การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ - ตอนที่ 8 ความหมายของ โซระ
ตอนที่ 8 ความหมายของ “โซระ”
ผมเกลียดชื่อโซระ
ทุกครั้งที่มีคนเรียกชื่อผม มันรู้สึกราวกับถูกพูดว่าเป็นคนที่กลวงเปล่า
ไม่สิ คงจะมีคนพูดด้วยความหมายแบบนั้นจริงๆ ก็ได้
มันเป็นตอนที่ผมได้พ่ายแพ้ให้รากุนะน้องชายของผมที่โรงฝึก
ผมคงจะไม่รู้สึกอะไรมากหากรากุนะเป็นคนพูดแบบนั้นกับผม แต่มันกลับเป็นศิษย์ร่วมสำนักรุนเดียวกับผมเป็นคนพูดแบบนั้นแทน
“หมอนั่น…แทนที่จะชื่อว่าโซระ (ท้องฟ้า) น่าจะเป็น คาระ (ความว่างเปล่า) มากกว่านะ” (คันจิเขียนเหมือนกัน)
“ข้าละเสียใจแทนรากุนะจริงๆ ที่ไอ้คนอ่อนแอแบบนั้นได้เป็นผู้นำคนถัดไปของตระกูล ไม่ว่าจะดูยังไงรากุนะก็เหมาะสมกว่าตั้งเยอะ”
ตอนนั้นเราอายุกันเพียง 7 ขวบ
นั่นเป็นช่วงที่ความแตกต่างระหว่างผมกับรากุนะและศิษย์คนอื่นๆ เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อทุกคนรอบตัวผมเห็นเช่นนั้น พ่อของผมก็เริ่มมองผมด้วยสายตาที่เย็นชา
“ทำไมท่านแม่ถึงต้องตั้งชื่อนี้ให้กับผมด้วย?!” ผมรับวิ่งไปหาแม่ของผมและต่อว่าเธอ
ตัวผมในตอนนั้นเพียงแค่อยากจะหาที่ระบายความโกรธ แต่เธอกลับไม่พูดอะไรกลับมา
สิ่งที่เธอทำมีเพียงแค่เข้ามากอดลูกชายที่น่าสมเพชของเธออย่างอ่อนโยน แล้วพาผมเดินไปที่ลานบ้าน
แม่ของผมอยู่ในสภาพที่อ่อนแอจนป่วยอยู่เป็นประจำ
ร่างกายของเธอนั้นอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด และยิ่งหนักขึ้นเมื่อเธอให้กำเนิดผม โดยส่วนใหญ่แล้วเธอก็มักจะใช้ชีวิตอยู่บนเตียงเสมอ
ห้องของเธอ คฤหาสน์ และลานบ้าน นั่นคือโลกทั้งใบของแม่ผม
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเธอชอบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็ได้
เธอชอบท้องฟ้าในวันที่สดใส
เธอชอบท้องฟ้าในวันที่มีเมฆหนา
เธอชอบท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น เธอชอบชอบท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์กำลังตก
เธอชอบท้องฟ้าในวันที่ฝนตก….ถึงจะมีบ่นแบบขำๆ บ้างเพราะสภาพอากาศนั้นจะทำให้เธอไม่สามารถเดินออกไปที่ลานบ้านได้ แต่ผมก็รู้ว่าเธอยังคงชอบเมฆฝนที่อยู่บนท้องฟ้าอยู่ดีจากสีหน้าของเธอ
ไม่ว่าจะที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ท้องฟ้าก็จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เมื่อเธอเงยหน้ามองขึ้นไปมันก็จะแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย
แม้กระทั่งคนรักที่อยู่ห่างไกลก็ยังสามารถมองท้องฟ้าเดียวกันได้ ทุกคนต่างเชื่อมโยงกันด้วยผืนฟ้า เธอพูดถึงสิ่งที่เธอคิด และเพราะแบบนั้นเธอจึงไม่รู้สึกเหงา
ด้วยเหตุนี้ โซระจึงเป็นชื่อแรกที่เธอคิดขึ้นมาได้เมื่อผมเกิดออกมา
เธออยากให้ผมเติบโตขึ้นไปชายที่ยิ่งใหญ่เหมือนท้องฟ้าผืนนี้ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ
“แล้วลูกรู้อะไรหรือเปล่า โซระ?”
แม่ยิ้มอย่างซุกซนให้ลูกชายของเธอที่ยังคงร้องไห้ แม้จะได้ยินเหตุผลของแม่ตนแล้วก็ตาม
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ถ้าจะมีคนบอกลูกว่าภายในของลูกมันว่างเปล่า เพราะหากมันไม่มีอะไรอยู่ ก็แปลว่าลูกสามารถเป็นอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ จากนี้ไปลูกก็เพียงแค่ต้องเติมเต็มสิ่งต่างๆ มากมายเข้าไป สิ่งที่ลูกต้องการ ไม่ว่าจะเดินเส้นทางไหน ในฐานะคนเป็นแม่ แม่ก็อยากจะสนับสนุนลูกตลอดไปนะ”
◆◆◆
「 …ฮ่ะๆ นี่สินะของที่เรียกว่าเห็นภาพในอดีตก่อนจะตาย? 」
ผมฝืนยิ้มขญะนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นราวกับหนอนผีเสื้อในรังขอราชาแมลงวัน
ในสถานการณ์ที่ความหวังได้สูญสิ้นไปแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะนึกถึงบทสนทนาล่าสุดกับแม่ของผมก่อนที่เธอจะจากไป…รู้สึกแย่จริงๆ
หลังจากที่แม่ของผมว่าผมสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็นแบบนั้น แล้วผมจะมีหน้าไปพบแม่ของผมในโลกหน้าได้อย่างไรหากต้องมาโดนหนอนกินเอาแบบนี้ ตัวผมนี่ช่างน่าละอายจริงๆ
ผมที่สามารถขยับได้เพียงส่วนหัว ก็ค่อยๆ มองลงไปยังส่วนล่างของร่างกายผม
แขนขวาของผมที่โดนเวทของมิโรสลาฟยิงจนฉีกออก ก็ถูกพวกหนอนชอนไชจนขาดไปแล้ว
และส่วนที่หลุดออกไปก็โดนฝูงหนอนนั้นกัดกินจนไม่เหลือซาก
นิ้วเท้าของผมตอนนี้ไม่เหลืออยู่แล้วสักนิ้ว มือซ้ายของผมก็เริ่มจะหายไปบ้างแล้ว
พวกหนอนได้พยายามชอนไชเข้าไปในร่างกายของผมผ่านบาดแผลตามร่าง โดยมีเสียงกรุบๆ ดังขึ้นมาขณะที่พวกมันกำลังแทะกระดูกของผมอยู่ด้วย
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ผมคงจะได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจนเป็นบ้าไม่ก็ช็อกตายไปแล้ว
แต่ผมก็ยังคงสติของตัวเองไว้ได้อยู่
ผมไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย ในทางกลับกันทุกครั้งที่ร่างกายของผมถูกกิน ความรู้สึกที่คล้ายกับความสุขก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างผม จนผมสั่นสะท้าน
เป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นความสามารถของหนอนพวกนี้
เช่นเดียวกับพวกยุงที่ฉีดสารระงับความเจ็บปวดขณะดูดเลือดอยู่ หนอนพวกนี้ก็น่าจะมีอะไรคล้ายกับยุง
ผลที่ได้ก็คือผมไม่รู้สึกอะไรเลยแม้ตัวเองกำลังจะตายแท้ๆ ทั้งที่ผมกำลังเห็นตัวเองถูกกินอยู่ แต่ความรู้สึกกลัวก็เหมือนจะถูกกลืนกินเข้าไปด้วยแล้ว
ไม่นานนัก หนอนตัวขนาดเท่าเมล็ดถั่วก็เริ่มมารวมตัวกันที่ใบหน้าของผม
「อะ-ออกไป! อย่าเข้ามานะ!!」
ผมพยายามสะบัดหน้าของตัวเองไปมาเท่าที่ตนจะทำได้
แม้พวกหนอนจะเริ่มถอยไปเล็กน้อย…แต่ไม่นานนักมันก็ค่อยๆ คลานกลับเข้ามาหาผมอีกครั้ง
พวกมันรอให้ผมอ่อนแอลงกว่าเดิมเหรอ หรือแค่อยากจะเล่นกับเหยื่อของมันอีกสักหน่อยก่อน?
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ามันมองว่า เหยื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ย่อมอร่อยกว่าเหยื่อที่ตายแล้ว
ไม่เช่นนั้นมันก็คงจะกินผมจนไม่เหลือซากไปนานแล้ว
ปริมาณของหนอนที่อยู่ในถ้ำนี้มันมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้แน่ๆ
หนอนที่กำลังชอนไชร่างของผมอยู่ในตอนนี้ น่าจะไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของหนอนทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องนี้แน่ๆ
หากตัวอ่อนทั้งหมดนี้ฟักตัวไปเป็นราชาแมลงวัน ไม่ใช่แค่เมืองอิชกะ กระทั่งอาณาจักรคานาเรียเองก็น่าจะพินาศเช่นกัน
จากนั้นฝูงหนอนก็จะเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นแล้วก็เริ่มไปโจมตีประเทศรอบข้าง อย่างจักรวรรดิแอดแอสเทอร่า หากถึงตอนนั้นพวกมันก็น่าจะถูกกวาดล้างโดยโล่พิทักษ์แห่งจักรวรรดิ เคล็ดวิชาดาบเดียวมายาของตระกูลมิตซึรุกิอย่างไม่ต้องสงสัย
และชายที่ชื่อโซระ มิตซึรุกิผู้เป็นเหยื่อชุบเลี้ยงเหล่าราชาแมลงวันก็คงจะตายจากโลกนี้ไปโดยไม่มีใครรู้ เสียงสรรเสริญจากผู้คนทั่วทั้งโลกก็จะมุ่งไปที่พ่อของเขาและผู้ใช้ดาบเดียวมายาคนอื่นๆ แทน
พอคิดได้แบบนั้น ผมก็รู้สึกกลัว โกรธ ไม่พอใจ และสิ้นหวัง อารมณ์ที่น่าเกลียดเหล่านั้นพรั่งพรูออกมาราวกับน้ำพุ
บาดแผลบนร่างกายของผมเรียกได้ว่าสาหัส แค่เพราะผมไม่รู้สึกเจ็บปวดก็ใช่ว่าผมจะปลอดภัย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปริมาณเลือดที่ผมเสียไปจนถึงตอนนี้น่าจะพอทำให้ผมตายได้แล้วแน่ๆ
แม้ว่าจะมีความช่วยเหลือมาถึงอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ความเป็นไปได้ที่ผมจะรอดชีวิตก็ยังเป็นศูนย์
หากผมจะรอดได้จริงๆ ก็น่าจะต้องมีปาร์ตี้ที่มีนักบวชซึ่งสามารถใช้เวทอย่าง “รักษาสมบูรณ์” ไม่ก็นักผจญภัยที่มีอีลิคเซอร์
ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ก็คงจะมีแค่ชีวิตของผมเท่านั้นที่ยังรอดต่อไปได้ ร่างกายของผมที่ถูกกลืนกินไปแล้วคงจะไม่กลับมา ผมได้ยินมาว่าหากเป็นพระสันตะปาปาของนครศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ทางใต้สามารถใช้เวทแห่งปาฏิหาริย์อย่าง “ฟื้นฟูร่าง” แต่ปาฏิหาริย์แบบนั้นก็ไม่ใช่สิ่งคนผจญภัยปกติจะได้รับมัน ไม่สิถึงไม่ใช่นักผจญภัยก็ไม่น่าจะได้รับกันง่ายๆ
ผมคงไม่มีวันได้จับดาบอีกแล้ว จะเดินก็คงทำไม่ได้
ด้วยร่างกายที่ไม่เหลืออะไรแล้วเช่นนี้ ท้ายที่สุดผมก็คงต้องตายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยอยู่ดี
「อ๊ากกกกกก」
ผมทนกับความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามาไม่ได้จนต้องกรีดร้องออกมาเหมือนคนบ้า
「ไปให้พ้น!! ออกไปจากตัวฉัน! อย่ากินร่างฉันไปมากกว่านี้เลย! ไม่นะ…ฉันยังไม่อยากตายที่นี่!! ฉันยังไม่อยากตาย!」
ผมพยายามสะบัดหัวไปมาอย่างบ้าคลั่งในขณะที่กรีดร้องออกมาด้วยเพื่อพยายามสลัดหนอนพวกนี้ให้หลุดออกไป แต่มันก็ยังกินร่างของผมไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
แต่เพราะพิษอัมพาตของราชาแมลงวันมันรุนแรงมาก ผมจึงไม่สามารถขยับส่วนอื่นนอกจากหัวได้สักที
นี่มันก็ผ่านมาสามนาทีได้แล้วหรือเปล่านะตั้งแต่ที่เราตะโกนออกมา?
ใบหน้าของผมกระแทกเข้ากับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า
ผมคร่ำครวญออกมา ขณะสัมผัสได้ถึงความเย็นของพื้นผ่านใบหน้า
「บ้าเอ๊ย…ทำไมกัน? เราไปทำอะไรให้ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย…? 」
เมื่อผมถูกไล่ออกจากกิลด์ พวกนักผจญภัยต่างก็ตัดสัมพันธ์กับผมอย่างรวดเร็ว หากผมฟังคำแนะนำของราสแต่แรก ก็คงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้
แต่หากทำเช่นนั้นก็หมายความว่าผมต้องละทิ้งความพยายามที่มีมาตลอดห้าปีนี้ในฐานะนักผจญภัย
ไม่สิ หรือการตัดสินใจเป็นนักผจญภัยของเราเมื่อห้าปีก่อนมันจะเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรกแล้วนะ?
หากผมเลือกเส้นทางอื่นนอกจากการเป็นนักผจญภัยหลักถูกเนรเทศออกจากเกาะ เลิกจับดาบเหมือนที่อายากะบอก ห้าปีก่อนหน้านี้ผมอาจจะไม่ต้องสูญเสียอะไรไปอีกเลยก็ได้
แต่…ผมก็ได้สาบานกับตัวเองไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
เมื่อผมกลับไปที่บ้านหลังจากฝึกที่โรงฝึกเสร็จ ผมก็พบว่าแม่ของผมได้เสียชีวิตลงไปแล้ว
ผมสาบานกับตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น
ผมจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ราวกับท้องฟ้านี้ให้ได้ นั่นคือคำมั่นสัญญาที่ผมสร้างขึ้นมา
มันหมายความว่าผมต้องเป็นผู้สืบทอดที่น่าภูมิใจของตระกูลมิตสึรุกิ
มันหมายความว่าผมต้องเป็นผู้ใช้ดาบเดียวมายา ต่อสู้กับมอนสเตอร์ ปกป้องผู้คน กลายเป็นที่รักของประชาชน
…ผมสาบานจะเป็นลูกชายที่แม่จะต้องภูมิใจ เป็นชายที่เหมือนกับพ่อของผม
ที่ผมเลือกเป็นนักผจญภัยหลังจากถูกเนรเทศออกจากเกาะ ก็เพราะผมยังคงเดินตามคำมั่นสัญญานั้น
เพราะผม เป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ผมจึงสามารถเป็นอะไรก็ได้
ดังนั้นผมจึงเลือกเป็นนักผจญภัย และพยายามอย่างหนักมาตลอดห้าปี
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะได้กลายเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่เหมือนพ่อของผม จากนั้นผมก็จะสามารถกลับไปเยี่ยมหลุมศพแม่ของผมได้อย่างภาคภูมิก่อนจะเล่าเรื่องราวของผมให้เธอได้ฟัง
แล้วมันจะจบแบบนี้เหรอ? ถูกหนอนพวกนี้กินเข้าไป?
ใครมันจะไปยอม อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้ย ฉันยังไม่-
「นี่มันไม่ใช่เหตุผลที่ฉันมีชีวิตมาจนถึงวันนี้เพื่อให้หนอนกินนะเว้ย!!」
พอผมรู้สึกเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมก็ได้ระเบิดคำพูดออกมาอีกครั้ง
แล้วการเคลื่อนไหวของหนอนที่อยู่รอบๆ ผมก็เปลี่ยนไป
เสียงขยุกขยิกอันน่าขนลุกของมันค่อยๆ ดังขึ้น ก่อนที่พวกมันจะกรูกันเข้ามาที่หน้าของผม
「อึก!! ไม่..หยุด-อย่าเข้ามา!!!」
ผมยังคงขยับใบหน้าของตัวเองต่อไปอย่างสิ้นหวังเพื่อไล่พวกหนอนออกไป
และเพราะผมทำเช่นนั้นมาเรื่อยๆ ผมก็เลยยังสามารถพูดได้จนถึงตอนนี้
แต่คราวหน้าหนอนพวกนั้นมันไม่ได้หวั่นเกรงในตัวผมอีกแล้ว ก่อนจะเข้ามาเกาะที่ใบหน้าของผม
ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่าพวกมันค่อยๆ บุกเข้ามาในร่างของผมผ่านทางหูและจมูก
โมเมนตัมของมันรุนแรงมากจนเทียบไม่ได้กับก่อนหน้านี้เลย
บางทีพวกมันอาจจะตัดสินแล้วว่าควรจะจบชีวิตผมสักที
และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการกินผมเข้าไป ความปรารถนาที่จะกินผมอย่างตะกละตะกลามให้เต็มท้องของพวกมัน สื่อมาถึงผมได้อย่างชัดเจน
และสุดท้ายพวกมันก็ค่อยๆ ชอนไชเข้ามาในปากของผมด้วย ผมพยายามเม้มปากอย่างสุดความสามารถ แน่นอนว่าตาของผมก็ปิดแน่นด้วย เพราะรู้สึกเหมือนมันพยายามจะกินลูกตาผมเหมือนกัน
แต่สุดท้ายริมฝีปากของผมก็ถูกพวกมันกิน เปลือกตาของผมก็ไม่เหลือ
「………!!」
ผมไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกต่อไป
ผมทั้งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เรียกร้องหาความช่วยเหลือ พูดขอโทษออกมาอย่างคร่ำครวญ
ร่างของผมยังคงส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่หยุด
ถึงผมจะรู้ดีว่าไม่มีใครตอบรับเสียงพวกนี้ แต่ผมก็ยังทำเช่นนั้นไม่หยุด
…และแล้ว ผมก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา….เสียงที่ไม่ควรจะอยู่ในที่แห่งนี้ได้เลย
—–
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ สามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code