ฉากตรงหน้าทำเขาตื่นตระหนกเสียก่อน
ดาบในมือของหยินจิงหงถูกถังซวงเตะกระเด็นออกไป และเธอก็ถูกถังซวงเตะจนล้มลง ไม่สามารถลุกขึ้นได้
“จิงหง…”
เมื่อเห็นลูกสาวนอนกลิ้งบนพื้น หยินเยี่ยนหมิงก็โกรธเกรี้ยว เขาผลักถังคุนอวี้ออกไปพร้อมพุ่งเข้าไปหาลูกสาวในทันที
หยินจิงหงจับไหล่ของตัวเอง ใบหน้าของเธอมีเพียงความตื่นตระหนก ความเย็นชาในแววตาของถังซวงทำให้เธอรู้สึกเหน็บหนาว ยัยนี่คิดเอาชีวิตของเธอจริง ๆ และไม่สนใจเลยว่าเธอจะอยู่หรือตาย เวลานี้เธอเปรียบเหมือนคนตายในสายตาของถังซวงไม่มีผิดเพี้ยน
“จิงหง เป็นยังไงบ้าง?”
หยินเยี่ยนหมิงเห็นลูกสาวมองถังซวงและนิ่งไป ก็กังวลว่าเธอจะบาดเจ็บสาหัสจึงถามด้วยความเป็นห่วง
พอได้ยินคำถามของพ่อ หยินจิงหงก็ได้สติกลับมา เธอส่ายศีรษะ “พ่อคะ หนูไม่เป็นไร”
“ลูกไม่เป็นไรจริง ๆ นะ?”
หยินเยี่ยนหมิงค่อนข้างกังวล
แต่ก่อนที่หยินจิงหงจะได้พูด ถังซวงกลับยกยิ้มพร้อมกับเอ่ยปาก “คุณชายสามไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะมิตรภาพระหว่างตระกูลถังและตระกูลหยินยาวนานหลายปี ฉันคงไม่อาจทำร้ายลูกสาวของคุณหรอก เธอแค่สูญเสียพละกำลังไปสักพักน่ะ” หลังจากนั้นถังซวงมองหยินจิงหงด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูหยิน ลุกขึ้นได้ไหม?”
แม้ถังซวงจะยิ้มแย้ม แต่หยินจิงหงไม่อาจสัมผัสถึงความเป็นมิตร ทั้งยังรู้สึกหวาดกลัวด้วยซ้ำ เวลานี้เธอมองถังซวงเปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดชัด ๆ
“ฉันไม่เป็นไร ฉันยืนได้!”
หยินจิงหงพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าผ่อนคลายราวกับว่าสบายดี
แต่ก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ในที่สุด หยินเยี่ยนหมิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าลูกสาวสบายดี จากนั้นเขาแสร้งทำเป็นโกรธลูกสาวของตน “จิงหง ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง นี่ลูกยั่วยุตระกูลถังก่อนนะ รีบยอมรับความผิดพลาดของตัวเองต่อผู้นำตระกูลถังเดี๋ยวนี้ หากเธอไม่ยกโทษให้ ก็รีบกลับไปสำนึกผิดที่บ้านซะ!”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
หยินเยี่ยนหมิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาต้องการจะให้ลูกสาวจบเรื่องนี้ง่าย ๆ เพราะหากตนให้อภัยทุกอย่างก็จบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเธอไม่ให้อภัย หยินจิงหงกับเขาจะกลับบ้านไปพร้อมกัน เขาคิดว่าคนอื่น ๆ จะโง่เขลางั้นหรือ?
ขณะถังซวงกำลังจะพูดบางอย่าง ผู้เฒ่าตระกูลเดินเข้ามา และมีคนบอกกล่าวกับเขาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะนี้เขาหันมองหยินเยี่ยนหมิงด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราด“หยินเยี่ยนหมิง นี่คือท่าทีของตระกูลหยินใช่หรือไม่? พวกคุณไม่พอใจผู้นำตระกูลถังของเรา? ถ้าหากเป็นอย่างนั้นแล้ว การร่วมมือกันระหว่างเราที่มีมาเนิ่นนานก็ยุติลงเสียวันนี้เลย!”