การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 633-2 กำหนดวันเรียบร้อย (2)
บทที่ 633 กำหนดวันเรียบร้อย (2)
หลังจากที่ถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานกลับไปแล้ว ถังซวงก็ได้หาเวลามาปรึกษากับพานลี่ฮวาเกี่ยวกับการพัฒนาหลังจากนี้
“ซวงเอ๋อร์ เธออยากทำอะไรก็ทำเลย ป้าเชื่อมั่นในตัวเธอ”
ตั้งแต่ได้ร่วมก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอางซวงฮวากับถังซวง พานลี่ฮวาก็มีฐานะทางสังคมที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเธอจึงสนับสนุนทุกเรื่องที่ถังซวงตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้เห็นความพัฒนาของประเทศด้วย จึงรู้ว่าธุรกิจที่ปักกิ่งและเมืองเผิงนั้นเป็นไปได้ดีมาก แม้แต่ร้านที่เพิ่งเปิดในกวางโจวก็รุ่งเรืองมากเช่นกัน
ถังซวงได้ยินพานลี่ฮวากล่าวก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ป้าสะใภ้คะ ถ้าอย่างนั้นหนูจะทำตามความคิดของหนูแล้วนะคะ”
“ซวงเอ๋อร์ แค่ทำมันด้วยความมั่นใจไม่ต้องกังวลอะไร ป้าเชื่อมั่นในตัวเธอ”
ถังซวงเห็นท่าทีที่เชื่อมั่นในตัวเธออย่างสุดหัวใจของพานลี่ฮวา แววตาก็เต็มไปด้วยความดีใจ จากนั้นก็เล่าถึงความเป็นอยู่ในช่วงนี้ของผู้เฒ่าเฮ่อให้เธอฟัง “ก่อนมาที่นี่หนูไปหาคุณปู่และคนอื่น ๆ มาค่ะ พวกท่านสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้วจ้ะ ความจริงแล้ว ครั้งนี้ป้าก็อยากจะไปเยี่ยมพวกเขาเหมือนกัน เลยแวะมาดูร้านใหม่ที่กวางโจว เดี๋ยวพอถึงเวลาแล้วป้าไปปักกิ่งกับพวกเธอด้วยนะ”
“ได้เลยค่ะ”
ถังซวงพยักหน้ายิ้ม ๆ หลังจากนั้นเธอก็ไปที่เมืองเผิงอีกครั้ง เพื่อดูว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อพบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็เบาใจลง
ตอนนี้เปาลี่ผิงประจำอยู่ที่เมืองเผิง ส่วนธุระส่วนใหญ่ในปักกิ่งก็ยกให้เป็นหน้าที่ของฉีเสียนสามีของเหยาหง “เจ้านายครับ ช่วงนี้คนรู้จักบริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิงของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ลูกค้าที่มาก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าสามารถรับสมัครคนเพิ่มได้แล้วละครับ”
“อืม เรื่องนี้คุณก็ไปจัดการเองได้เลยนะ”
เปาลี่ผิงได้ยินถังซวงกล่าว ก็พูดเสนออย่างอดไม่ได้ “เจ้านาย ความจริงแล้วผมคิดว่าพวกเราสามารถหารือกับหัวหน้าหน่วยงานได้นะครับ แบบนี้เราก็จะสามารถช่วยพวกเขาแก้ปัญหาการจ้างงานของผู้เกษียณอายุแล้ว และสามารถทำสัญญาตกลงกับพวกเขาได้เลย ขอแค่มีผู้เกษียณอายุก็มาบริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิงได้”
“เอาแบบนั้นก็ได้ คุณไปดูว่าติดต่อได้หรือเปล่า ถ้าได้ละก็ทำสัญญาตกลงกับพวกเขาได้เลย แต่ฉันกลัวว่าจะไม่สามารถรับคนได้มากขนาดนั้นหรอก”
เปาลี่ผิงเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่เขากลับไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหา
“เจ้านายครับ นอกเหนือจากบริษัทรักษาความปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีงานขนส่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้แผนกขนส่งยังขาดแคลนคนอยู่มากเลยครับ”
สาเหตุจากการปฏิรูปและการเปิดประเทศ ทำให้ทางตอนใต้เป็นพื้นที่ที่กลับมาครึกครื้นเป็นที่แรก ดังนั้นเรื่องงานขนส่งจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ จำนวนคนที่มีอยู่เดิมไม่พออีกต่อไปแล้ว
ถังซวงได้ยินก็พยักหน้าและพูดว่า “อืม คุณไปจัดการได้เลย”
หลังจากพูดคุยกับเปาลี่ผิงเสร็จแล้ว ถังซวงกลับถึงโรงแรม จนวันรุ่งขึ้นมาถึงเธอและพานลี่ฮวาเดินทางไปที่โรงงาน คำสั่งซื้อของเครื่องสำอางซวงฮวาได้สั่งไว้ครึ่งปีแล้ว เธอจึงต้องการแน่ใจว่าสินค้าทั้งหมดสามารถจัดส่งได้อย่างตรงเวลา ดังนั้นโรงงานจึงต้องผลิตตามให้ทัน
“ซวงเอ๋อร์ ไม่ต้องห่วง ซุนเฉียนซีเป็นคนเก่ง นอกเหนือจากกิจการในร้าน งานในโรงงานเธอก็คอยดูอยู่ตลอด ยิ่งกว่านั้นในโรงงานก็ยังมีคนอีกหลายคนที่ป้าพามาจากก่างเฉิง เธอวางใจได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ”
ถังซวงพยักหน้ายิ้ม ๆ หลังจากตรวจดูความคืบหน้าของการผลิตแล้วก็รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีปัญหาอะไร “ป้าสะใภ้ งั้นพรุ่งนี้พวกเรากลับปักกิ่งกันเถอะค่ะ”
“อืม”
เมื่อกลับมาถึงปักกิ่งแล้วถังซวงก็ไม่ได้ว่างเลย เธอเรียนไปด้วยและขยายกิจการของซวงฮวาไปด้วย
อีกด้านหนึ่ง โม่เจ๋อหยวนก็เช่นกัน เขาทั้งเรียนไปด้วย ทั้งพยายามเข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ เพียงแต่ในช่วงนี้โครงการที่เขาเข้าร่วมค่อย ๆ เปลี่ยนทิศทางไป และสิ่งที่กำลังวิจัยก็มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะที่ถังซวงได้เปิดร้านเครื่องสำอางในหลาย ๆ เมือง ด้านโม่เจ๋อหยวนเองในช่วงครึ่งหลังของปีสี่ก็ได้มีความก้าวหน้าอย่างมาก เขาได้รับความสนใจจากอี้สั่ว ซึ่งต้องการให้เขาเข้าร่วมบริษัทหลังจากเรียนจบ
“ซวงเอ๋อร์ ฉันทำสำเร็จแล้ว พอเรียนจบฉันก็จะได้ทำงานที่อี้สั่วแล้ว”
ถังซวงเห็นท่าทีตื่นเต้นของโม่เจ๋อหยวนก็เดินเข้าไปกอดเขาเอาไว้อย่างอดไม่ได้ “อาหยวน ยินดีด้วยนะ”
เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นในอ้อมกอดของเธอ โม่เจ๋อหยวนก็กอดตอบถังซวงทันที เสียงของเขายังเจือไปด้วยความตื่นเต้น “ขอบใจนะ ซวงเอ๋อร์ ฉันก็ยินดีกับเธอด้วยนะ ตอนนี้ซวงฮวาเป็นที่รู้จักของทุกคนไปแล้ว เธอประสบความสำเร็จแล้วนะ”
ในตอนนี้ถังซวงรู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ เพราะว่าซวงฮวาไม่ใช่แค่ประสบความสำเร็จในแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ที่ต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จมากเช่นกัน ทุกปีตอนนี้ปริมาณเครื่องสำอางที่ส่งออกนั้นมากกว่าที่ขายภายในประเทศด้วยซ้ำ “งั้นพวกเราก็มีความสุขไปด้วยกันนะ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความดีใจของถังซวง และคิดถึงว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะเรียนจบแล้ว ในที่สุดโม่เจ๋อหยวนพูดในสิ่งที่ตนเองได้คิดเอาไว้นานแล้วออกไป “ซวงเอ๋อร์ เรียนจบแล้วพวกเราแต่งงานกันเถอะ” หลังจากที่พูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ปล่อยถังซวงออก และค่อย ๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าเธอ “ซวงเอ๋อร์ เราแต่งงานกันนะ”
ถังซวงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด จนกระทั่งเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าเธอและหยิบแหวนออกมา หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “พี่ซื้อแหวนตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“จริง ๆ ฉันซื้อไว้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสน่ะ” ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนงานยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาเจอกัน จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันจริง ๆ จัง ๆ และโม่เจ๋อหยวนก็รู้สึกว่าวันนี้เป็นโอกาสอันดี
ถังซวงเห็นโม่เจ๋อหยวนทำหน้าซื่อ ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ หลังจากนั้นจึงเอื้อมมือออกไปวางตรงหน้าโม่เจ๋อหยวน “มัวอึ้งอะไรอยู่ รีบสวมสิ”
“ซวงเอ๋อร์…”
โม่เจ๋อหยวนไม่คิดเลยว่าถังซวงจะตอบตกลงรวดเร็วขนาดนี้ เขาจึงคว้าโอกาสนี้เอาไว้และรีบหยิบแหวนในกล่องขึ้นสวมบนนิ้วนางของถังซวง “ซวงเอ๋อร์ หลังเรียนจบเราแต่งงานกันนะ”
ถังซวงมองแหวนทองอร่ามบนมือของเธอ แล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อื้ม พวกเรามาแต่งงานกันเถอะ”