กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1043
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1043
“เราออกเดินทางกันตอนนี้เลยเถอะ”
อี้หยุนเฟยคิดจะจูงมือกู้ชูหน่วนเพื่อออกเดินทางอย่างรวดเร็ว
เยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟยต่างดึงแขนของกู้ชูหน่วนไปข้างหลังเพื่อไม่ให้พวกเขาสัมผัส
มีศัตรูหัวใจมากพอแล้ว พวกเขาไม่อยากแบ่งปันกับคนอื่นอีกแล้ว
กู้ชูหน่วนเกือบล้มเพราะถูกดึงแขน
นางสะบัดแขน แต่พบว่าทั้งสองจับนางแน่นมากจนนางไม่สามารถสะบัดออกได้
ทว่าเหวินเส่าอี๋กลับใช้สายตาแปลกๆ มองไปที่นาง
แววตาอันเป็นห่วงเป็นใยของอี้หยุนเฟยแวบประกายเข้ามา
นางจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟยพร้อมกับดึงแขนของตัวเองกลับ
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าร้อนใจ แต่รัฐปิงก็ยังมีเรื่องให้จัดการอีกจำนวนมาก อย่างเร็วที่สุดก็คือออกเดินทางพรุ่งนี้”
“เรื่องเหล่านั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของขุนนางอาวุโสก็ได้ไม่ใช่หรือ?”
“เรื่องในราชสำนักยุ่งยากและซับซ้อน ข้าเกรงว่าระยะเวลาน้อยนิดเพียงแค่นี้คงทำไม่ได้”
“เช่นนั้นเจ้าก็อนุญาตให้ข้าออกจากวังหลวง แล้วข้าจะเดินทางกลับรัฐอี้ล่วงหน้าไปก่อน”
อี้หยุนเฟยรู้ว่ามันคือเรื่องยากสำหรับนาง
เพราะรัฐปิงที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ การมอบหมายงานส่งต่อในคืนเดียวเพื่อจะเดินทางกลับไปรัฐอี้พร้อมเขานั้น ถือว่ารวดเร็วมากแล้ว
กู้ชูหน่วนรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ของเขา
จากความสามารถของเขาแล้ว การจะออกไปจากรัฐปิงนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แต่การที่เขาวิ่งมาถามความเห็นของนางอย่างร้อนใจเช่นนี้ นับว่าเป็นการให้เกียรตินางอย่างมากแล้ว
หากเป็นคนอื่น นางคงไม่เป็นกังวล เพราะมียอดฝีมือที่มีวรยุทธ์ระดับหกขั้นสูงสุดคอยปกป้องคุ้มครองอยู่
ทว่าครั้งนี้กลับต้องเผชิญกับผู้หญิงบ้าคลั่งที่มีวรยุทธ์ระดับเจ็ด
ทำให้นางรู้สึกกังวลใจ
“ไม่ได้ ออกเดินทางพร้อมกันพรุ่งนี้”
“ทำไม? เจ้ากลัวว่าข้าจะหนีหรือว่ากลัวว่าข้าไม่สามารถปกป้องดูแลตัวเองได้?”
“ผู้หญิงคนนั้นเจ้าเล่ห์และมีเล่ห์เหลี่ยมมาก ยากที่จะรับมือได้”
“แต่……”
“ไม่มีแต่ หากเจ้าเชื่อข้าก็รอออกเดินทางพร้อมกันพรุ่งนี้” กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังโดยไม่เว้นว่างให้ปฏิเสธ
นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดจาแข็งก้าวเช่นนี้กับอี้หยุนเฟย
วินาทีแรกอี้หยุนเฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาคงคิดว่านี่ไม่ใช่กู้ชูหน่วนที่เขาเคยรู้จักแน่ๆ
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างเขากล่าวกระซิบ “องค์ชาย ที่จักรพรรดินีรัฐปิงตรัสมาก็มีเหตุผล แม้พวกกระหม่อมที่มีวรยุทธ์สูงส่งจะติดตามองค์ชายมาที่รัฐปิงด้วย ทว่ารัฐอี้มียอดฝีมือที่มีวรยุทธ์สูงส่งอีกจำนวนมาก และวังหลวงก็มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับสามารถแอบบุกเข้าไปและยังฆ่าสังหารยอดฝีมือของเราจำนวนมากได้ คาดว่าความสามารถและไหวพริบของนางจะต้องไม่ธรรมดามากแน่ๆ”
“ใช่ รัฐปิงเองก็มียอดฝีมือจำนวนมาก โดยเฉพาะพระสวามีทั้งสองที่มีวรยุทธ์เกือบจะถึงระดับเจ็ด หากพวกเขาคอยติดตามเรากลับรัฐอี้ไปด้วย โอกาสชนะของเราต้องมากขึ้นแน่”
แน่นอนว่าอี้หยุนเฟยไม่เต็มใจ
แต่บรรดาผู้อาวุโสก็พูดออกมาเช่นนี้แล้ว เขาจะพูดอะไรได้อีก
“พรุ่งนี้เช้า เรารีบออกเดินทางทันที”
อี้หยุนเฟยจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วนพร้อมกับกล่าวออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
กู้ชูหน่วนรู้ว่าหากนางพูดว่าไม่ เขาจะต้องออกเดินทางไปรัฐอี้ทันที
“ตกลง ออกเดินทางทันทีที่ฟ้าสาง ทุกคนรีบกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ”
“ตกลง”
อี้หยุนเฟยและคนของเขาต่างออกไป
เยี่ยจิ่งหานและคนอื่นๆ กลับไม่ไปไหน
“พวกเจ้ายังมัวอยู่ที่นี่อีกเพื่ออะไร? หรือพวกเจ้าทั้งสามคิดจะนอนด้วยกัน”
“ดีเลย อาม่ออยากอยู่กับพี่หญิง”
“หากเราไปกันหมด แล้วหากนางหันกลับมาโจมตีรัฐปิง ถึงตอนนั้นรัฐปิงไม่มีใครรับมือกับนางได้?” เยี่ยจิ่งหานกล่าว
รัฐปิงไม่ใช่รัฐอี้ที่มียอดฝีมือคอยป้องกันจำนวนมากเช่นนั้น
และความสามารถก็เทียบไม่ได้กับรัฐอี้
“งั้นเจ้าหมายความว่า? เจ้าจะอยู่คอยป้องกันและคุ้มกันให้รัฐปิง?”
“ให้เหวินเส่าอี๋อยู่คอยป้องกันก็พอ”
เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เทพแห่งสงครามเชื่อมั่นในตัวข้าตั้งแต่เมื่อไร ข้ารู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน เทพแห่งสงครามไม่กลัวว่าข้าจะคิดก่อกบฏอย่างนั้นหรือ?”