ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 231.2
บทที่ 231 แต่ที่นี่จะสบายกว่ามั้ย? 5 (2)
คาร์ลพิจารณาแผนที่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลมืดของเมืองลับอัน แม้ว่าแผนที่จะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆแต่ก็ยังมีหลายจุดบนแผนที่ที่ถูกทําเครื่องหมายวงกลมเอาไว้
“วงกลมพวกนี้คืออะไร?”
“เป็นกลุ่มมาเฟียขนาดเล็กที่อยู่บริเวณใกล้เคียงขอรับ”
“อย่างนั้นรึ?”
อดีตหัวหน้าโจรสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าคาร์ลอีกครั้ง
“เอ่อ..พ่อเฒ่าที่ข้าน้อยเคยขายของให้เป็นนักเดินทางที่ท่องไปยังเมืองต่างๆตลอดชั่วอายุของเขา แผนที่นี้เป็นสิ่งที่ข้าน้อยได้จากพ่อเฒ่าคนนั้นเมื่อนานมาแล้ว”
“นานมาแล้ว?”
“ขอรับ น่าจะสักประมาณ 6 เดือนที่แล้วได้ ตอนนี้ดูเหมือนอิทธิพลของพวกอาร์มจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยขอรับ”
ปึก ปึก!
คาร์ลเคาะนิ้วของตนลงบนแผนที่
“เจ้าคงต้องการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะควบคุมพวกมาเฟียให้ได้สินะ?”
“ถูกต้องขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาลองตั้งสมมุติฐานกันดูดีกว่า……..”
สายตาของคาร์ลมุ่งไปที่รอน
“จะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองลีบอัน ถ้าอาร์มสามารถควบคุมตลาดมีดของเมืองลีบอันได้ทั้งหมด?”
“กลุ่มมาเฟียทั้งหมดก็จะกลายเป็นลูกน้องของพวกเขา ดังนั้นอิทธิพลของพวกอาร์มก็จะขึ้นมาเทียบเท่ากับกลุ่มพ่อค้าและกลุ่มทหารรับจ้าง”
คาร์ลดูแผนที่ในมือและเริ่มคิด มีเพียงคําสั้นๆหลากหลายคําที่ออกมาจากปากของคาร์ล
“…เจ้าเมือง…ทหารรับจ้าง..พ่อค้า..สัตว์ประหลาด..เจ้าเมืองของเมืองอื่นๆ…”
อูฮาเป็นสายศีรษะน้อยๆเมื่อได้ยินคาร์ลเอ่ยคําว่า “เจ้าเมืองถึงสองครั้ง มนุษย์ผู้โชคร้ายกําลังจะทําให้ชีวิตตัวเองสั่นคลอนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อฟังดูแล้วครั้งนี้จะไม่ใช่ชีวิตของคาร์ลที่เป็นฝ่ายสั่นคลอนแต่เป็นชีวิตของคนอื่นต่างหาก อูฮาเป็นมองดูใบหน้าซีดเผือดของอดีตหัวหน้าโจรรวมไปถึงสีหน้าว่างเปล่าของรอน
คาร์ลเริ่มพูดในขณะนั้น
“ตําแหน่งท่านเจ้าเมืองมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่ไหน?”
“เอ่อ..ท่านอยากรู้ไปทําไมหรือขอรับ?”
“แล้วคําตอบคืออะไรล่ะ?”
อดีตหัวหน้าโจรลังเลเมื่อเห็นสายตาที่ค้านคั้นเอาคําตอบจากตนก่อนจะเอ่ยตอบในที่สุด
“เป็นเรื่องตลกยิ่งนักขอรับเพราะมันเหลือเวลาอีกประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ!”
“…โอ้”
แม้ว่าคาร์ลจะอ้าปากค้างเพราะตกใจกับเวลาที่กระชั้นชิดแต่แววตาของเขากลับเริ่มเป็นประกาย อดีตหัวหน้าโจรรู้สึกหงุดหงิดกับสมองที่แล่นไม่ทันของตนและรีบหลบสายตาจากคาร์ล แน่นอนว่าคาร์ลไม่ได้มองไปที่อดีตหัวหน้าโจร
คาร์ลกําลังวางแผนในใจอย่างรวดเร็ว
“หากฉันต้องการจับพวกอาร์มให้ได้..ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเขย่ารากฐานของพวกมันที่อยู่ในทวีปตะวันออกเสียก่อน จุดเริ่มต้นถือเป็นสิ่งสําคัญที่สุดจะอาศัยเพียงแค่จัดการพวกมันในทวีปตะวันตกคงไม่พอ”
นั้นคือเหตุผลที่คาร์ลมายังทวีปตะวันออก
เมืองลีบอัน
คาร์ลมีหลายอย่างที่สามารถทําได้เพราะมันคือเมืองอิสระ มันคือสถานที่ที่ตัวตนของแต่ละบุคคลไม่ใช่เรื่องสําคัญ
ปึก ปึก!
นิ้วของคาร์ลที่เคาะลงบนแผนที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อดีตหัวหน้าโจรเฝ้ามองสิ่งนี้ด้วยความระมัดระวังก่อนจะสบตาเข้ากับคาร์ลพอดี
“ไป”
“ขอรับ?”
“ไปทําสิ่งที่เจ้าต้องทําซะ”
“อ่า..ขอรับ!”
อดีตหัวหน้าโจรในชุดสะอาดสะอ้านโค้งคํานับให้กับคาร์ลก่อนจะลงจากหลังคาไปทันที การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างว่องไวเมื่อเทียบกับขนาดตัวอันใหญ่โตของเขา
ทันทีที่ร่างของอดีตหัวหน้าโจรลับไปจากสายตา คาร์ลก็เริ่มเอ่ยขึ้น
“ท่านอูฮาเบ็น”
“ดูเหมือนข้าจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองลับอันเพิ่มเติมเสียแล้ว”
คาร์ลยังคงทิ้งสายตาไปยังร่างของอูฮาเบ็นผู้ที่รู้ว่าตัวเองจะต้องทําอะไรโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติม
“ท่านจะหาข้อมูลพวกนั้นได้อย่างไร? ข้อมูลที่ท่านต้องการมันจะต้องเก่ามากแน่ๆเพราะมันต้องเริ่มจากช่วงเวลาที่เจ้าของพลังศิลายังคงมีชีวิตอยู่”
มันไม่ง่ายเลยที่จะสืบหาข้อมูลเก่าขนาดนั้นได้ มันเป็นความจริงโดยเฉพาะข้อมูลที่เราต้องมองหาไม่ได้อาศัยเพียงแค่ลายลักษณ์อักษรที่นั่งเทียนเขียนขึ้นมาแต่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
อูฮาเบ็นตอบกลับคาร์ลอย่างไม่ลังเล
“ข้าแค่ต้องไปถามมังกร”
“…ท่านว่าอะไรนะ?”
“อะไรนะ? มังกร?”
ในขณะที่คาร์ลเริ่มตกใจ มังกรน้อยที่ล่องหนอยู่ก็ปรากฏตัวออกมาทันที
“ท่านปู่อูฮาเบ็น! มีมังกรตัวอื่นอีกงั้นรึ?”
“ทําไมเจ้าถึงถามอะไรแบบนี้ล่ะเด็กน้อย เจ้าไม่รู้หรือว่ามีมังกรถึง 10 ตนอยู่ในทวีปตะวันออก”
“ว้าว! ข้าอยากไปเจอมังกรตนอื่น!”
“ไม่ได้”
เสียงที่อูฮาเบ็นใช้ปฏิเสธออกมาดูหนักแน่นและจริงจังยิ่งนัก
“เจ้านั่นมันบ้า”
“..ความบ้าก็ถือเป็นมาตรฐานของมังกรไม่ใช่หรือ?
คาร์ลไม่ได้พูดออกมาเพียงแต่คิดในใจเท่านั้น
“แล้วท่านไปรู้จักเขาได้ยังไง? ท่านปู่ช่างเป็นมังกรที่มีมนุษย์สัมพันธ์ยิ่งนัก!”
มุมปากของอูฮาเบ็นยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ราอนพูด เขาทําเพียงแค่กระแอมออกมาเบาๆโดยไม่ยกยิ้มเต็มใบหน้า
“อะแฮ่ม..เป็นเพราะข้ามีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี”
จากนั้นอูฮาเบ็นก็เลิกคิ้วสูงราวกับกําลังคิดถึงเรื่องราวของมังกรตนนั้นอยู่ เขาพูดต่อทันที
“ข้าเคยปกป้องเขาไว้เมื่อตอนที่เขากําลังผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรก”
“ ปกป้องเขาอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านปู่! ทําไมต้องปกป้องเขาด้วยล่ะในเมื่อเขากําลังจะโตขึ้นแท้ๆ?”
อูฮาเบ็นกลายเป็นฉงนใจทันทีเมื่อได้ยินคําถามของคาร์ลและราอน
“ไม่ใช่ว่าข้าเคยบอกพวกเจ้าไปแล้วหรือว่าข้ากําลังวางแผนให้เจ้าหนูน้อยผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรกภายในถ้ําของข้า?”
“คลับคล้ายคลับคลาว่าท่านจะเคยพูดเอาไว้”
คาร์ลนึกถึงตอนที่อูฮาเบ็นสอนหลายๆเรื่องให้กับราอน
“นั่นก็เพื่อที่ข้าจะสามารถปกป้องเขาได้ ถ้ําของข้าถือเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด อย่างที่เจ้ารู้อยู่แล้วว่ามังกรจะผ่านการเจริญเติบโตทั้งหมด 3 ระยะ”
ในช่วงการเจริญเติบโตในระยะแรก ลักษณะทางกายภาพจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเนื่องจากมันเป็นเพียงพื้นฐานสําหรับการเจริญเติบโตในขั้นต่อไปของมังกร
มังกรจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพในช่วงระยะที่สองและสามตามลําดับ แน่นอนว่าความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“มันจะมีความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อเริ่มเปลี่ยนผ่านการเจริญเติบโต มังกรแต่ละตนจะไม่เหมือนกันทั้งหมด มีการจัดระดับความเจ็บปวดตามความแข็งแกร่งของมังกร หากมังกรตนใดที่จะสามารถพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นได้ในอนาคตจะถือเป็นมังกรที่ได้รับความเจ็บปวดหรือได้รับผลกระทบได้มากที่สุด”
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
คาร์ล ไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ สิ่งที่เขารู้มีเพียงแค่มังกรจะต้องผ่านการเจริญเติบโตทั้งหมด 3 ระยะนิยายเรื่องนี้ ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดทั้งหมดของการเจริญเติบโตของมังกร
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาพิจารณาเรื่องนี้ดูดีๆก็จะเล็งเห็นข้อเท็จจริงตามที่อูฮาเบ็นบอก มันคงเป็นเรื่องแปลกยิ่งนักถ้ามังกรไม่มีปฏิกิริยาใดๆเป็นพิเศษเมื่อพวกเขาต้องโตขึ้นอย่างกะทันหัน
“ข้าคิดว่าเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วแต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้เรื่องนี้สินะ”
“ข้าไม่รู้! แม้ว่าข้าจะเป็นมังกรที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ที่สุดแต่ข้าก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน! แต่ไม่เป็นไรเพราะตอนนี้ข้าได้รู้เรื่องนี้จากท่านปู่แล้ว!”
“เจ้าเด็กน้อย..เจ้านี่มันประหลาดจริงๆ”
อูฮาเบ็นลูบไปที่หัวกลมๆของราอนก่อนจะเอ่ยต่อไป
“มังกรเด็กต้องประสบกับความทุกข์ทรมานเมื่อต้องผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรกเพียงลําพัง..แต่ดูเหมือนเจ้าคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างนั้นเพียงลําพังแล้วล่ะ”
“ข้ารู้! ข้าไม่กังวลเลยสักนิด!”
ไหล่ของราอนขยับขึ้นลงอย่างมั่นใจเมื่อมันเหลือบสายตามองคนอื่นๆในกลุ่ม อูฮาเป็นมองท่าทางของราอน และเริ่มยิ้ม มังกรน้อยตนนี้โตขึ้นแล้วและยังโตขึ้นได้อย่างเหมาะสมที่เดียว
แม้ว่าราอนจะทําตัวไม่เหมือนมังกรแต่เขาก็ยังโตขึ้นเฉกเช่นมังกร
อูฮาเบ็นสบตาเข้ากับมังกรตัวน้อย
“ท่านปู่..ท่านก็ต้องอยู่กับข้าวันนั้นด้วยนะ!”
อูฮาเบ็นหัวเราะออกมาเบาๆ เขาพบว่าการที่เด็กตัวน้อยแสร้งทําเป็นไม่รู้ว่าเวลาของเขาเหลือน้อยเต็มที่ช่างน่ารักยิ่งนัก เขาลูบหัวกลมๆของราอนด้วยน้ําหนักมือที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“เด็กน้อย..เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนที่ยุ่งเพียงใด ธุระของข้าช่างเยอะยิ่งนัก”
เขาคาดว่าราอนจะบ่นให้เขาฟังเหมือนที่เคยๆทํา หากให้พูดตามตรงเขากําลังตั้งตารอดูปฏิกิริยาของเด็กน้อยตนนี้ อย่างไรก็ตามท่าทางของราอนกลับดูแปลกๆ
“…มนุษย์!”
“…ทําไมเจ้าถึงเรียกข้าด้วยน้ําเสียงแบบนั้น?”
คาร์ลที่ทรุดตัวลงนั่งบนหลังคาหันขวับไปมองราอนทันที สีหน้าของเขาดูแปลกๆ เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
ในไม่ช้าเขาก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อจองไปที่อุ้งเท้าของราอน มีอุปกรณ์เวทย์สื่อสารวางอยู่บนนั้น
มันเป็นสายฉุกเฉิน
“มนุษย์! มันเป็นสายจากคนสติไม่ดี!”
“คนสติไม่ดี” มันเป็นสิ่งที่ราอนใช้เรียกแทนอัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์
คาร์ลเดาไม่ออกเลยว่าโคลเปย์ต้องการจะพูดอะไรกับเขา