ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 235.1
บทที่ 235 บางอย่างที่เห็นได้ชัด 4 (1)
“…แต่
มันเกิดขึ้นแบบกะทันหัน
“แต่จู่ๆ..ข้าน้อยก็ไม่สามารถกลายร่างได้ข้าน้อยจําวิธีกลายร่างไม่ได้ ข้าน้อยพยายามที่จะเอาชนะมันและ แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วนแต่…มันกลับจําไม่ได้ สมองข้าน้อยว่างเปล่าไปหมด มันเกิดขึ้นแบบกะทันหันและไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรข้าน้อย–”
“ล็อก มันหยุดทํางานตั้งแต่เมื่อไหร่?!”
แปะ!
ล็อกหยุดพูดเมื่อได้ยินสิ่งที่ราอนเอ่ยถามพร้อมกับแรงหนักๆที่ตบมาที่ไหล่ของตน แววตาของล็อกเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
จู่ๆเขาก็ไม่สามารถกลายร่างได้
ความแข็งแกร่งของเขาก็เริ่มถดถอยลง
ล็อกรู้ว่าสิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นของมัน เขาพอจะรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใดแต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องนี้ออกไปได้เพราะมันจะทําให้เขาดูโง่และไร้ประโยชน์เกินไป
“เจ้าพอจะรู้หรือเปล่าว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!”
ล็อกเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคําถามของราอนอีกครั้ง
ทันใดนั้นคาร์ลก็พูดขึ้น
“ไม่จําเป็น”
ล็อกสะดุ้งก่อนจะมองไปอีกฝั่งของโต๊ะอาหาร
“ข้ามั่นใจว่าสักวันมันจะกลับมา”
“ขอรับ?”
ล็อกเห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยของคาร์ล ล็อกรับรู้ถึงความรู้สึกของคาร์ลผ่านท่าทางและน้ําเสียงของเขา
“ก่อนอื่น..เราต้องทําให้เจ้าอ้วนขึ้นกว่านี้ เจ้าแค่ทําตัวให้ผ่อนคลายและไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น”
“เจ้ามนุษย์พูดถูก! ล็อกเจ้าผอมเกินไปแล้ว!”
ท่าทางของพวกเขาดูผ่อนคลายราวกับเดินทางมาพักผ่อนในช่วงหยุดยาว มันทําให้ล็อกอําและหุบปากของตนอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มพูดตะกุกตะกักออกมา
“..แต่..การต่อสู้กําลังจะมาถึง”
การต่อสู้
มันเป็นคําที่ฟังดูน่ากลัว
“แล้ว?”
อย่างไรก็ตามน้ําเสียงที่ตอบกลับมาฟังดูสงบยิ่งนัก
ความเสียใจจู่โจมเข้าหาล็อกแทบจะทันทีเขาเริ่มพูด
“ตั้งแต่ที่ได้ยินเรื่องสงครามข้าน้อยก็ไม่สามารถกลายร่างได้อีก! อ๊ะ!…”
ไหล่ของล็อกลู่ต่ําลงเมื่อรู้ว่าตัวเองได้เผยข้อเท็จจริงเรื่องนี้ออกไป เขาก้มศีรษะลงและยกมือมาปิดหน้าของตนเอาไว้
เขาจําช่วงเวลาที่ตัวเองไม่สามารถกลายร่างได้ มันเป็นตอนที่โรสลินเล่าถึงการต่อสู้ที่กําลังจะเกิดขึ้น
เมื่อเธอบอกว่าพันธมิตรไร้พ่ายจะมุ่งหน้ามายังอาณาจักรเบร็คเพื่อทําศึกครั้งสุดท้าย หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นราวกับจะกระโดดออกมาข้างนอกจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองไม่สามารถกลายร่างได้อีกต่อไป
“นับตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าพวกเราจะได้ต่อสู้กับข้าศึกบนหุบเขาแห่งความตาย..ข้าน้อยก็ไม่สามารถกลายร่างได้อีก ข้าน้อยควรจะได้ต่อสู้เคียงข้างกับคนอื่นๆแต่ทําไม?!..ทําไมข้าน้อยถึงไม่สามารถกลายร่างได้ทั้งๆที่การต่อสู้กําลังใกล้เข้ามาแล้วแท้ๆ”
น้ําเสียงของล็อกเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หากให้พูดตามตรงตอนนี้เขากําลังนึกดูถูกตัวเองอยู่ ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเขาได้
“ มันเหมือนกับว่าข้าน้อยพยายามเลี่ยงหนีการต่อสู้ราวกับว่าข้าน้อยมันขี้ขลาด ทั้งๆที่ข้าน้อยควรจะแข็งแกร่งและช่วยเหลือทุกคนในการทําศึกครั้งนี้”
ล็อกนึกถึงคําปลอบใจของโรสลินเช่นเดียวกับสีหน้าตกใจของทุกๆคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ความกังวลของพวกเขาที่มีต่อตนทําให้ล็อกนึกเกลียดตัวเองมากขึ้น
“พี่เชวฮัน..พี่โรสลินช่วยชีวิตข้าน้อยและน้องๆเอาไว้”
อาศัยแค่เขาเพียงคนเดียวคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ มีคนจํานวนมากที่คอยชี้นําคนขี้ขลาดและขี้อายอย่างเขาเอาไว้
“นายน้อยคาร์ลยังให้การช่วยเหลือและให้ที่พักพวกเราอีกด้วย ข้าน้อยจะต้องตอบแทนท่าน แต่ทําไมข้าน้อยถึงเป็นเช่นนี้!”
มันทําให้ล็อกรู้สึกเกลียดตัวเอง
เขารู้สึกละอาย
ลืมเรื่องราชาหมาป่าไปซะเพราะตอนนี้เขาเป็นเพียงหมาป่าอ่อนแอเท่านั้น
ล็อกถอนหายใจยาวหลังจากเห็นว่ามือทั้งสองข้างยังคงสั่นเทาเขาได้ยินเสียงของคาร์ลดังขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร
คาร์ลวางซ้อมในมือลงและจ้องไปที่ล็อก
“ล็อก”
ดูเหมือนคาร์ลกําลังบอกให้ล็อกเงยหน้าขึ้นมองเขาเด็กหนุ่มหมาป่าจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้น คาร์ลยอมรับความผิดพลาดของตนและเอ่ยขึ้น
“มีคนจํานวนมากที่อยู่รอบๆตัวเจ้า”
ล็อกไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของคาร์ลมาก่อน
“ข้าทิ้งเจ้าไว้ที่นี่เพียงลําพังก็เพื่อหวังให้เจ้าได้รู้จักกับความเหงาแบบที่หมาป่าควรจะต้องรู้ แต่ข้าไม่ได้ต้องการให้มันกลายเป็นความเจ็บปวด ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ารู้สึกกลัว”
คาร์ลไม่ได้เป็นคนน่ากลัวจนนึกอยากให้เกิดเรื่องไม่ดีกับเด็กๆ คาร์ลคิดว่าล็อกจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะเขาย่อมตระหนักได้ถึงครอบครัวที่กําลังรอเขาอยู่ อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มขี้อายคนนี้ดูเหมือนจะรู้สึกกดดันและเป็นภาระมากกว่าจะรู้สึกเหงา
การสูญเสีย
ในนิยายต้นฉบับ ความตายของเพนดริกเป็นตัวการที่ทําให้ล็อกสามารถกลายร่างได้เป็นครั้งแรกและเป็นใบเบิกทางให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าคาร์ลไม่นึกบ้าระห่ําจนคิดแผนการแบบนั้นกับล็อกได้ถึงอย่างไร ล็อกก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ต้องเป็นคนโรคจิตขนาดไหนที่จะทําร้ายจิตใจเด็กแบบนี้ได้
“ไม่มีเหตุผลที่เจ้าจะต้องรีบ”
“..ท่านคอยช่วยเหลือและไว้ใจในตัวข้าน้อย”
ล็อกเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาจากนั้นเขาก็ชะงักไปเมื่อได้ยินคําถามจากคาร์ล
“แล้วถ้าข้าอ่อนแอ..เจ้าจะทิ้งข้าไปหรือไม่?”
“อะไร?”
มันเป็นคําถามที่น่าเหลือเชื่อ
เขาจะทิ้งนายน้อยคาร์ลไปหรือไม่?
ดวงตาของล็อกเบิกกว้างด้วยความตกใจคาร์ลส่งยิ้มน้อยๆให้กับเขา
“ล็อก..เจ้าไม่คิดทําเช่นนั้นสินะ”
คาร์ลหยิบล้อมขึ้นมาอีกครั้ง
“ดังนั้นไม่ต้องถามอะไรอีกแค่ทานให้อิ่มก็พอ”
ไม่ต้องถามอะไรอีกไม่ต้องพูดอะไรที่มันบั่นทอนจิตใจตัวเองอีกต่อไป
ล็อกถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ถ้าเจ้าต้องการที่จะตอบแทนความไว้วางใจที่ข้ามีให้เจ้าแล้วล่ะก็…เจ้าต้องแสดงให้ข้าเห็นก่อนว่าเจ้ามีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงใดจากนั้นก็แค่คอยเฝ้าดู…เพื่อนๆของเจ้า..ไม่สิ? ครอบครัวของเจ้าแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าคิด”
ครืด