การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 636 สร้างครอบครัว (1)
บทที่ 636 สร้างครอบครัว (1)
สำหรับงานแต่งงานในวันนี้ทุกอย่างได้ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้นหลังจากตื่นนอนเธอก็ลุกขึ้นมาแต่งหน้า
เมื่อถังเซวี่ยและถังชุนหยานมาถึงก็เห็นถังซวงผู้งดงามกำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก
“โอ้โห… พี่สาวซวง วันนี้พี่สวยจังเลยค่ะ” ถังชุนหยานไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายถังซวงได้เลย ในหัวสมองของเธอมีเพียงคำว่าสวยเท่านั้น
ถังเซวี่ยพยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวว่า “ใช่ค่ะ วันนี้พี่สวยมากจริง ๆ” ในขณะที่กล่าวก็รีบเข้าไปช่วย “พี่คะ ฉันช่วยติดดอกไม้ที่ผมให้นะ”
“เอาสิ”
ถังซวงเกล้าผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเครื่องประดับผมชิ้นสุดท้าย
ในยุคสมัยนี้ดอกไม้สำหรับติดผมเจ้าสาวได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ดอกไม้ติดผมสีแดงเข้มดูชวนฝัน เข้าคู่กับชุดสีแดงสด จึงขลับให้เจ้าสาวดูสดใสงดงาม
“ซวงเอ๋อร์ ลูกเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
เมื่อถังหลานเข้ามาเห็นถังซวงแค่เพียงแวบแรก เธอกล่าวอย่างอดไม่ได้ “ซวงเอ๋อร์ วันนี้ลูกสวยมากจริง ๆ”
“ขอบคุณค่ะแม่”
ถังหลานเดินวนรอบ ๆ ตัวถังซวงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชมเธอ และสุดท้ายจึงหันไปกล่าวกับเธอว่า “ซวงเอ๋อร์ ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะ ลูกไปทานข้าวสักหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหลังจากนี้จะไม่มีเวลาได้ทานแล้ว” ในขณะที่พูดก็กวักมือเรียกถังเซวี่ยและถังชุนหยาน “เธอสองคนก็รีบมาหาอะไรทานด้วยนะ วันนี้รับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวก็คงจะเหนื่อยมากเหมือนกัน”
สุดท้ายพวกเธอก็ไปทานอาหารเช้าด้วยกันที่ห้องอาหาร
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ คุณนายจิงดึงตัวถังซวงไว้และกล่าวกับเธอว่า “ซวงเอ๋อร์ของย่าจะแต่งงานแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ ยังไงหลังแต่งงานแล้วก็กลับบ้านมาหาบ่อย ๆ นะ”
ถังซวงได้ยินก็หันมองคุณนายจิงและกล่าวยิ้ม ๆ “คุณย่า ไม่ต้องห่วง หนูจะกลับมาบ้านบ่อย ๆ แน่นอนค่ะ ก็เราอยู่ใกล้กันขนาดนี้”
“อืม งั้นก็ดีเลย”
คุณนายจิงลูบหลังมือของถังซวง หลังจากนั้นก็หยิบกล่องไม้ขนาดเล็กกล่องหนึ่งยื่นให้ถังซวงและบอกว่า “สุขสันต์วันแต่งงานนะ”
ถังซวงไม่นึกเลยว่าคุณนายจิงจะจัดเตรียมของขวัญไว้ให้เธอด้วย เธอรับมันเอาไว้ด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะคุณย่า”
หลังจากถังซวงและคุณนายจิงกล่าวจบ หัวเฟยเฟิ่งก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวกับถังซวงบ้าง “ซวงเอ๋อร์ ยายดีใจมาก ๆ ที่เห็นหลานแต่งงาน ถึงเวลาจะค่อนข้างกระชั้นชิด แต่พวกเราก็ได้เตรียมของขวัญไว้ให้หลาน ถือซะว่าเป็นของขวัญแก่เจ้าสาวนะ” ในขณะที่กล่าวก็หยิบบัตรของขวัญที่เตรียมเอาไว้ก่อนนานแล้วขึ้นมา “ของจะถูกส่งตรงไปยังห้องเจ้าบ่าวเจ้าสาวของหลานนะ”
ถังซวงเหลือบมองบัตรของขวัญใบยาวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง
ถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งเตรียมของให้เธอเยอะจนเกินไปแล้ว
หัวเฟยเฟิ่งอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของถังซวง เธอกล่าวว่า “ยังมีของที่ท่านผู้เฒ่าและคนอื่น ๆ เตรียมไว้อยู่อีกด้วย งานแต่งงานผู้นำตระกูลถังทั้งที พวกเขาเลยอยากจะแสดงความยินดีน่ะจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณตาคุณยาย แล้วก็ฝากขอบคุณท่านผู้เฒ่าและคนอื่น ๆ ด้วยนะคะ”
“เดี๋ยวไว้หลานบอกด้วยตัวเองเถอะ” หัวเฟยเฟิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นจึงเอ่ยถามว่า “ซวงเอ๋อร์ เตรียมฉลองที่ตระกูลถังเอาไว้สักสองสามโต๊ะก็ได้ คนในครอบครัวเยอะก็จริงแต่ครั้งนี้ไม่ได้มากันเยอะมากเท่าไหร่เลย”
ถังซวงได้ยินก็พยักหน้าทันทีและกล่าวว่า “ได้ค่ะ ก่อนหน้านี้คุณปู่ก็เคยบอกกับหนูแล้ว เดี๋ยวหนูกับอาหยวนกลับไปตระกูลถังแล้วจะจัดเพิ่มอีกสองสามโต๊ะ”
หัวเฟยเฟิ่งได้ยินถังซวงบอกก็พยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นก็ดีเลยจ้ะ”
ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่ เสียงประทัดก็ดังมาจากข้างนอก
คุณนายจิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยหยอก “ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะมากันแล้ว เขาคงจะรีบน่าดู”
อวี๋มินและเมิ่งผิงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยหยอกเช่นกัน “เจ๋อหยวนตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้แต่งงานกับซวงเอ๋อร์ จะไม่ให้ใจร้อนได้อย่างไรล่ะ”
จูรุ่ยที่ตามหลังเมิ่งผิงมาติด ๆ เมื่อได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวหยอกบ้าง “ใช่ ตอนนี้เจ๋อหยวนคงรีบร้อนน่าดู”
ถังซวงได้ยินก็หันไปกล่าวกับจูรุ่ยด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ ฉันว่าพี่รองน่าจะรีบกว่าอีกนะ”
“ฮ่า ๆๆๆ… ท่าจะจริง”
เมื่อทุกคนได้ยินถังซวงกล่าว ต่างก็พากันนึกถึงความร้อนใจในตอนนั้นของจิงเหวินรุ่ย
จูรุ่ยหน้าแดงอย่างอดไม่ได้ ในแววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสุข เพราะตั้งแต่ที่เธอแต่งงานกับจิงเหวินรุ่ย ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเขาก็กลมกลืนกันเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่า…
ตอนนี้เธอยังไม่ตั้งครรภ์สักที แต่ไหนแต่ไรเธอและจิงเหวินรุ่ยต่างก็อยากจะมีลูกมาก ๆ แต่เพราะทั้งสองคนค่อนข้างยุ่ง แล้วอีกอย่างพวกเขาก็ยังอยากใช้เวลาร่วมกันให้มากขึ้นสักหน่อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอกลับอยากมีลูก แต่ก็ไม่ท้องสักที ตอนแรกเธอก็อยากจะมาให้ถังซวงดูให้สักหน่อย แต่ก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา สุดท้ายก็เลื่อนมาจนถึงตอนนี้
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้จูรุ่ยก็รู้สึกหงุดหงิด แต่พอคิดว่าถึงแม้ถังซวงจะแต่งงานไปแล้ว ก็คงจะยังมีเวลากลับมาบ้านบ่อย ๆ พอถึงตอนนั้นเธอค่อยหาเวลามาให้ถังซวงดูแล้วกัน
จูรุ่ยคิดอยู่หลายเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ดีว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของถังซวง เธอจึงเดินตามไปส่งถังซวงกลับไปยังห้องของเธอพร้อมกับถังเซวี่ยและถังชุนหยาน รวมถึงคนอื่น ๆ
“ซวงเอ๋อร์ ลูกรออยู่ในห้องเฉย ๆ รอจนกว่าเจ๋อหยวนจะมารับนะ”
เกอชิงเหม่ยเองก็ตามมาด้วย วันนี้ถังหลานยุ่งมาก เธอถึงต้องตามมาช่วยอยู่ตลอดส่วนลูกก็ฝากไว้กับซ่างสยงเยี่ย “อาหลาน ตรงนี้ซวงเอ๋อร์ยังมีเสี่ยวเซวี่ยกับคนอื่น ๆ อยู่ด้วย พวกเราก็ไปดูด้านนอกกันดีกว่า”
“อืม”
ถังหลานได้ยินก็รีบพยักหน้า
หลังจากที่ถังหลานและเกอชิงเหม่ยออกไปแล้ว ถังเซวี่ยและถังชุนหยานก็รีบพาตัวถังซวงไปนั่งให้เรียบร้อย หลังจากนั้นพวกเธอก็ปิดประตูให้สนิท “เราจะให้พี่เขยร้องเพลงให้พวกเราฟัง ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะไม่เปิดประตูให้”
ถังซวงได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวหยอก “ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็เฝ้าประตูไว้ให้ดี ขนาดพี่ยังไม่เคยได้ยินเขาร้องเพลงเลย เดี๋ยวจะคอยดูว่าพวกเธอจะทำยังไง”
“ได้เลย”
หลังจากที่โม่เจ๋อหยวนและคนอื่น ๆ มาถึง ถังเซวี่ยก็บอกให้เขาร้องเพลงจริง ๆ “พี่เขย ถ้าพี่ร้องเพราะ ฉันจะเปิดประตูให้พวกพี่”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินก็กล่าวอย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวเซวี่ย ตอนนี้เฟิงเยี่ยหานก็อยู่ข้าง ๆ พี่ ให้เขาร้องแทนไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเขาร้องเพราะ เธอต้องเปิดประตูให้ด้วยนะ”
“พี่เขย พี่ถังซวงเธออยากฟังพี่ร้องเพลงนะ ไม่ได้อยากฟังเฟิงเยี่ยหานร้องสักหน่อย”