กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 892
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 892
“อะแฮ่มๆ…”
ลั่วอิ่งปิดปากกระแอมเบาๆ หยิบเสื้อที่ถูกฉีกขาดมาและสวมใส่อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ลืมตามองกู้ชูหน่วนเลยสักนิด
เมื่อเห็นท่าทางของเขาแล้ว ฝูกวงก็รู้สึกผิดในใจ
“ขอโทษ…”
หากไม่ใช่เพราะเขาล่ะก็ ตามอุปนิสัยของลั่วอิ่งแล้วเขาก็คงไม่ยอมแพ้หญิงจอมเผด็จการคนนี้อย่างง่ายดายแน่
มีคำพูดมากมายที่อยากพูด แต่ฝูกวงก็ทำได้เพียงรวบรวมเป็นคำว่าขอโทษเพียงคำเดียว
ลั่วอิ่งฉีกเสื้อบนตัวออกมาทำแผลให้กับตัวเอง
มือข้างหนึ่งของเขาบาดเจ็บ จึงลำบากขณะทำแผล
ริมฝีปากอันซีดเผือดพูดออกมาเบาๆ ว่า “นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก”
“รับไป…นี่เป็นยาอายุวัฒนะระดับสองที่เอาไว้รักษาบาดแผล มันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและช่วยสมานแผลโดยเร็ว ทั้งเนื้อทั้งตัวข้าเหลือยารักษาบาดแผลเพียงแค่สองเม็ดนี้แล้ว ให้พวกเจ้าหมดเลยแล้วกัน”
ยาอายุวัฒนะทั้งหมดของกู้ชูหน่วนถูกเหวินเส่าอี๋แย่งไปหมดแล้ว
นี่เป็นเม็ดที่นางเก็บเอาไว้
เดิมนางจะเก็บไว้เผื่อให้ตนเองใช้
ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อเห็นพวกเขาสองคน กู้ชูหน่วนก็หยิบยาอายุวัฒนะออกมามอบให้กับพวกเขาโดยไม่รู้ตัว
นางรู้สึกใกล้ชิดสนิทกับฝูกวง
ส่วนลั่วอิ่งนางก็รู้สึกสงสาร
โดยเฉพาะสายตาอันเยือกเย็นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของลั่วอิ่ง ยิ่งทำให้นางรู้สึกสงสาร
นางไม่รู้ว่าในอดีตลั่วอิ่งเคยทำอะไรมาถึงได้ทำให้เขาตกอยู่ในความรู้สึกผิดเช่นนี้ได้
แม้แต่หายใจยังรู้สึกผิดเลย
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฝูกวงถาม
“ข้าคือหญิงสาวที่ไม่ได้เข้าพระราชวัง แต่ก็อยากออกจากพระราชวังคนหนึ่ง”
ฝูกวงยังคงคาดเดาจุดประสงค์ของนาง
ส่วนลั่วอิ่งได้รับยามาและใช้ไปก่อนแล้ว
“ลั่วอิ่ง…”
“ไม่มีพิษ เป็นยารักษาแผล” ลั่วอิ่งกล่าวอย่างเย็นชา พร้อมกับยื่นยาอีกเม็ดหนึ่งให้กับฝูกวง
แล้วจึงมองกู้ชูหน่วนอย่างจริงจัง
“หากเจ้าสามารถช่วยชีวิตเขาออกไปได้ ชีวิตข้าลั่วอิ่งจะเป็นของเจ้า”
ไม่รู้ว่าเพราะลั่วอิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส น้ำเสียงของเขาจึงได้อ่อนแอหรือไม่ แต่ดวงตาเยือกเย็นคู่นั้นของเขากลับจ้องมองใบหน้าแสนธรรมดาของกู้ชูหน่วน
“ไม่ เจ้าช่วยชีวิตลั่วอิ่งออกไป ชีวิตข้าฝูกวงจะเป็นของเจ้า เพียงแค่เจ้าอย่าทำเรื่องทรยศหักหลัง ข้ายอมได้ทุกอย่าง”
“ความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเจ้าช่างลึกซึ้งเสียจริง แต่น่าเสียดายที่ลำพังชีวิตข้าเองยังเอาตัวไม่รอด จึงไม่สามารถปกป้องชีวิตของพวกเจ้าทั้งสองได้”
กู้ชูหน่วนก็อยากช่วยพวกเขาเช่นกัน
ทว่าสายตาอันโหดร้ายดุจอสรพิษคู่นั้นที่สาดส่องไปเมื่อครู่ของจักรพรรดินี ทำให้นางขนพองสยองเกล้า
ไม่รู้เพราะเหตุใด นางถึงรู้สึกว่าจักรพรรดินีรับมือไม่ง่ายเลย ถึงขั้นเริ่มสงสัยนางแล้วด้วย เพราะเช่นนั้นถึงได้เก็บนางไว้ที่นี่โดยไม่บอกไม่กล่าว
อีกอย่าง…
เกิดอะไรขึ้นในขณะที่นางเข้าใกล้จักรพรรดินี ร่างกายของนางก็สั่นระริกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“พวกข้าเพียงต้องการให้เจ้านำข่าวสารออกจากวังแทนพวกข้าเท่านั้น เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องกังวล”
“เจ้าคิดว่าหากข้าออกจากวังได้แล้วข้าจะถูกขังไว้ที่นี่หรือ?”
“ขออภัย เป็นพวกข้าที่ล่วงเกินมากไป ขอบใจแม่นางมากที่ช่วยชีวิต”
ฝูกวงมาอยู่ข้างๆ ลั่วอิ่ง ถอดชุดคลุมลงมาคลุมให้กับเขา
เขารู้ว่าลั่วอิ่งไม่ชอบให้ผู้อื่นต้องตัวเขา จึงทำได้เพียงอดทนอดกลั้นและปกป้องเขาอยู่ข้างเตียง
“คนในหอดาบเป็นใครกัน?” กู้ชูหน่วนถามกลับ
นางอยากทราบให้แน่ชัดว่าคนที่อยู่ข้างในใช่เซี่ยวอวี๋เซวียนหรือไม่
แต่ลั่งอิ่งและฝูกวงไม่ตอบ
กู้ชูหน่วนจึงกล่าวว่า “ยาอายุวัฒนะสองเม็ดแลกกับข่าวๆ หนึ่ง คงไม่มากเกินหรอกกระมัง”
“เป็นคนที่เจ้าไม่รู้จัก” ฝูกวงตอบส่งเดช
“ข้าคิดว่าในเมื่อพวกเราเป็นคนเรือลำเดียวกันแล้ว เช่นนั้นคงจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวและช่วยกันคิดหาวิธีออกจากพระราชวังดีหรือไม่”
ฝูกวงและลั่วอิ่งไม่ตอบ
พระราชวังเต็มไปด้วยยอดฝีมือ ทหารยามก็มากมายแล้วจะหนีไปได้อย่างไร?
หากวรยุทธ์ของพวกเขายังอยู่ล่ะก็คงจะมีหนทางอยู๋บ้าง
แต่ทว่า…
“วรยุทธ์ของพวกเจ้าสองคนถูกปิดผนึกไว้แล้วสินะ หากข้ามีวิธีช่วยปลดวรยุทธ์ของพวกเจ้าออกก่อนล่ะ?”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้ทั้งสองตาเป็นประกายทันที
“วิธีการของคนที่ปิดผนึกวรยุทธ์ของพวกข้านั้นแปลกนัก เจ้าปลดออกได้จริงหรือ?”
“ไม่มั่นใจ แต่ลองดูได้ อย่างน้อยก็เป็นโอกาสหนึ่งเช่นกัน”
“รบกวนเจ้าแล้ว”
กู้ชูหน่วนจับชีพจรของฝูกวง จากนั้นก็ดูจุดฝังเข็มหลักบนร่างกายของเขา คิ้วของนางก็ขมวดขึ้นอย่างอดมิได้
วิธีสกัดจุดนี้แปลกจริงๆ ดูเหมือนปกติ แต่ทว่าร่างกายของพวกเขากลับใช้พลังไม่ได้ โดยเฉพาะกระดูก ช่างอ่อนแอเหลือเกิน อ่อนแอขนาดถึงขั้นเพียงแค่แตะก็หักได้
“พวกข้าลองมาหลายวิธีแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกครั้งที่ลองก็ดูเหมือนมีมีดแทงไปทั่วทั้งร่างกาย ตายเสียยังดีกว่า แม้แต่หัวใจยังมีความรู้สึกถูกแผดเผาอีกด้วย”
“ความรู้สึกถูกแผดเผา?”
“ใช่แล้ว เหมือนกับถูกตรึงแขนไว้บนท่อนไม้แล้วถูกเผาทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น”
กู้ชูหน่วนตรวจให้กับเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ลองฝังเข็มที่จุดซานเฉวียนและจุดจวี้เชวี่ยของเขา
“ซี๊ด…”
ฝูกวงเจ็บจนเหงื่อตก
“คนที่ปิดผนึกวรยุทธ์ของพวกเจ้า อย่างน้อยฝีมือของเขาก็ถึงระดับห้าแล้ว เขาไม่เพียงแต่ผนึกจุดฝังเข็มของพวกเจ้าเท่านั้น แต่ยังเสกอาคมใส่ตัวพวกเจ้าด้วย สาเหตุที่หัวใจของพวกเจ้ามีความรู้สึกถูกแผดเผานั้นก็เพราะกู่ที่เขาปล่อยเข้าตัวพวกเจ้า ยิ่งพวกเจ้าขัดขืนมากเท่าไร กู่นั่นก็จะยิ่งกระตือรือร้นมากเท่านั้น ซึ่งจะรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเป็นธรรมดา”
“หากไม่กำจัดกู่นี้ออก วรยุทธ์ของพวกเจ้าก็จะไม่มีวันฟื้นฟูได้ ข้าจะใช้เข็มสะกดกู่เอาไว้ แล้วค่อยๆ ปลดจุดฝังเข็มที่ถูกผนึกไว้”
“เพียงแค่สะกดกู่เอาไว้ก็พอแล้วงั้นหรือ? ต้องหาคนรับแทนหรือไม่”
“ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าจะรู้เรื่องอาคมกู่ได้ ทั้งๆ ที่ยังหนุ่มยังแน่น”
“พวกข้าไม่เข้าใจหรอก แต่ทว่านายท่านของพวกข้าเข้าใจ ได้ฟังมาจากนายท่านน่ะ”
อาคมกู่นั้นหายาก มีเพียงทางตอนใต้เท่านั้นที่มี แต่นางอายุยังเยาว์วัยเช่นนี้กลับรู้เรื่องพรรค์นี้ด้วย
เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนหยิบแหวนออกมาจากอก จากนั้นก็เปิดและหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่มจากแหวนเก็บสะสม
ลมหายใจของฝูกวงและลั่วอิ่งเร็วขึ้น โดยเฉพาะฝูกวงที่ตื่นเต้นจนจับมือกู้ชูหน่วนไว้แน่น แล้วจ้องไปที่แหวนเก็บสะสมตาเขม็ง
“แหวนวงนี้เจ้าได้แต่ใดมา? บอกมาเดี๋ยวนี้”
แม้นลั่วอิ่งจะไม่พูดอะไร แต่ก็ขวาดทางนางเอาไว้ สายตาอันเย็นชาคู่นั้น ราวกับหมายความว่าหากนางไม่พูด เขาจะลงมือได้ทุกเวลา
กู้ชูหน่วนหัวเราะ
ในเสียงหัวเราะมีความเยาะเย้ยปนอยู่
“โลกนี้มันช่างเล็กจริงๆ พบเจอคนที่รู้จักแหวนวงนี้เพิ่มอีกสองคน พวกเจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าของแหวนวงนี้เป็นคนของนายท่านพวกเจ้า?”
“แม่นาง ไม่ทราบว่าเจ้าได้แหวนวงนี้มาจากที่ใดงั้นหรือ?”
“ข้าได้มาจากไหนสำคัญด้วยหรือ? หากข้าจะบอกว่าข้าแย่งมาขโมยมา แล้วพวกเจ้าจะทำอะไรได้ในเมื่อพวกเจ้าบาดเจ็บสาหัสเพียงนั้น?”
“หากเจ้าไม่พูด แม้นพวกข้าต้องสู้ด้วยชีวิต พวกข้าก็จะ…”
“ก็จะอะไร? จะสู้กับข้าอย่างสุดชีวิตงั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนหยิบเข็มเงินที่เล็กที่สุดออกมาจากถุงเก็บเข็มโดยไม่สนใจผู้ใด
“หมอหลวงที่พวกเขาเชิญมาใกล้จะถึงแล้ว หากต้องการฟื้นฟูวรยุทธ์แล้วออกไปจากที่นี่ก็นั่งลงซะ ส่วนแหวนวงนี้ ข้าเพียงแค่ประมูลมาจากงานประมูลเท่านั้น”
ฝูกวงและลั่วอิ่งมองหน้ากันพลัน
ท่าทางของนางดูไม่เหมือนพูดปด
ฝูกวงจึงนั่งลงไปและจ้องมองนางตาเขม็ง พลางให้นางเจาะเข็มพลางถามนางว่า
“แหวนวงนี้ไปปรากฏที่งานประมูลได้อย่างไร?”
“เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”
“แม่นาง แหวนวงนี้ขายให้ข้าได้หรือไม่?”
“ไม่ได้”
เพราะแหวนวงนี้ นางเกือบจะไม่ถูกเหวินเส่าอี๋ฆ่าทิ้งเช่นนั้นจะขายให้กับพวกเขาได้อย่างไร”
บัดนี้นางเพียงแค่อยากเจาะเข็มพวกเขาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และไปสืบหาว่าคนที่ถูกจับตัวไปใช่เซี่ยวอวี๋เซวียนหรือไม่
เมื่อกู้ชูหน่วนเจาะเข็มลงไป ใบหน้าอันหล่อเหลาดูเยาว์วัยของฝูกวงก็เกรงแน่น เจ็บจนเขาหายใจเข้าลึก
“เจ็บเล็กน้อย ทนหน่อยนะ ใช่แล้ว ในเมื่อพวกเจ้ารู้จักแหวนวงนี้ เช่นนั้นพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าขลุ่ยและขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่ถูกผนึกไว้ในแหวนเป็นของใคร?”
“เป็นของนายท่านของข้า”
“นายท่านของเจ้าเป็นชายหนุ่มงั้นหรือ?”
“เป็นหญิงสาว”
หญิงสาวงั้นหรือ?
แต่ภาพที่นางเห็นเป็นภาพชายหนุ่มที่สวมชุดสีคราม ท่าทางดูสูงศักดิ์และอบอุ่นคนหนึ่งนะ
“แม่นาง เมื่อครู่เจ้าพูดว่ายังมีคนรู้จักแหวนวงนี้งั้นหรือ? ไม่ทราบว่ายังมีใครที่รู้จักแหวนวงนี้อีก?” ที่นี่เป็นดินแดนวิญญาณเยือกเย็น ผู้ที่รู้จักแหวนวงนี้ได้ต้องเป็นคนคุ้นเคยแน่
“ทำใจให้เย็นและพูดให้น้อย”