ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 220.2
บทที่ 220 ไม่ต้องกังวล 1 (2)
“มันไม่ใช่เรื่องสําคัญ..ขอแค่ข้าสนุกก็พอ”
เขายินดีที่จะทําอะไรก็ตามที่สร้างความบันเทิงให้กับตนได้ นั่นคือสาเหตุที่เขาฆ่าทหารของพันธมิตรตนเองด้วยระเบิดพลังเวทย์แห่งความตาย จากนั้นก็กลับมานั่งดูอย่างสบายใจ จนกระทั่งโล่เงินของขุนนางผู้นั้นและดาร์กเอลฟ์ปรากฏตัวขึ้น
แน่นอนว่าสิ่งต่างๆเริ่มผิดแผนไปมากขึ้นเมื่อมีโครงกระดูกไวย์เวิร์นสองตัวตัดผ่านน่านฟ้ามายังมหาสมุทรที่เรือของพวกเขากําลังแล่นไปตามแผนที่วางไว้ เขาไม่สามารถนั่งดูเฉยๆได้อีกต่อไป เมื่อพวกมันเริ่มใกล้เข้ามา เขามีความไวต่อสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ
‘มีกลิ่นของสิ่งมีชีวิตระดับสูงอยู่ที่นี่’
มันเป็นกลิ่นที่เขานึกเย้ยหยันแต่ก็ต้องการในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถมั่นใจเต็มร้อยได้ นั่นก็เพราะกลิ่นนั่นเป็นกลิ่นอ่อนๆ ราวกับว่ามันเป็นกลิ่นของเด็ก
“มันก็มีสิทธิ์เป็นเช่นนั้นได้หากราชามังกรยังมีชีวิตอยู่”
สิ่งมีชีวิตที่ถูกพิจารณาว่าจะขึ้นเป็นราชามังกรในอนาคตได้ตายจากไปแล้ว
ราชามังกร
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สืบทอดต่อกันมาภายในตระกูล แต่มันถูกกําหนดโดยธรรมชาติและโลก
ปั้งงงงง!
เสียงระเบิดดังขึ้นมาจนเขาหลุดออกจากภวังค์ นักเวทย์ยกมือขึ้นมาบังแสงจ้าเอาไว้ก่อนจะย้ายสายตาไปยังวงเวทย์ที่พยายามปกคลุมร่างของเชวฮัน
“ช่างน่าเศร้า”
เขากําลังจะได้เห็นนักดาบฝีมือดีได้รับบาดเจ็บ เขาคิดที่จะชักชวนชายหนุ่มผู้นี้ให้มาเป็นคนฝั่งเดียวกับตนหากพลังของชายหนุ่มผู้นี้ก้าวไปถึงขั้นความมืดมิดโดยสมบูรณ์ได้
“โอ๊ะ”
แม้ว่าจะเผลออุทานแต่นักเวทย์ก็แสยะยิ้มออกมา เขาเบี่ยงร่างกายของตนหลบ
ปั้งงงงงงงงงง!!!
ออร่าสีดําตัดผ่านร่างเขาไปปะทะกับผนังของดาดฟ้าเรือ นักเวทย์ร่างผอมหันกลับไปมองนักดาบผู้ทําลายดาดฟ้าเรือและไล่ตามเขาไปทันที
“เจ้ายังไม่ตาย!”
นักเวทย์ไม่สามารถซ่อนความตกใจของตัวเองไว้ได้ ถึงแม้วงเวทย์จะไม่ได้ดูใหญ่มากนักแต่พลังแห่งแสงก็มีมากพอสมควร
“เขาหนีมันได้อย่างไร?
ปั้งงงงงงงง!
วงเวทย์แห่งแสงพุ่งเข้าชนออร่าสีดําอีกครั้ง นักเวทย์มองไปที่เชวฮันซึ่งกําลังเลือดไหลราวกับถูกพลังแห่งแสงกระแทกใส่ร่าง นักเวทย์ไม่สามารถซ่อนความแปลกใจบนสีหน้าของตนได้
“เจ้าหลบมันได้อย่างไร?”
อย่างไรก็ตามเชวฮันไม่ได้สนใจสิ่งที่นักเวทย์พูด แสงจ้าจากวงเวทย์เริ่มทําลายออร่าของเชวฮันที่ละน้อยๆ
ปั้งงงงงง!!
วงเวทย์ระเบิดขึ้นอีกครั้งและเชวฮันสามารถหลบแรงระเบิดไปได้ด้วยการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
ซู่ซู่!ซู่!ซู่!
แก้มของเชวฮันร้อนระอุเมื่อแสงจ้าส่องกระทบร่างของเขา
จากนั้นวงเวทย์ขนาดย่อมๆนับสิบลูกก็ปรากฏตัวต่อหน้าเชวฮันที่เพิ่งจะจัดการกับวงเวทย์จนระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อครู่นี้
“อ่า…เจ้าสามารถหลบมันได้หรือนี่?”
นักเวทย์ครึ่งมังกรเอ่ยออกมาคล้ายกับเจอสิ่งที่ตนถูกใจ
“แม้เจ้าจะหลบมันได้แต่สุดท้ายแล้ว..ดาบและออร่าสีดําของเจ้าจะยังคงถูกทําลายอย่างต่อเนื่อง..ทางเลือกเดียวที่เจ้ามีคือการยอมแพ้ซะเจ้ากําลังทําสิ่งที่ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก!”
แม้จะทําเป็นลืมความต่างของทั้งสองพลังแต่แน่นอนว่านักดาบตรงหน้าอ่อนแอกว่าเขายิ่งนัก นักเวทย์รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่นักดาบผู้นี้ยังคงเลือกที่จะเผชิญหน้ากับเขาต่อไปแม้จะรู้ถึงความแตกต่างของทั้งสองพลังก็ตาม
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่นักเวทย์ร่างผอมไม่รู้
เชวฮันใช้ฝักดาบรูดไปที่ดาบอันคมกริบของตน
ชิ้งชิ้งชิ้ง
ประกายไฟที่แล่นผ่านคมดาบร่วงใส่มือของเชวฮัน
เชวฮันไม่สนใจว่าออร่าสีดําของเขาและพลังความมืดของเขาจะถูกทําลายหรือไม่
ป่าแห่งความมืด
ในขณะที่เชวฮันพยายามที่จะมีชีวิตอยู่รอด เขาก็ล้มลุกคลุกคลานและเกือบตายอยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดเขาก็รอดชีวิตมาได้
มันไม่สําคัญว่าเขาจะตายหรือไม่?
“ถ้าเช่นนั้นก็เอานี้ไปลองซะ!”
วงเวทย์ขนาดย่อมราวๆสิบลูกพุ่งตัวเข้าหาเชวฮันทันที เชวฮันจ้องวงเวทย์พวกนั้นเขม็งและยังสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าต่อ
ช่วงจังหวะนั้นเอง
ฟริ้ววววววว
เชวฮันรู้สึกถึงบางอย่างที่พุ่งตัวออกมาจากใต้น้ํา ศัตรูอาจไม่รู้แต่เชวฮันรู้
‘นั่นคือฝีมือของราอน’
พลังที่เกิดจากความโกรธของมังกรกําลังพุ่งออกมาจากใต้น้ํา วังน้ําวนไม่ได้อยู่ใต้น้ําอีกต่อไปวังน้ําวนของราอนที่ไม่ถูกสายฟ้าฟาดกําลังพุ่งตัวขึ้นสู่อากาศ จากนั้นพวกมันก็เริ่มหลอมรวมเป็นลมหมุนขนาดใหญ่ ลมหมุนก่อตัวเป็นรูปร่างที่เชวฮันสามารถบอกได้ทันทีว่ามันคือสิ่งใด
“มังกร”
การรวมตัวกันของลมและน้ําดูเหมือนจะสร้างมังกรขนาดใหญ่ขึ้นมา มันมีรูปร่างคล้ายกับโครงกระดูกมังกรดําที่เคยปกป้องอาณาเขตเฮนิตัส
เชวฮันเข้าใจเจตนาของราอนเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มาขวางหน้าเขาเอาไว้
มันคือโครงกระดูกไวย์เวิร์น
มันกําลังกางปีกออกกว้างเพื่อป้องกันไม่ให้วงเวทย์แห่งแสงนับสิบๆลูกพุ่งมาที่ตัวเขา
ปั้งงงงงงงงงงงง!!!
ปีกสีดําของไวย์เวิร์นโอบล้อมวงเวทย์แห่งแสงเอาไว้
ความมืดไม่ใช่สิ่งเดียวที่ตรงข้ามกับแสงสว่าง
ความตาย
ความตายก็เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับแสงสว่างเช่นกัน
ความตั้งใจของแมรี่เป็นสิ่งที่เชวฮันสัมผัสมันได้อย่างเด่นชัด เขาหันร่างกลับและเริ่มออกวิ่งทันที เขาต้องการโต้กลับนักเวทย์ผู้นี้ เชวฮันใช้ราวระเบียงของดาดฟ้าเรือเป็นที่ยันร่างของตนขึ้นสู่อากาศและก้าวเท้าไปยังร่างที่ก้มมองเขาอยู่
มังกรที่สร้างมาจากลมและน้ํา เชวฮันยืนอยู่ด้านบนสุดของมังกรตนนี้ มีพลังเวทย์อัน แข็งแกร่งเป็นฐานรองรับร่างเขาเอาไว้
– เชวฮันเจ้ามนุษย์ของเราบอกให้ข้ามา! –
เขาได้ยินเสียงของราอนดังเข้ามาในหัวของเขา
– เขาบอกให้ข้ามาช่วยเจ้า! –
เชวฮันเรียกออร่าที่เหลืออยู่ออกมา ความมืดมิดที่ไม่สมบูรณ์พุ่งออกมาจากปลายดาบราวกับเปลวเพลิง
ความมืดของเชวฮันนั้นค่อนข้างเกรี้ยวกราดและรุนแรง
มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาก้าวเข้าสู่วงโคจรของห่วงโซ่อาหารในป่าแห่งความมืด การเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารทําให้เขาเกลียดและกลัวความมืดนั่น แต่ท้ายที่สุดเชวฮันก็กลับกลายเป็นความมืดมิดนั่นเอง
– มนุษย์ฝากข้อความมาบอกเจ้าด้วย! เขาบอกให้จับตัวหมอนั่นให้ได้! –
ตุ๊บ! ตุ๊บ!
เส้นใยสีดําส่วนหนึ่งที่โอบรัดรอบโครงกระดูกไวย์เวิร์นเริ่มร่วงลงสู่พื้น มันพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษารูปร่างของมันไว้เช่นเดิม
– และเจ้าไม่ต้องกังวล! พวกเรายิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมที่สุดแม้ว่าพลังความมืดของเจ้าจะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม
ในที่สุดเชวฮันก็ลืมตาขึ้น รอยยิ้มบริสุทธิ์ของเขาเลือนหายไป
ณ สถานที่แห่งนั้นมีพลังแห่งความมืดอยู่ทุกประเภท พลังความมืดของเชวฮันคือความสิ้นหวัง เพราะมันคือพลังประจําตัวของเขา มันทําให้เขาแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแฮร์ริสทําให้เขาเลือกซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาต่อคาร์ลเอาไว้ และตัวตนที่แท้จริงของเขาที่รู้สึกมีความสุขและความหวังมากกว่าที่จะรู้สึกต่อความสิ้นหวังนั้นเผยให้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของตัวตนของเขามากกว่า
กําเนิดวีรบุรุษ
เชวฮันตามเนื้อหาในนิยายควรจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ตั้งนานแล้วแต่ไม่เป็นไรเมื่อในท้ายที่สุดเขาก็ได้กลายเป็นตัวละครตัวนั้นมากขึ้นทุกทีๆ
โฮกกกกกกกกก—-
“มังกรนทีวายุ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากน้ําและลมส่งเสียงคํารามออกมา ในขณะเดียวกันเสียงร่ายคาถาก็แว่วเข้ามาจากตัวชายฝั่ง มันเป็นคาถาจากนักเวทย์ผู้เป็นพันธมิตรของพวกเขา พลังเวทย์เหล่านั้นไม่สามารถเทียบได้กับความแข็งแกร่งของสายฟ้าขนาดเล็กนี้ได้ แต่มันก็เพียงพอที่จะทําลายเรือของศัตรูได้เช่นกัน
“ใช่แล้ว..พวกเราแข็งแกร่ง”
เชวฮันเอ่ยเห็นด้วยกับคํากล่าวของราอน ในขณะที่มังกรนทีวายุก็เริ่มเคลื่อนไหวไปกับผืนน้ํา เป้าหมายของมันคือนักเวทย์ร่างผอมที่กําลังยืนหัวเราะร่าอยู่บนดาดฟ้าเรือ
“นี่มันแปลกยิ่งนัก.กลิ่นแปลกๆที่คล้ายคลึงกับกลิ่นราชามังกรนี่มันคืออะไรกันแน่?”
นักเวทย์ยังคงมีท่าทางสงบแม้ว่าในหัวของเขาจะเกิดข้อสงสัยมากมาย
เชวฮันในนามของอัศวินผู้พิทักษ์มังกรเริ่มใช้ออร่าจู่โจมไปที่นักเวทย์ร่างผอมอีกครั้ง
คาร์ลซึ่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ระยะหนึ่งก็เริ่มเอ่ยขึ้น
“เท่าที่ข้าจําได้ข้าแค่บอกให้เจ้าทําให้วังน้ําวนปรากฏตัวขึ้นมาเฉยๆไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าพูดถูกแล้ว! มันคือพายุทอร์นาโด! ส่วนอีกอย่างอึม? ข้าแค่เปลี่ยนมันให้มีรูปร่างเป็นมังกรเพราะมังกรช่างยอดเยี่ยมและทรงพลังยิ่งนัก!”
เนื่องจากราอนไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้ มันจึงเลือกที่จะช่วยในแบบฉบับของมันโดยสร้างสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนกันกับมันขึ้นมา
คาร์ลรู้สึกว่ามุมปากของเขาเริ่มสั่น
“แล้วหลังจากนี้ฉันควรอธิบายให้คนอื่นฟังว่ายังไง??
นั่นทําให้เขาเป็นกังวลอย่างมาก
ในตอนนั้นเองที่คาร์ลสังเกตเห็นพายแอปเปิ้ลลอยขึ้นมากลางอากาศพร้อมๆกับเสียงของราอนที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“มนุษย์ข้าใช้สิ่งนั้นได้หรือไม่?”
“เฮ้อ”
“แล้วทําไมฉันถึงเข้าใจในสิ่งที่หมอนี่พูดตลอดเลยนะ
เขาสามารถเข้าใจมันได้อย่างง่ายดายแม้ว่าข้อความนั้นจะไม่ต่อเนื่องหรือไม่ปะติดปะต่อกันก็ตามจากนั้นเขาก็เอ่ยถามอย่างอื่นกับราอน
“เจ้าบอกว่า..พลังแห่งแสงของไอ้บ้านั่นเป็นแสงสว่างโดยสมบูรณ์งั้นรึ?”
“ใช่แล้ว! แต่เจ้าก็มีสิ่งที่คล้ายกัน! พลังของเจ้าเป็นพลังบริสุทธิ์! นักเวทย์นั่นเป็นคนเดียวที่มีสายฟ้างั้นรึ? ฮีมนุษย์พลังของเจ้าและข้ายิ่งใหญ่กว่าสายฟ้านั้นหลายเท่า! แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องลงมือทําอะไรเพราะมันคงยากเกินไปสําหรับเจ้า! เดี๋ยวข้าจะทําแทนเอง!”
คาร์ลก็มีพลังแห่งแสงเช่นกัน มันเป็นพลังสายฟ้าที่หมกมุ่นแต่กับเงินๆทองๆ มันรักเงินมากไปจนดูน่ากลัว
“ฉันไม่สามารถปล่อยให้เชวฮันกับแมรีรับศึกหนักจนเกินไป..และราอนก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวได้เช่นกัน
การโจมตีของกองกําลังนักเวทย์แห่งอาณาจักรโรมันถูกจํากัดเนื่องจากระยะทางที่ไกลเกินไป พวกดาร์กเอลฟ์ก็ไม่สามารถทําอะไรในน้ําได้มากนัก เรือลําใหญ่ที่เคยจอดอยู่บริเวณชายฝั่งก็ออกมายังบริเวณน้ําลึกแทบทั้งหมด ณ เวลานี้พวกดาร์กเอลฟ์สามารถไล่ต้อนเผ่าหมีเพื่อยื้อเวลาออกไปเท่านั้น
คาร์ลได้ยินเสียงที่ดังเข้ามาในหัวของเขาหลังจากที่มันห่างหายไปได้ระยะหนึ่ง
– เจ้าจะเสียสละตัวเองหรือไม่?
– ข้ากินมันได้หรือเปล่า? –
พลังศิลาและโลนิรันดร์กาลจอมตะกละกําลังพูดเข้ามาในหัวของเขา
คาร์ลก้มมองฝ่ามือของตน สายฟ้ากําลังร้องคํารามอยู่บนฝ่ามือของเขาราวกับอยากจะกลืนกินสายฟ้าเล็กๆที่ฟาดผ่านผืนน้ําในขณะนี้