การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 623 เปิดตัวได้ดี (1)
บทที่ 623 เปิดตัวได้ดี (1)
ระหว่างทางไปที่เมืองกวางโจว ผู้อำนวยการเถียนก็แนะนำถังซวง พานลี่ฮวา และถังชุนหยานให้คนอื่นรู้จัก “ทั้งสามท่านนี้คือประธานถัง ประธานพาน และคุณชุนหยาน พวกเธอจะจัดแสดงสินค้าติดกับพื้นที่จัดแสดงของเรา ผลิตภัณฑ์ที่พวกเธอจะนำเสนอก็คือเครื่องสำอาง หวังว่าพวกเราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกันนะ”
บุคคลที่มากับโรงงานรื่อฮว่าล้วนทำงานเป็นหัวหน้าอยู่ภายในโรงงาน คนเหล่านี้มองถังซวงและถังชุนหยานว่ายังเป็นเพียงนักศึกษา และมองพานลี่ฮวาเองเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง จึงมีคนไม่กี่คนที่สนใจพวกเธอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงออกมาต่อหน้าจนน่าเกลียด อันที่จริงบริษัทซวงฮวาร่วมงานฤดูใบไม้ผลิได้ก็เพราะอยู่ภายใต้ชื่อโรงงานรื่อฮว่าของพวกเขา จึงรู้ได้ว่าพวกเธอต้องมีเส้นสายและความสัมพันธ์บางอย่างแน่นอน
“ที่แท้ก็ประธานพานนี่เอง ยินดีที่ได้พบนะครับ”
คนกลุ่มหนึ่งเอ่ยทักทายพานลี่ฮวาด้วยรอยยิ้ม
พานลี่ฮวาเองรับรู้ถึงสายตาดูถูกของคนเหล่านั้น และแม้กระทั่งเมินใส่ถังซวงด้วยซ้ำ เธอจึงยิ้มโดยที่ไม่กล่าวอะไรต่อ เพียงแค่กล่าวกับถังซวงว่า “บริษัทของเราประธานถังมีสิทธิ์ในการตัดสินใจ ดังนั้นถ้าพวกคุณมีเรื่องอะไรก็สามารถพูดคุยกับเธอได้เลยนะคะ”
เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินก็นิ่งอึ้ง พวกเขาคิดว่าพานลี่ฮวากำลังล้อเล่น
แต่พานลี่ฮวากล่าวจริงจัง “ประธานถังเป็นผู้นำตัวจริงของบริษัทเรา ดังนั้นเรื่องทั้งหมดล้วนเป็นนโยบายของเธอทั้งสิ้นค่ะ”
เมื่อถังซวงได้ยินพานลี่ฮวากล่าว เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ป้าสะใภ้พูดแบบนี้ก็เพื่อเกทับแทนเธอนี่เอง และในเมื่อป้าสะใภ้พูดไปแล้ว ถังซวงก็ไม่ได้อธิบายอะไรอีกเพียงแต่ยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา “สวัสดีค่ะ”
หลังจากอาการแข็งทื่อในตอนแรก พวกเขาเหล่านั้นก็กลับมาพูดคุยและหัวเราะตามปกติ ทุกคนต่างพากันทักทายถังซวงด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ ประธานถัง”
“สวัสดีค่ะทุกคน”
หลังจากที่ถังซวงทักทายคนเหล่านั้นแล้วก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก แต่กลับเดินไปพร้อมกับพานลี่ฮวาและถังชุนหยานเพื่อไปทานอาหารเย็น จากนั้นจึงกลับมา
หลังจากที่พวกเธอมาถึงเมืองกวางโจวแล้ว ก็ตรงเข้าไปยังที่พักที่จัดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้าตรู่
“ประธานถัง ประธานพาน พรุ่งนี้ก็จะเริ่มงานฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถ้าหากพวกคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็บอกผมได้ตลอดนะครับ” ผู้อำนวยการเถียนบอกถังซวงและพานลี่ฮวาอย่างสุภาพ หลังจากนั้นจึงพาคนของโรงงานรื่อฮว่าออกไป
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นถังซวง ถังชุนหยานและพานลี่ฮวาก็ตามทุกคนเข้าไปในสถานที่จัดงานฤดูใบไม้ผลิ ภายในงานมีขนาดใหญ่มาก และยังมีหลายกลุ่มที่เข้าร่วมมาก่อนหน้า คนจึงแน่นมากจนแทบขยับออกไปไหนไม่ได้
ถังชุนหยานได้เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก
“คนเยอะจัง ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้”
เมื่อคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินและเห็นว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “พวกเธอคงมาที่นี่ครั้งแรกล่ะสิ ถ้ามาบ่อย ๆ ก็จะรู้เองละ ทุกครั้งก็จะมีคนหลายบริษัทมากันเยอะตลอด ชาวต่างชาติมาที่นี่ก็เยอะ ขอแค่ของเธอดี ก็จะมีคนสั่งซื้อแน่นอน”
ถังชุนหยานได้ยินก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “จริงหรือคะ พวกเรามาที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ ก็หวังว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสมาที่นี่อีกนะคะ” เธอได้ยินมาว่าถ้ามางานฤดูใบไม้ผลิแล้วไม่มีการสั่งซื้อสินค้าเลย พวกเธอก็ไม่มีโอกาสจะได้กลับมาอีก ดังนั้นพวกเธอจึงต้องพยายามอย่างหนัก และก็จะต้องมั่นใจในตัวสินค้าของตัวเองด้วย เพื่องานแสดงสินค้าในครั้งนี้ พี่สาวซวงถึงขนาดตั้งใจออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกล่องชุดเลยด้วย ใครได้เห็นต่างก็บอกว่ามันดูดีมาก
จากที่พวกถังซวงได้มาถึงที่จัดแสดงสินค้าก็พบว่าพื้นที่จัดแสดงสินค้าของพวกเธอนั้นเล็กมาก
หัวหน้ากวนเห็นว่าพวกของถังซวงได้มาถึงแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาพลางกล่าว “ประธานถัง ตรงนี้ก็คือพื้นที่จัดแสดงสินค้าของพวกคุณครับ อีกสักพักพวกนักลงทุนต่างชาติก็จะเข้ามากันแล้ว รีบเอาสินค้าออกมาจัดแสดงเถอะ พวกคุณคงต้องรีบใช้เวลาในการตกแต่งชั้นจัดแสดงนะครับ”
เมื่อพานลี่ฮวามองเห็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าของโรงงานรื่อฮว่าที่อยู่ถัดไปมีขนาดที่ใหญ่มากขนาดนั้น แต่กลับให้พวกเธอเพียงโต๊ะเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น แล้วยังจัดให้พื้นที่จัดแสดงของพวกเธออยู่ตำแหน่งท้ายสุดอีกด้วย หากไม่มองดี ๆ ก็คงไม่มีใครมองเห็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าของพวกเธอ
พานลี่ฮวาเห็นดังนี้ก็คิดอยากจะคุยกับผู้อำนวยการเถียนให้รู้เรื่อง
ถังซวงกลับดึงพานลี่ฮวาเอาไว้ด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ป้าสะใภ้ พวกเราได้มีพื้นที่จัดแสดงสินค้าก็ถือว่าดีแล้วค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องไปคุยอะไรกับพวกเขาหรอก แล้วอีกอย่างหนูคิดว่าผู้อำนวยการเถียนก็คงจะไม่รู้”
พานลี่ฮวารู้ดีว่าผู้อำนวยการเถียนนั่นต้องรู้แน่ ไม่แน่เขาอาจจะกำลังส่งสัญญาณอยู่ก็ได้ นั่นทำเธอโกรธมากจนทนไม่ไหว
ถังซวงกลับกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “ป้าสะใภ้ ไม่เป็นอะไรค่ะ ต่อให้อยู่ตำแหน่งท้ายสุด อย่างไรเราก็สามารถทำให้สะดุดตาได้”
เมื่อพานลี่ฮวาได้ยินที่ถังซวงกล่าวก็เอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย “ซวงเอ๋อร์ เธอคิดอะไรออกใช่หรือเปล่า?”
ถังซวงเปิดกล่องที่ตนนำมาด้วย และหยิบของที่เตรียมไว้ข้างในออกมา จากนั้นจึงเริ่มปูโต๊ะ “ป้าสะใภ้ พวกเราเอาของออกมาจัดก่อนเถอะค่ะ”
“อืม”
พานลี่ฮวาได้ยินก็ไม่ติดใจอะไรอีก เธอตรงไปลงมือช่วยถังชุนหยานด้วยกันทันที และหลังจากที่จัดวางโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ก็จัดวางเครื่องสำอางเหล่านั้นให้ดูน่าดึงดูด กล่องบรรจุที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ของความเป็นชาติอันประณีตงดงามนี้ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาออกไปได้
เมื่อถังซวงทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หยิบริบบิ้นสีแดงออกมาจากมุมกล่อง “ป้าสะใภ้ หนูจะไปเดินหาดูรอบ ๆ ว่ามีวัสดุอะไรเอามาใช้ได้บ้าง
เมื่อถังซวงกลับมาอีกครั้ง ในมือของเธอถือแท่งไม้ยาวหลายอัน เธอพันไม้ทั้งหมดด้วยริบบิ้นสีแดงแล้วมัดมันไว้ที่มุมของโต๊ะทั้งสี่มุม และไม้ก็ยังต่อกันด้วยริบบิ้นสีแดง จากนั้นก็เพิ่มพวงไฟเข้าไป หลังจากที่จัดแต่งเสร็จเรียบร้อย ถังซวงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจอย่างมาก “เอาละ ดูดีมาก”
พานลี่ฮวาและถังชุนหยานที่ยืนมองอยู่ด้านข้างก็ตกตะลึง สุดท้ายพานลี่ฮวาก็เอ่ยถามว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอพกของพวกนี้มาด้วยหรือ แต่หลอดไฟดวงเล็ก ๆ พวกนี้มันส่องแสงกะพริบสวยมาก เธอหาซื้อมาจากที่ไหน ป้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
เมื่อได้ยินดังนี้ ถังซวงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง “พวกมันเป็นของที่อาหยวนทำขึ้นค่ะ พอผ่านวันฉลองปีใหม่ไปเขาก็ยุ่งอยู่ตลอด เขาเลยรู้สึกผิดที่ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับหนู หนูก็เลยให้เขาทำพวงไฟพวกนี้เอาไว้ ถ้าคิดถึงก็เอามันมาใช้ แต่ถึงตอนนี้ไม่ได้คิดถึงแต่ก็เอาออกมาใช้ได้ค่ะ”
พานลี่ฮวารู้สึกเหมือนตนเองโดนอวดคนรักใส่
“ที่แท้เจ๋อหยวนก็เป็นคนทำนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่ป้าไม่เคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน” เธอกล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง “ความรักของหนุ่มสาวนี่มันดีจริง ๆ เลย น่าอิจฉา”
เมื่อได้ยินถังซวงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี “ป้าสะใภ้คะ ความรักของป้ากับลุงก็เป็นความรักที่ดีนะ เอาละ พวกเรารีบมาตรวจดูดีกว่าค่ะว่ามีอะไรตรงไหนพลาดไปหรือเปล่า”