การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ - ตอนที่ 94 แปดเศียรคำราม
ตอนที่ 94 แปดเศียรคำราม
ในวินาทีต่อมาจำนวนวิญญาณปริมาณมหาศาลก็หลั่งไหลเข้ามาสู่ร่างของผม
ผมกลืนกินประกายแสง บางส่วนของดาบ เกราะ และวิญญาณของโกซุเข้าไปจากบาดแผลที่ทำได้บริเวณไหล่ของเขา ร่างกายของผมสั่นสะท้านไปทั้งตัวขณะที่เลเวลกำลังเพิ่ม
ความรู้สึกที่เหมือนได้พลังใหม่นี่มามันอะไรกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม
ตอนที่จัดการกับคลิมไปผมเลี่ยงที่จะฆ่าเขาทิ้ง แต่สำหรับโกซุไม่ใช่แบบนั้นเลย สิ่งที่ผมต้องทำต่อจากนี้ก็คือฉีกกระชากหัวใจของเขา แล้วก็กินวิญญาณของเขาทั้งหมดเสีย――นั่นคือสิ่งที่เข้ามาในหัวของผม
กึก มือทั้งสองข้างของผมถูกคว้าเอาไว้
มันเป็นฝีมือของโกซุที่ไม่เหลืออาวุธในมือแล้ว
พลังที่พยายามจะดันดาบของผมออกไป ส่วนผมก็ใช้แรงในการผลักดาบไปข้างหน้า
การประลองพลังดำเนินไปได้ครู่หนึ่ง
「ชิ!」
ผมเดาะลิ้นออกมาในขณะที่รู้สึกได้ว่ากระดูกบริเวณมือของผมเหมือนจะแตงออก
โกซุไม่เพียงแค่พยายามจะผลักดาบของผมกลับไป แต่เขายังพยายามจะหักแขนของผมอีกด้วย นี่ขนาดว่าเขามีบาดแผลบนร่างกายขนาดนั้น แรงของเขาก็ยังเยอะกว่าผมหลายเท่าเลย
ผมตัดสินใจแล้วว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป กระดูกที่มือของผมได้หักเป็นอันดับแรกแน่ แต่จะให้ถอยก็คงไม่ได้
มันจะมีสัตว์ร้ายตัวไหนยอมปล่อยเหยื่อหลังจากจมเขี้ยวเข้าไปในคอของเหยื่อแล้วล่ะ
ดังนั้นผมไม่สนหรอกว่ากระดูกมือหรือแขนจะหักไปสักข้างสองข้าง หากผมสามารถกินวิญญาณเขาได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
นอกจากนี้กะอีแค่รอให้ร่างกายฟื้นฟูเสียใหม่มันคงไม่ได้ยากอะไรหรอก ขนาดแขนขาที่ถูกกินไปในอดีตก็ยังสร้างขึ้นมาใหม่ได้เลยนี่
「คุ…อึก!」
ในขณะที่ผมพยายามวัดพลังกับโกซุที่ใช้มือของเขากับล็อกมือของผมเอาไว้อยู่เสียงแห่งความเจ็บปวดที่ถูกดาบของผมโจมตีเข้าที่ไหล่ก็ดังออกมา
นั่นสินะ ผมไม่จำเป็นต้องเอาชนะในการแข่งพลังเสียหน่อย สิ่งที่ผมต้องทำก็แค่รักษาสมดุลค่อยๆ จัดการเขา ให้เขาเจ็บปวดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวแรงของเขาก็คงจะลดลงไปเรื่อยๆ เอง จากนั้นผมก็จะสามารถกดคมดาบลงไปลึกกว่าเดิมได้ และถึงแม้มือของผมมันจะถูกบดขยี้จนไม่เหลือไปก่อนก็ตาม แต่ยังไงเดี๋ยวผมก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ตามต้องการอยู่แล้ว
ด้วยพลังของการกินวิญญาณ
ตอนนี้ตัวตนอย่างมิตสึรุกิ โซระ สามารถเอาชนะตัวตนอย่างโกซุ ชิมะได้แล้ว!
ในระหว่างที่ผมกำลังค่อยๆ กดคมดาบลงไปด้วยความหรรษา――ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมา
『โก้วววววววว!!』
ท้องฟ้า ผืนดิน ผู้คน ท้องถนน ทุกอย่างเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง แรงกดดันและออร่าแห่งความเกลียดชัง มันทำให้ร่างกายและจิตใจของผมสั่นอย่างรุนแรง
พอผมพยายามจะคิดว่ามันคือเสียงจากตัวอะไรกันแน่ มันก็เริ่มคำรามขึ้นมาอีกครั้ง
『โก้วววววว!!』
「อึก?!」
「อ๊าค?!」
มันเป็นเสียงของผมและโกซุที่ร้องออกมาในเวลาเดียวกัน
หัวใจผมเต้นแรงจนคลั่งเลย เหงื่อก็ไม่หยุดไหลออกมา
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน?
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายงั้นเหรอ? ไม่สิมันจะไปมีสัตว์ร้ายตัวไหนทำผมเป็นได้ขนาดนี้กัน
เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ดังขึ้นไปทั่วเมืองอิชกะ ทำให้เห็นว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันรุนแรงแค่ไหน หรือจะเป็นเวทที่ส่งผลในวงกว้างกันนะ――ผมพยายามวิเคราะห์ แต่เสียงมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
『โกร้ววววววว!!』
「เชี่ยเอ้ย นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่วะ?!」
ผมถอยห่างออกมาจากร่างของโกซุ หากเป็นแบบนี้ต่อไปผมสู้ต่อไม่ไหวแน่
ทางโกซุเองก็เหมือนจะคิดแบบเดียวกับผม เขาปล่อยแรงที่ใช้บีบแขนของผมเอาไว้ออกไป
ความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม ถึงผมอยากจะทำอะไรสักอย่างกับมันก็เถอะ แต่ผมก็ไม่รู้เลยว่าเสียงคำรามนี้มันมาจากอะไรและที่ไหน เพราะงั้นผมจะไปทำอะไรได้กันล่ะ
ในวินาทีนั้นเอง
「……มาสเตอร์!」
เสียงที่แสนคุ้นเคยดังเข้ามาในหูของผม เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังฝืนพูดขึ้นมาได้
พอผมหันไปทางทิศของเสียงผมก็เห็นร่างของลูนามาเรีย ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ผมไม่รู้หรอกนะว่าลูนามาเรียหายไปไหนมาตั้งแต่ผมกลับมาที่เมืองอิชกะ ผมก็เห็นเพียงแค่มิโรสลาฟ ซูซูเมะและชีลเท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง
คงจะดีถ้าในระหว่างนั้นเธอไม่อยู่บ้าน แต่ความคิดที่ว่าเธออาจจะถูกคลิมที่ใช้อาภรณ์วิญญาณเผาจนไม่เหลือเถ้าถ่านมันก็แอบตามมาหลอกหลอนผมอยู่เหมือนกัน
ดังนั้นผมก็เลยดีใจที่ความกังวลของผมนั้นไม่เป็นเรื่องจริง
ทว่า ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับลิดเดลหรอกนะ เพราะเธอคือคนที่ให้ลูนามาเลียยืมไหล่ประคองร่างในการพูดกับผมอยู่
สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?
ผมมีคำถามอยู่ในใจมากมาย แต่เป็นฝั่งลูนามาเรียที่เปิดปากของเธอบอกข้อมูลกับผมก่อน
「มังกรค่ะ มาสเตอร์ มันคือเสียงคำรามของมังกร」
「มังกร…? 」
「ใช่แล้วค่ะ ทุกๆ ครั้งที่มังกรคำราม เสียงคำรามนั้นจะทะลุตรงเข้าไปในหูของท่านแล้วทะลวงไปยังสมองจนสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณ นั่นคือสิ่งที่เรียกกันว่า มังกรคำรามค่ะ ฉันเรียนรู้เรื่องนี้มาจากพวกผู้อาวุโสที่อยู่ในป่า」
ลูนามาเรียกล่าวด้วยเสียงที่จริงจัง ผมไม่มีเหตุผลให้ต้องสงสัยในตัวปราชญ์คนนี้ด้วย หลังจากได้ยินเสียงคำรามนั้นเข้าไป
ไม่บอกก็คงรู้ว่า ผมมีแผนที่จะไปจัดการกับเจ้ามังกรตัวนั้นหรือที่เรียกกันว่าไฮดรา
เหตุผลที่มีพิษของมันบางส่วนปนเปื้อนมากับแม่น้ำเคลก็น่าจะเป็นเพราะใกล้การคืนชีพของมันแล้ว พอเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วย สถานการณ์ทุกอย่างที่คิดไว้มันก็ลงตัวไปหมด
ปัญหาตอนนี้ก็คือไฮดราที่คำรามออกมามันคงจะอยู่ในส่วนลึกของป่าทีทิส นี่ขนาดว่าเมืองอิชกะอยู่ไกลจากป่านั้นพอสมควรนะ ถ้าเข้าไปใกล้กว่านี้มันจะได้รับผลกระทบขนาดไหนกัน
ทันใดนั้น เสียงคำรามครั้งที่ 4 ก็ดังขึ้น
ทุกคนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยืนทนให้มันผ่านไป
――หลังจากนั้น ก็ได้เกิดการโจมตีด้วยเสียงคำรามขึ้นมาอีก 4 ครั้ง
เมื่อมันคำรามได้ครบ 8 ครั้งแล้ว ผู้คนกว่าครึ่งในเมืองอิชกะก็หมดสติไป ไม่ว่าจะเป็นทารก คนแก่ คนป่วย ถึงขนาดที่ว่าบางคนเสียชีวิตไปเพราะเสียงคำรามดังกล่าว
ถึงบางคนจะยังไม่ได้หมดสติไป แต่พวกเขาก็ไม่สามารถคงสติให้เป็นปกติได้ พวกเขาได้หาที่หลบซ่อน บางคนก็มีสีหน้าเหมือนปลาตาย บางคนก็วิ่งไปมาพร้อมกับกรีดร้อง――เกินกว่าครึ่งพวกเขาเสียสติกันไปหมดแล้ว
มันใช่แค่เพียงมนุษย์แต่พวกสัตว์เลี้ยงต่างก็วิ่งหนีตายกันไปมาด้วยความกลัว
เพียงแค่วันเดียว――ไม่สิเพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากการคำราม เมืองอิชกะก็สูญเสียความสามารถในการทำหน้าที่เป็นเมืองป้องกันไปแล้ว
นอกจากนี้ คงจะมีผู้คนที่บาดเจ็บล้มตายอีกจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาอยู่บริเวณแนวป้องกันระหว่างเมืองอิชกะกับป่าทีทิส
…ไม่ว่าใครก็คงรู้ดี ตอนนี้ชะตากรรมของเมืองอิชกะได้ถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายแล้ว
———
Note 1 : ใส่กันยังไม่ทันจบงานใหม่ก็มา ไม่ให้ได้พักหายใจกันเลย // ตอนก่อนคนเขียนแกบอกว่าตอนโกซุบังไค อย่างจะให้พูดว่า”กิวโอ จูสุมารุ”ด้วยซ้ำแต่กลัวเหมือนบางเรื่องมากไป
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code