ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 226.1
บทที่ 226 ไม่ต้องกังวล 7 (1)
วันที่คณะของคาร์ลจะได้เดินทางกลับอาณาจักรของตนมาถึงแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนในอาณาจักรโรมันจะได้เดินทางกลับเพราะยังมีกําลังส่วนหนึ่งที่ต้องประจําการอยู่ที่นี่ชั่วคราว อย่างไรก็ตามคาร์ลพร้อมทั้งสมาชิกในกลุ่มของเขา รวมไปถึงสมาชิกส่วนหนึ่งของกองกําลังนักเวทย์ กองกําลังอัศวินทะลวงฟันและดาร์กเอลฟ์ ต่างมีกําหนดการที่จะออกเดินทางกันในวันนี้
กองกําลังส่วนใหญ่ของจักรวรรดิก็เช่นกัน
“…ผู้บัญชาการคาร์ล”
หมับ!
หน้าของคาร์ลแทบจะไม่มีรอยยิ้มเมื่อองค์ชายวาเลนติโน่คว้ามือของเขาไปกุมไว้อีกครั้ง
“หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งในเร็วๆนี้”
“พะยะค่ะ”
วาเลนติโน่ส่งยิ้มเศร้าๆ ให้กับคาร์ลก่อนจะปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติโดยเร็ว เขาหันไปหาคนผู้หนึ่งพร้อมแต้มรอยยิ้มส่งไปให้
“ดยุคฮเต็น..ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือของท่าน”
“ไม่เป็นไรพะยะค่ะ..ทั้งจักรวรรดิและอาณาจักรคาโรต่างผูกพันกันฉันมิตรย่อมเป็นเรื่องธรรมดาหากเราทั้งสองอาณาจักรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
“ฉันมิตรบ้านนายนะสิ?
คาร์ลรู้สึกทึ่งกับคําพูดของดยุคฮเต็นในขณะเดียวกันก็อดรู้สึกชื่นชมใบหน้าเปื้อนยิ้มที่แฝงไปด้วยความเย็นชาของวาเลนติโน่ไม่ได้
“เขาเล่นละครเก่งทีเดียว”
คาร์ลยังจําสิ่งที่อัลเบิร์กบอกเขาผ่านทางอุปกรณ์เวทย์สื่อสารเมื่อคืนนี้ได้เป็นอย่างดี
“วาเลนติโน่เป็นคนที่มีมนุษยธรรมคนหนึ่ง..ดูๆไปแล้วเขาถือเป็นคนดีคนหนึ่งทีเดียว”
วาเลนติโน่เป็นคนที่แสดงความโกรธของตัวเองออกมาเมื่อเขารู้สึกโกรธและแสดงความเสียใจของตัวเองออกมาเมื่อเขารู้สึกเศร้า เขาเป็นคนที่ให้ความสําคัญกับประชาชนในอาณาจักรของตนมาเป็นอันดับต้นๆในเวลาเดียวกันก็รู้จักจัดการกับอารมณ์โกรธและกลัวของตัวเองให้แสดงออกมาตามสถานการณ์ที่ตัวเองต้องการ นี่คือสิ่งที่อัลเบิร์กได้จากการประเมินตัวตนของวาเลนติโน่
“แต่ด้วยความที่อาณาจักรคาโรมีจุดเด่นในเรื่องคาสิโนและการประมูล..อีกทั้งเขายังเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทอีกด้วย”
แน่นอนว่าการนําเอาเหตุผลหรือนําเอาอารมณ์ส่วนตัวมาตัดสินเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เท่าที่ข้ารู้เขาเป็นคนที่คํานวณสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะเชื่อเราหรือไม่แต่เขาก็จะไม่มีทางแตกหักกับเราจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลงอีกอย่าง…”
อัลเบิร์กมองมาที่คาร์ลด้วยท่าทางแปลกๆ
“ดูเหมือนเขาจะชื่นชมอาณาจักรโรมันของเราไม่น้อย”
…พระองค์กําลังกล่าวถึงความชื่นชมที่องค์ชายวาเลนติโนมีต่อเราด้วยพระพักตร์แข็งที่อเช่นนั้นหรือพะยะค่ะ?
อัลเบิร์กและคาร์ลหันไปมองทางอื่นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
…บุคลิกของเขาไม่เหมาะกับข้าสักเท่าไร
“กระหม่อมก็เช่นกันพะยะค่ะ”
พวกเขาทั้งคู่มีความเห็นที่ตรงกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
คาร์ลนึกถึงบทสนทนาเหล่านั้นก่อนที่ดยุคฮเต็นจะเดินเข้ามาใกล้เขา
องค์ชายรัชทายาทวาเลนติโน่กําลังกล่าวขอบคุณหัวหน้าระดับสูงคนอื่นๆทั้งของอาณาจักรโรมันและจักรวรรดิทําให้ดยุคฮเต็นอาศัยจังหวะนั้นมาพูดคุยกับคาร์ลแทน
“ข้าหวังว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
“ข้าน้อยก็เช่นกันขอรับ”
คาร์ลคิดแบบนี้จริงๆ คาร์ลต้องการจะพบกับเขาอีกครั้งในอนาคต
“ดี! ตลอดชีวิตของข้าไม่เคยเห็นใครที่มีโล่ป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน มันเป็นเกียรติของข้ายิ่งนักที่ได้พบกับคนที่มีศักยภาพสูงเช่นนี้”
“การได้รับคําชมจากปรมาจารย์ดาบเช่นท่านดยุคฮฺเต็นทําให้ข้าน้อยรู้สึกขัดเขินยิ่งนัก”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ดยุคฮเต็นส่ายศีรษะน้อยๆ
“ไม่ต้องขัดเขินไปหรอก มันเป็นสิ่งที่ท่านสมควรได้รับ ตั้งแต่ที่ข้าได้รู้จักท่านและคนจากอาณาจักรโรมัน ข้าก็มีความคิดแบบนี้มาโดยตลอด”
เดยุคฮเต็นแต้มรอยยิ้มจริงใจส่งให้คาร์ล จากนั้นเขาก็หันไปมองคนอื่นๆรอบตัวคาร์ล
“…นี่คงเป็นวิธีที่พวกท่านสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาได้”
“พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาเงียบๆโดยไม่ทําตัวเองให้เป็นจุดเด่น
ดยุคฮเด็นไม่ได้พูดออกมาดังๆ เขาหันกลับมามองคาร์ลอีกครั้ง
“สายฟ้าสีแดงเพลิง
เขายังไม่สามารถหาคนที่สร้างพลังนี้ขึ้นมาได้ มันแข็งแกร่งมากพอที่จะทําลายวงเวทย์ของอาร์มได้ ใครกันนะที่เป็นเจ้าของพลังนี้?
มันไม่ได้เกิดจากคนของจักรวรรดิ อาร์มหรือพันธมิตรไร้พ่าย แสดงว่ามันต้องเป็นพลังของใครสักคนในอาณาจักรโรมัน และบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้ถือเป็นศูนย์กลางของกองกําลังแห่งอาณาจักรโรมัน
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ ท่านดยุค..เมื่อสงครามสิ้นสุดลงมันก็กลายเป็นเพียงพลังที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นล่ะขอรับ”
ดยุคฮเต็นทําท่าหวาดกลัวพร้อมกับพูดติดตลก
“ข้ารู้สึกกลัวอาณาจักรโรมันยิ่งนัก”
“มีอะไรให้ท่านต้องกลัวหรือขอรับ? อาณาจักรโรมันและจักรวรรดิก็เป็นเหมือนบ้านพี่เมืองน้องและข้าน้อยเองก็มีสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรของเราอีกด้วย”
คาร์ลชี้ไปยังเหรียญที่ติดอยู่ใต้เสื้อคลุมของตน มันเป็นเหรียญเกียรติยศที่เขาได้จากจักรวรรดิ ท่าทางของคาร์ลดภูมิใจไม่น้อยเมื่อมองกลับไปยังดยุคฮเด็น
ดยุคฮเด็นก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“คาร์ล เฮนิตัส ชายผู้นี้คือคนที่เป็นจุดศูนย์กลางความแข็งแกร่งของอาณาจักรโรมัน เช่นเดียวกับการเป็นเชือกเส้นใหญ่ที่ผูกติดอาณาจักรโรมันและจักรวรรดิเข้าด้วยกัน สิ่งที่จักรวรรดิต้องทําก็แค่ตรวจสอบเรื่องของอาณาจักรโรมันอย่างลับๆในขณะเดียวกันก็สามารถลอบกําจัดคาร์ลเฮนิตัสไปพร้อมๆกันได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ แน่นอน! ข้าดีใจที่ได้เห็นเหรียญเกียรติยศของจักรวรรดิบนตัวของท่าน..ข้าคงต้องขอตัวแล้ว..เอาไว้พบกันใหม่ในโอกาสหน้า”
“ขอรับท่านดยุค..เราต้องได้พบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน”
ท่าทางของคาร์ลดูเหมือนต้องการเดินทางไปเยือนจักรวรรดิอีกครั้งเมื่อเขาย้ําหนักๆไปที่คําว่าต้อง” เป็นพิเศษ ทางฝ่ายดยุคฮเด็นก็ซ่อนความโล่งใจของตนเอาไว้พร้อมกับหัวเราะน้อยๆเมื่อเดินไปยังพื้นที่ของวงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสาร
คาร์ลมองดยุคฮเต็นเดินทางจากไปเงียบๆ
– เจ้ามนุษย์อ่อนแอ! ครั้งหน้าเราจะเดินทางไปจักรวรรดิเพื่อทําลายทุกอย่างใช่หรือไม่?!
คาร์ลเพิกเฉยต่อคําถามของราอน จากนั้นก็ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากเพื่อลอบยิ้มออกมา สิ่งที่เขาคิดในใจ ขณะนี้มันคือความตั้งใจของเขาจริงๆทําให้รอยยิ้มของเขาดูเป็นธรรมชาติยิ่งนัก
เขาจะกลับไปจักรวรรดิอย่างแน่นอน