การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ - ตอนที่ 102 จุดสิ้นสุดการต่อสู้
ตอนที่ 102 จุดสิ้นสุดการต่อสู้
「ฮ่าๆๆๆๆ! แกคิดจะหนีไปไหนกัน ไอ้เจ้าสิ่งมีชีวิตในตำนานนี่!!」
เสียงที่ดังลั่นราวกับฟ้าร้องออกมาจากภายในป่าทีทิสและกระทบเข้ากับหูของโกซุและคนที่เหลือ
โกซุไม่รอช้าและรีบหันไปยังต้นเสียงทันที จากนั้นเขาก็เห็นร่างของ มิตสึรุกิ โซระที่กำลังถือดาบสีดำพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสนุกสนาน
ไม่รู้ว่าเขาเสริมแกร่งให้กับขาของตัวเองด้วยคิหรืออย่างไร แต่ตอนนี้เขาได้ทำการพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จนไปลอยอยู่เหนือหัวของไฮดราและเริ่มใช้ดาบแทงเข้าไปที่ร่างของมันจากระยะไกล
「มายาดาบเดียว – เหล็กทะลวง!」
เป็นหนึ่งในท่าพื้นฐานของผู้ใช้วิชามายาดาบเดียว ซึ่งโกซุและคนที่เหลือก็รู้จักมันเป็นอย่างดีในฐานะท่าโจมตีพื้นฐานรูปแบบหอกทะลวง
「ฮ่าๆๆๆๆ! แกคิดจะหนีไปไหนกัน ไอ้เจ้าสิ่งมีชีวิตในตำนานนี่!!」
เสียงที่ดังลั่นราวกับฟ้าร้องออกมาจากภายในป่าทีทิสและกระทบเข้ากับหูของโกซุและคนที่เหลือ
โกซุไม่รอช้าและรีบหันไปยังต้นเสียงทันที จากนั้นเขาก็เห็นร่างของ มิตสึรุกิ โซระที่กำลังถือดาบสีดำพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสนุกสนาน
ไม่รู้ว่าเขาเสริมแกร่งให้กับขาของตัวเองด้วยคิหรืออย่างไร แต่ตอนนี้เขาได้ทำการวิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จนไปอยู่เหนือหัวของไฮดราและเริ่มใช้ดาบแทงเข้าไปที่ร่างของมัน
「มายาดาบเดียว – เหล็ก (ทะลวง) !」
เป็นหนึ่งในท่าพื้นฐานของผู้ใช้วิชามายาดาบเดียว ซึ่งโกซุและคนที่เหลือก็รู้จักมันเป็นอย่างดีในฐานะท่าโจมตีพื้นฐานรูปแบบหอกทะลวง
เป็นท่าที่ผู้ใช้จะปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อทะลวงร่างศัตรูเข้าไปราวกับหอก ซึ่งพลังมันก็ไม่ได้สูงมากมายอะไรขนาดนั้น หรืออย่างน้อยมันก็ไม่ใช่พลังที่เหมาะจะเอามารับมือกับศัตรูอย่างมังกร
คลิมสงสัยถึงขนาดพูดออกมาว่า “หมอนั่นมันทำอะไรน่ะ?” ก่อนจะเดาะลิ้น แต่โกซุก็เข้าใจที่คลิมคิดได้อยู่เหมือนกัน
โซระไม่ใช้ศิษย์ของสำนักมายาดาบเดียวอย่างเป็นทางการ สิ่งที่เขาใช้ได้ก็จะมีแค่ท่าพื้นฐาน ที่มีโอกาสได้เรียนตอนยังอยู่ที่เกาะ ถึงในตอนนี้เขาจะสามารถใช้อาภรณ์วิญญาณได้และมีพลังคิที่แกร่งกล้า แต่ทักษะในวิชาของเขายังถือว่าน้อยนิด
หากคู่ต่อสู้เป็นมนุษย์ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรถึงเขาจะไม่ได้อัดพลังคิเข้าไปมาก แถมจุดอ่อนก็มีทั้งตัดหัว แทงหัวใจ อันที่จริงโกซุกับคลิมก็เคยแพ้เขาเพราะประมาทในทักษะพื้นฐานพวกนี้มาแล้ว
ทว่าการที่จะรับมือกับตัวตนอย่างไฮดรามันคนละเรื่องกัน แม้จะตัวหัว ทะลวงหัวใจไปมันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายที่มีนัยสำคัญเลย ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ทรงพลัง จากคิที่พวกเขามีเพื่อจัดการมัน
ดังนั้นหากไม่มีเทคนิคที่ทรงพลังอย่างที่ว่า ทางออกเดียวที่ทำได้ก็คือค่อยๆ บั่นทอนกำลังของศัตรูไปเรื่อยๆ
โซระก็น่าจะเข้าใจในจุดนี้ และเลือกเทคนิคอย่างเหล็กและวายุในการตัดแรงไฮดราไปเรื่อยๆ นี่คงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถยื้อมาได้นานถึง 3 วัน แล้วไฮดราที่เหลือเพียงแค่ 3 หัวก็น่าจะช่วยอธิบายข้อสงสัยเขาได้ด้วย
สายลมโบกพัด
มันเป็นลมกระโชกแรงที่ทำให้ผมของพวกเขาสั่นไหวไปมา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มาจากลมตามธรรมชาติ แต่เป็นความกดอากาศอันรุนแรงที่ถูกบีบอัดเอาไว้พัดเข้าไปยังจุดที่โกซุอยู่ พวกเขาก็ต้องถอยหนีกันอีกครั้ง
วินาทีนั้นเอง ก็ได้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบนร่างของไฮดรา พลังคิของโซระสามารถทะลวงร่างอันใหญ่ยักษ์ของมันจนทะลุมาถึงด้านล่าง เกล็ด ผิวหนัง ก้อนเนื้อ ทั้งร่างของไฮดราถูกพลังของโซระทะลวงจนไม่เหลือชิ้นดี
「กว้าาาา!!」
หัวทั้ง 3 ของมันคำรามออกมาพร้อมกัน ความรุนแรงและความเสียหายที่มันได้รับช่างแตกต่างกับที่โกซุและคนที่เหลือสามารถทำได้ เสียงกรีดร้องของมันเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่โซระได้ยินเสียงดังกล่าว เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
「ฮ่าๆๆ! เป็นอะไรไปล่ะ ไม่คิดจะสวนกันหน่อยหรือไง? 」
การทะลวงเริ่มขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง
จากท้องฟ้าสู่ผืนดิน การโจมตีของโซระได้ทะลวงร่างของไฮดราอย่างไม่หยุดยั้ง โดยที่เขาไม่ได้สนใจพวกโกซุเลยสักนิด สิ่งที่เขาทำตอนนี้มีเพียงโจมตีสิ่งมีชีวิตในตำนานอย่างไม่ลดละ
ถึงจะเป็นแบบนั้น ไฮดราก็ไม่ได้พยายามจะตอบโต้โซระเหมือนกับที่ไม่ตอบโต้โกซุ มันยังคงพยายามขยับร่างของมันมุ่งไปทางใต้เรื่อยๆ
ตอนนี้โกซุเริ่มเข้าใจแล้วว่า ไฮดราไม่ได้หมายจะมุ่งหน้าไปยังเมืองอิชกะ แต่มันกำลังพยายามหนีจากผู้ไล่ตามเอาชีวิตมันอยู่ คลิมกับไคลอาก็เห็นเป็นแบบเดียวกัน
สิ่งมีชีวิตในตำนานกำลังพยายามจะหลบหนีจากโซระ
「เห้ย ไอ้เจ้าโซระนี่!」
คลิมเดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจและถอยออกจากไฮดรา เขาจ้องมองไปยังโซระที่โจมตีกระหน่ำใส่ไฮดราโดยที่ไม่สนใจคนรอบข้างว่าจะได้รับผลกระทบไหมเลยสักนิด ไม่รู้ว่าโซระไม่เห็นพวกเขาจริงๆ หรือไม่สนใจกันแน่
ส่วนทางไคลอา เธอดูเหมือนจะไม่ได้สนใจการกระทำของโซระ แต่สิ่งที่เธอสนใจคือคิที่เข้าใช้ต่างหาก
「ทั้งปริมาณและคุณภาพของพลังคิที่เขามีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง…หากเทียบกับครั้งก่อนที่สู้กัน」
แค่มองจากระยะไกลก็เห็นได้ชัดแล้ว ว่าร่างของโซระในตอนนี้มีพลังคิรายล้อมอยู่มากขนาดไหน พลังที่ท่วมท้นจนทำให้เธอนึกถึงน้ำที่ไหลหลากอย่างรุนแรงของแม่น้ำจักรวรรดิแอด แอสเทอร่า อย่างโจวกะ
เขาต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในตำนานมาแล้วถึง 4 วัน ดังนั้นโซระก็ควรจะหมดแรงไปแล้ว ทว่าภาพที่เธอเห็น โซระไม่ได้แสดงความเหนื่อยล้าใดๆ ออกมาเลย หากจะให้พูดสภาพของเขาเหมือนกำลังเริ่มต่อสู้ได้ไม่นานนี้เอง
นอกจากนี้สิ่งที่ผิดปกติไปอีกอย่างก็คงจะเป็น เหล็ก (ทะลวง) ที่เขาใช้โจมตี
จากที่ไคลอาเห็น เทคนิคการใช้คิของโซระนั้นยังไม่ได้รับการขัดเกลามาให้ดี ความละเอียดอ่อนในการใช้งานก็ไม่สูงนัก ทว่าด้วยพลังคิที่เขาอัดเข้าไปในการโจมตี ถึงแม้มันจะเป็นแค่การโจมตีด้วยเทคนิคพื้นฐาน แต่พลังของมันก็รุนแรงเทียบเท่าได้กับปืนใหญ่แทนที่จะเป็นแค่หอกทะลวงธรรมดา
ไคลอาก็ทำได้เหมือนกับที่โซระทำ แต่เธอไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถรีดเอาพลังออกมาใช้ได้เท่าโซระไหม ไม่สิเธอไม่คิดจะเลียนแบบมันด้วยซ้ำ
เทคนิคพื้นฐานอย่าง วายุ และเหล็กนั้นโดยทั่วไปแล้วถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ เงื่อนไขการใช้งานมันจะกินพลังคิอยู่ที่ 1 หน่วย พลังโจมตีก็จะอยู่ที่ 1 และไม่ว่าผู้ใช้จะพยายามเพิ่มปริมาณคิที่ใช้เป็น 10 ผลลัพธ์ที่ได้จากท่าพื้นฐานก็จะคงเป็น 1 เหมือนเดิม ไม่สิหากทำได้ดีสักหน่อยก็น่าจะ 2 ดังนั้นมันก็หมายความว่า ผู้ใช้จะต้องเสียพลังคิถึง 8 หน่วยไปอย่างเปล่าประโยชน์
แทนที่จะทำสิ่งที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพแบบนั้น สู้ให้เธอใช้เทคนิคที่ต้องการพลังคิ 10 หน่วย เพื่อได้พลังโจมตีที่ 10 จะดีกว่า
ทว่า โซระกลับเลือกที่จะใช้หนทางที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนั่น โดยการอัดพลังเพียวๆ เข้าไปแทน ถ้าจะให้พูด เขาทำการอัดพลังคิ 100 หน่วยเข้าไปในการโจมตีพื้นฐานเพื่อให้ได้ พลังโจมตีที่ 10
ช่างเป็นการใช้พลังที่ดูหยาบเสียเหลือเกินและสิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก ทว่าปริมาณคิที่เขามีมันคงมากพอจะทำให้เขาสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ ซึ่งก็หมายความว่า โซระในตอนนี้ได้ก้าวข้ามไคลอา เบิร์ช ที่มีเลเวลถึง 51 ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
ด้วยเหตุผลบางประการ สันหลังของเธอก็สั่นขึ้นมา
「ชิมะ!」
เพื่อปัดเป่าความกังวลใจของเธอ ไคลอาได้หันไปพูดกับโกซุเพื่อขอความเห็น เธออยากรู้ว่าพวกตนควรจะดูสถานการณ์หรือเข้าไปต่อสู้ต่อดี เธออยากจะให้โกซุตัดสินใจ
ทางคลิมเองก็กำลังยืนรอการตัดสินใจของโกซุเช่นเดียวกับพี่สาวของเขา
จากนั้นโกซุก็พูดกับโซระได้ยินถึงการตัดสินใจของเขา เหมือนกับเป็นการบอกทั้งสองไปด้วย
「ท่านโซระ พวกเราทั้งสามคนจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือท่านนับจากนี้ครับ!!」
โกซุเองก็คงมีเรื่องอยากจะถามโซระกองเป็นภูเขา แต่สถานการณ์ตอนนี้เขาให้ความสำคัญกับไฮดรามากกว่าที่จะมานั่งถามถึงข้อสงสัยของตน
ทว่า โซระก็ไม่ได้ตอบกลับคำพูดขอเขา
สิ่งที่เห็นก็มีเพียงเขาเหลือบมองมายังทั้งสามคนครู่หนึ่ง ก่อนที่วินาทีต่อมาเขาจะหันกลับไปโจมตีไฮดราต่อ
แทนที่จะใช้การโจมตีด้วยคิจากระยะไกลเหมือนที่เคยทำ โซระเลือกที่จะใช้ดาบเข้าไปฟันร่างของมันตรงๆ ระยะห่างของเขากับไฮดราแคบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นโซระก็ยกดาบสีดำของตนขึ้นและฟันมันลงไปที่ร่างของไฮดรา
มันเป็นการโจมตีธรรมดาที่ไม่ได้เคลือบพลังคิเอาไว้ด้วยซ้ำ ทว่า…
「 กรู้วววว!!」
หนึ่งในหัวของไฮดราได้กระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ
แต่การโจมตีของโซระไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาได้ทำการฟันต่อเนื่องไปอีกจนครบ 3 ครั้ง และแล้วเสียงกรีดร้องของมันก็ดังก้องขึ้นมาอีก
จนในที่สุดหัวและหางทั้ง 8 ของมันก็ถูกตัดจนสิ้น เลือดของไฮดราได้ละเลงออกมาอย่างบ้าคลั่ง
นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งกินเวลาไม่ถึง 1 นาทีนับตั้งแต่โกซุเข้าร่วมการต่อสู้
——–
โซระ : มีพวกมาแย่งปิดมอน หมดเวลาฟามซะละ
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code