การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 93 คนรักของเธอ(รีไรท์)
บทที่ 93 คนรักของเธอ(รีไรท์)
บทที่ 93 คนรักของเธอ(รีไรท์)
เมื่อเห็นหูจื่อเฉียง ถังซวงก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ผู้จัดการหู ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“สหายเสี่ยวถัง ไม่เจอกันนานจริง ๆ คราวหน้าถ้ามีเวลา เธอต้องมาบ่อย ๆ นะ เหลียงจุนเฟิงกับหลินกงพูดถึงเธอตลอดเลย และฉันก็อยากให้เธอสอนพวกเขาหน่อยน่ะ”
ถังซวงยังเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอซ่อมรถให้ทีมขนส่งว่าเธอจะมาสอนถ้ามีเวลา จะได้ให้ผู้คนจำนวนมากเรียนรู้วิธีการซ่อมรถได้ แต่เธอก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงยิ้มและพูดว่า “ได้ค่ะ ฉันจะมาเมื่อฉันเสร็จธุระแล้วนะคะ”
“ดีเลย เธอสัญญากันแล้วนะ”
ทั้งสามคนเดินไปพร้อมพูดคุยกัน ในไม่ช้าก็มาถึงโกดังที่จอดรถเก็บเกี่ยวไว้ หูจื่อเฉียงแนะนำ “สหายโม่มาดูรถเก็บเกี่ยวพวกนี้สิ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกมันจะถูกส่งออกตั้งแต่พรุ่งนี้เลย”
โม่เจ๋อหยวนรู้ถึงความสำคัญของรถเก็บเกี่ยวเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนและทดลองใช้งานมันไปด้วย หลังจากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหา ก็รายงานทันที “ผู้จัดการหู ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หูจื่อเฉียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้น “สหายโม่ ถ้าอย่างนั้นเราจะเริ่มส่งรถเก็บเกี่ยวออกไปในวันพรุ่งนี้เลยนะ”
ในตอนนั้นเอง ถังซวงก็พูดขึ้นจากด้านข้างว่า “ผู้จัดการหู คุณยังไม่ลืมของฉันใช่ไหมคะ?”
“ไม่ต้องห่วงสหายเสี่ยวถัง ฉันไม่ลืมหรอก คนของฉันได้เตรียมไว้ให้แล้ว รถคันนั้นเป็นของเธอ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงก็ยิ้มอย่างยินดี “ขอบคุณค่ะผู้จัดการหู”
“ไม่เป็นไร… ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสองคน รถเก็บเกี่ยวนี้คงไม่สามารถผลิตได้ เราต่างหากที่ต้องขอบคุณ”
ถังซวงโบกมืออย่างถ่อมตัว จากนั้นหยิบเงินที่เธอเตรียมไว้ออกมา “ผู้จัดการหูคะ นี่เป็นเงินสำหรับซื้อรถเก็บเกี่ยวค่ะ” ถึงแม้จะซื้อด้วยราคาพิเศษ มันก็ราคาไม่ถูกอยู่ดี แต่ถังซวงก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะตอบแทนบุญคุณของถังเยว่หมิน และตัดขาดทุกอย่างระหว่างพวกเธอกับหมู่บ้านหลู่ฮวา
จากนั้นหูจื่อเฉียงก็โบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้อง ๆ สหายเสี่ยวถัง รถคันนี้เป็นของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องให้เงินหรอก”
“ทำไมล่ะคะ? รถคันนี้เป็นของโรงงานเครื่องจักรนะคะ ไม่ใช่ของฉัน”
หูจื่อเฉียงอธิบายอย่างรวดเร็ว “เพราะเธอกับสหายโม่ที่วิจัยและพัฒนารถเก็บเกี่ยวคันนี้ สหายโม่ได้รับรถเก็บเกี่ยวคันแรกแล้ว แน่นอนว่าเธอเองก็ต้องได้ด้วย และคุณจิงได้ขออนุญาตแล้ว รถเก็บเกี่ยวชุดแรกหลังจากการผลิตเสร็จสิ้นจะมีคันหนึ่งเป็นของเธอ ดังนั้นสหายเสี่ยวถังไม่จำเป็นต้องให้เงินหรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็ชะงักไปเล็กน้อย
“จริงหรือคะ?”
“จริงสิ ถ้าไม่มีคำสั่งลงมา ฉันคงไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองหรอก ต้องบอกก่อนว่ารถเก็บเกี่ยวพวกนี้เป็นสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ แม้แต่ฉันที่เป็นผู้จัดการโรงงานเครื่องจักรก็ยังตัดสินใจโดยพลการไม่ได้เลย”
เมื่อถังซวงรู้เช่นนี้ เธอจึงพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณค่ะผู้จัดการหู”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณคุณจิงเถอะ”
แค่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว ถังซวงจึงไม่ยืนกรานต่อไป “ผู้จัดการหูคะ แล้วพรุ่งนี้เราจะมารับรถเก็บเกี่ยวนะคะ” ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้เธอจะต้องขอหยุดหนึ่งวันแล้ว
หูจื่อเฉียงโบกมือ “เธอไม่จำเป็นต้องมารับรถเก็บเกี่ยวด้วยตัวเองหรอก ฉันจะไปส่งให้เธอเอง แค่ให้ที่อยู่ไว้ก็พอ” สุดท้ายแล้ว หูจื่อเฉียงก็อธิบายอย่างชัดเจนอีกครั้ง “แต่พรุ่งนี้โรงงานของเราคงยุ่งเล็กน้อย อาจใช้เวลาในการส่งนานหน่อยนะ”
เมื่อถังซวงได้ยิน เธอรีบพูดว่า “ผู้จัดการหูคะ เราไม่รีบหรอกค่ะ มาส่งเมื่อไหร่ก็ได้ ตามที่คุณสะดวกได้เลยค่ะ”
“ตกลง งั้นเอาเป็นว่าจะส่งสินค้าในวันมะรืนนี้นะ”
หลังจากที่ถังซวงให้ที่อยู่แล้ว เธอก็จากไปพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน
“ดูเหมือนว่าครั้งหน้าฉันจะต้องหาโอกาสขอบคุณคุณจิงแล้วสิ ครั้งนี้เขาช่วยฉันจัดการหลายอย่างเลย ยังไงฉันก็ต้องหาเวลามาที่โรงงานเครื่องจักรเพื่อฝึกอบรมคนงานแทนการขอบคุณผู้จัดการหูด้วย”
โม่เจ๋อหยวนยิ้มแล้วพยักหน้า “อื้ม เมื่อเราพบคุณจิงอีก เราจะขอบคุณเขาอย่างดีเลยล่ะ สำหรับโรงงานเครื่องจักร เธอจะมาเมื่อไหร่ก็บอกฉันนะ ฉันจะมากับเธอเอง”
“ได้”
ทั้งสองพูดคุยกันไประหว่างเดินกลับ และยังพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตโดยไม่รู้ตัว ถังซวงมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอย่างสงสัยและถามว่า “พี่โม่ ตอนนี้พี่อยู่มัธยมปลายปีสามแล้ว หลังเรียนจบ พี่จะไปวิทยาลัยต่อไปเลยไหม?”
โม่เจ๋อหยวนส่ายหัวทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น “ฉันไม่ได้วางแผนที่จะไปเรียนที่วิทยาลัยในปีหน้าทันที หลังจากจบมัธยมปลาย ฉันจะเริ่มทำงานก่อนน่ะ” ตอนนี้หลายคนสามารถเข้าเรียนวิทยาลัยคนงาน ชาวนา และทหารผ่านการแนะนำได้แล้ว แต่โดยพื้นฐานแล้ววิทยาลัยเหล่านี้ไม่ได้สอนอะไรที่เป็นประโยชน์มากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะไปเรียนที่นั่น
ถังซวงยิ้มและพูดว่า “ดีแล้วที่พี่จะเริ่มทำงานเลย ยังมีโอกาสอีกมากที่จะเข้าวิทยาลัย ดังนั้นอย่ารีบดีกว่า” โม่เจ๋อหยวนยังมีโอกาสอีกมากในการสอบเข้าวิทยาลัย อีกอย่างความแตกต่างระหว่างประกาศนียบัตรของวิทยาลัยคนงาน ชาวนา และทหาร กับประกาศนียบัตรของวิทยาลัยที่ผ่านการสอบเข้าแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย ดังนั้นการตัดสินใจของโม่เจ๋อหยวนถูกต้องมาก
เมื่อเห็นถังซวงพูดอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนก็หัวเราะทันที “ตกลง ๆ ฉันจะไม่รีบ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินคุยกัน พวกเขาก็ออกจากโรงงานเครื่องจักรมาไกลมากแล้ว และถังซวงเห็นว่าตอนนี้ยังเช้าอยู่ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเสนอว่า “ทำไมเราไม่ไปห้างสรรพสินค้าเพื่อดูจักรเย็บผ้ากันล่ะ? จะได้ซื้อได้มาเลย และดูของอย่างอื่นด้วย ฉันอยากซื้อของขวัญให้คุณปู่กับเสี่ยวเซวี่ยด้วยน่ะ”
“เอาสิ”
โม่เจ๋อหยวนไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ กับถังซวงอยู่แล้วไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ทั้งสองก็ตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าในอำเภอทันที
และเมื่อเห็นว่ามีจักรเย็บผ้าในห้างสรรพสินค้า ถังซวงจึงซื้อมันอย่างไม่ลังเล ต่อมา เธอซื้อเสื้อผ้ากับรองเท้าให้หลี่จงอี้และถังเซวี่ย
เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่ได้ซื้อให้ตัวเองเลย โม่เจ๋อหยวนจึงใช้เงินของเขาเพื่อซื้อชุดลายดอกไม้น่ารัก ๆ กับรองเท้าหนังคู่เล็กให้ถังซวง
“พี่โม่ ฉันไม่จำเป็นต้องใส่มันจริง ๆ พี่ไม่ต้องซื้อให้หรอก”
“ซวงเอ๋อร์ เธอไปลองใส่เร็ว ฉันคิดว่ามันต้องเหมาะกับเธอแน่ ถือซะว่ามันเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ฉันซื้อให้เธอ ตกลงไหม?”
พนักงานขายเห็นชายและหญิงหน้าตาดีอย่างโม่เจ๋อหยวนกับถังซวงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “สาวน้อย เธอลองดูสิ ช่วงนี้สีนี้เป็นที่นิยมมากเลยนะ สาว ๆ ชอบมันมาก ไปลองดูก่อนเถอะ ฉันบอกได้เลยว่าร้านอื่นไม่มีให้ลองแล้วนะ มีแค่ร้านเราเท่านั้น”
พนักงานขายยัดกระโปรงใส่ในมือของถังซวงอย่างรวดเร็ว เธอจึงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องลองใส่มันดู
หลังจากที่ถังซวงออกมาจากห้องลองชุด โม่เจ๋อหยวนก็หยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็งพร้อมกับมองไปที่ถังซวงอย่างตกตะลึง “ซวงเอ๋อร์ เธอสวยมาก”
แม้แต่พนักงานขายที่อยู่ข้าง ๆ ยังชม “ว้าว… สาวน้อย เธอสวยมาก ชุดนี้เหมาะกับเธอมาก คนรักของเธอนี่ตาดีจริง ๆ”