การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ - ตอนที่ 50 อิเรีย 2
ตอนที่ 50 อิเรีย 2
สำหรับอิเรียแล้ว ชายที่ชื่อว่าโซระช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ห่างไกลจากเธอ หรือจะให้พูดก็คือการคงอยู่ช่างเบาบาง
ในฐานะพวกพ้องหรือเพื่อนเธอก็ไม่ได้สนิทกับเขามากเท่าลูนามาเรียและราส แต่ในเวลาเดียวกัน เธอก็ไม่ได้มีความเป็นศัตรูกับเขาเหมือนมิโรสลาฟผู้เกลียดผู้ชายเข้าไส้
อิเรียไม่ได้มีความเกลียดหรือชอบเขาเป็นพิเศษ เธอก็แค่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขา
แน่นอนว่าเพราะอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันก็ย่อมเคยพูดคุยกันบ้าง แต่ถ้าจะให้บอกว่ามีช่วงเวลาที่น่าจดจำร่วมกันไหมเธอก็คงจะตอบว่าไม่
ความสัมพันธ์ที่แสนจืดจางของพวกเธอเปลี่ยนไปบ้างก็ตอนที่โซระสารภาพถึงเรื่องขีดจำกัดความสามารถของเขา
ในตอนนี้จากมุมของเธอแล้ว หน้าปัดที่เธอเห็นในตัวโซระกลับเบนเข็มกลายเป็นด้านไม่ดี มากกว่าจะเป็นตรงกลาง
ตอนที่มิโรสลาฟประณามว่าการกระทำของโซระไม่ต่างอะไรกับ “ปรสิต”
ทางโซระก็เหมือนพยายามอธิบายว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะเป็น “ปรสิต” จริงๆ
ทางอิเรียก็ไม่ได้คิดว่าเขาโกหกหรอก
โซระไม่ได้ตั้งใจจะเป็นปรสิต เขายอมรับเรื่องนั้นก่อนที่จะกลายเป็นปรสิตไปจริงๆ —เธอเดาว่านั่นคือความตั้งใจของโซระที่จะบอก
แต่เรื่องที่ว่าคนคนนั้นจะเป็นปรสิตหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนไปด้วย
มุมของโซระเขาอาจจะมองว่า ตนยังไม่ได้ถึงขั้นทำอะไรแบบนั้น แต่มุมของมิโรสลาฟแล้วเธออาจจะเห็นเขากำลังทำแบบนั้นอยู่
และความรู้สึกของอิเรียก็แค่ใกล้เคียงกับมิโรสลาฟ
สำหรับเธอ เรื่องขีดจำกัดความสามารถนั้นเป็นเพียงเรื่องของคนอื่นไม่ได้เกี่ยวกับเธอ หากโซระนำเรื่องนี้ออกมาพูดตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วทุกคนยอมรับกันได้เธอก็ไม่คิดจะต่อว่าอะไรและพร้อมร่วมมือต่อสู้กันไปในฐานะพวกพ้อง แต่โซระก็ไม่ทำเช่นนั้น
เขาอยู่ในดาบฮายาบูสะมาตั้งครึ่งปี เขามีโอกาสมากมายที่จะบอกพวกเธอถึงเรื่องของเขา แต่เขาก็ไม่ทำ
ความไม่สมดุลของปาร์ตี้จะนำมาซึ่งภัยร้ายและทำให้คนในปาร์ตี้เสียชีวิตได้ อิเรียไม่สามารถเห็นใจเขาได้จริงๆ ถึงลึกๆ เธอจะต้องการ แต่การที่เขานำชีวิตของคนในปาร์ตี้ไปเสี่ยงด้วยก็เป็นเรื่องจริง
หากเธอเลือกจะช่วยโซระ ก็จะเป็นเหมือนกับการ “ให้ท้าย” เขาแทน
หลังจากพ่อของอิเรียจากไปด้วยโรคร้ายก่อนวัยอันควร เธอก็ใช้ชีวิตของเธออย่างมีวินัย เพราะแม่ของเธอนั้นต้องเลี้ยงเธอด้วยตัวคนเดียว
จากมุมของเธอ โซระนั้นเป็นพวกไม่ยอมเผชิญหน้ากับความจริงเรื่องขีดจำกัดของตน เธอจึงมองอะไรในตัวเขาไม่เห็นเลยนอกจากเด็กที่เอาแต่ใจ
ถึงมันจะเป็นเพราะเขากลัวจะต้องสูญเสียพวกพ้องไปหากบอกความจริงก็เถอะ
ถึงแม้ในตอนท้ายเขาก็จะยอมรับมันและสารภาพกับพวกเธอ แต่สิ่งที่เธอสัมผัสได้ก็เป็นเพียง “เพราะฉันยอมสารภาพด้วยตัวเอง ฉันก็เลยอยากจะให้พวกเธอยกโทษให้ ให้อภัยฉันด้วยที่ปิดมาโดยตลอด” เธอรู้สึกขยะแขยงจริงๆ ที่ได้ยิน
หลังจากที่เขาถูกตราหน้าว่าเป็น “ปรสิต” เธอก็ไม่ได้คิดจะเอาชื่อนั้นไปแพร่ที่ไหน แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธมันด้วยเนื่องจากผลของความรู้สึกแย่ๆ ที่เขาทิ้งไว้กับเธอก่อนจากไป
เหตุการณ์เรื่องราชาแมลงวันในวันนั้นก็เหมือนกัน
การกระทำของมิโรสลาฟในเหตุการณ์นั้นเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้อย่างแน่นอนนอกจากนั้นบาปที่เธอมีส่วนร่วมก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นขณะที่แบกราสซึ่งหมดสติไว้บนหลัง เธอเข้าใจดีว่าคนที่โดนจะรู้สึกอย่างไร เธอไม่มีข้อแก้ตัว
ถึงเธอจะเข้าใจก็จริง…แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกชอบใจเลยที่โซระเอาแต่ตำหนิเรื่องนั้น
เพราะอย่าลืมความจริงไปสิว่าเขาเองก็เป็นคนที่เคยหลอกลวงดาบฮายาบูสะก่อนเหมือนกัน
มนุษย์ที่ซ่อนความลับของตนเอาไว้จากพวกพ้อง ซึ่งอาจจะนำพาไปสู่อันตรายได้ แต่ก็นั่นแหละ เขาคือผู้เคราะห์ร้ายในเรื่องคราวนี้เขาก็คงมีสิทธิ์จะพูดอะไรก็ได้
แต่เธอจะยอมก้มหัวให้คนแบบนี้ได้เช่นไรกัน?
นั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ
◆◆◆
มีเสียงเชียร์ของพวกชาวบ้านดังมาจากที่ไกลๆ
หมู่บ้านเมลเทตอนนี้เหมือนกำลังเฮฮากันราวกับมีงานเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำปี
โดยปกติแล้วพวกชาวบ้านมักจะเข้านอนกันหลังพระอาทิตย์ตกดินทันทีไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับร้องรำทำเพลงเต้นกันอย่างสนุกสนานอยู่บริเวณลานกว้างที่สว่างไสวด้วยไฟจากตะเกียง กระทั่งพวกเด็กๆ ก็ยังได้รับอนุญาตได้ออกมาร่วมงาน ภาพที่พวกเขาวิ่งอยู่รอบๆ ด้วยความตื่นเต้นก็เห็นได้ไม่ยากนัก
ไม่เพียงแต่ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้เท่านั้น พวกคนจากหมู่บ้านใกล้ๆ ก็เดินทางเข้ามาร่วมงานด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพวกที่มาต่างก็เป็นผู้นำหมู่บ้าน อย่างผู้ใหญ่บ้านไม่ก็ที่ปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน
ถึงเธอจะบอกว่ามันเหมือนกับเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำปี แต่เธอคงต้องถอนคำพูดเพราะไอ้ตอนนี้มันเฮฮากันยิ่งกว่าเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำปีไปหลายขุมแล้ว
「นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ถามจริง…? 」
อิเรียนอนอยู่บนเตียงคนเดียวภายในห้องส่วนตัวของวิหาร
เธอกางแขนและขาออกมาตัวอักษร “大”
เธอได้ยินมาว่าหมู่บ้านของเธอกำลังถูกโรคระบาดเข้าโจมตี แต่พอเธอมาถึงหลังจากการเดินทางทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดพักก็กลายเป็นว่าปัญหานั้นถูกแก้ไขไปแล้ว ยารักษาที่มิโรสลาฟพยายามฝ่าฟันหามาให้เธอก็ไร้ความหมาย เพราะมันเทียบไม่ได้เลยกับผลในการรักษาของผลไม้นั้น “ก็แปลว่าไม่มีอะไรที่เราทำได้นอกจากนอนพักแล้วสินะ?” นั่นคือคำถามในใจของเธอ
ไม่เพียงแค่นั้น ในวันที่เธอกลับมาถึงหมู่บ้าน หมู่บ้านของพวกออร์คก็ได้ถูกกวาดล้างไปด้วยอัศวินมังกรเพียงคนเดียวเรียบร้อยแล้ว
ไอ้งานฉลองนี่ก็เกิดขึ้นมาได้เพราะเรื่องนี้แหละ
「ถึงเราจะมีความสุขเพราะโรคระบาดกับพวกออร์คถูกกำจัดไปแล้วก็เถอะ…แต่ว่า」
เธอกลับรู้สึกผิดหวังที่เธอไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ ในเรื่องนี้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เป็นตัวเอกของงานยังเป็นโซระคนที่เธอรู้จัก นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นพิเศษ
「หรือเราจะเป็นแค่ตัวตลกกันนะ…? 」
เธอพึมพำอย่างเงียบๆ
ในขณะที่อิเรียได้ยินเสียงโห่ร้องออกมาจากด้านนอก เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
อะไรกันที่ทำให้โซระสามารถจัดการกับฝูงออร์คที่มีมากกว่า 30 ตัวได้แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นไฮออร์คอีกด้วย
กองกำลังที่สามารถจัดการกับหมู่บ้านในชนบทได้ทุกหนแห่ง หากใครรู้ว่าปัญหานั้นถูกแก้ไข ก็ต้องดีใจกันอยู่แล้ว
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เกิดเสียงโห่ร้องเชียร์เขา
โซระยังได้บริจาคศพของพวกออร์คทั้งหมดให้กับหมู่บ้านเมลเท
เพราะเงินค่าหัวจากพวกมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีมนุษย์นั้นสามารถนำไปขึ้นเงินได้
นอกจากนั้นศพ วัตถุดิชิ้นส่วนของพวกมันก็สามารถนำไปทำเป็นของใช้ต่างๆ ได้
เนื่องจากเนื้อของออร์คมีกลิ่นแรงและรสชาติแย่มากจนกินไม่ไหว แต่หากนำไปตากแห้งและขจัดรสฝาดออกไป แล้วผสมเข้ากับธัญพืชก็สามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ กระดูกและหนังของพวกมันก็เอาไปทำเป็นเครื่องมือ ของที่เหลืออย่างลูกอัณฑะและหัวใจก็เอาไปทำเป็นยาชูกำลังได้
หากรวมราคาของวัตถุดิบเข้ากับค่าหัวของพวกมัน ค่าตอบแทนที่ได้ก็เหมือนจะมากกว่ามูลค่าความเสียหายของหมู่บ้านที่ต้องเจอจากโรคระบาดรอบนี้เสียอีก
ส่วนพวกที่มาจากหมู่บ้านข้างๆ ก็มาฉลองในเรื่องที่พวกออร์คถูกปราบไปหมดแล้ว แต่เธอรู้ว่าใจจริงก็คือพวกเขาอยากจะได้ส่วนแบ่งที่เผื่อว่าหมู่บ้านเมลเทอาจจะมอบให้พวกเขาบ้าง
เอาจริงๆ ถ้าหมู่บ้านเมลเทเก็บผลประโยชน์ไว้กับตัวเองเสียหมดก็คงจะถูกหมู่บ้านรอบๆ เกลียดเอาได้แน่ เพราะงั้นผู้ใหญ่บ้านก็น่าจะมอบของตอบแทนให้พวกเขาบ้างแหละ แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียเพราะหมู่บ้านเธอก็จะได้รับสิ่งที่เรียกว่าหนี้บุญคุณ ซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนที่อยู่นอกเหนือตัวเงิน
นั่นก็เลยเป็นเหตุผลว่า ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ยินดีกับงานเลี้ยงฉลองรอบนี้
「ให้ตายสิ ทุกอย่างมันจะลงตัวเกินไปหมดแล้ว แบบนี้ก็คงไม่มีใครฟังที่เราพูดแล้วแน่ๆ」
ไม่ใช่แค่พวกชาวบ้าน แต่แม่ของเธออย่างซาร่าและพวกพี่น้องต่างสายเลือดที่โตมาด้วยกัน ก็ต่างชื่นชอบโซระกันไปเสียหมด
ถึงเธอจะไปบอกคนอื่นว่าโซระจับอดีตพวกพ้องของเธอให้กลายเป็นทาส ก็คงไม่มีใครเชื่อ
ไม่สิกลับกัน เขาอาจจะเอาเรื่องราชาแมลงวันมากล่าวโทษเธอกับราสแทนด้วยซ้ำ
ตอนนี้ถ้าเธอไปหาเรื่องโซระเข้า ด้วยบุญคุณที่เขาปราบออร์คได้ พวกชาวบ้านส่วนใหญ่ก็น่าจะให้ท้ายโซระกันแทน
ตอนแรกอิเรียก็เดินทางมาด้วยความเร่งรีบแต่ทั้งหมดก็เปล่าประโยชน์ เพราะเทียบกับโซระที่เข้ามาช่วยเหลือหมู่บ้านในยามเกิดวิกฤต ก่อนจะค่อยๆ ช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาไปทีละอย่าง ยิ่งพอหันกลับไปมองราสที่ไม่คิดแม้แต่จะเร่งเข้ามาแก้ปัญหามันช่างแตกต่าง
「เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำลายชื่อเสียงพวกเราแท้ๆ นอกจากนี้เขาก็มีชาวบ้านเป็นเกราะกำบังแล้วด้วย ทำไมถึงเลือกที่จะไม่ทำกันล่ะ」
ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาน่าจะตั้งใจที่จะเปิดเผยมันในงานเลี้ยงฉลอง
แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเอาแต่พูดคุยอยู่กับพวกชาวบ้านและคนระดับสูงของหมู่บ้านโดยที่ไม่ได้พ่นเรื่องนี้ออกมาเลยทั้งที่เขาสามารถทำได้โดยง่ายแท้ๆ
เธอเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมโซระถึงไม่พูดถึงเรื่องนั้นกัน และถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ทำไมเขาถึงต้องยอมลงทุนมาที่หมู่บ้านนี้ด้วยกัน
มีผลไม้ที่ช่วยถอนพิษ มีโพชั่นเพิ่มพลังกาย ไหนจะน้ำมนต์อีกถ้าให้เธอคิดโซระน่าจะหมดเงินไปเยอะเลย เธอเลยนึกไม่ออกว่าเขามีเป้าหมายอะไรกันแน่ถึงยอมเสียเงินมากขนาดนี้ไป
แต่ที่แน่ๆ การที่เขามาที่นี่ก็ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ นั่นคือสิ่งที่เธอมั่นใจแค่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร
และเพราะเธอคิดไม่ตกเสียที จนทำให้มันกวนใจเธอไม่หายไปไหน เธอก็เลยเหนื่อยใจจนต้องกลับมานอนในห้องของเธอ
「…จะว่าไปตอนที่เขาบอกจะดวลกับราส เราก็มานั่งปวดหัวเหมือนตอนนี้เลยนี่นา」
ในตอนนั้นเธอก็ไม่เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของเขา ที่ท้าดวลกับคนที่มีเลเวลต่างจากตนถึง 16 เลเวลเลย
ถึงมิโรสลาฟจะบอกว่า “หมอนั่นต้องมั่นใจในอาวุธใหม่ที่ได้มา” แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องนั้นแน่
เธอก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่โซระนั้นมีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จนสามารถจัดการกับราสลงได้ นอกจากนั้นเขายังสามารถเทมไวเวิร์นและทำลายพวกออร์คทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว
เพราะแบบนี้เอง เรื่องที่เธอได้ยินมาว่าเขาสามารถเอาชนะมอนสเตอร์จำนวนมากที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เริ่มน่าเชื่อถือขึ้น
「นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น…กันแน่นะ…เฮ้อ」
ในขณะที่เธอนอนคิดเปลือกตาของเธอก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
บางทีการดื่มแอลกอฮอล์ที่เธอถูกคนในงานเลี้ยงกดดันให้ดื่มอาจจะเริ่มส่งผลแล้วก็ได้
อิเรียหาวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง
หลังจากนั้นไม่นานนักเธอก็หลับลงไป ลมหายใจของเธอก็เริ่มแผ่วเบา
หลังจากนั้นไม่นาน ลมหายใจอันแผ่วเบาก็ออกมาจากปากของเธอขณะหลับบางทีเธออาจกังวลเกี่ยวกับความลึกลับที่ไขไม่ได้แม้แต่ในความฝันของตนก่อนที่คิ้วของเธอก็ย่นลงมาเล็กน้อย
…สำหรับอิเรียแล้ว ชายที่ชื่อว่าโซระช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ห่างไกลจากเธอ หรือจะให้พูดก็คือการคงอยู่ช่างเบาบาง
แต่นั่นมันก็เรื่องในอดีต
โซระในตอนนี้ไม่ใช่ตัวตนที่ห่างไกลหรือเบาบางแล้ว
ตัวตนของเขาตอนนี้ปรากฏออกมากระทั่งในความฝันของเธอ เขากำลังค่อยๆ แทรกซึมไปยังส่วนลึกของหัวใจและความคิดเธอ
———
Note 1 : อ่าวตัดวาปมาหาอิเรียก่อนเฉย
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code