ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 227.2
บทที่ 227 แต่ที่นี่จะสบายกว่ามั้ย? 1 (2)
ไม่กี่วันต่อมาอูฮาเป็นก็เดินทางกลับมาถึง ท่าทางของเขากําลังบอกเป็นนัยๆว่าได้ไปพบเจอกับอะไรแปลกๆมาเป็นจํานวนมาก
“ท่านอูฮาเป็น..ทําไมสีหน้าของท่านถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?”
ตอนนี้พวกเขามารวมตัวกันอยู่ตรงลานน้ําพุ คาร์ลกําลังพิงหลังอยู่บนม้านั่งพร้อมกับทานผลไม่ไปด้วย อูฮา เป็นเหลือบไปมองราอนที่ลูบท้องของตนเบาๆเพราะความอิ่มก่อนที่มันจะคว้าหนังสือสอนภาษาของทวีปตะวันออกมาเรียนต่อทันที อูฮาเป็นมองสิ่งนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปตอบคาร์ล
“ข้ารู้สึกสงสารตัวเอง”
จากบทสนทนาและท่าทางของอูฮาเป็นเมื่อครู่นี้ทําให้คาร์ลพอเดาได้ว่าอูฮาเป็นกําลังคิดอะไรอยู่ เขาผุดลุกจากม้านั่งและกระโดดขึ้นไปบนวงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าอูฮาเป็นไม่ได้หมายความตามสิ่งที่เขาพูดจริงๆ
สมาชิกที่กําลังจะเดินทางไปยังทวีปตะวันออกก็มารวมตัวกันอยู่ใกล้ๆเขา
“มันก็ผ่านมานานแล้วสินะตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เดินทางไปด้วยกัน!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้เดินทางไปทวีปตะวันออก!”
“ไว้ใจข้าได้เลย! ราอน มิรุผู้ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่สามารถจดจําภาษาของทวีปตะวันออกได้ทั้งหมด!”
“ว้าว! น้องเล็กของเราสุดยอดไปเลย!”
เด็กๆอายุเฉลี่ยเก้าขวบพูดคุยกันอย่างสนุกสนานพร้อมทั้งวิ่งวนรอบๆร่างของคาร์ล อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้มองไปที่เด็กๆ เพราะสายตาของเขาจ้องไปที่คนอื่น แน่นอนว่าอูฮาเป็นต้องเดินทางไปกับเขาอยู่แล้ว แต่สมาชิกคนอื่นที่ต้องเดินทางไปด้วยนั้นทําให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
พวกเขาจําเป็นต้องมีคนที่รู้จักกับทวีปตะวันออกร่วมเดินทางไปด้วย นั่นคือสาเหตุที่รอนและบารอคคือตัวเลือกในครั้งนี้
จากนั้นเขาก็ต้องเลือกคนที่จะมาเป็นแขนและขาให้กับเขา เพราะเชวฮันไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย อูฮาเป็นยากที่จะใช้ความเป็นผู้นําข่มได้ง่ายทําให้นักดาบคนอื่นต้องเดินทางไปกับเขาแทน
“ฮันนาห์..เจ้าไปที่นั่นก็ต้องระวังตัวเองให้ดี”
“ข้าเข้าใจแล้วท่านพี่..หากเกิดเรื่องฉุกเฉินอะไรขึ้น ท่านต้องรีบใช้อุปกรณ์เวทย์สื่อสารติดต่อมาหาข้าทันที..ข้าจะรีบกลับมาฆ่าพวกมันให้หมด”
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆ เจ้าเป็นห่วงข้าเกินไปแล้ว..ทําไมจะต้องไปฆ่าใครด้วยล่ะ? อย่ากังวลมากไปเลย ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”
คาร์ลขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินความเห็นอันโหดร้ายของฮันนาห์ จากนั้นเขาก็สบตาเข้ากับเธอพอดี เธอส่งยิ้มให้คาร์ลราวกับพอใจในอะไรบางอย่าง
“ขอบคุณท่านมาก..ข้าคันไม้คันมือมาหลายวันแล้ว”
“คันอะไรนะ?”
คาร์ลอยากจะถามย้ําเพื่อความแน่ใจแต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ทําเช่นนั้น เขาหันไปส่งสัญญาณให้กับอูฮาเป็นที่กําลังเปิดใช้งานวงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารอยู่เงียบๆ
มันเป็นวงเวทย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อที่จะให้เคลื่อนย้ายข้ามทวีปได้
นอกจากนี้ยังมีมนตราเปลี่ยนภาษาเพื่อให้พวกเขาใช้ภาษากลางของทวีปตะวันออกได้ มันเป็นมนตราที่ยากและซับซ้อนที่มีแค่มังกรวัยชราเท่านั้นที่จะทําได้
วงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารเริ่มสั่นสะเทือน
“เดินทางปลอดภัยล่ะ”
“พวกท่านกลับมาเร็วๆนะ!”
ในขณะที่เคจและแจ็คกล่าวคําลา วงเวทย์ก็ปกคลุมไปทั่วร่างของคาร์ลและสมาชิกในกลุ่มพอดี
“ตอนที่เราเดินทางไปถึงก็น่าจะเป็นช่วงตึกหรืออาจจะใกล้เช้าพอดี”
คาร์ลได้ยินสิ่งที่อูฮาเป็นบอกก่อนจะค่อยๆหลับตาลง เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง
“พระอาทิตย์กําลังขึ้น”
คาร์ลกําลังมองไปที่ท้องฟ้าเช่นกัน ฟ้าใกล้สางแล้ว อาจมีคนตื่นขึ้นมาทํากิจวัตรประจําวันแล้วก็เป็นได้
คาร์ลถอนสายตากลับมาและมองเห็นเสาหินขนาดใหญ่
มีโซ่เงินที่ขาดออกเป็นเสี่ยงๆและผ้าที่ดูเหมือนกับเครื่องรางของขลังถูกฉีดขาด มันถูกรวมเอาไว้ด้วยกัน และกองไว้อยู่ข้างๆเสาหิน
“ให้ตายเถอะ”
คาร์ลสบถให้กับภาพที่เห็น จากนั้นก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง
“พวกเจ้าเป็นใคร?!”
คาร์ลหันศีรษะของตนกลับมาและมองไปด้านล่างของหุบเขา มีบ้านมากกว่า 10หลังคาเรือนตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา มีคนทยอยเดินเข้าและออกจากบ้านเหล่านั้นเป็นระยะๆแม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่ก็ตาม
นอกจากนี้คาร์ลยังมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ถือขวานและอาวุธครบมือมุ่งหน้ามายังจุดที่กลุ่มของพวกเขายืนอยู่
คาร์ลสบตากับพวกเขาทันที
“พ…พวกเจ้าเป็นใครกัน?”
คาร์ลสํารวจเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ มันเป็นชุดที่ทํามาจากขนสัตว์และหนังสัตว์ มีคันธนูที่ทําขึ้นมาเองเหน็บอยู่ทางด้านหลัง ในมือก็พากันถือดาบและขวานที่ดูแล้วน่าจะที่อไม่น้อย พวกเขามีกันทั้งหมด 5 คน
“อ่า”
ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นโจรภูเขา
แน่นอนว่าคาร์ลอาศัยประสบการณ์จากการอ่านนิยายแฟนตาซีมาหลายปี ส่วนคนอื่นๆอาจเคยเห็นโจรภูเขาผ่านตาเมื่อครั้งเดินทางไปยังเมืองหลวง อูฮาเป็นเอ่ยขึ้นในเวลานั้น
“ดูเหมือนพวกเขาจะอาศัยอยู่ในภูเขาลูกนี้”
ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยไม้ป่าและถูกคนส่วนหนึ่งยึดครองเอาไว้ มันเป็นสถานที่ที่ใช้รวบรวมสิ่งต่างๆ ที่ได้มาจากการปล้นสะดม
ผู้คนที่พากันเดินเข้าและออกบ้านนับสิบๆหลังคือโจรภูเขา คาร์ลเข้าใจแล้วว่าทําไมอูฮาเป็นถึงบ่นให้กับชะตาชีวิตของตนเอง
คาร์ลมองไปที่ด้านหลังของตนอีกครั้ง
เสาหินขนาดใหญ่ยังตั้งอยู่ที่เดิมและมันกําลังถูกหลอมให้เป็นรูปปั้น แม้ว่ามันจะเสร็จไปแค่บางส่วนแต่คาร์ล ก็พอเดาได้คร่าวๆว่ามันเป็นรูปปั้นของโจรภูเขาน่าตาน่าเกลียดที่ถือขวานเอาไว้ในมือ
สมาชิกโจรที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือลูกสมุนและรูปปั้นที่ยังไม่เสร็จดีนักคือหัวหน้าของพวกเขา
มันเป็นการอนุมานเพียงง่ายๆเท่านั้น
คาร์ลได้ยินโจรภูเขาพูดขึ้น
“ทําไมตาแก่กับพวกหน้าโง่เหล่านี้ถึงโผล่มาที่นี่ได้?”
“พวกเจ้ากล้าบุกรุกอาณาเขตของท่านหัวหน้าผู้ไร้พ่ายได้อย่างไร?”
อูฮาเป็นเอ่ยสําทับขึ้นมา
“ชื่อผู้นําของพวกเขาคงจะเป็นหัวหน้าผู้ไร้พ่าย”
คาร์ลถอนหายใจยาว ทําไมจะต้องมีคําว่าไร้พ่ายด้วยนะ? เขาเบื่อกับชื่อนี้เต็มที่แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้อาจจะดูดีกว่าเล็กน้อย
“รอน”
“ขอรับนายน้อย”
“ในฐานะที่เจ้าเป็นคนจากทวีปตะวันออก..สัญชาตญาณของเจ้าบอกว่าพวกเขาคือโจรภูเขาใช่หรือไม่?”
“เป็นเช่นนั้นขอรับนายน้อย”
คาร์ลหันไปมองบารอค
ถุงมือสีขาวอย่างเตรียมพร้อม ทันทีที่สบตาเข้าหากันบารอคก็เอ่ยถามอย่างมัน
“ให้กระผมจัดการเลยหรือไม่?”
คาร์ลหันไปมองอีกทางหนึ่งก็เห็นว่าฮันนาห์กําลังชักดาบของตนออกจากฝัก ออน ฮงและราอนที่ใช้เวทย์ล่องหนอําพรางกายก็กําลังยุ่งอยู่กับการสังเกตทิวทัศน์โดยรอบ ราวกับว่าการสนทนาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสําคัญสําหรับพวกมัน
คาร์ลหันกลับไปมองกลุ่มโจรอีกครั้ง เขาไม่อยากเห็นเลือดใครในตอนนี้ เขาไม่ต้องการมาฆ่าใครและไม่อยากเห็นใครบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามเขามีข้อมูลเกี่ยวกับทวีปตะวันออกน้อยมากและมันก็ไม่ใช่ข้อมูลล่าสุดอีกด้วย
“บารอค..ถอดถุงมือของเจ้าออกซะ..รอน..ฮันนาห์”
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้เขาก็ควรลงมือปล้นพวกเขาซะ
คาร์ลเหลือบมองไปที่กลางหุบเขาอีกครั้ง ในเมื่อมีเพื่อนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาทักทาย เขาก็ควรยอมรับการต้อนรับจากพวกเขาโดยดี
“เรามาทําอะไรที่มันง่ายๆกันเถอะ”
คาร์ลส่งยิ้มสดใสไปให้กลุ่มโจร
“สวัสดี..สหาย”
ที่นี่ไม่มีใครที่รู้จักเขาและเขาก็ไม่รู้จักใคร คาร์ลวางแผนที่จะเก็บกวาดให้สะอาด
การใช้ประโยชน์จากกลุ่มโจรเหล่านี้ถือเป็นขั้นตอนแรกที่เขาจะลงมือทํา