การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 88 คะแนนเต็ม(รีไรท์)
บทที่ 88 คะแนนเต็ม(รีไรท์)
บทที่ 88 คะแนนเต็ม(รีไรท์)
เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของถังเซวี่ย ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เธอดูมีความสุขมากเลยนะ”
“ก็… ฉันมีความสุขนี่นา”
ดวงตาของถังเซวี่ยเป็นประกาย เพราะเธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนหนังสือแล้ว
“ในเมื่อเธอชอบอ่านหนังสือมาก งั้นก็ต้องตั้งใจเรียนมาก ๆ นะ”
“ค่ะ…”
ถังเซวี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ทันทีที่สองพี่น้องเดินไปถึงหัวมุม พวกเธอก็พบกับโม่เจ๋อหยวน “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ถ้ารายงานตัวเสร็จแล้ว เราก็กลับกันเถอะ”
“ค่ะ”
หลังจากที่ทั้งสามคนกลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็วางหนังสือเรียนและพักผ่อน จากนั้นไปที่บ้านของหลี่จงอี้
เมื่อหลี่จงอี้เห็นทั้งสามคนกลับมา ชายชราก็ยิ้มโบกมือทักทาย “เธอสามคนกลับมาแล้ว ไปล้างมือเร็ว ๆ จะได้กินข้าวกัน ถึงอาหารของฉันจะพอดูได้ แต่พวกเธอก็ควรเผื่อใจไว้หน่อยนะ”
“คุณปู่ เรากินอะไรก็ได้ค่ะ อีกอย่างอาหารที่คุณปู่ทำก็ดูดีมาก ดูน่าอร่อยมากเลยค่ะ”
ถังซวงลองดูคร่าว ๆ และพบว่าอาหารกลางวันวันนี้อุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งปลา เนื้อและไข่ อาหารหลักคือข้าว ซึ่งถือว่าดีมากอยู่แล้ว
“ฮ่า ๆ… ถ้าชอบก็ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกันเถอะ”
หลังจากนั่งลง พวกเขาก็เริ่มกินข้าวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าหลี่จงอี้จะไม่ได้ทำอาหารเก่งมาก แต่เขาก็ตั้งใจทำเต็มที่ และวัตถุดิบต่าง ๆ ล้วนเป็นของดี ดังนั้นรสชาติของอาหารจึงอร่อยพอตัว
“ฉันโล่งใจที่เห็นพวกเธอกินกันอิ่มนะ ครั้งหน้าฉันจะได้มีกำลังใจทำอาหารต่อไป”
หลี่จงอี้หัวเราะ และคิดว่าต้องเลี้ยงดูเด็ก ๆ ให้ดี
ต่อมา ถังซวงไปโรงเรียนตรงเวลาทุกวันและใช้ชีวิตตามปกติ ตรงกันข้ามกับโม่เจ๋อหยวนที่งานยุ่ง และบางครั้งก็ต้องขอลาเรียนเพื่อไปโรงงานเครื่องจักรในอำเภอ เนื่องจากรถเก็บเกี่ยวกลุ่มแรกกำลังจะผลิตเสร็จแล้ว เขาจึงต้องไปดูและตรวจสอบความเรียบร้อย “ซวงเอ๋อร์ เธออยากไปที่โรงงานกับฉันในวันเสาร์นี้ไหม?”
ถังซวงส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ฉันไม่ไปดีกว่า”
รถเก็บเกี่ยวแบบครบวงจรได้ถูกพัฒนาโดยโม่เจ๋อหยวน และเธอได้ให้คำแนะนำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่ามันน่าประหลาดใจแค่ไหนที่เธอได้รับรางวัลจากเบื้องบนมาก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นถังซวงปฏิเสธ โม่เจ๋อหยวนก็ไม่พูดอะไรอีก ในวันเสาร์เขาไปที่อำเภอเพียงลำพัง แต่เมื่อกลับมา ได้มีคนอีกสองคนตามมาด้วย เป็นผู้ชายอายุสามสิบและผู้หญิงอายุยี่สิบ
“ซวงเอ๋อร์ นี่คือนักข่าวโจวและนักข่าวจางจากข่าวภาคค่ำ พวกเขามาที่นี่เพื่อทำการสัมภาษณ์น่ะ”
เขาไม่คาดคิดเลยว่านักข่าวจะมาขอสัมภาษณ์เขา และมารอที่โรงงานเครื่องจักรตั้งแต่เช้า อันที่จริง การสัมภาษณ์ควรจะทำเสร็จสิ้นตั้งแต่ที่โรงงานเครื่องจักรแล้ว แต่เป็นเพราะว่าคราวนี้ผู้มีตำแหน่งระดับสูงให้ความสนใจกับรถเก็บเกี่ยวมาก ดังนั้นการสัมภาษณ์ของเขาจึงสำคัญมากเช่นกัน และยังให้คนติดตามเขามาที่ตำบลเพื่อสัมภาษณ์เป็นพิเศษ
เมื่อถังซวงเห็นทั้งสอง เธอก็ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ”
เมื่อโจวหมินและจางซีเห็นถังซวง พวกเขาก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอย่างสงสัย “นี่คือเพื่อนของคุณหรือครับ?”
“ใช่ครับ เป็นเพื่อนที่ผมเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ เธอช่วยเหลือผมมาก ครั้งนี้ที่ผมสามารถพัฒนาเครื่องเกี่ยวข้าวได้เร็วก็เพราะซวงเอ๋อร์ให้คำแนะนำหลายอย่างแก่ผมครับ”
เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ของถังซวงแล้ว จางซีก็ไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับโม่เจ๋อหยวนที่ยังเด็กอยู่เช่นกัน เธอจึงค่อย ๆ เชื่อขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นคุณถังซวง คุณให้เราสัมภาษณ์ได้ไหมคะ?”
“ไม่ดีกว่าค่ะ รถเก็บเกี่ยวพัฒนาโดยพี่โม่เองทั้งหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย สัมภาษณ์แค่เขาดีกว่านะคะ”
ถังซวงปฏิเสธออกไปตรง ๆ เธอไม่ต้องการให้คนมาสนใจ เพราะนี่เป็นผลงานของโม่เจ๋อหยวน และเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขามากมายเลย “พี่โม่ ดูแล้วพี่น่าจะยุ่งมาก งั้นฉันจะกลับไปก่อนนะ” เมื่อพูดอย่างนั้นเธอก็กลับไปที่บ้าน
เมื่อเห็นเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว จากนั้นจึงพาโจวหมินและจางซีเข้ามาในบ้าน เมื่อทั้งสองมองดูสถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ในช่วงนี้ ก็ทำการสรุปการสัมภาษณ์ และสิ้นสุดการสัมภาษณ์ครั้งนี้
หลังจากนั้นไม่กี่วัน รายงานเกี่ยวกับโม่เจ๋อหยวนก็ออกมา และรูปถ่ายบนหนังสือพิมพ์ก็ชัดเจนมากจนทำให้ทุกคนที่รู้จักเขารู้เรื่องที่เขาเป็นคนคิดค้นรถเก็บเกี่ยว และทั้งตำบลก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นชั่วขณะ
“พระเจ้า โม่เจ๋อหยวนคนนี้อยู่โรงเรียนของเรานี่ เขาอยู่มัธยมปลายเองนะ เก่งขนาดนี้ได้ยังไง ยังไม่ทันจบมัธยมปลาย เขาก็ได้สร้างรถเก็บเกี่ยวรูปแบบใหม่แล้ว ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้เขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเข้ามหาวิทยาลัยแล้วสิ…”
“ใช่ ไม่เพียงแต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับงานในอนาคตอีกด้วย หน่วยงานที่ต้องการความสามารถแบบนี้ไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่”
“ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่านักประดิษฐ์คนนี้จะมาจากโรงเรียนเรา ในอนาคตชื่อเสียงของโรงเรียนต้องโด่งดังไปไกลแน่”
“ใช่ ๆ ฉันตื่นเต้นมากเลย ทำไมเราไม่ไปดูโม่เจ๋อหยวนกันล่ะ ฉันล่ะอยากเห็นจริง ๆ ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง”
เมื่อฟังคำชื่นชมที่แฝงไปด้วยความอิจฉาที่มีต่อโม่เจ๋อหยวนจากนักเรียนรอบข้าง ถังซวงก็ยกยิ้มที่มุมปาก
ส่วนถังเซวี่ยก็เอามือปิดปากและแอบยิ้ม พร้อมทั้งชื่นชมโม่เจ๋อหยวนอยู่ในใจ พี่ชายโม่เก่งเกินไปแล้ว!
ในขณะที่นักเรียนต่างพูดคุยกันถึงโม่เจ๋อหยวน ฮั่วไห่เหล่ย ครูประจำชั้นก็เดินเข้ามาส่งผลให้ทั้งห้องเงียบลงในทันที
“ดูเหมือนว่าพวกเธอทุกคนจะรู้จัก โม่เจ๋อหยวน เพื่อนร่วมโรงเรียนของเราสินะ พวกเธอคิดว่าเขาเก่งมากไหม?” ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ ชื่อของโม่เจ๋อหยวนก็เป็นชื่อที่เขาได้ยินมากที่สุด
“ครับ/ค่ะ…”
นักเรียนตอบตามความเป็นจริง “ในเมื่อพวกเธอรู้ว่าเขาเก่งแค่ไหน พวกเธอก็ควรตั้งใจเรียนให้มากขึ้น เอาล่ะ เราจะทำการทดสอบกัน และทุกคนควรพยายามอย่างหนักกับการสอบในครั้งนี้”
“อา…”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าจะมีการสอบ นักเรียนก็เปลี่ยนจากตื่นเต้นเป็นร้องโหยหวน “ทำไมการสอบมาเร็วจัง เร็วเกินไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันยังไม่ได้เรียนอะไรมากเลย”
“อาจารย์ครับ พวกเรายังไม่อยากสอบเลยครับ”
แต่ฮั่วไห่เหล่ยไม่ได้สนใจเสียงร้องโหยหวน เขายื่นกระดาษข้อสอบด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นดูเวลาแล้วพูดว่า “พวกเธอมีเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นในการทำข้อสอบ ดังนั้นรีบทำข้อสอบซะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าลงและเริ่มทำข้อสอบ
เมื่อมองไปที่กระดาษข้อสอบตรงหน้าเธอ ถังซวงคิดว่ามันง่ายมาก ดังนั้นเธอจึงเขียนคำตอบอย่างรวดเร็ว แต่เพราะมีเพื่อน ๆ ที่กำลังทำข้อสอบอยู่อย่างขะมักเขม้น เธอจึงยังไม่ส่งข้อสอบไปก่อนเพื่อจะได้ไม่เป็นที่ดึงดูดสายตา
หลังจากการทำข้อสอบในชั้นเรียนสิ้นสุดลง ฮั่วไห่เหล่ยก็เก็บกระดาษและออกจากห้องเรียนทันที
ด้านนักเรียนที่ยังคงอยู่ในห้องเรียนต่างก็คร่ำครวญ “ไม่รู้จะได้กี่คะแนน”
ถังเซวี่ยยังสงสัยว่าเธอจะสอบได้เท่าไร เธอจึงหยิบโน้ตออกมาและเริ่มตรวจสอบคำตอบกับถังซวง “พี่สาว คำถามนี้พี่ตอบอะไร?”
เมื่อเห็นถังเซวี่ยแบบนี้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “รอให้ผลออกมาก่อน และเธอก็ไม่ต้องสนใจคะแนนมากเกินไปนัก”
ถังเซวี่ยได้ยินแบบนั้นก็ทำได้แค่ยอมแพ้ “เฮ้อ คงต้องรอผลอย่างเดียวสินะ”
ส่วนฮั่วไห่เหล่ยที่จัดการทุกอย่างเร็วมาก เขาตรวจข้อสอบทั้งหมดเสร็จในวันรุ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข “มีนักเรียนในชั้นเรียนของเราทำข้อสอบได้คะแนนเต็ม” ในตอนท้าย เขามองตรงไปที่ถังซวง “ปรบมือให้ถังซวงด้วย เธอเป็นคนเดียวในชั้นที่ได้คะแนนเต็มสำหรับการทดสอบครั้งนี้”
“ว้าว… คะแนนเต็มจริง ๆ ด้วย”