กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 439
บทที่ 439
ทุกคนพากันจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างโกรธเคือง กู้ชูหน่วนถอยหลังไปสองสามก้าว และพูดอย่างระมัดระวัง “อีกครึ่งหนึ่งถูกคนของตันหุยกู่แย่งชิงไปแล้ว พวกท่านจ้องมองข้าไปก็ไร้ประโยชน์ หากข้ามีแผนที่อีกครึ่งหนึ่ง จะไม่เอาออกมาให้พวกท่านได้อย่างไร”
“ตันหุยกู่?” ผู้นำกองธงกล้วยไม้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ใช่ มิเช่นนั้นพวกท่านคิดว่าคนของตันหุยกู่จะสามารถข่มอารมณ์ไว้ได้อย่างไร พวกท่านต่อสู้กันอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานขนาดนั้น นอกจากทางลงเขาทางนี้แล้ว บริเวณคอขวดของหุบเขาโลหิตหูหลู ยังมีทางออกอีกทาง ที่สามารถออกไปจากหุบเขาโลหิตหูหลูได้ หากพวกเขาได้ไข่มุกมังกรไป พวกเขาไม่น่าจะมาลงเขาทางนี้”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้สงสัยในคำพูดของนางเป็นอย่างมาก “ทุกท่าน คำพูดจากปากของหญิงผู้นี้ไม่มีความจริงเลยแม้แต่คำเดียว พวกท่านอย่าไปเชื่อนาง”
ผู้อาวุโสอวิ๋นลังเลและกล่าวว่า “คนของเราเข้ามาในหุบเขาโลหิตหูหลู และสูญเสียอย่างหนัก แต่ดูเหมือนว่าคนของตันหุยกู่จะเข้ามาอย่างราบรื่น ไร้ซึ่งอุปสรรคใด ๆ ”
เมื่อผู้อาวุโสอวิ๋นกล่าวเช่นนี้ ผู้อาวุโสจวินก็นึกขึ้นได้ “คำกล่าวนี้ไม่ผิด ในตอนนั้นข้าก็สงสัยเช่นกันว่าทำไมคนของตันหุยกู่ถึงได้โชคดีมากเช่นนี้ และไม่พบอุปสรรคใด ๆ ตอนนี้เมื่อมาคิดดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว อาจจะเป็นที่แผนที่อีกครึ่งหนึ่งจะอยู่ในมือของตันหุยกู่”
ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งกล่าวอย่างโกรธเคือง “ตันหุยกู่เป็นตระกูลเก่าแก่ของนักกลั่นยา และยาที่กลั่นออกมาก็ไม่เป็นสองรองใคร ต่อให้ผิดใจกับพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะฆ่าพวกเขาให้สิ้นซากได้ มิเช่นนั้นต่อไปจะหาซื้อยาอายุวัฒนะดี ๆ ได้จากที่ไหน?”
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“อีกทางหนึ่งอยู่ที่ไหน?” ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งถาม
กู้ชูหน่วนแบบมือออก “ข้าก็ไม่รู้ แผนที่อีกครึ่งหนึ่งมีความซับซ้อนมาก ข้ายังจำไม่ได้ แล้วก็ถูกคนของตันหุยกู่แย่งชิงไป แม้ว่าข้าจะมีวรยุทธอยู่บ้าง แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น จะเอาชนะคนของตันหุยกู่ได้อย่างไร”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล” ผู้นำกองธงกล้วยไม้ยิ่งมองกู้ชูหน่วนก็ยิ่งไม่เชื่อ
“เช่นนั้นดูแผนที่บนระฆังวิญญาณสะบั้นของเจ้าให้ดี ๆ ลองดูสิว่าพอจะจำแผนที่ทั้งหมดได้หรือไม่”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าปีศาจมองดูแผนที่บนระฆังวิญญาณสะบั้น แต่แผนที่บนระฆังวิญญาณสะบั้นวกวนเหมือนลูกอ๊อด และแต่ละเส้นซับซ้อน อย่าว่าแต่จำได้เลย แม้แต่ดูก็ดูไม่ค่อยเข้าใจ มีสถานที่มากมาย และยังเชื่อมต่อกับยอดเขาต่าง ๆ ด้วย
“ผู้นำกองธงกล้วยไม้ ข้ารู้ว่าท่านไม่เห็นด้วยกับข้า แต่ส่วนรวมก็คือส่วนรวม ส่วนตัวก็คือส่วนตัว ท่านจะโยนความผิดทุกอย่างมาให้ข้าไม่ได้”
สีหน้าของผู้นำกองธงกล้วยไม้ไม่ค่อยดีนัก
มีคนของเผ่าปีศาจเพียงไม่กี่คนที่รู้
ผู้นำกองธงกล้วยไม้โปรดปรานเยี่ยเฟิง และถือว่ายี่ยเฟิงเป็นของส่วนตัวของเขา แต่กู้ชูหน่วนกลับช่วยยี่ยเฟิงไป และยังพาเยี่ยเฟิงไปด้วย ผู้นำกองธงกล้วยไม้จะปล่อยนางไปได้อย่างไร
“เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่รู้ว่าอีกทางหนึ่งอยู่ที่ไหน?”
“หากข้ารู้ ข้าจะเลือกมาในเส้นนี้ที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้หรือ ข้าก็คงจะหลบหลีกไปตามเส้นทางเล็ก ๆ และไม่รอจนถึงตอนนี้” กู้ชูหน่วนเบะปาก นางกลอกตามองพวกเขา และกล่าวต่อ
“เห็นหรือไม่ว่ามังกรอสูรระดับเจ็ดถูกคนของตันหุยกู่กักขังไว้ หากพวกท่านไม่รีบเร่งขึ้นมา หลังจากที่คนของตันหุยกู่ได้ไข่มุกมังกรไปแล้ว พวกเขาก็จะออกไปตามทางเล็ก ๆ”
ไม่รู้ว่าการกลางอากาศจะจบลงเมื่อใด พวกเขาพูดคุยกับกู้ชูหน่วน จนลืมไปแล้วว่ามีการต่อสู้ที่นั่น
เมื่อเห็นว่ามังกรอสูรถูกขังอยู่ในค่ายกล และไม่ขยับเขยื้อนได้
ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
คนของตันหุยกู่สามารถที่จะกักขังมังกรอสูรได้ เช่นนั้นพวกเขาก็มาถึงยอดเขาหูหลูแล้วใช่หรือไม่
ผู้อาวุโสจวินกล่าวอย่างกังวลใจ “ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่ง เช่นนั้นพวกเรารีบเข้าไปดูเส้นทางเล็ก ๆ ที่พวกเขาหลบหนีไปดีหรือไม่”
ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งมีความกังวลบางอย่าง
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากไล่ตามไป อาจจะไม่เป็นผลดี
แต่หากไม่ไป แล้วไข่มุกมังกรถูกแย่งชิงไป การจะได้คืนกลับมานั้นเป็นเรื่องยาก
พวกเขาตามหามาตั้งหลายปี หลายชั่วอายุคน กว่าจะพบที่ซ่อนของไข่มุกมังกร ไม่ว่าอย่างไรก็จะยอมแพ้
กู้ชูหน่วนอยู่ด้านข้างหุบเขาหิน นางเฝ้ามองท่าทางที่ยุ่งวุ่นวายของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ และยิ้ม
ไข่มุกมังกรดึงดูดใจมากขนาดนี้ พวกเขาจะไม่ติดกับดักได้อย่างไร
เป็นไปอย่างที่นางคิดไว้ คนเหล่านี้กัดฟันและกล่าวว่า “ไป ขึ้นไปดูบนเขา เจ้าก็ขึ้นไปกับพวกเราด้วย”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ “พวกท่านรับปากว่าจะปล่อยข้าไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยไม่ใช่หรือ หรือว่าพวกท่านจะกลับคำ?”
“เจ้าให้แผนที่มาเพียงครึ่งเดียว เจ้าจะต้องช่วยพวกเราตามหาอีกครึ่งหนึ่ง หรือกว่าจะได้ไข่มุกมังกร แต่ตอนนี้เจ้ายังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“คำพูดของท่านเชื่อถือไม่ได้?”
“แล้วเจ้าอยากจะถูกฝังที่นี่งั้นหรือ?”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าผลักนางให้เดินไปข้างหน้า กู้ชูหน่วนจึงทำได้เพียงไปที่บริเวณคอขวดกับพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ
คนของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าปีศาจได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขาก็เร่งรีบ จนมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกหล่น บางคนที่บาดเจ็บสาหัสก็ล้มลง และไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงบริเวณคอขวด และหากต้องการจะขึ้นไปบนยอดเขาก็ต้องข้ามทะเลโลหิต
ทะเลโลหิตกว้างใหญ่และร้อนจัด หากผู้คนเข้าไปใกล้ก็จะถูกย่างตาย
ทะเลโลหิตกว้างใหญ่เช่นนี้จะข้ามไปได้อย่างไร?
“แม่สาวน้อย บอกพวกเราสิว่าพวกเขาข้ามแม่น้ำไปได้อย่างไร?”
“ข้าก็ไม่รู้ แผนที่ซับซ้อนมากขนาดนี้ แม้แต่พวกท่านยังดูไม่ออก แล้วข้าจะจำได้อย่างไร”
ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งชี้ไปที่สถานที่แห่งหนึ่งบนแผนที่ “ข้ามไปจากที่นี่ใช่หรือไม่ ข้าคิดว่ามีเส้นทางลับอยู่ที่นี่” ดูเหมือนว่าจะสามารถผ่านทะเลโลหิตไปยังฝั่งตรงข้ามได้”
“เช่นนั้นจะมั่วงุนงงอะไรกันอยู่ ไปกันเถอะ”
ตำแหน่งที่ตั้งของเส้นทางลับถูกซ่อนไว้มากมายและหายาก
พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะหาเจอ แต่เมื่อเข้าไปแล้ว แมงมุมยักษ์ที่ดุร้ายตัวหนึ่งก็พุ่งออกมา และโผเข้ามากัดพวกเขา
พวกเขาไม่ทันได้ระวัง จนมีสาวกตายอยู่ในเส้นทางลับมากมาย
แต่สุดท้ายเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายของเผ่าเพลิงฟ้าก็สามารถจัดการได้
แมงมุมยักษ์เป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อย ด้านหลังยังมีตะขาบยักษ์ แมงป่องยักษ์ และต่อยักษ์
คนของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าปีศาจออกมาจากเส้นทางลับได้อย่างราบรื่น แต่พวกเขาก็สูญเสียกำลังคนไปสองในสาม และพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง
สีหน้าของทุกคนดูอิดโรยมาก
และสภาพย่ำแย่
“แผนที่ของเจ้าเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่?” ผู้นำกองธงกล้วยไม้โกรธจัด
กู้ชูหน่วนถอยหลังไปสองสามก้าว นางไปยืนอยู่ข้างหลังผู้อาวุโสหวงไท่ซั่ง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ข้าให้ระฆังวิญญาณสะบั้นกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ หรือท่านคิดว่าระฆังวิญญาณสะบั้นที่ข้าให้เป็นของปลอม?ข้าไม่เคยมาที่นี่ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีสัตว์ที่มีพิษร้ายมากมายขนาดนี้ เมื่อครู่ข้าก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด อีกอย่างพวกเราผ่านบริเวณคอขวดมาแล้ว และใกล้จะถึงยอดเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”
ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งและคนอื่น ๆ ใจอ่อน “ช่างเถอะ ก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง คิดเสียว่านางไม่รู้ว่าสถานที่นี้อันตรายแค่ไหน ต่อไปก็ระวังหน่อย”
ทุกคนเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่สิ่งที่พวกเขาพบไม่ใช่ไข่มุกมังกร แต่เป็นค่ายกลสังหารโบราณ
พวกเขารับมือไม่ทัน และยากที่จะทำลายค่ายกลสังหาร สาวกของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าปีศาจเกือบทั้งหมดเสียชีวิตอย่างน่าสลดที่นี่ ซากศพกองเป็นภูเขาและมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งหุบเขาโลหิตหูหลู
บทที่ 438
บทที่ 440