ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 221.2
บทที่ 221 ไม่ต้องกังวล 2 (2)
เชวฮันมองไปที่นักเวทย์ร่างผอมก่อนจะกระทืบเท้าไปที่ศีรษะมังกรนทีวายุเพื่อพุ่งตัวขึ้นสู่อากาศ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นักเวทย์ร่างผอมแสยะยิ้มเมื่อเห็นร่างของเชวฮันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ตับ!
โครงกระดูกไวย์เวิร์นรับร่างของเชวฮันเอาไว้และเหาะผ่านหน้านักเวทย์ไปอย่างรวดเร็ว
ลําแสงจากออร่าสีดําโค้งตัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ปิ้งงงงงงงงงง!!!
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นบนเรือลําใหญ่ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่วงเวทย์ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ออร่าสีดําดูเหมือนปีศาจร้ายเพราะมันเป็นตัวการทําให้เกิดเสียงอึกทึกบนดาดฟ้าเรือ
“เจ้าบ้าเอ้ย!”
มังกรนทีวายุก็พุ่งตัวเข้าจู่โจมนักเวทย์ในขณะนั้นเช่นกัน
กรร กรร!
เสียงคํารามของมังกรวายุนที่ลอดเข้าหูเชวฮัน
เปาะเปาะเปาะ!
นักเวทย์ร่างผอมเริ่มต้นดีดนิ้วอีกครั้ง คราวนี้เข้าใช้มือทั้งสองข้างเพื่อร่ายพลังเวทย์ที่มีพลังแตกต่างกัน เขาสร้างหอกขนาดใหญ่แทงเข้าปากของมังกรนทีวายุ จากนั้นก็สร้างโล่ป้องกันเรือเพื่อไม่ให้ออร่าสีดําสามารถทําลายมันได้อีกต่อไป
ช่างสนุกยิ่งนัก!”
นักเวทย์ร่างผอมเย้ยหยันเชวฮันเมื่อเห็นเขาพยายามที่จะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวอีกครั้ง
“แต่ดูเหมือนเจ้าจะช้าไป!”
เปาะเปาะเปาะ!เปาะ!
นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเริ่มต้นดีดนิ้วอีกครั้ง คราวนี้มันรัวดังขึ้นเป็นชุดก่อนที่โล่ป้องกันจะเข้าปกคลุมทั่วเรือรบลําใหญ่ทั้ง 20 ลํา เชีวฮันและโครงกระดูกไวย์เวิร์นสีดําไม่สามารถทะลวงผ่านโล่ป้องกันไปได้
ทันใดนั้นเอง
ติ้ง!
เสียงกลองได้หยุดลงและความเงียบก็เข้าปกคลุมทั่วพื้นที่
สิ่งนี้ทําให้เชวฮันรู้สึกถึงลางไม่ดี เขามองเห็นวงเวทย์สีม่วงขนาดใหญ่ มันมีพลังประหลาดๆออกมาจากวงเวทย์ขนาดใหญ่นี้ จากนั้นเชวฮันก็หันไปมองนักเวทย์ที่กําลังส่งยิ้มกว้างให้แก่เขาแต่สายตากลับเย็นชาจนน่าขนลุก ในที่สุดความเงียบก็ถูกทําลายลง
“มนุษย์มักมีหลายอย่างที่ต้องให้ความใส่ใจ”
ชายผู้มีสายตาเย็นชาเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ
“นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาช่างน่ารําคาญและน่าสงสาร..แต่ข้าก็คิดว่ามันดูน่ารักดีเช่นกัน”
ตึงงงงงง!!!
เสียงกลองจากเรือทั้ง 20 ลําดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง ในช่วงเวลานั้นเอง
ครีนนนนนนนนนน!!!
เส้นที่เป็นตัวเชื่อมวงเวทย์ทั้ง 20 ลูกให้เป็นลูกเดียวกันเริ่มสั่นคลอน แสงสีม่วงเริ่มแพร่กระจายไปทั่วอากาศ
“ฮับ!”
เชวฮันยึดลําคอของโครงกระดูกไวย์เวิร์นไว้แน่น
ฟริ้วววววว!!ฟริ้วววววว!!!
ลมกําลังรวมตัวกันในวงเวทย์ขนาดใหญ่จนทําให้บริเวณโดยรอบเกิดลมโหมกระหน่ํารุนแรง โครงกระดูกไวย์เวิร์นก่าลังประสบกับความลําบากในการบินราวกับมันกําลังตกอยู่ท่ามกลางพายุหนัก
เชวฮันได้ยินเสียงเยาะของนักเวทย์ดังขึ้นในจังหวะนั้น
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! ช่างน่าสมเพช! ทุกคนในปราสาทกําลังจะตาย!”
นักเวทย์ร่างผอมทําตัวราวกับว่าต้องการล้มกลิ้งไปนอนหัวเราะเยาะเชวฮันอยู่บนพื้น เชวฮันไม่ได้สนใจ ท่าทางดังกล่าวพลางก้มกระซิบกับโครงกระดูกไวย์เวิร์น
“แมรี่..ไปกันเถอะ”
เชีวฮันไม่รู้ว่าตัวเขาต้องไปที่ไหน แต่เขาก็ยังออกปากให้โครงกระดูกไวย์เวิร์นมุ่งหน้าไปต่อ และแมรี่ก็คิดแบบเดียวกับเขาเช่นกัน
“เราต้องไป..แมรี่”
อย่างไรก็ตามโครงกระดูกไวย์เวิร์นกลับหยุดชะงักและไม่สามารถบินฝ่าลมที่โหมกระหน่ําในตอนนี้ได้ โครงกระดูกไวย์เวิร์นยังคงแข็งแกร่งแต่พลังงานของมันดูเหมือนจะลดลงหลังจากใช้ร่างของมันป้องกันวงเวทย์แห่งแสงเอาไว้
ฟริ้ววววววววววว!!!!
ตอนนี้ลมดูคล้ายกับเถาวัลย์เมื่อมันหมุนวนเกี่ยวกันและกันเอาไว้ ในที่สุดมันก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับวงเวทย์สีม่วงจนกลายเป็นวงเวทย์ที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเดิม วงเวทย์สีม่วงขนาดใหญ่กําลังคํารามก้อง ราวกับเตรียมพร้อมจะนําภัยพิบัติมาสู่พื้นโลก
ตั้งติ้ง!ตั้ง! ถึงปตั้งทิ้ง!
เสียงรัวกลองดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าๆๆๆๆ!!..อ่า…สนุกจริงๆ..คิดไว้แล้วเชียวถ้าได้มาเห็นด้วยตาตัวเองมันจะสนุกกว่าที่คิดเอาไว้!”
นักเวทย์ร่างผอมหันไปมองปรมาจารย์ดาบ เขาเห็นชายผู้นี้จ้องไปยังพายุกระหน่ําด้วยท่าทางสงบ
“เจ้าคิดว่าอย่างไร? นี่คือพลังเวทย์ที่ยอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่?!”
นักเวทย์เอ่ยถามชายที่เขามีโอกาสพบเจอเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
“หืม?”
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
“ใช่แล้ว..มันยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ยิ่งนัก”
เชวฮันกําลังยิ้ม
เขาสามารถมองเห็นแสงเล็กๆที่อยู่เหนือวงเวทย์และท้องฟ้าสีม่วงได้ มันค่อยๆตัดผ่านท้องฟ้าสีม่วงไป แสงที่เขาเห็นเป็นแสงสีแดง
มันเป็นสีที่เชวฮันคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่สายตาก็มองเห็นร่างของมังกรนทีวายุกําลังบินกลับมาหาเขา
– เชีวฮัน! เจ้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ! โครงกระดูกของแมรี่ก็เช่นกัน!
เขาได้ยินเสียงของราอนดังเข้ามาในหัวซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แสงสีแดงเริ่มกระพริบสว่างจ้า
มันเป็นสายฟ้าที่กําลังลุกเป็นเปลวเพลิง สายฟ้าดังกล่าวกําลังมุ่งหน้าไปยังวงเวทย์สีม่วง
เขาสัมผัสได้ถึงตัวตนของคาร์ลและราอนจากสายฟ้านั้น พลังอันแข็งแกร่งของราอนอัดแน่นอยู่ในนั้นโดยเฉพาะ
ฟรี่บ!!
เชวฮันและโครงกระดูกไวย์เวิร์นคว้าร่างของมังกรนทีวายุเอาไว้ หากให้พูดให้ชัดขึ้นดูเหมือนพวกเขากําลังกอดร่างของมันเอาไว้ มังกรนทีวายุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีจุดมุ่งหมายที่จะไปหยุดอยู่ที่ใดสักที่ พวกเขาเหาะผ่านกองทัพเรือของพันธมิตรไร้พ่าย จากนั้นก็พุ่งเข้าหาโล่สีเงินขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นศัตรูเอาไว้ เชวฮันมองไปยังอีกฝั่งของโล่ป้องกัน
เขาเห็นชายผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
“เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
คาร์ลเอ่ยถามเชีวฮันเสียงเรียบ
การแสดงออกของคาร์ลยังคงเป็นเหมือนตัวตนปกติของเขา เขามีท่าทางฝืนๆเมื่อส่งยารักษาให้กับเชวฮัน ในขณะที่มืออีกข้างก็มีสายฟ้าที่ลุกโชนราวกับเปลวเพลิง การที่คาร์ลเอ่ยปากคล้ายกับสอบถามอาการบาดเจ็บของตน รวมไปถึงการก้มตัวลงราวกับเตรียมตัวป้องกันการบาดเจ็บของคาร์ลนั้น สร้างความสนใจให้กับเชวฮันได้ไม่น้อย
“เฮ! รีบเข้ามาใกลโล่เร็วเข้า”
คาร์ลไม่สนใจใบหน้าเปื้อนยิ้มของเชวฮัน และขยับเข้าไปใกล้กับโล่ป้องกันของราอนมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยกมือขึ้นปิดหู
ปิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!
สายฟ้าที่ลุกโชนราวกับเปลวเพลิงพุ่งทะลุผ่านวงเวทย์สีม่วง
– ข้าคือราอน มิรผู้ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่! ข้ามีอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้นแต่ข้าช่างยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ยิ่งนัก
คาร์ลเริ่มคิดบางอย่างในใจ
อ่า…มังกรช่างยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่จริงๆ