กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ - บทที่ 88 ตรวจพบชีพจรตั้งครรภ์อีกแล้ว? (3)
ซูหลีมีดวงชะตาที่ไม่ธรรมดา! บางทีผู้ที่นางจะแต่งด้วยอาจเป็นองค์รัชทายาทตัวจริง!
ประกายรัศมีที่ไม่อาจปิดบังค่อยๆ ปรากฏจากส่วนลึกในดวงตา ซูเซียงหรูหมุนกลอกสายตา โน้มกายไปเบื้องหน้า “ด้วยความปราดเปรื่องของซูซู ย่อมเข้าใจความคิดของพ่อ ฮ่องเต้ทรงเอ็นดูซูซูเป็นพิเศษ พิธีเลือกพระสวามีในครานี้ เชื่อว่าซูซูจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง”
ซูหลีลุกขึ้นยืน ยกมือกุมหน้าผาก “ท่านพ่อ พักนี้อากาศร้อน ลูกรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก ใคร่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนเจ้าค่ะ!”
ซูเซียงหรูสีหน้าพลันเปลี่ยนหลายตลบ ไม่นานก็กลับมาเป็นปรกติ มองนางด้วยรอยยิ้มเปี่ยมความรักใคร่ “พักนี้อากาศร้อนมากจริงๆ วันก่อนฮูหยินยังบอกว่าอยากไปพักร้อนที่บ้านพักตากอากาศสักหลายวัน เจ้าก็ไปด้วยกันเถิด”
ซูหลีชะงักเล็กน้อย เหล่าชนชั้นสูงมีบ้านพักตากอากาศของตนเองอยู่นอกชานเมืองหลายแห่ง ในอดีตเมื่อถึงหน้าร้อน ฮูหยินมักพาซูชิ่นไปเที่ยวเล่นที่นั่น ไม่เคยพาซูหลีไปด้วยสักครั้ง ยามนี้นางมีฐานะสูงส่งเป็นถึงท่านหญิง ฮูหยินและซูเซียงหรูต่างก็ปฏิบัติต่อนางต่างไปจากแต่ก่อน เช่นนี้ก็ดี หลีกหนีไปสักช่วงหนึ่ง คนพวกนั้นจะได้ไม่มากวนใจนาง
นางจึงค้อมกายเล็กน้อย “ลูกขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ”
เพิ่งจะกลับมาถึงเรือน กลับเห็นหน้าประตูชุลมุลวุ่นวายไปหมด สาวรับใช้หลายนางยืนซุบซิบกันอยู่หน้าประตู ครั้นเห็นนางก็รีบแยกย้ายหนีหายไปทันที
ซูหลีพลันสีหน้าเคร่งขรึม อดเอ่ยถามขึ้นไม่ได้ “เกิดเรื่องใดขึ้น?”
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” หวั่นซินปรากฏตัวตรงหน้าประตูอย่างใจเย็น สีหน้าแสดงความกังวลเล็กน้อย “เมื่อครู่โม่เซียงหมดสติไป”
ซูหลีตกใจ สาวเท้าเข้าไปในเรือนโดยเร็ว “หมดสติไปได้อย่างไร? เชิญหมอมาหรือยัง?”
“เชิญแล้วเจ้าค่ะ ประจวบเหมาะกับวันนี้ฮูหยินไม่สบาย บ่าวจึงเชิญหมอท่านนั้นมาตรวจอาการโม่เซียงด้วย” หวั่นซินสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นหนึ่งส่วน
“หมอว่าอย่างไร?” ซูหลีสาวเท้าเดินไปจนถึงเตียงของโม่เซียง เห็นนางสีหน้าซีดขาว นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ส่วนหนึ่งในจิตใจนางพลันสั่นสะท้าน
หวั่นซินลังเลครู่หนึ่ง ลดเสียงต่ำลง กล่าวว่า “หมอบอกว่า…โม่เซียง…” เอ่ยวาจาติดๆ ขัดๆ ไม่เหมือนนิสัยของหวั่นซินในยามปกติ
“บอกว่าอะไร? เจ้าบอกมาสิ” ซูหลีร้อนใจ
“โม่เซียงตั้งครรภ์เจ้าค่ะ” หวั่นซินเอ่ยอย่างลำบากใจ
ซูหลีชะงัก ตั้งครรภ์! โม่เซียงเป็นเด็กรับใช้ที่ติดตามอยู่ข้างกายนางตลอดเวลา ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับชายใดมาก่อน อยู่ๆ จะตั้งครรภ์ได้อย่างไร?!
เสียงโอดโอยพลันดังมาจากบนเตียง โม่เซียงค่อยๆ ลืมตาขึ้น ถามอย่างแตกตื่น “ข้าเป็นอะไรไป?”
“เจ้าหมดสติไป” หวั่นซินประคองนางลุกขึ้น โม่เซียงมองซูหลีอย่างเหม่อลอย คล้ายยังไม่ได้สติคืนมา
“เหตุใดจึงหมดสติไป หรือพักนี้ข้ากินของแสลงจึงท้องเสีย แม้แต่เรี่ยวแรงก็ไม่มีแล้ว?” โม่เซียงยกมือขึ้น รู้สึกเพียงทั่วร่างอ่อนปวกเปียกดั่งปุยนุ่น
ซูหลีสายตาเรียบนิ่ง เอ่ยถามเสียงร้อนใจ “เจ้ารู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว?”
“เจ้าค่ะ ข้าคงหิวแล้วแน่ๆ!” โม่เซียงกัดเม้มกลีบปาก มองนางอย่างน่าสงสาร “คุณหนู ขออะไรให้บ่าวกินหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
ซูหลีมองนางอย่างสงสัย ผ่านไปครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “โม่เซียง เจ้าบอกข้ามาตามตรง เจ้า…เคยมีสัมพันธ์กับชายใดหรือไม่?”
โม่เซียงสะดุ้งสุดตัว รีบร้องเสียงดัง “คุณหนู บ่าวจะกล้าได้อย่างไรเจ้าคะ? ยามปกติหากไม่มีเรื่องใด บ่าวไม่ก้าวออกจากเรือนนี้ด้วยซ้ำ คุณหนูอย่าปรักปรำบ่าวนะเจ้าคะ!”
หวั่นซินเอ่ยอย่างลำบากใจ “เมื่อครู่หมอมาตรวจอาการเจ้า บอกว่าเจ้าตั้งครรภ์ แม้ข้าจะกำชับบ่าวใช้ในเรือนห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ แต่…ยากจะรับประกันว่าจะไม่ไปถึงหูฮูหยิน…”
“อะไรนะ?” โม่เซียงที่เดิมท่าทางอ่อนเพลียพลันเบิกตากว้าง คล้ายไม่อยากเชื่อว่าตนเองได้ยินสิ่งใด หันมามองซูหลี ตกใจจนรีบถลาลงจากเตียง โขกศีรษะหลายครั้ง น้ำตาไหลทะลักทันที “คุณหนูต้องเชื่อบ่าวนะเจ้าคะ บ่าว…บ่าวไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียกับผู้อื่น! คุณหนู! โม่เซียงถูกปรักปรำเจ้าค่ะ!”
ซูหลีสีหน้าตึงเครียด ไม่ได้เอ่ยอะไร เวลานี้นางตื่นตะลึงยิ่งกว่าโม่เซียงหลายเท่า มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา นางพลันเจ็บปวดรวดร้าวสุดแสน ราวกับมองเห็นตนเองในวันแต่งงานอีกครั้ง โม่เซียงเป็นเด็กสาวที่ซื่อสัตย์ ไม่มีทางและไม่มีโอกาสทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ลับหลังนางแน่! แล้วปัญหาอยู่ตรงที่ใดกันแน่?
“แต่ว่า…ท่านหมอไม่ได้มีความแค้นกับเจ้า จะจงใจทำร้ายเจ้าหรือ? ข้าเองก็รู้วิชาแพทย์อยู่บ้าง จึงตรวจชีพจรเจ้าดู เป็นชีพจรตั้งครรภ์ไม่ผิดแน่” หวั่นซินขมวดคิ้ว นางไม่อยากเชื่อ แต่ชีพจรตั้งครรภ์นั้นชัดเจนมาก ไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน
“คุณหนู!” โม่เซียงยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม “โม่เซียงถูกปรักปรำจริงๆ นะเจ้าคะ”
ซูหลีพลันสะดุดใจ เอ่ยถาม “เมื่อครู่เจ้ากินอะไรไป?”
“ไม่ได้กินนะเจ้าคะ” โม่เซียงสะอื้น “บ่าวกินมื้อเที่ยงพร้อมคุณหนู ตอนบ่ายก็เทน้ำชาให้คุณหนู ไม่ได้กินอะไรอีกเลยเจ้าค่ะ”
เทน้ำชา…ซูหลีดวงตาเป็นประกาย กลีบดอกไม้นั่น! นางรีบสั่งทันที “หวั่นซิน หยิบหีบสมบัติของข้าออกมา!”
หวั่นซินรีบหยิบกล่องออกมา ซูหลีเห็นกลีบดอกไม้ถูกโม่เซียงวางเก็บไว้ข้างในอย่างดี หัวใจพลันเต้นแรงทันใด หากโม่เซียงมีชีพจรตั้งครรภ์ และไม่ได้มีสัมพันธ์กับชายอื่นจริง เช่นนั้นสิ่งนี้ เป็นไปได้มากว่าอาจเป็นยาลึกลับที่หมอหลวงหลี่เอ่ยถึง! ยาลึกลับที่สามารถเปลี่ยนชีพจรได้!
ซูหลีครุ่นคิด ก่อนจะยกกลีบดอกไม้ขึ้นดมอย่างไม่ลังเล
ไร้กลิ่นไร้สี ถ้าหากมิใช่ว่ามองเห็นและจับต้องได้ ก็มิอาจรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของมัน!
ซูหลีหลับตา ในใจพลันบังเกิดคลื่นซัดสาด มิอาจสงบนิ่งได้ ที่แท้สิ่งที่ทำร้ายนาง ก็อยู่ที่นี่ดังคาด มิน่าเล่าวันแต่งงานนางจึงไม่รู้ตัวสักนิด ผู้ใดกัน? เป็นผู้ใดที่ทำเรื่องต่ำทรามเช่นนี้กับนาง?
“คุณหนู!” หวั่นซินครั้นเห็นสีหน้านางผิดปกติ อดกล่าวอย่างกังวลไม่ได้ “เป็นอะไรไปเจ้าคะ? เรื่องโม่เซียง ปิดเป็นความลับไว้ก่อนชั่วคราวย่อมได้ กลัวก็แต่ฮูหยิน…”
“ไม่ต้องกลัว” นางพลันลืมตา “ข้ามีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของโม่เซียง แต่ตอนนี้ ห้ามเอ่ยเรื่องนี้กับผู้ใดเด็ดขาด วันรุ่งค่อยเชิญหมอมาตรวจชีพจรใหม่อีกครั้ง เพียงบอกว่าหมอคนนั้นตรวจชีพจรผิดก็พอ”
หวั่นซินฉงนฉงาย โม่เซียงกลับหมอบกายกับพื้น ร่ำไห้ไม่ขาดสาย “ขอบคุณคุณหนูที่เชื่อบ่าวนะเจ้าคะ!”
มองดูโม่เซียงที่หมอบอยู่บนพื้น ซูหลีขอบตาร้อนผ่าว ยามนั้นนางถูกคนให้ร้าย กลับไร้คนเชื่อใจนาง! พระสวามีที่เคยคิดว่าจะเป็นที่พึ่งพิงไปชั่วชีวิต กลับเลือกที่จะย่ำยีและหย่าขาดจากนาง!
“ลุกขึ้นมา กินอะไรสักหน่อย แล้วเก็บกวาดให้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วง ข้ามีแผนการ”
ซูหลีกำกลีบดอกไม้แน่น ทันใดนั้น ความคิดอันอาจหาญก็พลันแล่นเข้ามาในสมองนาง!
หวั่นซินยกสำรับอาหารเข้ามา นายบ่าวสามคนกินข้าวพร้อมหน้า ซูหลีรู้สึกใจเต้นเร็ว ร่างกายอ่อนแรง คล้ายจะสิ้นสติเป็นพักๆ อาการคล้ายโม่เซียงไม่มีผิด เพียงแต่ยามนี้นางฝึกฝนวิทยายุทธ์จนแข็งแกร่ง จึงยังฝืนยืนหยัดอยู่ได้ โม่เซียงรีบประคองนางขึ้นไปเอนกายบนเตียง หวั่นซินเอื้อมมือตรวจชีพจรนาง สีหน้าพลันตื่นตกใจจนพูดไม่ออกทันที
รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นที่กลีบปากบางของซูหลี “เป็นอย่างไร? ใช่ชีพจรตั้งครรภ์หรือไม่?”
หวั่นซินมองนางด้วยความตื่นตะลึง “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“เหอะ” ซูหลีลุกขึ้นนั่ง “ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นเพราะยาของเจ้าสำนักเฉินเหมิน! ยานี้สามารถเปลี่ยนชีพจรคน สร้างชีพจรตั้งครรภ์หลอกขึ้นมาได้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ปรักปรำสตรีว่าไม่รักนวลสงวนตัว! หากมิใช่เพราะโม่เซียงมือบอน ข้าคงไม่สามารถเข้าใจฤทธิ์ยาตัวนี้ได้เร็วขนาดนี้!”
………………………………………………………….