การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 615 กำจัด (2)
บทที่ 615 กำจัด (2)
หัวโย่วเฉิงมองยัยเด็กไร้เดียงสาเบื้องหน้าของตนด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว พวกเขาพยายามมาเป็นเวลานาน ทำไมถึงได้ล้มเหลวก่อนที่จะเริ่มลงมือแบบนี้กัน
แม้แต่หัวเฟยหลงก็มองไปที่ถังซวงด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ พร้อมกับมองไปที่พวกถังสือ
“นี่เธอเอาคนตระกูลถังมา ดูท่าแล้วเธอคงเตรียมตัวไว้นานมากแล้วสินะ คิดจะกำจัดพวกเรา ตั้งแต่ตอนที่หัวเทียนจางตัดสินใจมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ถังเซวี่ยแล้วล่ะสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังซวงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรพวกคุณตั้งแต่แรกเลย”
“เป็นพวกคุณต่างหากที่เข้ามาหาเรื่องพวกเราก่อน ถ้าครั้งนี้พวกเราไม่ลงมือ พวกคุณก็คงจัดการพวกเราทั้งหมดไปแล้วละ หึ…แม้แต่คุณทวดก็ยังไม่เว้น ดูเหมือนว่าคุณวางแผนที่จะกำจัดคนที่ไม่สนับสนุนเราทั้งหมด เพื่อตำแหน่งผู้นำตระกูล ช่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานีจริง ๆ”
ขณะนี้เองหัวเทียนจางก็เดินเข้ามา เขามองหัวเฟยหลงนิ่ง และกล่าวว่า “เธอสนใจในตำแหน่งผู้นำตระกูลมากถึงขนาดที่สามารถฆ่าคนมากมายขนาดนี้”
หัวเฟยหลงได้ยินก็เงยหน้ามองหัวเทียนจาง เขาอ้าปากเพื่อจะอธิบายบางอย่าง แต่จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรไปก็เท่านั้น ไหน ๆ เขาก็ทำไปแล้ว ต่อให้จะไม่รู้ฤทธิ์ของยานั้น แต่เขาก็ร่วมกันคิดแผนการกับหัวโย่วเฉิง
เมื่อเห็นท่าทีเงียบนิ่งของหัวเฟยหลง หัวเทียนจางก็ไม่เหลือความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดอีก
เขาเพียงมองหัวเฟยหลงและหัวโย่วเฉิงอย่างเงียบ ๆ และกล่าวว่า “ครั้งนี้พวกแกลงมือฆ่าแกงญาติพี่น้องในตระกูล ฉันจะคิดบัญชีพวกแกตามกฎของตระกูลอย่างสาสม”
ถังซวงได้ยินก็เหลือบมองหัวเทียนจางและกล่าวทันที “คุณทวด ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว คนพวกนี้หนูฝากให้คุณทวดจัดการด้วย ส่วนพวกหัวเทียนอวี้ก็ต้องจับตัวให้ได้ไวที่สุด คุณทวดต้องลงโทษอย่างเป็นธรรม อย่าเห็นแก่พวกเขาอีก”
ได้ยินถังซวงกล่าวหัวเทียนจางก็รู้สึก ว่าที่ผ่านมาเขานั้นหน้ามืดตาบอดเกินไป อีกทั้งยังคิดจะชดเชยให้หัวเฟยหลงด้วยซ้ำ
“ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องเป็นห่วง ทวดจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็พยายามกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ซวงเอ๋อร์ ทวดประมาทเกินไป เหลนเรียกทวดเหมือนเมื่อก่อนจะดีกว่า จะได้คุ้นหูขึ้นมาหน่อย”
เมื่อถังซวงเห็นท่าทีตามใจของหัวเทียนจาง เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาและเรียกว่า “ทวดคะ……”
เห็นว่าถังซวงด้วยตนเองว่า ‘ทวด’ อีกครั้ง หัวเทียนจางก็รู้สึกพอใจ
แต่พอนึกถึงเรื่องที่หัวเฟยหลงและหัวโย่วเฉิงทำในครั้งนี้ สีหน้าของเขาก็หม่นลง “ซวงเอ๋อร์ เหลนกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ถ้าจัดการเรื่องทางนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วทวดจะบอกเหลนเอง”
“ค่ะ”
ถังซวงหันหน้าลองโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหาน และกล่าวว่า “พวกเรากลับกันก่อน”
ทั้งสองคนเดินตามออกไปข้างนอกทันทีโดยไม่มีความคิดเห็นใด ๆ
แต่หัวเฟยเฟิ่งไม่ได้ตามออกไป เธอจะคอยดูคุณพ่อว่าจัดการกับพวกหัวเฟยหลงอย่างไร
เมื่อหัวเทียนจางเห็นว่าลูกสาวยังอยู่ เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับให้คนพาตัวพวกหัวเฟยหลงไปด้วย และให้คนไปจับตัวครอบครัวของหัวเทียนอวี้ไว้
ในตอนนี้หัวเทียนอวี้ได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว และกำลังจะหนีออกจากตระกูลหัว ทว่ายังไม่ทันที่จะได้หนีออกไปก็ถูกจับตัวไว้ได้
“หัวเทียนจาง สั่งให้คนปล่อยตัวฉันเดี๋ยวนี้”
คนบ้านรองทุกคนถูกจับไว้หมดแล้ว ทั้งหัวยี่ฮวนและหัวสือหลินก็ด้วย
หัวยี่ฮวนเห็นว่าทั้งพ่อและพี่สามีถูกจับตัวก็รู้สึกว่าแย่แล้ว “เป็นแบบนี้ได้ยังไง พวกเราแพ้อย่างนั้นหรือ เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน”
แล้วหัวสือหลินเองก็รู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
เมื่อก่อนคุณพ่อเป็นทายาท ถูกแต่งตั้งให้เป็นลูกชายของผู้นำตระกูล เธอจึงทำทุกอย่างได้ดั่งใจปรารถนามาโดยตลอด อยากทำอะไรก็ได้ทำ แต่หลังจากที่ครอบครัวถังหลานกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอจึงรีบมองไปที่หัวสือหลิน เขาร้องไห้พลางเรียก “คุณปู่ทวด คุณปู่ทวดรักผมที่สุดไม่ใช่หรือครับ คุณทวดจับผมไว้ทำไม เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเราหลายปีมานี้เถอะนะครับ ปล่อยพวกผมไปเถอะ”
หัวยี่ฮวนที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อได้ยิน ยังกล่าวต่ออีกว่า “ใช่ คุณปู่ คุณปู่คือคนที่หนูเคารพมากที่สุดมาตลอด ครั้งนี้พ่อของหนูพลั้งพลาดไป จากนี้ไปเขาจะไม่ทำผิดอีก คุณปู่ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะนะคะ”
เมื่อได้ยินหัวสือหลินและหัวยี่ฮวนกล่าว หัวเฟยเฟิ่งอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“พวกเธอสองคนช่างพูดนะ พูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้ บอกว่าสิ่งที่พวกหัวเฟยหลงทำเป็นเพียงแค่ความพลาดพลั้ง เก่งจริง ๆ”
เมื่อได้ยินหัวเฟยเฟิ่งกล่าว หัวยี่ฮวนก็กัดริมฝีปากอย่างอดไม่ได้
เธอไม่ถูกชะตาป้าคนนี้มาโดยตลอด และตอนนี้อีกฝ่ายก็กำลังขัดขวางเธออยู่ หรือนี่เป็นแผนการที่จะกวาดล้างครอบครัวของพวกเธอ เธอจะไม่ยอมนั่งรอความตายแบบนี้แน่นอน “คุณป้า ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉัน…”
ทว่ายังไม่ทันที่หัวยี่ฮวนกล่าวจนจบ หัวเทียนจางก็เอ่ยแทรกในทันที
“เอาละ ฉันรู้นานแล้วว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร รอให้คนในตระกูลตัดสินโทษเถอะ”
เมื่อกล่าวจบ หัวเทียนจางจึงสั่งให้คนขังครอบครัวของหัวเทียนอวี้ทั้งหมดเอาไว้ทันที รวมถึงครอบครัวของหัวเฟยหลงด้วย
“คุณปู่… คุณปู่ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ คุณปู่…”
“คุณปู่ทวด…”
หัวเทียนจางไม่แยแสเสียงร้องตะโกนที่ดังอยู่ข้างหูของตน หลังจากที่พวกของหัวเทียนอวี้และหัวเฟยหลงถูกขังเอาไว้แล้ว เขาจึงสั่งให้คนไปเชิญผู้เฒ่าตระกูลมา
เมื่อหัวเฟยเฟิ่งเห็นว่าในที่สุดคุณพ่อก็ไม่ยอมอ่อนข้อ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“คุณพ่อตัดสินใจได้ก็ดีแล้วค่ะ วันนี้ถ้าไม่ได้ซวงเอ๋อร์ คุณพ่อคงไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าได้ประนีประนอมกับคนพวกนี้อีกเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดปรารถนาดีและจริงใจของลูกสาว หัวเทียนจางอดไม่ได้ที่จะกล่าว “ไม่ต้องห่วง พ่อจะไม่ใจอ่อนอีกต่อไปแล้ว”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากพวกของถังซวงกลับไปแล้ว ถังหลานและจิงเจ้อหรงก็โล่งใจในที่สุด “ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวน เสี่ยวเยี่ย พวกลูกกลับมาก็ดีแล้ว พวกเราเป็นห่วงแทบแย่”
ถังเซวี่ยยืนอยู่ด้านข้าง พลางกล่าวเช่นเดียวกัน “ใช่ค่ะ พวกพี่กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว”