กำลังขุดหลุมอยู่ดี ๆ ดันถูกส่งมาต่างโลกพร้อม - ตอนที่ 04 คนป่าที่ถูกล่าสังหารฝ่ายเดียว
ตอนที่ 04 คนป่าที่ถูกล่าสังหารฝ่ายเดียว
บนต้นไม้ใหญ่สักต้นในป่าทึบ
“…”
ชายหนุ่มร่างสูงยืนนิ่งเงียบอยู่บนต้นไม้
ขณะมือข้างหนึ่งถือกล่องส่องทางไกลจดจ้องมองไปทั่วบริเวณ หวังหาบางสิ่งอย่างที่เขาต้องการหลังจากสอดส่องค้นหา ในที่สุดสิ่งที่ต้องการพานพบเจอก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า
ดวงตาเริ่มเบิกกว้าง
“!!!”
หัวใจดวงน้อยในอกเริ่มเต้นแรงมากขึ้นตามลำดับ
ทั้งที่ละทิ้งความหวังไปแล้ว แต่อยู่ ๆ เหมือนโชคชะตาต้องการให้เขาได้ลงมือโหดเหี้ยมเก็บเกี่ยวหนี้ที่ติดค้างไว้ สิ่งที่ฉายอยู่ในแววตาขณะนี้ก็คือ ตึกสูงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้
ตึกที่ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน ใช่ มันคือตึกเรียนสูงห้าชั้นที่พวกเขาใช้เรียนหนังสือ นอกจากตึกที่เขาใช้เรียนยาวนานมาตลอดหลายต่อหลายปี
ก็ยังมีตึกมากมายตามติดมาด้วยรอยยิ้มฉีกกว้าง
…‘สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอแบบนี้’
“…”
“หึ ฮ่าฮ่าฮ่า!” เวียร์ระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง “บอกกล่าวตามตรงตอนแรกฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักหรอก อย่างมากก็แค่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าขยะพวกนั้นจะถูกอัญเชิญมาด้วย แต่ใครจะไปคิดล่ะ ว่าจะมากันจริง ๆ แบบนี้ัมันสุดยอด สุดยอดไปเลยวะ”
เสียงหัวเราะยิ่งมายิ่งบ้าคลั่งหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“…”
…‘จะได้เจอไหมนะ~’
เวียร์เผยรอยยิ้มเบาบางผิดกับแววตา
ความปรารถนาบ้าคลั่งถูกโหมกระหน่ำประดุจเปลวไฟไม่มีวันดับ เป้าหมายที่เคยคิดว่ายากเย็นไม่อาจกระทำได้ในชีวิตจริง ตอนนี้ความเป็นไปได้กับปรากฏให้เห็นอีกครั้ง
ขอเพียงเขาเพิ่มเติมความแข็งแกร่งแข็งกร้าวของตัวเองให้มาก การฆ่าล้างเศษขยะเศษเดนพวกนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ทุกสิ่งอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นในตอนนี้
ฉะนั้นเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
…‘แข็งแกร่งให้มากกว่านี้’
“…”
โอกาสครั้งที่สองของเขา
ใช่ว่าจะเป็นของเขาคนเดียว เขามั่นใจว่าในอีกไม่นานหลังจากที่ธรรมชาติลงมือคัดสรรเสร็จสิ้นเรียบร้อย ผู้คนที่หลงเหลืออยู่ก็จะเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่
นั่นหมายความว่าจะผู้คนอีกมากที่รับรู้ตัวตนของห้องสีขาว และใช้ประโยชน์ของมันเสริมเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้กับตน ก็เหมือนกับเกมออนไลน์ทั่วไป ใครที่เก็บเวลได้เก่งกว่า
ก็จะมีสิทธิ์มีเสียงสามารถเข่นฆ่าล้างได้ตามใจต้องการ
“…”
เพียงแค่นึกว่าเศษขยะพวกนั้นจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
จะได้รับโชคชะตาวาสนาแบบเดียวกับที่เขาได้รับ หัวสมองที่เคยยินดีมีความสุขก็หวนคืนกลับมานิ่งเงียบเหมือนเดิม ความประมาทง่ายดายสุดท้ายก็จะนำมาซึ่งความตาย
แม้จะเป็นการครุ่นคิดไปเอง แม้จะมีโอกาสเล็กน้อยที่มันจะสามารถแข็งแกร่งจนเหนือล้ำใครคนอื่น เขาก็ไม่อาจปล่อยผ่านปล่อยให้โอกาสพวกนั้นแปรเปลี่ยนกลายเป็นจริง
ต้องหาให้เจอและฆ่ามันทิ้งก่อนตัวแปรแปลกประหลาดจะแทรกแซง
…‘ตอนนี้คงต้องเก็บเวลให้มาก’
“…”
ตัวกล่องขยับย้ายไปกวาดมองรอบตัวแทน
และสิ่งที่พานพบเห็นก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของเขาเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขาตอนนี้มีคนป่าหลายสิบคนกำลังเดินในป่าลึกคล้ายกำลังหาอะไรบางอย่าง
เกิดฆ่าพวกมันหมดเลเวลย่อมต้องขยับเลื่อนขึ้นแน่นอน แม้ความเสี่ยงจะตามติดแต่ผลตอบแทนที่ให้กับไม่อาจปล่อยผ่านง่ายดาย แผนการเริ่มปรากฏในหัวสมอง
คนป่าพวกนี้ทั้งหมดต้องเป็นของเขาเท่านั้น
“…”
ดาบถูกชักออกมา
ขณะที่คนป่าตัวหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ เดินมาหยุดอยู่ด้านใต้ตัวของเขาที่กำลังยืนอยู่บนต้นไม้ สายตาราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์กำลังจับจ้องมองไม่มีปล่อยผ่าน
เมื่อได้จังหวะลงมือ ชายหนุ่มร่างสูงไม่มีปล่อยให้หลุดมือ ไม่มีลังเลให้เห็นแม้แต่น้อย เขาเพียงทิ้งตัวลงมาจากต้นไม้และใช้ดาบปักเข้าที่คอ กดใบดาบเข้าลึกหวังฆ่าให้ตายในครั้งเดียว
คนป่าที่โดนแทงคิดจะแหกปากแต่เวียร์ก็เอาเศษชุดหนังของพวกมันอุดปากไว้
“…”
“อึกกกกกกกกก!”
“…”
เขากดใบดาบแน่น
ร่างใหญ่ดิ้นไปมาในอ้อมแขนของชายหนุ่ม แต่ดิ้นไปได้ไม่เท่าไหร่อีกฝ่ายก็นิ่งเงียบกลายเป็นศพไปอีกหนึ่งราย พอเห็นว่ามันตายแล้วเขาก็กระชากใบดาบออกมา
และร่างสูงก็ล้มลงนอนกับพื้น
“…”
…‘ดีกว่าครั้งก่อน’
ต้องทำงานแข่งกับเวลา
ไม่อาจปล่อยผ่านทำตัวชักช้าไปได้ เวียร์ลงมือปลดเสื้อผ้าของพวกมันทั้งหมดทิ้งและเก็บเข้ากระเป๋าแน่นอนรวมถึงกระบอกไม้หนาด้วยเขาเองก็เก็บกลับไป พอเก็บเสร็จ
เขาก็ละออกจากพื้นที่บริเวณ ปล่อยให้ศพคนป่านอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น จุดหมายปลายทางของเขาก็คือกระท่อมป่าที่เขาอยู่อาศัยในตอนนี้ ทิ้งระยะไปเพียงไม่กี่นาที
เสียงกรีดร้องหลายสายก็ดังขึ้น
…‘เจอศพแล้ว?’
“…”
“ช้ากว่าที่คิด”
เขาคิดว่ามันน่าจะเจอเร็วกว่านี้
รอยยิ้มสายหนึ่งปรากฏบนใบหน้า เขาเพียงได้แต่หวังว่าผู้คนที่หลุดลอดเข้ามาในป่าจะหาที่หลบซ่อนหรือไม่ก็หนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่งั้นมีหวังได้โดนพายุกลืนกินแน่
เขากระชับกระเป๋าแน่นและวิ่งต่อเรื่อย ๆ
“…”
—
ลมหายใจเริ่มติดขัด
บอกกล่าวตามตรงหญิงสาวเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน
ว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้ว เป็นระยะเวลาเท่าไหร่ หล่อนใช้เวลานานเท่าไหร่หมดไปกับการวิ่งหนีเอาตัวรอด รู้เพียงว่ายิ่งนานเข้าสภาพร่างกายยิ่งหอบเหนื่อย ยิ่งอ่อนเรี่ยวแรง
ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องวิ่งต่อไป
“…”
“อึก!”
ริมฝีปากบางขบแน่น
ขณะกำลังออกวิ่งหนีบางสิ่งอย่าง สายตาของ ‘วิเวียน’ สั่นไหวเปี่ยมล้นไปด้วยห้วงอารมณ์มากมายทั้งหวาดกลัว สิ้นหวัง และต้องการดิ้นรนเอาตัวรอด รองเท้าเหยียบพื้นปูน
เสียงรองเท้ากับพื้นทางเดินกำลังแปรเปลี่ยนกลายเป็นตัวส่งสัญญาณชั้นยอด ส่งสัญญาณบอกกล่าวให้ผู้ล่าตามติดได้ง่ายดาย บนทางเดินบนตึกสูงหล่อนก็ยังวิ่งต่อ
แม้ว่าจุดหมายปลายทางจะมีเพียงความสิ้นหวังรอคอยอยู่ แต่หล่อนก็ยังคงวิ่งต่อไปโดยหวังเพียงว่ามันจะมีโอกาสอันน้อยนิดที่จะหลีกหนีรอดจากสถานการณ์เบื้องหน้า
ใช่ ขอเพียงวิ่งต่อไป แต่หากไม่มีวิ่งหนีเลือกหยุดนิ่ง
…‘ตายแน่’
“…”
บริเวณแขนเรียวมีเลือดออก
เสื้อของเธอล้วนฉีกขาดหลายต่อหลายจุด ขณะกำลังออกวิ่งสุดแรง มือยังถือขวดที่แตกเป็นรูปฟันฉลามบริเวณฟันฉลามยังมีเลือดไหลให้เห็นบ่งบอกว่าหล่อนได้ใช้งานแล้ว
ใช้งานเสียบแทงกับใครบางคนหรือตัวอะไรสักอย่าง หล่อนเหลือบสายตามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นฉากภาพเหตุการณ์สถานการณ์ทั้งหมด คำว่า “นรก” มันไม่เกินเลยด้วยซ้ำ
ภาพคนป่ามากมายกำลังบุกเข้าจับตัวนักเรียน ทั้งนักเรียนชายหรือว่าหญิงล้วนโดนหมด ใครคนไหนที่กล้าขัดขืนล้วนพานพบเจอชะตากรรมเดียวคือความตาย ถูกฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม
หญิงขบริมฝีปากแน่นทั้งยังวิ่งต่อไป
“…”
…‘นั่นมัน?’
ขณะที่วิเวียนกำลังวิ่งอยู่อีกตึกที่อยู่ตรงข้าม
สายตาคู่งามก็เห็นฉากภาพหญิงสาวสองคนที่กำลังวิ่งอยู่บนระเบียบ โดยด้านหลังของพวกหล่อนล้วนมีคนป่าหลายคนกำลังวิ่งตามหลัง พวกมันต่างเลียริมฝีปากกระหาย
ทั้งวิ่งตามติดอย่างบ้าคลั่ง
“…”
“เราจะไม่ทิ้งกันนะ”
“แน่นอน” เพื่อนสาวกล่าวด้วยรอยยิ้มให้กำลังใจ “เราจะไม่ทิ้งกัน!”
สองสาวด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน จึงยากที่จะละทิ้งปล่อยให้ตัวเองหลุดรอดไปได้คนเดียว แต่แล้วขณะทั้งสองกำลังจับมือวิ่งหนีเอาตัวรอดกับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เพราะอยู่ ๆ ห้องด้านข้างก็มีคนป่าพุ่งทำลายประตูออกมา
“…”
“!!!”
“…”
พุ่งเข้ามาจับหนึ่งในสองสองกดลงกับพื้น
“กรี๊ดดดดดดด!”
“ชะ ช่วยด้วย!”
“อย่ามาจับฉันนะ!”
ไม่มีร่องรอยปราณีให้เห็น
รองเท้าถีบเข้าที่หน้าเต็มเรี่ยวแรง
แต่ไม่ได้ถีบคนป่าที่กำลังจับเพื่อนสาวของหล่อนกดลงพื้น แต่เป็นใบหน้าหญิงสาวที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือต่างหากที่ถูกถีบเข้าให้เต็มแรง ร่างอีกฝ่ายกระเด็นหงายหลัง
กระเด็นเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยคนป่า
“ม่ายยยย—”
วิเวียนละสายตาออกจากฉากภาพเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดทั้งสอง
ขบริมฝีปากหล่อนเลือกที่วิ่งต่อไป วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ
วิ่งหนีเอาตัวรอดจากหายะภัยอันตรายที่กำลังไล่ตามหลังมา วิ่งต่อไปโดยไม่คิดเหลือบมองสนใจใครคนอื่นแม้แต่น้อย ไม่ว่าคนพวกนั้นจะร้องขอความช่วยเหลือมากมายเพียงใด
บอกกล่าวตามตรงก่อนจะเอาเวลาไปห่วงใยคนอื่น เธอเองเต็มกลืนก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเอาตัวให้รอดเหมือนกัน ด้านหลังของวิเวียนเริ่มปรากฏร่างคนป่าวิ่งมาแต่ไกล
ใบหน้ามีเศษแก้วติดเต็มไปหมดอีกทั้งดวงตายังถูกแทงจนบอดตา
“…”
“อุก อาาาา”
“…”
ฝ่าเท้าย่ำพื้นเต็มเรี่ยวแรงพร้อมออกวิ่งไล่ตาม
ไม่ว่ายังไงจะปล่อยให้โดนจับไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นสิ่งที่รอคอยอยู่ก็คงไม่พ้นต้องทุกข์ทรมาน ตายเสียดีกว่าอยู่ ระหว่างวิ่งเธอได้แต่หวังว่าเพื่อนของเธอจะปลอดภัย
โดยสายตาจดจ้องมองไปที่ป่าหลังโรงเรียน
…‘อย่าได้หันกลับมาเด็ดขาด’
“…”
—
ร่างหนึ่งหยุดยืนนิ่งเงียบ
“…”
บนสนามบอลสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับเล่นกีฬา
ตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นลานประหารไปแล้วเรียบร้อย ใครก็ตามที่ไม่ยินยอมโอนอ่อน ขัดขืนไม่ยอมให้กระทำง่ายดาย ก็จะถูกฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็น ศพมากมายนอนนิ่ง
สุ้มเสียงกรีดร้องมากมายยังคงดังร้องขอชีวิตอย่างต่อเนื่อง
“อย่าเข้ามานะ”
“ได้โปรด—”
“อ๊ากกกกกกกกก!”
“…”
“อุ อาาาา”
ดาบยาวเสียบปักกับพื้น
ร่างใหญ่ยิ้มแสยะมุมปาก มองดูฉากภาพที่เกิดขึ้นด้วยความพึ่งพอใจ แววตาของมันเหมือนกับคนสวนที่กำลังมองสวนไร่ของตัวเองออกดอกออกผลอย่างงดงาม
ตลอดเนื้อตัวของมันล้วนแตกต่างจากคนป่าปรกติธรรมดา ตัวของมันสวมชุดเกราะหนักหนาบนเกราะมีรอยฟันตลอดทั่วทั้งเกราะ บ่งบอกว่ามันไม่ใช่ชั้นชนง่ายดายคอยออกคำสั่ง
แต่เป็นนักรบที่ออกแนวหน้าอย่างแท้จริง
“…บู มาาาา”
ปลายสายตาเหลือบหันมองร่างหนึ่ง
เป็นร่างชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังหยุดยืนมองนิ่งเงียบเหม่อลอย คล้ายกำลังตื่นตระหนกตกใจกับฉากภาพสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหน้า ดวงตาคนป่าสวมเกราะหรี่มอง
เพียงแค่สบสายตาเท่านั้นก็ทำเอาอีกฝ่ายชายหนุ่มสั่นกลัวทันที
…‘มะ ไม่นะ!’
“…”
“ถอยออกไป!”
“ถอยออกไปให้หมด”
“อย่ามาขวางทางฉัน!”
“…”
“หือ!”
ชายหนุ่ม ‘ลีออน’ ที่เห็นร่างใหญ่จดจ้องมอง
ทั้งยังจดจ้องมองด้วยสายตาเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหาร ก็ถึงกับร้องเสียงหลงออกมา ก่อนมันจะพยายามดิ้นรนหนีเอาตัวรอด พยายามวิ่งเอาชีวิตของตัวเองเป็นหลัก
คนป่าสวมเกราะเพียงยิ้มเย้ยหยัน
“อุ อาาาาาา”
“…”
“โอบิเสสสส”
คำสั่งถูกส่งมอบให้ลงมือปฏิบัติ
ผู้ลงมือปฏิบัติย่อมไม่อาจปล่อยผ่านง่ายดาย ฝ่ามือหยาบกร้านเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวคาวสีแดงสดพลันหยิบจับหอกด้ามหนึ่งขึ้นมา ปลายสายตาล็อคไปที่แผ่นหลังชายหนุ่ม
ก่อนจะออกเรี่ยวแรงทั้งหมดพุ่งหอกแหวกอากาศ
ปึก!
“…”
“อ๊ากกกกกก!”
ทิ้งห่างเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
ชายหนุ่มมองหอกที่ปักอยู่บนต้นไม้ หากเมื่อครู่มันไม่เกิดสะดุ้งจนเบี่ยงหลบออกข้าง สุดท้ายปลายทางชะตากรรมคงไม่อาจหลีกเลี่ยงตกตายกลายเป็นศพถูกปักคาต้นไม้
ริมฝีปากสั่นสะท้านใบหน้าซีดเซียว
…‘ถ้าเมื่อกี้ไม่หลบล่ะก็’