การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 99 มากับฉัน(รีไรท์)
บทที่ 99 มากับฉัน(รีไรท์)
บทที่ 99 มากับฉัน(รีไรท์)
เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่วไห่เหล่ย ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะถาม “เบื้องบนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเลยหรือคะ? มีวัตถุประสงค์สำหรับการแข่งขันคณิตศาสตร์นี้หรือเปล่าคะ?”
โม่เจ๋อหยวนมองไปที่ฮั่วไห่เหล่ยอย่างสงสัย
เมื่อได้ยินเธอถามอย่างนั้น ฮั่วไห่เหล่ยก็ดึงทั้งสองคนไปที่มุมแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าหลังจากชนะการแข่งขันระดับมณฑล บางกระทรวงจะมาคอยดึงตัวผู้ชนะเข้าไปทำงานด้วย แต่ฉันไม่ค่อยรู้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ ฉันเพิ่งสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้จากอาจารย์โรงเรียนมัธยมประจำเมืองมาน่ะ”
ถังซวงเลิกคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“สำหรับคนอย่างฉันที่เรียนแค่ชั้นมัธยมต้น ไม่มีทางที่จะเข้าไปทำงานในกระทรวงไหนได้โดยตรงหรอกค่ะ”
“นี่… ฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก”
ถังซวงพูดด้วยรอยยิ้ม “เราจะรู้ได้ก็เมื่อเราชนะการแข่งขันจังหวัดสินะคะ”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มั่นใจของถังซวง ฮั่วไห่เหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ใช่แล้ว เราจะรู้เมื่อถึงเวลา อาจารย์เชื่อใจเธอนะ ไปกันเถอะ กลับกัน แล้วบอกข่าวดีให้อาจารย์ใหญ่ทราบ”
แต่ก่อนที่ถังซวงกับคนอื่น ๆ จะกลับ อาจารย์จากโรงเรียนมัธยมประจำเมืองก็หยุดพวกเขาทันที “คุณฮั่ว โปรดรอก่อนครับ”
เมื่อเห็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมประจำเมืองใกล้เข้ามา ฮั่วไห่เหล่ยรีบยิ้มและพูดว่า “อาจารย์ใหญ่ฉิน สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ อาจารย์ฮั่ว”
ฉินหย่งเหลียงเพียงชำเลืองมองที่ฮั่วไห่เหล่ย จากนั้นก็มองไปที่ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนที่อยู่ข้าง ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและอิจฉา เขาไม่เคยคาดคิดว่าในการแข่งขันคณิตศาสตร์นี้ ทั้งกลุ่มมัธยมต้นและมัธยมปลาย โรงเรียนของเขาจะแพ้โดยที่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ชนะที่หนึ่ง และอดไปแข่งขันรอบต่อไปที่มณฑล
“คุณฮั่วครับ การแข่งขันคณิตศาสตร์ในมณฑลจะมาถึงในวันมะรืนนี้ ดังนั้นคุณควรไปที่นั่นเลยนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮั่วไห่เหล่ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ… มะรืนนี้ เร็วขนาดนั้นเลยหรือครับ?” เขาไม่รู้ข่าวจริง ๆ ถ้าฉินหย่งเหลียงไม่บอกเขา เขาคงพาถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนกลับเข้าตำบลไปแล้ว
ฉินหย่งเหลียงพยักหน้า “ใช่ครับ มันค่อนข้างเร็วไปหน่อย แต่ถึงยังไง นี่ก็เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์ครั้งแรกของโรงเรียนต่าง ๆ ดังนั้นทุกคนจึงให้ความสำคัญกับมันมากน่ะครับ”
“อาจารย์ใหญ่ฉิน ขอบคุณมากครับ”
“ยินดีครับ ผมจะให้คนไปซื้อตั๋วให้คุณนะ”
ฮั่วไห่เหล่ยรีบโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ เราไปซื้อเองดีกว่าครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมซื้อมาแล้วน่ะ ดังนั้นคุณไปที่นั่นได้เลย”
ถ้าถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไม่ชนะที่หนึ่ง เขาคงไม่พูดถึงเวลาของการแข่งขันระดับจังหวัดกับฮั่วไห่เหล่ย แต่น่าเสียดาย… ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาเตรียมไว้ล่วงหน้ากลายเป็นม่ายไปแล้ว
ฮั่วไห่เล่ย “…”
แสดงว่าอาจารย์ใหญ่ฉินคิดว่าโรงเรียนของเขาจะต้องชนะที่หนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงซื้อตั๋วรถโดยสารไว้รอ แต่ตอนนี้กลับเป็นถังซวงและโม่เจ๋อหยวนจากโรงเรียนมัธยมประจำตำบลโฮวซานได้ที่หนึ่ง เขาไม่รู้เลยว่าอารมณ์ของอาจารย์ใหญ่ฉินจริง ๆ แล้วเป็นยังไงกันแน่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จู่ ๆ ฮั่วไห่เหล่ยก็รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมา แต่ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับทำหน้าบูดบึ้งใส่อาจารย์ใหญ่ฉิน “อาจารย์ใหญ่ฉิน ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมอยากโทรหาอาจารย์ใหญ่ก่อน ไม่ทราบว่าทางโรงเรียนคุณสะดวกไหมครับ?”
“สะดวกแน่นอนครับ”
ฉินหย่งเหลียงพาถังซวง และคนอื่น ๆ ไปที่สำนักงาน ฮั่วไห่เหล่ยกดหมายเลขโทรศัพท์ของโรงเรียน หลังจากที่เขาบอกข่าวดี อาจารย์ใหญ่ก็ดีใจมากจนทำตัวไม่ถูก ในที่สุดเขาก็โบกมือและพูดกับฮั่วไห่เหล่ยว่า “อาจารย์ฮั่ว! คราวนี้คุณไปที่มณฑลได้เลย คุณต้องพาถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไปฉลองด้วยนะ พาพวกเขาไปกินอะไรอร่อย ๆ และหาที่พักดี ๆ ให้อยู่เลย แล้วต้องดูแลสองคนนั้นดี ๆ ด้วย”
“อาจารย์ใหญ่ ไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการให้เองครับ”
“ตกลง ๆ ผมจะรอคุณกลับมานะ”
จากนั้นฮั่วไห่เหล่ยก็พูดถึงสิ่งที่ถังซวงขออีกครั้ง “อาจารย์ใหญ่ครับ ให้คนไปแจ้งคุณหลี่ ปู่ของถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนด้วยนะครับ บอกเขาว่าเราจะไม่กลับไปได้จนกว่าจะแข่งเสร็จในอีกสองสามวัน” เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ทวนที่อยู่ของถังซวงอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะแจ้งให้อย่างแน่นอน”
หลังจากฮั่วไห่เหล่ยวางสายโทรศัพท์ เขาก็ขอบคุณฉินหย่งเหลียงอีกครั้ง และในที่สุดก็ออกจากโรงเรียนมัธยมประจำเมืองกับถังซวงและโม่เจ๋อหยวน
“รถรับส่งไปยังเมืองหลวงของมณฑลคือเวลาเจ็ดโมงเช้าพรุ่งนี้ ดังนั้นเราจะค้างที่บ้านพักต่ออีกหนึ่งคืน และออกเดินทางแต่เช้าตรู่ในวันพรุ่งนี้นะ”
ทั้งคู่ไม่คัดค้าน และกลับไปที่บ้านพักเพื่อพักผ่อน
เช้าวันต่อมา ทั้งสามคนเดินทางสู่มณฑล
เมื่อเขามาถึงโรงเรียนมัธยมประจำมณฑล ถังซวงพบว่ามีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์นี้ และพวกเขาล้วนเป็นนักเรียนที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งในแต่ละเมือง
“ซวงเอ๋อร์ ตั้งใจทำข้อสอบและอย่าให้มีอะไรมากวนสมาธิมากเกินไปนะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนพูด ถังซวงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่ากังวลไปพี่โม่ ฉันไม่ประหม่าเลย”
โม่เจ๋อหยวนหัวเราะเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้
“ดีแล้ว”
เมื่อเห็นว่าถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไม่ประหม่า ฮั่วไห่เหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “ดีแล้วที่พวกเธอคิดแบบนี้ ค่อย ๆ ทำข้อสอบนะ ไม่ต้องรีบร้อน” เขารู้ว่าถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนต่างก็ทำข้อสอบได้เร็วมาก ดังนั้นเขาจึงพูดแบบนั้น และหลังจากที่เขาพูดคุยเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ
“อาจารย์ฮั่ว คุณบอกพวกเราไม่ให้กังวล แต่คุณกำลังกังวลอยู่นะ”
เมื่อได้ยินมุกตลกของถังซวง ฮั่วไห่เหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฉันก็ไม่ได้อยากประหม่าหรือกังวลหรอก แต่นี่เป็นการแข่งขันระดับมณฑล โฮวซานของเราไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันแบบนี้มาก่อน ฉันต้องประหม่าเป็นธรรมดาสิ”
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาสอบ ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนจึงเดินไปที่ห้องสอบของตน
หลังจากที่ถังซวงได้รับกระดาษข้อสอบแล้ว เธอพบว่าความยากไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย คำถามส่วนใหญ่อยู่นอกเหนือความรู้ทางคณิตศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมต้น แต่มันก็ไม่ยากสำหรับเธอ คนที่คิดข้อสอบนั้นเก่งและฉลาดมากจริง ๆ เมื่อถังซวงคิดคำตอบได้ในใจ เธอก็เริ่มเขียนทันที และทำข้อสอบเสร็จอย่างราบรื่น
เมื่อเห็นว่ายังมีเวลาอีกมาก ถังซวงก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
ผู้คุมสอบสังเกตถังซวงนานแล้ว ระหว่างที่ผู้เข้าสอบคนอื่นนั่งเกาหัวเพื่อหาคำตอบ เธอกลับตอบคำถามทั้งหมดด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ เมื่อคนอื่นจบหน้าแรกด้วยความยากลำบาก เธอได้ทำข้อในหน้าสุดท้ายเสร็จแล้ว และทำเสร็จก่อนหมดเวลาสอบกว่าครึ่งชั่วโมง ซึ่งเหตุผลนั้นก็มีอยู่สองอย่างเท่านั้น ไม่ทำข้อสอบลวก ๆ ก็ทำเสร็จแล้วจริง ๆ
แต่ผู้คุมสอบก็ต้องดูแลนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วย เมื่อเขาเห็นถังซวงนั่งเงียบ ๆ ก็ไม่ได้สนใจเธออีก
เมื่อการสอบสิ้นสุดลง นักเรียนทุกคนก็ส่งข้อสอบของตน
ครั้งนี้ยังเหมือนเดิม จะทราบผลในช่วงบ่าย
เมื่อฮั่วไห่เหล่ยเห็นถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนออกมาจากห้องสอบแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เป็นยังไงบ้าง… การสอบเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่มีอะไรมาก ครั้งนี้ไม่ยากค่ะ/ครับ”
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนพูดพร้อมกัน จากนั้นมองหน้ากันและยิ้ม
เมื่อฮั่วไห่เหล่ยได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “จริง ๆ หรือ? ครั้งนี้ก็ไม่ยากเลยหรือ?”
“ใช่ค่ะ มันไม่ยากเลยจริง ๆ”
“ดีแล้ว ๆ”
ฮั่วไห่เหล่ยรู้ว่าทั้งสองคนจะไม่โกหก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจ
เมื่อประกาศผลในช่วงบ่าย ฮั่วไห่เหล่ยนั่งอย่างกระวนกระวายพึมพำว่า “ชนะรางวัล ชนะรางวัล อันดับสองและสามก็ดี แต่อันดับหนึ่งดีที่สุด”
ถังซวง “…”
โม่เจ๋อหยวน “…”
“อาจารย์ครับ จริง ๆ แล้ว… ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ ซวงเอ๋อร์กับผมน่าจะยังมีโอกาสได้รับรางวัลอยู่”
ทันทีที่โม่เจ๋อหยวนพูดจบ ชื่อของที่หนึ่งในกลุ่มมัธยมต้นก็ถูกอ่านบนเวทีแล้ว
“ขอแสดงความยินดีกับถังซวง นักเรียนโรงเรียนมัธยมประจำตำบลโฮวซาน”
“อา… ที่หนึ่ง ยังคงเป็นที่หนึ่ง!”
ฮั่วไห่เหล่ยยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น รีบดึงถังซวงขึ้นมาแล้วพูดว่า “เร็วเข้า… ไปที่เวที รับรางวัลเร็ว”
ถังซวงมองฮั่วไห่เหล่ยอย่างเอือมระอาแล้วไปที่เวทีเพื่อรับรางวัล
เมื่อพูดถึงกลุ่มโรงเรียนมัธยมปลาย โม่เจ๋อหยวนก็ได้รับรางวัลที่หนึ่งเช่นกัน
ตอนนี้ฮั่วไห่เหล่ยมีความสุขมาก มีนักเรียนในโรงเรียนของเขาที่ได้รับรางวัลใหญ่ในการแข่งขันระดับมณฑล และโรงเรียนของเขากำลังจะมีชื่อเสียง
ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนค่อนข้างเฉยเมย พวกเขาวางแผนที่จะก้าวลงจากเวทีหลังจากได้รับรางวัล แต่ไม่คาดคิดเลย พวกเขาสองคนถูกหยุดไว้ทันที
“เดี๋ยวก่อน… เธอสองคนมากับฉันก่อน”