ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 228.1
บทที่ 228 แต่ที่นี่จะสบายกว่ามั้ย? 2 (1)
มุมปากของคาร์ลค่อยๆกระตุกขึ้น
– มนุษย์! เจ้ายิ้มแบบนั้นอีกแล้วนะ!
“รอยยิ้มของเขาดูแปลกๆ!”
“เขาชอบยิ้มแบบนี้เวลามีเรื่องให้ตื่นเต้น!”
ราอน ฮงและออนพากันเอ่ยขึ้นทีละคนๆ อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อย
ปัดไปัดไปัด!
บารอคปัดฝุ่นออกจากถุงมือสีขาวของตน มีฝุ่นเกาะอยู่ไม่มากแต่ทุกครั้งที่เสียงปัดฝุ่นหนักๆดังขึ้น โจรทั้งห้าก็พากันหน้าถอดสีก่อนจะเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขา
อย่างไรก็ตามโจรทั้งห้าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเลือดตกยางออก
“ฮิฮิฮิ!!”
รอนหัวเราะเสียงเหี้ยมก่อนจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อให้พวกเขาหายใจกันลําบากอีกครั้ง
“…ข้าชักคันไม้คันมืออยากจะสู้เสียแล้วสิ”
ต้นไม้ประมาณ 2-3 ต้นที่อยู่ไม่ไกลนักค่อยๆโค่นลงจากฝีมือของฮันนาห์ซึ่งดูเผินๆเหมือนเธอไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิด บารอคกําลังยุ่งอยู่กับการปัดฝุ่นออกจากถุงมือและเสื้อผ้าของเขาจากสิ่งที่เกิดจากฝีมือของฮันนาห์
แน่นอนว่าเป็นเพราะออร่าสีทองและควันสีดําของฮันนาห์ทําให้โจรทั้งห้ารู้สึกหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือด
บารอคหันไปถามคาร์ลเมื่อมั่นใจว่าฝุ่นที่ปลิวมาเกาะตนหลุดออกไปแล้ว
“แล้วเราต้องทําอย่างไรหรือขอรับ? หรือให้ทรมานพวกเขา?”
เฮือก!
โจรทั้งห้าที่ยังนั่งคุกเข่าพากันสะดุ้งโหยง
อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่มีความคิดที่จะฟังสิ่งที่พ่อครัวจอมโหดคนนี้พูด
เขารู้สึกแย่กับโจรที่
จะหวาดกลัวพวกเขาไม่น้อย แม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกกลัวหากต้องมาเป็นศัตร กับฮันนาห์ รอนและบารอค การร่วมมือของพวกเขาทั้งสามชวนขนหัวลุกยิ่งนัก
คาร์ลยืนพิงโขดหินที่อยู่ใกล้ๆ เขาแต้มยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าและหันไปเอ่ยกับโจรทั้งห้า
“ไม่ต้องกลัวไป”
โจรทั้งห้ารีบหันหลังให้คาร์ลทันที สายตาของพวกเขาเอาแต่จ้องไปที่พื้นดิน
“ทําไมพวกเจ้าถึงไม่มองข้าล่ะ? ข้าไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้นหรอกนะ เราคงคุยกันไม่ได้หรอกถ้าพวกเจ้าเอา แต่หลบข้าเช่นนี้…จริงอย่างที่ข้าพูดหรือไม่?”
อูฮาเป็นอุตส่าห์ใช้เวทย์แปลงภาษาให้กับพวกเขาทั้งที เขาก็ควรใช้งานให้มันคุ้มค่าจะได้ไม่นึกเสียดายทีหลัง
ดวงตาของโจรทั้งห้าสั่นระริกเมื่อพวกเขาค่อยๆหันกลับมา พวกเขามองเห็นชายผมแดงกําลังส่งยิ้มให้กับพวกเขาอยู่
“ใครบอกว่าเขาไม่น่ากลัว? เขาน่ากลัวที่สุดต่างหากล่ะ!
สมุนโจรกลุ่มนี้ตั้งแต่ที่ยึดอาชีพโจรเลี้ยงชีพมาราวๆหนึ่งปีก็มีโอกาสได้เห็นคนเก่งๆมามากมาย แต่กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึงได้ หัวหน้ากลุ่มของยอดฝีมือเหล่านี้คือชายผมแดงที่กําลังส่งยิ้มให้พวกเขาอยู่ การได้มาเผชิญหน้ากับคนกลุ่มนี้ทําให้สมุนโจรรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเทียนกลางสายฝน
คาร์ลมองไปยังโจรที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลาง
“เจ้า”
เขาชี้ไปที่โจรผู้นั้น
“ข..ขอรับ?”
“จงตอบคําถามข้ามา”
“ข้า..ข้าไม่อยากตอบ..ถ้าข้าตอบคําถามไม่ถูกใจเขา..เกรงว่าจะถูกเขาฆ่าได้ง่ายๆ
โจรที่คาร์ลเป็นคนเลือกเริ่มตอบตะกุกตะกัก
“ข..ข้าน้อยหรือขอรับ? ให้คนอื่นตอบจะดีกว่าหรือไม่? ข้าเพิ่งมาเป็นโจรได้แค่ปีเดียวเลยไม่รู้อะไรมากนัก!”
สายตาของโจรดูสิ้นหวังเมื่อเห็นว่าคาร์ลแค่เบี่ยงสายตาไปด้านข้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ก็ข้าพอใจที่จะถามเจ้า ทําไม? เจ้าไม่ชอบที่จะให้ข้าถาม?”
แม้ว่าคาร์ลจะถามกลับไปเช่นนั้นแต่เขาก็ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ มีโจรอยู่ตั้งห้าคนเขาจึงมีตัวเลือกให้ถามอีกเยอะแยะ
“ป..เปล่าขอรับ! เชิญถามมาได้เลยขอรับ!”
คาร์ลรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นโจรที่นั่งคุกเข่าอยู่กัมตัวลงเพื่อหมอบคํานับให้กับเขา อย่างไรก็ตามคาร์ลแค่เลือกถามต่อไปเมื่อเห็นว่าโจรผู้นี้ตั้งใจที่จะตอบคําถามของตน อูฮาเป็นได้รายงานให้เขาฟังแล้วว่าภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ส่วนใดของทวีปตะวันออกทําให้เขาเลือกที่จะถามอย่างอื่นแทน
“ไหนลองบอกเรื่องเลวๆที่พวกเจ้าทําไว้เมื่อเดือนที่แล้วมาสัก 10 ข้อสิ”
“อะไรนะ?”
สิ่งนี้ท่านเรียกว่าคําถามอย่างนั้นเหรอ?
ดวงตาของโจรผู้โชคร้ายเริ่มสั่นไหวอีกครั้งเมื่อมองผ่านไหล่คาร์ลไปยังบารอคที่กําลังสวมถุงมือสีขาวคู่ใหม่
เสียงหมดหวังของโจรผู้นี้ดังก้องไปทั่วยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาหินขนาดใหญ่
“ข้อ1! เมื่อสองวันที่แล้วเราเพิ่งปล้นขบวนรถม้าของสมาคมพ่อค้ารายย่อย!”
เขากวาดสายตาไปมองรอบๆและเริ่มพูดต่อ
“ข้อ2 ! เมื่อเดือนที่แล้วมีนักท่องเที่ยวผ่านทางมาเป็นจํานวนมาก..เราก็เลยปล้นเงินของพวกเขามาทั้งหมด! พวกเราเชื่อในความเท่าเทียมจึงปล้นทั้งคนรวยและคนจนโดยไม่มีข้อยกเว้น! ข้าน้อยไม่สามารถนับยอดได้ว่า เราปล้นไปทั้งหมดเท่าไหร่เพราะจํานวนมันเยอะมากๆ! ข้อ3! เมื่อใดก็ตามที่ขบวนพ่อค้าผ่านมา..เราจะปล้นเงิน ของพวกเขาทั้งหมด! ไม่ว่าพ่อค้าพวกนั้นจะร้องไห้ฟูมฟายเพียงใด..เราก็จะเอาทุกอย่างจากพวกเขามา!”
“พวกเจ้านี่มันชั่วช้ากว่าข้าเสียอีก!..สมควรที่ข้าจะเอาเลือดหัวพวกเจ้าออกยิ่งนัก
ความเห็นจากผู้หญิงที่ใบหน้าและลําตัวเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นสีดําทําให้มือของโจรสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม สายตาที่หัวหน้าของพวกเขาจ้องมานั้น ทําให้สมุนโจรต้องเอ่ยรายงานการกระทําอันชั่วร้ายของพวกตนให้ครบ 10 ข้อให้ได้
“ข้อ10! เราใช้ท่อนซุงทําลายรถม้าของพ่อค้ารายใหญ่! เราปล้นเงินทุกเหรียญที่อยู่ในรถม้านั่นก่อนจะเอาไปซื้อเหล้าและทําตัวเสเพลไปค่อนอาทิตย์!”
สมุนโจรได้รับคําถามใหม่จากคาร์ลเมื่อเขาเอ่ยข้อที่ 10 จบลง
“แล้วพวกค้ามนุษย์หรือค้าทาสล่ะ?”
โจรรายนี้รีบตอบกลับทันที
“เราไม่ได้ทําขอรับ!”
“ทําไมล่ะ?”
หรือว่าพวกเราควรทําแบบนั้น?
แววตาของโจรสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับในที่สุด
“เป็นเพราะหัวหน้าของเราเคยเป็นทาสมาก่อน”
“อ้อ..
ดวงตาของคาร์ลครึ่มขึ้นอย่างใช้ความคิด
“และนั่นทําให้เราลงมือฆ่าพ่อค้าทาสทุกรายที่เดินทางผ่านภูเขาลูกนี้”
สมุนโจรรู้สึกกลัวเมื่อจู่ๆชายผมแดงตรงหน้าก็ฉีกยิ้มมาให้อีกครั้งทําให้เขารีบอธิบายต่ออย่างรวดเร็ว
“สําหรับทาสที่ถูกจับตัวมา…เอ่อ..พวกเราปล่อยพวกเขาไปหรือไม่ก็ให้พวกเขามารวมกลุ่มกับเรา..ข้าน้อยไม่ได้รายงานเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเพราะมันเป็นสิ่งที่กํากึ่งระหว่างดีหรือเลวขอรับ!”
คาร์ลจ้องไปที่โจรรายนี้และเอ่ยอย่างจงใจ
“ช่างเป็นกลุ่มโจรที่เลวร้ายเสียจริง”
“เอ่อ..แล้วมีโจรที่ไหนเป็นคนดีบ้างล่ะ?
สมุนโจรไม่เข้าใจความคิดของชายตรงหน้าแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามคาร์ลไมได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น
“บอกทุกอย่างเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้และกลุ่มโจรของพวกเจ้าให้ข้าฟังที”
“ข…ขอรับ”
เครั้ง! ซิ้ง! เครั้ง! ซิ้ง!
เสียงคมดาบที่เสียดสีไปกับฝักดาบของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ทําให้สมุนโจรไม่กล้าที่จะเอ่ยปฏิเสธ พระอาทิตย์ยามเช้กําลังส่องแสงร้อนแรงลงบนแผ่นหลังของเขาแต่ความรู้สึกของเขากลับหนาวเหน็บจนอดขนลุกไม่ได้
คาร์ลได้ฟังข้อมูลทั้งหมดก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“สรุปจากสิ่งที่เจ้าบอกมาทั้งหมดคือกลุ่มโจรของเจ้าปกครองภูเขาลูกนี้ซึ่งมีชื่อว่า ภูเขาลีบก.กองโจรของเจ้ามีชื่อว่ากองโจรไร้พ่าย และผู้นําของพวกเจ้ามีนามว่า หัวหน้าผู้ไร้พ่ายเช่นนั้นรึ?”
“ขอรับ!”
“ตั้งชื่อได้แย่จริงๆ”
“..อะไรนะขอรับ?”
คาร์ลเพิกเฉยต่อสีหน้าตกใจของสมุนโจรเมื่อเริ่มคิดบางอย่างอยู่ในหัว
“ภูเขาลีบ” นี่คือชื่อของภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาหินขนาดใหญ่ เขายังจําสิ่งที่อูฮาเป็นบอกไว้ได้
“มันเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปตะวันออก..ข้าไม่มีเหตุจําเป็นให้เดินทางไปยังทวีปตะวันออกมากนัก จึงไม่มีข้อมูลของภูเขาลูกนี้สักเท่าไร..แต่เท่าที่ข้าสังเกตดูคร่าวๆ มันก็เป็นเพียงภูเขาธรรมดาๆลูกหนึ่ง มีทั้งพ่อค้าและนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านไปมาอยู่บ่อยครั้ง
การวิเคราะห์ของอูฮาเป็นทําให้คาร์ลรู้สึกสับสนไม่น้อย
“มันมีบางอย่างแปลกๆ
อูฮาเป็นก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน
สถานที่แห่งนี้ไม่อันตรายเท่าป่าแห่งความมืดด้วยซ้ํา แล้วทําไมเสาหินถึงได้มาอยู่ที่ภูเขาลูกนี้กันล่ะ? ข้าไม่เห็นแม้แต่สัตว์ประหลาดสักตัว หากไม่นับว่าภูเขาลูกนี้มีกลุ่มโจรอยู่แล้วล่ะก็ ? มันก็ถือเป็นสถานที่ที่สงบดีที่หนึ่งอ่า…ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก
คาร์ลก็รู้สึกแบบเดียวกัน
โจรสามารถเข้ายึดพื้นที่และออกปล้นคนที่ผ่านทางไปมาได้ก็เพราะภูเขาลูกนี้ไม่มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าพลังศิลาสร้างเสาหินนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดจากทวีปตะวันออกหลุดไปยังทวีปตะวันตกหรอกหรือ?