การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 633 กำหนดวันเรียบร้อย (1)
บทที่ 633 กำหนดวันเรียบร้อย (1)
เพราะถังเซวี่ยเพิ่งมากวางโจวเป็นครั้งแรก เห็นอะไรก็รู้สึกแปลกใหม่ไปหมด
แต่ก่อนหน้านี้เฟิงเยี่ยหานเคยมากวางโจวแล้ว เขาจึงเล่าธรรมเนียมของที่กวางโจวให้ถังเซวี่ยฟังตลอดทาง “เสี่ยวเซวี่ย ถ้าคุณชอบที่นี่ ครั้งหน้าผมจะพาคุณมาอีก”
“อื้ม”
ถังซวงได้ยินก็หันไปพูดกับถังเซวี่ยอย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวเซวี่ย พี่ก็พาเธอมาได้นะ พี่ก็พอจะคุ้นเคยกับกวางโจวอยู่บ้าง”
ถังซวงเห็นเฟิงเยี่ยหานเปลี่ยนสีหน้าก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
ส่วนโม่เจ๋อหยวนมองถังซวงด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความรัก และส่ายหน้ายิ้ม ๆ เขารู้ว่าบางทีซวงเอ๋อร์ก็ชอบพูดขัดเฟิงเยี่ยหาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะชอบใจเมื่อเห็นอย่างนั้น
พวกเขาพูดคุยกันไปเรื่อยจนมาถึงที่นัดพบ
เพราะงานเทศกาลจัดแสดงสินค้าประจำฤดูใบไม้ผลิครั้งที่แล้ว หลายคนจึงได้รู้จักถังซวง ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาทั้งหมดต่างพากันมาทักทายเธอ และหลังจากเห็นโม่เจ๋อหยวนและคนอื่น ๆ ที่อยู่กับถังซวง พวกเขาก็ยิ่งมองกันเป็นตาเดียว พวกเขารู้ดีว่าถังซวงหน้าตาสวย แต่นึกไม่ถึงว่าพวกเพื่อน ๆ ของเธอจะหน้าตาดีกันขนาดนี้
เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านั้นคือคู่หมั้น น้องสาว และว่าที่น้องเขยของถังซวง ก็ชมกันไม่ขาดปาก “สหายถังซวง คนในครอบครัวพวกเธอหน้าตาดีกันจริง ๆ เลยนะ”
ถังซวงโบกมือยิ้ม ๆ และกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ”
หลังจากพูดคุยกันอีกสักพักก็แยกย้ายกันไปประจำที่จัดแสดงของตน
แม้ครั้งนี้ไม่ได้พ่วงโรงงานรื่อฮวามาด้วย แต่ถังซวงก็ยังได้ที่จัดแสดงเหมือนเช่นเคย อีกทั้งผลงานครั้งที่แล้วของเธอก็เป็นที่น่าประทับใจมาก
ครั้งนี้โม่เจ๋อหยวนมีภารกิจที่ต้องทำเช่นกัน เขาไม่ได้เป็นพนักงานของโรงงานเครื่องจักร แต่ครั้งนี้เขารับหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการวิจัยพัฒนาตู้เย็นสำหรับครัวเรือน จึงต้องมาดูความเป็นไปสักหน่อย “ซวงเอ๋อร์ ฉันไปดูที่จัดแสดงของโรงงานเครื่องจักรนะ”
“อืม พี่รีบไปเถอะ”
หลังจากที่โม่เจ๋อหยวนจากไป ถังเซวี่ยก็ซักถามถังซวงไม่หยุด “พี่คะ ฉันต้องทำอะไรบ้าง พี่บอกฉันมาได้เลย ครั้งนี้พี่ชุนหยานไม่ได้มาด้วย ฉันก็จะเป็นลูกมือพี่เอง งานที่ก่อนหน้านี้พี่ชุนหยานทำฉันก็ทำได้นะ”
ขณะที่พูดก็กวักมือเรียกเฟิงเยี่ยหาน “เฟิงเยี่ยหาน คุณก็รีบมาช่วยกันเร็ว”
เฟิงเยี่ยหานเห็นท่าทีกระตือรือร้นของถังเซวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “ได้ เดี๋ยวฉันช่วยเอง”
ถังซวงไม่ได้เกรงใจอะไรถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานอยู่แล้ว เธอมอบหมายหน้าที่ให้ทั้งสองทันที หลังจากที่จัดตั้งที่จัดแสดงเสร็จเรียบร้อยก็มีนักธุรกิจชาวต่างชาติเดินเข้ามา ถังซวงชี้แจงทั้งสองคนว่าให้ทำอะไรบ้าง
ครั้งนี้ทั้งซูซานและเจนนี่ต่างมากันหมด หลังจากที่พวกเธอนำเครื่องสำอางของถังซวงกลับไปขายด้วย ของก็ขายดีมากทั้งคู่จึงตัดสินใจทำสัญญาสั่งซื้อสินค้าเพิ่ม และถึงแม้พวกเธอทั้งสองคนจะอยู่คนละที่ แต่ตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งกันแล้ว และที่ต้องแข่งกันก็เพื่อความต้องการที่จะซื้อเครื่องสำอางของถังซวง ใครทำสัญญาสั่งซื้อได้ก่อนคนนั้นจึงจะได้รับสินค้าก่อน
“เจนนี่ ฉันเป็นคนให้ข้อมูลของถังซวงกับเธอนะ อย่างไรเธอก็น่าจะให้ฉันทำสัญญาก่อนสิ”
เจนนี่รู้สึกขอบคุณซูซานจริง ๆ แต่ของแบบนี้จะยอมให้กันได้อย่างไร “ซูซาน ฉันแสดงความขอบคุณเธอตอนอื่นก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
ซูซานได้ยินที่เจนนี่พูดก็โกรธแทบทนไม่ไหว สุดท้ายเธอจึงหันหน้าไปบอกกับถังซวงทันที “คุณถัง คุณพูดมาเลยว่าจะทำสัญญากับใคร”
เพราะปริมาณการสั่งซื้อของทั้งสองคนต่างก็มีจำนวนที่เยอะมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีลำดับการส่งมอบสินค้า ถังซวงเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกคุณก็จับสลากแล้วกันค่ะ”
ขณะที่พูด ถังซวงก็เขียนเลข 1 และเลข 2 ไว้บนกระดาษสองใบ หลังจากที่คละปนกันพักหนึ่งก็ยื่นมือออกไปทางสองคนแล้วกล่าวว่า “จับเลย ใครจับได้เลข 1 ก็จะได้ทำสัญญาก่อน”
ทั้งซูซานและเจนนี่ต่างไม่เข้าใจ แต่ก็เอื้อมมือไปคว้ามันเอาไว้ทันที
“เย้… ฉันได้เลข 1”
ซูซานมองถังซวงด้วยความตื่นเต้นสุดขีด และรีบเอ่ยเร่งเร้า “คุณถัง เรารีบไปทำสัญญากันเถอะค่ะ”
เจนนี่มองกระดาษในมือด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้เธอโชคไม่ดีกันล่ะ
ด้วยแรงกระตุ้นของซูซานและเจนนี่ ทำให้คำสั่งซื้อของถังซวงไหลมาอย่างกับสายน้ำ
อีกด้านหนึ่ง โม่เจ๋อหยวนก็ยุ่งมากเช่นกัน ด้วยความที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบหลักของตู้เย็นสำหรับครัวเรือน จึงคุ้นเคยกับทุกอย่างเป็นอย่างดี อีกทั้งภาษาอังกฤษของเขาก็ดีมากด้วย เขาสามารถอธิบายหลักการและแนะนำสินค้าแก่ผู้อื่นได้อย่างชำนาญ จึงสามารถดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามา
เมื่อเทศกาลจัดแสดงสินค้าประจำฤดูใบไม้ผลิจบลง ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนทำผลงานออกมาได้เยี่ยมยอดมาก หน่วยงานอื่น ๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน ทุกอย่างน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
การมาในครั้งนี้ถังซวงวางแผนว่าจะไปก่างเฉิง เธอคิดเอาไว้ว่าจะขยายซวงฮวาให้ใหญ่มากขึ้น ดังนั้นจึงต้องปรึกษาเรื่องนี้กับพานลี่ฮวาสักหน่อย โม่เจ๋อหยวนเองก็อยากจะไปเป็นเพื่อนเธอด้วย
ถังเซวี่ยเองก็อยากไปเหมือนกันแต่เธอลาหยุดมาหลายวันแล้ว จึงรู้สึกกังวลใจขึ้นมาเลยคิดว่ากลับไปเรียนดีกว่า
“เสี่ยวเซวี่ย เดี๋ยวผมกับคุณกลับปักกิ่งกันก่อน ครั้งหน้าผมค่อยพาคุณไปก่างเฉิงดีไหม”
เฟิงเยี่ยหานเห็นเด็กสาวกำลังเป็นกังวล จึงให้คนไปซื้อตั๋วทันที
ถังซวงก็กล่าวตาม “ใช่ เสี่ยวเซวี่ย เธอกลับไปก่อนเถอะ”
พานลี่ฮวาตรงมาที่กวางโจวโดยไม่รอให้ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไปที่ก่างเฉิงก่อน เธอทานอาหารกับพวกเขา ก่อนที่ถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานจะออกเดินทาง