การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 629 ส่งเสริมการลงทุน (1)
บทที่ 629 ส่งเสริมการลงทุน (1)
ถังซวงและถังเซวี่ยไปหาจิงเหวินรุ่ยตั้งแต่เช้ามืด โดยไม่คาดคิดว่าจิงเหวินรุ่ยจะจัดการตัวเองเรียบร้อยหมดแล้ว เขาสวมชุดสูทเพรียวบาง มีดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ติดไว้บนกระเป๋าเสื้อสูท และมีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้า
ถังซวงเห็นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “พี่รอง พี่ตื่นตั้งแต่กี่โมงเนี่ยถึงได้เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยหมดแล้ว”
จิงเหวินหยวนกล่าวหยอกล้ออย่างอดไม่ได้ “เจ้ารองเขาตื่นตั้งแต่ตีสาม ดูออกเลยว่าอยากแต่งงานจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว”
จิงเหวินรุ่ยเหลือบมองจิงเหวินหยวนและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ พี่ไม่เข้าใจหรอก รอพี่เจอคนที่พี่รักแล้วอยากจะแต่งงานกับเขาเมื่อไหร่ พี่ก็จะตื่นเต้นเหมือนกันกับผมนี่แหละ”
จิงเหวินหยวนไม่เข้าใจจริง ๆ นั่นแหละ ก็เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทำให้ใจเขาเต้นแรงเลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเองเมิ่งผิงก็เดินเข้ามา และเห็นว่าลูกชายของเธอนั้นเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วจึงรีบกล่าว “เหวินรุ่ย ไว ๆ เข้า เจ๋อหยวนและเสี่ยวเยี่ยมาถึงแล้วนะ เพื่อนเจ้าบ่าวมากันครบแล้ว พวกลูกก็รีบออกไปรับเจ้าสาวเร็วเข้า”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “อาสะใภ้รองคะ ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะนะคะ“
อย่างไรก็ตามจิงเหวินรุ่ยก็รีบก้าวเท้าเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องให้เมิ่งผิงบอกอะไรอีก “ไป เราออกไปกันตอนนี้เลย“
ถังซวงและถังเซวี่ยเห็นท่าทีเร่งรีบของจิงเหวินรุ่ยก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ และจิงเหวินหยวนก็ทำได้เพียงรีบเดินตามเขาไป
ถังเซวี่ยหันหน้าไปพูดกับถังซวง “พี่ พวกเรากลับไปเตรียมตัวกันเถอะค่ะ จะได้ตรงไปที่โรงแรมเลย”
ถังซวงพยักหน้ายิ้ม ๆ
ในขณะที่ทั้งสองคนกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ถังชุนหยานที่เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ “พี่สาวซวง เสี่ยวเซวี่ย พวกเราไปหาพี่เหวินรุ่ยกันเถอะ”
ถังเซวี่ยได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “พี่ชุนหยาน พวกพี่รองออกไปรับเจ้าสาวกันหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวพวกเราตรงไปที่โรงแรมกันได้เลยค่ะ”
ถังชุนหยานได้ยินก็รู้สึกดีใจอย่างอดไม่อยู่
“พี่เหวินรุ่ยออกไปรับเจ้าสาวไวขนาดนี้ เห็นทีทางฝั่งเจ้าสาวน่าจะยังเตรียมตัวไม่เสร็จนะ”
“ใช่ค่ะ แต่จะทำยังไงได้ก็พี่รองใจร้อนซะขนาดนั้น เขาอยากจะรับเจ้าสาวมาที่นี่ซะเดี๋ยวนี้จนทนไม่ไหว ขนาดพี่เขยกับเฟิงเยี่ยหานยังไม่ทันจะได้เข้ามา ก็ถูกพี่รองลากตัวออกไปแล้ว”
ถังชุนหยานได้ยินก็รู้สึกสุขใจ
ด้านถังซวงก็ดึงตัวถังเซวี่ยไปเปลี่ยนเสื้อผ้า “เอาละ พวกเรารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า เปลี่ยนเสร็จจะได้ออกไปที่โรงแรมกัน”
เมื่อถังซวงและถังเซวี่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ถังหลานก็เข้ามาตามพวกเธอ “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ชุนหยานพวกเราเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ออกไปกันเถอะจ้ะ”
และสุดท้ายทุกคนในบ้านก็ไปโรงแรมพร้อมกัน
พวกเขามาถึงโรงแรมกันเร็วกว่าเวลามาก อีกด้านคุณนายจิงพาสะใภ้ทั้งสามมาช่วยงานด้วย
ส่วนสามคนพี่น้องจิงเจ้อหรงก็ออกไปต้อนรับแขก ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ว่าง ต่างพากันช่วยงานอยู่ตลอด
หลังจากที่แขกทยอยกันเข้ามา จิงเหวินรุ่ยก็พาจูรุ่ยมาถึงที่โรงแรมพร้อมกัน
เมิ่งผิงรออยู่ด้านนอกก่อนแล้ว เมื่อเห็นลูกชายและลูกสะใภ้มาถึง ก็รีบเข้าไปหาและพูดว่า “เหวินรุ่ย เสี่ยวรุ่ย พวกลูกรีบ ๆ เข้าไปด้านในเลย”
จูรุ่ยกล่าวด้วยความรู้สึกผิด “แม่คะ ขอโทษนะคะที่พวกเรามาถึงช้า”
เมิ่งผิงได้ยินก็รีบส่ายหน้าและกล่าวว่า “เสี่ยวรุ่ย พวกลูกไม่ได้ช้าหรอก เหวินรุ่ยต่างหากที่ไปเช้าเกิน เขาออกไปตั้งแต่เช้ามืด คงทำให้ลูกยุ่งกันแย่เลย”
จูรุ่ยได้ยินก็รีบกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ เหวินรุ่ยอยู่ข้าง ๆ คอยช่วยฉันอยู่ตลอดเลยค่ะ ไม่ได้ทำให้ยุ่งอะไรเลย”
“งั้นก็ดีแล้ว พวกลูกรีบเข้าไปข้างในเถอะ”
เมิ่งผิงได้ยินก็พยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นกวักมือให้คู่บ่าวสาวเข้ามาด้านใน
เมื่อแขกเหรื่อมากันครบแล้ว พิธีแต่งงานจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานแม้จะอยากไปหาถังซวงและถังเซวี่ย แต่ว่าหน้าที่ของพวกเขายังไม่เสร็จสิ้น พวกเขาต้องรอให้ดื่มอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อน ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงมองสองพี่น้องอยู่ไกล ๆ และเดินตามหลังจิงเหวินรุ่ยไป
ในขณะที่ดื่มอวยพร โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานช่วยจิงเหวินรุ่ยดื่มเหล้าไปไม่น้อย แต่คนที่ดื่มมากที่สุดเห็นจะเป็นจิงเหวินหยวน
ในฐานะพี่ใหญ่ เขาก็ต้องพยายามช่วยน้องชายคนรองของตนอยู่แล้ว
โม่เจ๋อหยวนเห็นจิงเหวินหยวนเริ่มจะมีอาการเมาขึ้นมาเล็กน้อย ก็รีบพยุงตัวไปนั่งพัก
ดีที่การดื่มอวยพรใกล้จะจบแล้ว เมื่อดื่มอวยพรโต๊ะสุดท้ายเสร็จ จิงเหวินรุ่ยก็หันไปมองทั้งสามคนด้วยสีหน้าขอบคุณและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เจ๋อหยวน เสี่ยวเยี่ย วันนี้ลำบากพวกคุณแล้วแหละ”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ลำบากหรอกครับพี่รอง สุขสันต์วันแต่งงานนะครับ”
เฟิงเยี่ยหานก็กล่าวตาม “สุขสันต์วันแต่งงานนะครับ”
แต่จิงเหวินหยวนดูท่าจะเมาจริง ๆ นั่งโงนเงนอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่ได้ยินพวกเขาว่ากำลังพูดอะไรกัน
อวี๋มินเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารลูกชาย จึงรีบหันไปบอกกับสามีว่า “ไค่หรง คุณมาดูลูกหน่อย เดี๋ยวฉันจะให้ในครัวไปต้มซุปแก้เมามาให้ นอกจากเหวินหยวนแล้ว ก็ให้คนอื่น ๆ ดื่มคนละถ้วยด้วยล่ะ”
จิงไค่หรงพยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ ๆ คุณรีบไปเถอะ”
เมิ่งผิงเห็นก็รีบเดินตามไปและกล่าวว่า “พี่สะใภ้ เดี๋ยวฉันไปด้วย”
หลานชายดื่มจนเมาก็เพราะช่วยดื่มแทนลูกชายของเธอ เมิ่งผิงจึงต้องดูแลสักหน่อย
ด้านจิงเหวินรุ่ยและจูรุ่ยจนถึงตอนนี้ทั้งสองคนยังไม่ได้ทานอะไรเลย ถังหลานจึงรีบเรียกพวกเขา “เหวินรุ่ย เสี่ยวรุ่ย พวกลูกมาทานอะไรกันก่อน อีกเดี๋ยวก็จะต้องยกน้ำชาแล้วนะ”
“ครับ ป้าสะใภ้เล็ก” จิงเหวินรุ่ยรีบพาจูรุ่ยไปทานอาหาร