การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 630 ถังเซวี่ยสอบเข้ามหาวิทยาลัย (1)
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 630 ถังเซวี่ยสอบเข้ามหาวิทยาลัย (1)
บทที่ 630 ถังเซวี่ยสอบเข้ามหาวิทยาลัย (1)
วันแรกของปี ถังซวงและครอบครัวต่างก็อยู่บ้าน ปีนี้เป็นวันปีใหม่ปีแรกที่จูรุ่ยได้ฉลองหลังจากแต่งงานเข้าบ้านมา ในบ้านจึงครึกครื้นมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากคนในบ้านตระกูลจิงแล้ว ยังมีแขกที่มาร่วมสวัสดีปีใหม่ตระกูลจิงด้วย คุณนายจิงพาลูกสะใภ้สามคนและหลานสะใภ้ร่วมกันจัดงานเลี้ยงอย่างอบอุ่น
เมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง โต๊ะใหญ่สามโต๊ะก็นำออกมา และทันใดนั้นบรรยากาศก็คึกคักขึ้นมาทันที
ในช่วงเทศกาลปีใหม่โม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานแทบจะอยู่ทานอยู่ที่บ้านเก่าตระกูลจิง แขกที่มาสวัสดีปีใหม่ตระกูลจิงเห็นทั้งสองคน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและแสดงความยินดีกับคุณชายจิงและคุณนายจิง ในขณะเดียวกันก็เอ่ยถามว่าใกล้จะถึงวันแต่งงานของหลานสาวทั้งสองของเขาแล้วใช่หรือไม่
“ยังหรอก ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยของพวกเรายังเรียนหนังสืออยู่เลย ต้องรอให้เรียนจบก่อนถึงจะแต่งงานได้”
แต่ถึงจะกล่าวอย่างนั้นคนอื่น ๆ ก็ยังคงเอ่ยแสดงความยินดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อีกอย่างทั้งโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานทั้งสองคนก็ไม่ใช่ธรรมดาด้วย หลังจากจิงเจ้อหรงแต่งงาน ตระกูลจิงก็ยิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ
หลังจากผ่านสามวันแรกของปีใหม่ แขกที่มาตระกูลจิงก็ลดน้อยลงไปบ้าง และคุณนายจิงเองก็พาถังซวงและคนอื่น ๆ ออกไปเยี่ยมญาติด้วย
ในวันที่ห้าของปีใหม่ ครอบครัวของถังซวงไปตระกูลถังและจากนั้นก็ไปที่ตระกูลหัว จิงเจ้อหรงและถังหลานกลับมาพร้อมกับเด็กน้อยสองคนก่อนแล้ว ส่วนถังซวงและโม่เจ๋อหยวนอยู่ทำธุระที่ตระกูลถังพักหนึ่ง ด้านถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานก็อยู่ที่ตระกูลหัว เมื่อพวกเขากลับมายังปักกิ่งหลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เลยเทศกาลโคมไฟแล้ว
“พี่คะ พรุ่งนี้พวกเราก็เปิดเรียนกันแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจังเลย”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ รู้สึกเหมือนว่าปีใหม่ไม่ได้พักเลย”
ถังเซวี่ยก็รู้สึกเช่นกัน เพราะปีใหม่เธอยุ่งอยู่ตลอด
เฟิงเยี่ยหานอดไม่ได้ที่จะลูบผมถังเซวี่ยและกล่าวว่า “เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะพาคุณไปพักผ่อนสักหน่อยดีกว่า”
โม่เจ๋อหยวนก็คิดเหมือนกัน เขาหันไปบอกกับถังซวงว่า “ซวงเอ๋อร์ เราก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างดีกว่า เราไม่ได้ออกไปไหนกันสองต่อสองนานแล้วด้วย”
ถังซวงได้ยินก็พยักหน้ากล่าวตกลง “ได้สิ”
ทั้งสองคู่แยกกันไปตามที่ที่พวกเขาอยากจะไป
โม่เจ๋อหยวนพาตัวถังซวงไปที่ลานบ้านเล็ก ๆ ของพวกเขา “ซวงเอ๋อร์ ปีก่อนฉันซื้อของบางส่วนเอาไว้ ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าจะพาเธอมาที่นี่ เพื่อที่พวกเราจะได้ใช้เวลาด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะยุ่งจนไม่มีเวลา”
ถังซวงมองบ้านหลังน้อยแสนสบายที่ไม่รู้ว่าโม่เจ๋อหยวนตกแต่งตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอได้ยินก็กล่าวยิ้ม ๆ “มาตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่ ความจริงแล้วหลังจากที่พวกเราเปิดเทอม เวลาช่วงสุดสัปดาห์ก็มาที่นี่ได้”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินก็เอ่ยถามด้วยดวงตาเป็นประกาย “จริงหรือ ถ้างั้นหลังจากนี้พวกเราก็มาที่นี่กันนะ?” แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลจิง ได้เจอซวงเอ๋อร์บ่อย ๆ แต่คนรอบข้างก็เยอะไปหมด จึงรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีเวลาอยู่กันตามลำพังเลย แต่เมื่อมาที่นี่มันต่างออกไป ที่นี่มีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้น
ถังซวงเห็นสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังของโม่เจ๋อหยวน เธอก็กล่าวยิ้ม ๆ “ได้สิ”
“ดีเลย งั้นพวกเราก็เอาแบบนี้แล้วกันนะ”
จากนั้นโม่เจ๋อหยวนก็เตรียมอาหารกลางวันง่าย ๆ สำหรับสองคน “ซวงเอ๋อร์ ของมีไม่เยอะ เลยทำได้แค่บะหมี่ไข่ชามเดียวนะ”
“แค่บะหมี่ไข่ชามเดียวก็ดีมากแล้วล่ะค่ะ”
ถังซวงมองดูไข่เจียวสีทองตรงหน้าและรับมันมาทานด้วยรอยยิ้ม
โม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงทานบะหมี่คำโต เขาก็เริ่มทานบะหมี่ของตนบ้างอย่างมีความสุข
อีกด้านหนึ่งเฟิงเยี่ยหานก็ใจตรงกัน เขาเองก็พาถังเซวี่ยไปที่บ้านใหม่ของพวกเขาเช่นกัน
“เสี่ยวเซวี่ย ที่นี่ตกแต่งซ่อมแซมทั้งหมดแล้ว กลิ่นอะไรก็หายไปหมดแล้ว คุณยังไม่เคยเห็นบ้านตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วใช่ไหม ผมจะพาคุณไปดูเอง”
“เอาสิคะ”
ถังเซวี่ยเดินตามเฟิงเยี่ยหานไปรอบ ๆ ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น หลังจากนั้นจึงพบว่าทั้งภายในและภายนอกของสวนได้ถูกตกแต่งตามแบบที่เธอชอบ “เฟิงเยี่ยหาน ที่นี่สวยมากเลยค่ะ”
“เป็นเพราะคุณออกแบบได้สวยมากไง”
เฟิงเยี่ยหานหันหน้ากลับไปมองถังเซวี่ยด้วยสายตาอ่อนโยน ที่ไม่ว่าจะมองเธอเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเบื่อ ในตอนแรกที่ทั้งสองหมั้นกัน เขาเคยพาเสี่ยวเซวี่ยมาดูที่นี่ก่อนแล้ว และเมื่อนึกได้ว่าเสี่ยวเซวี่ยก็สามารถออกแบบได้ เขาจึงให้เสี่ยวเซวี่ยรับหน้าที่ออกแบบบ้านหลังใหม่นี้ทันที อีกอย่างขอแค่เสี่ยวเซวี่ยชอบก็พอแล้ว
ถังเซวี่ยได้ยินก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ก็แน่ล่ะ ตอนนี้ฉันมีประสบการณ์เยอะมากแล้ว และในอนาคตก็จะออกแบบได้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน”
เฟิงเยี่ยหานกล่าวอย่างมั่นใจว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ต่อไปเสี่ยวเซวี่ยของพวกเราจะต้องเป็นนักออกแบบที่ยอดเยี่ยมแน่นอน”
จะว่าไปแล้วถังเซวี่ยก็ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จึงรู้สึกกังวลใจขึ้นมา “ไม่รู้ว่าฉันจะได้เข้าสถาบันเดียวกันกับพี่ได้หรือเปล่า ถ้าฉันสอบได้ไม่ดีล่ะจะทำยังไงดี”
เฟิงเยี่ยหานกลับไม่รู้สึกกังวลเลย
“ไม่หรอก เสี่ยวเซวี่ย คุณจะสอบผ่านได้แน่นอน ผลการเรียนของคุณในตอนนี้แทบไม่มีอะไรต้องกังวลเลยด้วยซ้ำ” เขารู้ว่าผลการเรียนของเสี่ยวเซวี่ยนั้นดีมาก ดูจากที่ผ่านมาแล้ว เธอจะสามารถสอบผ่านได้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเฟิงเยี่ยหานเชื่อมั่นในตัวเธอ ถังเซวี่ยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “อื้ม ฉันจะพยายามนะ”