กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 890
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 890
จักรพรรดินีเด็ดดอกโบตั๋นที่เปื้อนเลือดออกมาหนึ่งดอก นิ้วมือที่เรียวยาวนำดอกโบตั๋นขึ้นมาดมและมุมปากขยับเล็กน้อย จากนั้นพระนางเดินอย่างเกียจคร้านไปยังฝูกวง จากนั้นเด็ดกลีบดอกโบตั๋นออกทีละกลีบและโยนลงต่อหน้าของฝูกวง
“สงบสติอารมณ์อยู่นาน คิดได้หรือยัง?”
“ฮึ ให้ข้ายอมจำนนต่อท่าน ฝันไปเสียเถอะ”
ฝูกวงที่ใบหน้าหล่อเหลา ถึงแม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็มีความงามในแบบพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่เขากลั้นหายใจจนหน้าแดงก่ำ ทำให้เหงื่อบนร่างกายยิ่งไหลหยดย้อยลงมา ซึ่งเย้ายวนอย่างไร้เหตุผล
จักรพรรดินีไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ่งทำให้พระนางรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ
“เจ้าไม่กลัวตายและไม่กลัวเจ็บ เช่นนั้นเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะส่งมอบความโกรธนี้ผ่านไปยังร่างกายของเจ้าหรือ? เขาทำเพื่อเจ้า ไม่ยอมสละความบริสุทธิ์ของตัวเอง” จักรพรรดินีหมายถึงลั่วอิ่ง
ฝูกวงดิ้นรนขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าวรยุทธในร่างกายของเขาจะถูกผนึกไว้ อีกทั้งร่างกายก็ถูกมัดไว้ราวกับบะจ่าง ซึ่งไม่สามารถคลายได้
ทำได้เพียงจ้องมองจักรพรรดินีด้วยความโกรธ “ท่านแน่จริงก็ฆ่าข้า อย่าใช้ข้าเพื่อข่มขู่ลั่วอิง”
“ที่แท้เขาชื่อลั่วอิ่ง ชื่อเพราะดี เช่นนั้นเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร”
ฝูกวงหันหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเพราะความโกรธหรือเพราะเจ็บ เขาหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
จักรพรรดินีเอียงศีรษะ ดวงตาหงส์ที่เรียวยาวและแคบของพระนางกวาดสายตาไปยังลั่วอิ่ง “บอกข้า เขาชื่ออะไร?”
“ฝูกวง” ลั่วอิ่งกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นยังคงจ้องมองดูงานแกะสลักที่อยู่บนเตียง
“ฝูกวง ลั่วอิ่ง ชื่อของพวกเจ้าทั้งสองคนต่างก็ไพเราะดี เป็นพี่น้องแท้ๆ หรือ? แต่ดูไม่เหมือนกันเลย”
จักรพรรดินีโค้งตัวลง นิ้วมือที่เรียวสวยตัดกับเล็บสีแดงเพลิงสัมผัสไปยังใบหน้าของฝูกวงและลากลงเพื่อสัมผัสโครงหน้าของเขา
“เหตุใดเจ้าถึงดื้อรั้นนักนะ ข้าเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งรัฐปิงที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยู่กับข้าไม่ดีอย่างนั้นหรือ?”
ฝูกวงออกแรงสะบัดมือของพระนางออก และยืนหยัดไม่ให้พระนางแตะต้องตัวเอง
เพราะจักรพรรดินีหันหลังให้กับกู้ชูหน่วนตลอดเวลา ทำให้กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีหน้าตาเป็นเช่นไร เพียงแต่ดูจากส่วนเว้าส่วนโค้งที่สละสลวยของพระนางแล้ว คาดว่าก็คงหน้าตาดีงดงามอย่างมาก
“วังหลังยังมีชายหนุ่มที่งดงามรอรับความโปรดปรานของข้าอยู่มากมาย ข้าไม่สามารถละเลยต่อพวกเขาได้ ฉะนั้น……วันนี้เป็นวันตัดสินครั้งสุดท้ายของเจ้า หากเจ้ายังไม่ยอมรับข้าและปรนนิบัติดูแลข้า เช่นนั้นข้า……จะไม่บังคับเจ้า และไม่ทุบตีทรมานเจ้าอีก ข้าเพียงจะนำความรักและโปรดปรานที่เจ้าควรได้รับส่งต่อไปยังลั่วอิ่ง”
จักรพรรดินีพูดคำว่ารักและโปรดปรานออกมาด้วยเสียงดังและมีน้ำหนัก
ฝูกวงกล่าวด้วยความโกรธ “ผู้ชายของรัฐปิงตายไปหมดแล้วหรือ ถึงทำให้ท่านอดอยากปากแห้งเช่นนี้”
“ก็ไม่เชิง แต่เป็นเพราะพวกเจ้าช่างน่ากินน่าสัมผัสเหลือเกิน”
“เสียชีพได้ แต่ไม่ยอมเสียศักดิ์” ฝูกวงปิดตาลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่ง
จักรพรรดินีหัวเราะเยาะออกมา จากนั้นเดินอย่างอ้อยอิ่งอ่อนช้อยไปยังเตียงของลั่วอิ่งและลูบไล้เส้นผมสีดำราวกับหมึกด้วยความรัก
“ดูสิ ข้ารักเจ้ามากกว่า เจ้ายอมเสียสละตัวเองเพื่อเพื่อนรักของเจ้า แต่เขากลับไม่ใส่ใจเจ้าเลยสักนิดเดียว”
“ข้าก็ไม่อยากทำร้ายเจ้า แต่ข้าก็อยากจะรับรู้สัมผัสรสชาติของเขา เจ้าคิดว่า ข้าควรทำเช่นไรดี”
เสียงอันแหบแห้งของลั่วอิ่งกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ท่านเคยบอกไว้ว่าขอเพียงข้ายอมรับท่าน เช่นนั้นท่านจะปล่อยเขาไป”
“ข้าบอกว่าข้าจะปล่อยเขาไป แต่ข้าไม่ได้บอกว่าข้าจะปล่อยเขาเมื่อไรและไม่ได้บอกว่าไม่รักและโปรดปรานเขาแล้ว”
ลั่วอิ่งกำหมัด ราวกับกำลังอดทนกับความโกรธ
“เสี่ยวลั่วอิ่ง อย่าโทษข้าเลย หากจะโทษก็โทษที่เขามีหน้าตาน่ากินเกินไป ข้าจึงทำได้เพียงให้เจ้าเป็นฝ่ายเสียสละก่อน”
เมื่อพูดจบ ดาบสั้นก็ปรากฏขึ้นในมือของจักรพรรดินี
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติได้ ดาบสั้นก็ได้แทงเข้าที่ไหล่ของลั่วอิ่งเสียแล้ว
เลือดสีแดงสดไหลออกมาราวกับแม่น้ำเชี่ยวกราก
ลั่วอิ่งไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลยสักนิด เพียงแต่กำหมัดทั้งสองข้างแน่นขึ้น
“กษัตริย์ชั่ว หากท่านกล้าทำร้ายเขาอีก ข้าสัญญาว่าจะทำให้ท่านต้องตายอย่างทรมาน”
“ข้ากลัวเหลือเกิน เพียงแค่พวกเจ้าสองคนน่ะหรือ?”
“ซี๊ด……”
ดาบสั้นอันเยือกเย็นถูกดึงออกมาและนำพามาซึ่งเลือดที่ไหลนองออกมา
มีเลือดที่แปดเปื้อนไปยังมุมปากของจักรพรรดินี
จักรพรรดินีเลียคราบเลือดที่มุมปากและสายตาก็ดูกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ
“หากเจ้าไม่ยอมจำนน เช่นนั้นข้าจะทิ่มแทงไปเรื่อยๆ ข้าก็อยากจะรู้ว่าหัวใจของเจ้าแข็งแกร่งมากเพียงใด”
“ฉึก……”
ดาบสั้นแทงเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้โหดเหี้ยมกว่าครั้งที่แล้ว
ลั่วอิ่งยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา เพียงแค่กัดฟันแน่น ราวกับกำลังอดทนกับความเจ็บปวดมหึมา
“ปล่อยเขาไป มีอะไรมาลงกับข้า”
ฝูกวงโกรธมากและจ้องเขม็ง
พวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยเยี่ยจิ่งหานหานายท่าน
ไม่คิดเลยว่าเมื่อมาถึงก็ตกอยู่ในวังหลวงของรัฐปิง
และที่น่าโกรธแค้นที่สุดคือ ตกอยู่บนเตียงของพระนาง
จากความสามารถของพวกเขาสองคน คนที่ต้องการกำจัดพวกเขานั้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเป็นจักรพรรดินีแห่งรัฐปิง วังหลวงมีการคุ้มกันที่หนาแน่น รวมไปถึงพระนางมีคนที่มีความสามารถรายล้อมอยู่มาก พวกเขาไม่สามารถสู้กับจำนวนคนที่มากมายเช่นนี้ได้ ทำให้ถูกจักรพรรดินีหญิงลักพาตัวมา
พละกำลังในร่างกายถูกกั้น ทำให้ไม่สามารถออกแรงได้เลย
จักรพรรดินีหญิงผู้นี้ช่างเผด็จการโหดร้ายและมากตัณหา
เพื่อให้พวกเขายอมจำนนต่อพระนาง ได้ทรมานพวกเขามาเป็นเวลานาน
ไม่ว่าจักรพรรดินีทรมานพวกเขาอย่างไร พวกเขาไม่เคยอ่อนข้อเลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนถึงตอนที่พระนางจะใช้ชีวิตของพวกเขาข่มขู่ ลั่วอิ่งเกรงว่าเขาจะอดทนไม่ไหวต่อการทรมานและต้องตายไปในวังหลวงของรัฐปิงแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงยอมประนีประนอม
และเมื่อสักครู่นี้เอง ลั่วอิ่งที่ไม่ยอมอะไรเลยได้เสียสละความบริสุทธิ์ของเขาเพื่อช่วยชีวิตเขา และถูกจักรพรรดินีจัดการเป็นมลทิน
นี่ถือเป็นเรื่องน่าอัปยศอับอายอย่างยิ่งสำหรับผู้ชาย
เขาไม่กล้าคิดเลยว่าจะอธิบายกับนายท่านอย่างไรในอนาคต
และยิ่งไม่อยากจะนึกถึงตอนที่ลั่วอิ่งยอมจำนนต่อจักรพรรดินีว่าในใจของเขาจะทุกข์ทรมานมากเพียงใด
การฆ่าคนเป็นเพียงเรื่องง่ายดาย พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่กลัวตายอะไร แต่กลับถูกกระทำอย่างน่าอับอายเช่นนี้
ฝูกวงรู้สึกผิดอย่างมาก
ในใจกลับยิ่งรู้สึกสงสารลั่วอิง
เดิมทีเขาคือองค์ชายของรัฐฉู่ แต่กลับถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ยังเด็กและถูกเลี้ยงดูอย่างนักฆ่า ตั้งแต่เด็กไม่เคยได้รับความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว ทุกวันต้องถูกทำร้ายและมีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งถูกกระทำเช่นนี้จนเติบโตมา
“ได้ เพียงแค่เจ้ายอมจำนนต่อข้า ข้าไม่เพียงจะไม่ทำร้ายเจ้า แถมยังเลี้ยงดูเจ้าเป็นอย่างดี”
“นอกจากนี้ เรื่องอื่นข้าก็สามารถยอมทำตามความต้องการของเจ้าได้”
“แต่ข้า เพียงแค่ต้องการกินเจ้า”
“จักรพรรดินีชั่ว ท่านช่างเป็นจักรพรรดินีที่ชั่วช้าที่สุด……”
“วางใจได้ เวลาน้อยนิดเช่นนี้ข้ายังพอมีอยู่ รอยแทงที่สาม ข้าควรแทงเข้าไปที่ไหนดีนะ? ที่หน้าอกหรือว่าที่ฝ่ามือดี? เสี่ยวลั่วอิ่ง เจ้าว่าข้าควรแทงตรงไหนของเจ้าดี……ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าจะทิ่มแทงไปที่ใด ข้าก็รู้สึกสงสารจะทำเช่นไรดี แต่ข้าจำเป็นต้องแทงเข้าไป”
ในระหว่างที่พูด เห็นเพียงแววตาที่เหี้ยมโหดของจักรพรรดินี จากนั้นทิ่มแทงไปที่ต้นขาของลั่วอิ่งอย่างโหดเหี้ยม
เลือดสีแดงสดไหลเชี่ยวออกมาอีกครั้ง
ฝูกวงเจ็บปวดจนหัวใจแทบแตกสลาย อดไม่ได้ที่อยากให้ดาบเหล่านั้นทิ่มแทงเข้ามาที่ร่างกายของเขา
เขากำลังครุ่นคิด
ให้เขาที่เป็นชายกำยำยอมจำนนต่อผู้หญิงคนหนึ่ง เขาไม่สามารถทำได้
แต่ตอนนี้……พวกเขาเดียวดายและไร้การช่วยเหลือ
หากยังไม่ยอมตอบตกลง เช่นนั้นแล้วลั่วอิ่งจะต้องตายลงด้วยความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอย่างแน่นอน
ลั่วอิ่งมองไปยังฝูกวงและกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ไม่ต้องสนใจข้า ข้าทนได้”
ทนได้?
จะทนได้อย่างไร?
เขาเป็นคน
ไม่ใช่เหล็กเสียหน่อย
ต่อให้เป็นเหล็ก เช่นนั้นก็อดทนต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
หรือถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงฆ่าตัวตายไปแล้ว
แต่ตอนนี้……
นายท่านก็ยังหาไม่พบ พวกเขาจะยังตายไม่ได้
กู้ชูหน่วนมองดูพวกเขาด้วยความโกรธ
อยากฆ่าก็รีบจัดการเลย
ต้องการอดทนต่อไปก็บอกให้ชัดเจน
แต่กลับใช้วิธีการเช่นนี้
นางครุ่นคิดอยู่ในใจว่าจะหาวิธีช่วยชีวิตพวกเขาอย่างไร