ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 224.2
บทที่ 224 ไม่ต้องกังวล 5 (2)
“เจ้าเป็นมนุษย์ที่โชคร้ายจริงๆ
อฮาเป็นส่ายหน้าน้อยๆในขณะที่สายตาก็มองไปที่คาร์ลด้วยความสงสาร อุ้งมือของราอนที่เลอะซอสนั้นก็วางไปที่หลังมือของคาร์ลเบาๆ
“เจ้ามนุษย์อ่อนแอ..เส้นผมสีทองเจือขาวของเจ้านั้นมาจากพลังเวทย์”
“อ่า..”
เชวฮันและแมรี่ถึงกับอ้าปากค้าง ในขณะที่คาร์ลก็ถึงกลับไปต่อไม่เป็น จึงเป็นสาเหตุให้ราอนหันไปเล่าเรื่องของลูกครึ่งมังกรให้กับอฮาเป็นฟังแทน
อฮาเป็นพูดออกมาเพียงประโยคเดียวหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบลง
[“…น่าสนใจดีนี่ ]
คาร์ลจึงมองไปที่มังกรวัยชราอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่
[โดยปกติแล้วเจ้านั่นจะต้องตาย]
“ท่านว่าอะไรนะ?”
คาร์ลเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย อฮาเป็นเอียงศีรษะของตนราวกับคิดว่าเรื่องนี้แปลกดีก่อนจะตอบกลับ
T“เจ้ารู้หรือไม่ว่าทําไมมังกรถึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้? นั่นก็เพราะไม่มีใครสามารถโค่นพวกเขาได้ไงล่ะแน่นอนว่ามังกรอาจเพลี่ยงพล้ําให้กับนักล่ามังกรอยู่บ้างและการที่นักล่ามังกรจะเพิ่มพลังให้กับตัวเองก็ต้องอาศัยการกินมังกรเท่านั้น..แต่การกินมังกรและการที่มีสายเลือดของมังกรมันย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”]
สีหน้าของอฮาเบ็นดูจริงจังขึ้นและเต็มไปด้วยความอยากรู้
[“มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว..โดยปกติแล้วมังกรกับมนุษย์จะไม่คิดมีลูกด้วยกัน..เด็กไม่สามารถทนกับเลือดมังกรที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายได้และจบลงด้วยการตายอย่างทรมาน..แม้ว่าจะมีมังกรที่ทําตัวน่าละอายเช่นนั้นอยู่บ้างแต่พวกเขาจะไม่มีทางทําให้ชีวิตของตัวเองจบลงด้วยการมีลูกกับมนุษย์เป็นอันขาด”]
มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล แม้ว่าภายนอกของพวกเขาจะดูหัวรุนแรง หยิ่งทระนงและเจ้าอารมณ์ไปบ้างแต่เนื้อในของพวกเขานั้นมักใช้เหตุผลอยู่เหนือสิ่งใด แม้ว่าจะมีมังกรตกหลุมรักกับมนุษย์แต่พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองมีลูกโดยเด็ดขาด
มันคือสัญชาตญาณตามธรรมชาติของมังกรที่จะคอยร้องเตือนพวกเขาไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
[“แต่เจ้ากําลังบอกข้าว่ามีคนที่สามารถรอดชีวิตมาได้งั้นหรือ?”]
ความอยากรู้ของอฮาเป็นเกี่ยวกับครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกรยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความจริงที่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งนัก
[“การที่เจ้าลูกครึ่งมังกรเลี่ยงที่จะปะทะกับเจ้าเด็กน้อยและหนีไปตั้งหลักก่อนนั้น..อย่างน้อยเขาก็น่าจะผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรกไปแล้ว]
“ท่านปู่! ลูกครึ่งมังกรก็ต้องผ่านการเจริญเติบโตแบบเดียวกับมังกรด้วยหรือ?”
[“แน่นอน..ก็เขามีเลือดมังกรอยู่ในตัวนี่นา”]
“อ้อ! ขาเข้าใจแล้ว!”
ราอนดูเหมือนจะมีความสุขไม่น้อยที่ได้พูดคุยกับอฮาเบ็นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนเพราะเขายิงคําถามแทบจะทุกประเภทแก่อฮาเป็นเพื่อทําการสนทนาต่อไป อย่างไรก็ตามคาร์ลตระหนักได้ถึงบางอย่างที่ดูแปลกๆไป
มันทําให้ท่าทางของคาร์ลดูแปลกๆอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกตใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของอฮาเป็นและมัวแต่สนใจว่าอฮาเป็นมีบุตรชายอย่างที่เขาสงสัยหรือไม่? แต่ตอนนี้เขากลับสังเกตเห็นใบหน้าของอฮาเป็นและบรรยากาศโดยรอบได้อย่างชัดเจน
“…ท่านอฮาเป็น”
[“มีอะไรหรือ?”]
มังกรคนหนึ่งกําลังมองคาร์ลผ่านทางหน้าจอเวทย์ ส่วนมังกรอีกตัวก็หันหน้ามามองคาร์ลเช่นกัน คาร์ลเริ่มพูดขึ้นช้าๆ
“ทิวทัศน์ด้านหลังของท่านดูคุ้นเคยยิ่งนัก”
[“อ่า..ตอนนี้ข้าอยู่ใกล้ๆบ้านของเจ้า”]
“…คฤหาสน์ใต้ดิน?”
[“ใช่ ตอนนี้ข้าอยู่ในป่าแห่งความมืด]
หรือเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสาหิน?
สีหน้าของคาร์ลดูจริงจังขึ้น ทันใดนั้นเอง
[“บ้านของข้าถูกทําลาย” ]
“หม?”
[“ข้าก็เลยเดินทางมาหาเจ้าและจะขออยู่ที่นี่อีกสักพัก”]
“ท่านว่าอะไรนะ?”
อุปกรณ์เวทย์สื่อสารส่องแสงสีแดงบ่งบอกถึงเรื่องเร่งด่วน ในที่สุดคาร์ลก็เข้าใจเหตุผลของมันแล้ว
[“เจ้ารู้จักภูเขาสิบนิ้วที่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเอลฟ์ใช่มั้ย?”]
“…ใช่ ข้ารู้จัก”
ฉันรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมแต่มันทําให้ฉันรู้สึกไม่ดีมากๆ
[“เจ้าเคยช่วยปกป้องกิ่งของต้นไม่โลกเอาไว้”]
[ “และมันก็ถูกขโมยไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา”]
“อ่า..
เชวฮันพึมพําในล่าคอเบาๆด้วยความตกใจ
[“ข้าเดินทางไปยังหมู่บ้านเอลฟ์ก็เพราะเรื่องนี้และถ้ําของข้าก็ถูกทําลายลงเมื่อข้าเดินทางกลับไปถึง ฮี!พวกมันคิดว่าตัวเองสามารถทําอะไรก็ได้เพราะข้าจะจากโลกนี้ไปแล้วงั้นรึ?”]
“…เป็นฝีมือของอาร์มหรือเปล่า?”
[“ข้ามั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเอลฟ์ต้องเป็นฝีมือของพวกอาร์มแต่เรื่องของข้านั้น..ข้าไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร ข้าจะลองสืบเรื่องนี้ดู ว่าแต่…”]
“ว่าแต่?
ทําไมคํานี้ถึงฟังดูน่ากลัวสําหรับคาร์ลนักนะ? คาร์ลเริ่มกังวลและคําตอบก็ถูกเฉลยในไม่ช้า
[“ตอนนี้พวกเจ้าพักอยู่ที่ไหนในอาณาจักรคาโร?”]
คาร์ลลังเลที่จะตอบคําถามนี้ ในขณะที่ราอนกลับตอบออกไปด้วยน้ําเสียงยินดี
“ปราสาทลีโอน่า! มันเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดบนชั้น 3 ของหอคอยทิศใต้!”
ตามด้วยการส่งพิกัดที่พวกเขาอยู่ไปให้อฮาเป็นอย่างรวดเร็ว คาร์ลพยายามที่จะห้ามราอนเอาไว้แต่มังกรน้อยคนนี้กลับเร็วกว่าเขามากนัก
[“ตกลง..ข้าเข้าใจแล้ว”]
คลิก!
สัญญาณสิ้นสุดลงทันที
ก่อนที่เสียงแปลกๆจะดังขึ้นภายในห้อง
ฟรี่บ!
แสงสีทองสว่างจ้าเต็มห้องพักของคาร์ล ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นเมื่อแสงนั้นเลือนหายไป
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
มันเป็นเสียงของอฮาเป็น
“ท่านปู่!”
ราอนบินไปหาอฮาเป็นอย่างรวดเร็ว แต่อฮาเป็นกลับชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของคาร์ล
“…ทําไมสีหน้าของเจ้าถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?”
อูฮาเบ็นคิดว่าการมาถึงของเขาอาจทําให้คาร์ลรู้สึกว่าเป็นภาระหรือเป็นเรื่องที่น่ารําคาญใจแต่เขาก็มั่นใจว่าคาร์ลจะเข้าใจในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นคือสาเหตุที่อฮาเป็นตัดสินใจเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้เตรียมการเอาไว้ ล่วงหน้า แต่สีหน้าของคาร์ลนั้นกลับแตกต่างจากที่เขาคาดหวังเอาไว้
ราอนก็ยอมรับว่าสีหน้าของคาร์ลแปลกไปเช่นกัน
“มนุษย์! ทําไมเจ้าถึงยิ้มแบบนั้นอีกแล้วล่ะ?”
คาร์ลเพิกเฉยต่อมังกรทั้งสองในขณะที่มองไปยังคนผู้หนึ่งที่มาพร้อมกับอฮาเป็น
“โอ้..ท่านราอน!ท่านสูงขึ้นมากเลยขอรับ! นี่ก็นานมากแล้วที่เราไม่ได้เจอกันแต่ดูท่านทําไมท่านถึงได้น่ารักขึ้นมากขนาดนี้ นี่มันทําให้เพนดริกผู้นี้มีความสุขยิ่งนัก!”
เพนดริกกล่าวชื่นชมราอนก่อนจะหันไปมองคาร์ล
“สวัสดีนายน้อยคาร์ล..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับ”
คาร์ลค่อยๆยื่นมือไปหาเพนดริกผู้คลั่งไคล้มังกรเป็นชีวิตจิตใจพลางเอ่ยทักทายขึ้น
“สวัสดี..เจ้าสบายดีนะ”
คาร์ลยิ้มอย่างสดใส
เพนดริกเป็นเอลฟ์ที่ไม่สามารถสัมผัสกับธาตุได้แต่เขามีความสามารถในการรักษา ตามเนื้อหาในนิยายเขาจะต้องจบชีวิตลงตั้งแต่ต้นเรื่อง ด้วยความสามารถที่เขามีทําให้เขาได้กลายมาเป็นหมอประจํากลุ่มของเชวฮันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะจบชีวิตลง
ความสามารถในการรักษาของเขาคือการใช้พลังธรรมชาติไม่ใช่พลังแห่งพระเจ้าแต่อย่างใดแต่ถ้ามองผ่านๆมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากพลังของพระเจ้ามากนัก
จักรวรรดิและวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวัน
คาร์ลยังไม่ลืมเรื่องนี้
ช่วงจังหวะที่เขาเห็นเพนดริกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่แว้บเข้ามาในหัวของเขา
“เพนดริก..ข้าดีใจที่ได้เจอเจ้า”
“อย่างนั้นหรือขอรับ? อ่า..ข้าน้อยก็ดีใจที่ท่านให้การต้อนรับข้าอบอุ่นเช่นนี้”
“แน่นอน…ถ้าเช่นนั้นเรามาทําสิ่งดีๆร่วมกันดีหรือไม่?”
“เอ่อ…ขอรับ?”
คาร์ลวางแผนที่จะทําลายจักรวรรดิและโครงสร้างของวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับสูงสุดเขาต้องให้คนของตนแทรกซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันให้ได้มากที่สุดเพื่อที่เขาจะสามารถปรับโครงสร้างได้ตามที่ต้องการ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเล่าจะเป็นคนที่ศรัทธาในตัวพระเจ้าแห่งแสงตะวัน”
“ขอรับ?”
เพนดริกหันไปมองมังกรทั้งสองตนด้วยความสับสน อฮาเป็นถอยหลังกลับอย่างไม่ต้องการมีส่วนร่วมในขณะที่ราอนชูปีกของตนเพื่อบอกว่าสิ่งที่คาร์ลพูดเป็นเรื่องที่ดี
ในท้ายที่สุดเพนดริกก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะหันกลับไปมองคาร์ลอีกครั้ง
“สิ่งนี้เกิดขึ้นในใจของเจ้าระหว่างที่เจ้าเดินทางไปช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้อื่น..เจ้าคิดที่จะพัฒนาพลังของตัวเองโดยยึดคนที่มีพลังบริสุทธิ์และมีจิตใจดีเป็นต้นแบบ บุคคลผู้นี้คือคนที่ริเริ่มความคิดนี้ให้แก่เจ้า”
บุคคลที่คาร์ลกําลังพูดถึงคือแจ็ค
“เพนดร์ก”
คาร์ลเรียกเพนดริกด้วยรอยยิ้มสดใส
“ข้ากําลังจะจัดหาที่พักให้กับเจ้า..แล้วเจ้าไม่คิดที่จะจ่ายคืนให้ข้าหน่อยหรือ?”
“จ่ายคืน?
คํานี้ทําให้เพนดริกถึงกับสะดุ้งโหยง