ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 152 วีรกรรมนักรบตัดข้อมือของบอสเผย!
หวังเสี่ยวปินนิ่งไป “เปิดเซิฟเวอร์ทดสอบเหรอ”
ให้ทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ปัญหาคืออาจจะไม่มีผู้เล่น
เกมเพลงรบโลหิตกำลังจะเจ๊งอยู่รอมร่อ เงินจะโฆษณาก็ไม่มี ผู้เล่นใหม่ก็ไม่มี แถมคะแนนรีวิวเกมก็ไม่ค่อยดีอีก
คนที่ยังเล่นอยู่คือพวกผู้เล่นเก่าที่เล่นมาตั้งแต่ตอนเปิดเกม เรียกได้ว่าจงรักภักดีมาก ทำยังไงก็ไม่มีทางเลิกเล่น
ผู้เล่นเหล่านี้มีตัวละครในเซิฟเวอร์เก่า พวกเขาทุ่มเงินและเวลาไปมากมายกับตัวละครเหล่านี้ ถ้าเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ขึ้นมา ใครจะเข้าไปเล่นกัน
ถึงอย่างนั้นหวังเสี่ยวปินก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเค “ได้เลย แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ”
เกมจะเจ๊งอยู่แล้ว จะเปิดเซิฟเวอร์ใหม่หรือไม่เปิดก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
เยว่จือโจวรีบสร้างตัวละครในเซิฟเวอร์ใหม่แล้วเข้าไปรออยู่เงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา แชแนลโลกในเซิฟเวอร์ใหม่ก็มีผู้เล่นแห่เข้ามากันอย่างคับคั่ง
“พวกเขาเปิดเซิฟใหม่จริงๆ ด้วย!”
“ม่ายยยย! อดส่งข้อความเป็นคนแรกเลย!”
“มีใครตั้งกิลด์รึยัง ++++”
“สหายทั้งหลาย โปรดอ่านข้อความข้า! กิลด์ของพวกข้าอยู่กันอย่างสันติสุข ผูกสัมพันธ์กันด้วยเลือดเนื้อ และนำกลุ่มโดยฝูงวาฬ ไม่มีการรบครั้งไหนที่เรานำชัยมาไม่ได้! พวกข้าอยากช่วยเหลือปู่ย่าตายายที่ล้มลุกคลุกคลาน พวกข้าอ้าแขนต้อนรับและจะคอยพาพวกท่านข้ามถนนเอง!”
“ข้อความเมื่อกี้นี้ก็อปวางของเก่าใช่มั้ย ตอนนี้ไม่มีวาฬแล้ว จะมานำกิลด์ได้ยังไง”
“จะไม่มีสายวาฬได้ยังไง พวกวาฬในกิลด์ฉันออกโรงว่าใครเข้ากิลด์มาจะเปย์ยาเพิ่มพลังให้สิบขวดทุกวัน!”
“สุดยอด! รับผมเข้าด่วนๆ เลย!”
แชแนลโลกเริ่มทยอยเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนเยว่จือโจวไม่สามารถตามทุกแชแนลได้ไหว
“เกมของเรา… ยังมีผู้เล่นเหลือเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
เยว่จือโจวอึ้งไป เขาเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ขึ้นมาเพื่อทดสอบกระแสหลังจากเห็นว่ามีหลายคนเรียกร้อง
แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีคนย้ายมาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่เยอะขนาดนี้!
มากันทำไม นี่ทิ้งตัวละครเก่ากันหมดเลยเหรอ
เยว่จือโจวรู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ เขาไม่ได้เห็นผู้เล่นคึกคักกันแบบนี้มานานแล้ว!
เกมเพลงรบโลหิตเปิดเซิฟเวอร์ใหม่อยู่บ่อยๆ เพราะการเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดของเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย
แต่พวกเขาไม่เคยเห็นผู้เล่นคึกคักกันขนาดนี้มาก่อน!
ระหว่างที่กำลังดูสถานการณ์ เยว่จือโจวคิดจะเข้ากิลด์เพื่อแฝงเข้าไปถามผู้เล่นว่าคิดเห็นยังไงกับตัวเกมเวอร์ชันใหม่
ผ่านไปสักพักเกมก็กระตุก บนหน้าจอมีตัวหนังสือ ‘กำลังคำนวณทรัพยากร’ ปรากฏขึ้น ภาพในเกมแตกละเอียด
แต่ไม่นานเกมก็กลับมาลื่นเหมือนเดิม
เยว่จือโจวกำลังจะหันไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้ยินหวังเสี่ยวปินตะโกนขึ้นก่อน “โห เมื่อกี้คนเข้ามาเล่นเยอะมากจนล้น นี่แห่เข้าเซิฟเวอร์ใหม่จนเต็มเลยเหรอ”
เยว่จือโจวรีบเปิดเช็กหลังบ้านดู
เซิฟเวอร์เก่าที่เปิดให้บริการอยู่โดนทิ้งร้าง ไม่มีผู้เล่นเลยสักคน ส่วนเซิฟเวอร์ใหม่มีคนแห่เข้ามากันจนล้น!
ผู้เล่นใหม่ไม่สามารถเข้าเซิฟเวอร์ได้ ต้องทนรอให้เซิฟเวอร์ว่าง
เยว่จือโจวตะลึงงัน ตั้งแต่ทำงานที่ฉางหยางเกมส์มา เขาไม่เคยเห็นคนต้องรอต่อคิวเพื่อเข้าเซิฟเวอร์เลย!
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าผู้เล่นที่แห่เข้าเซิฟเวอร์ใหม่จนล้นนั้นมาจากเซิฟเวอร์เก่า!
ก่อนหน้านี้ผู้เล่นกระจายกันไปตามเซิฟเวอร์ต่างๆ ที่มีมากกว่าสิบเซิฟเวอร์ ทำให้แต่ละเซิฟเวอร์ดูเงียบเหงา
แต่ตอนนี้ผู้เล่นที่ยังเล่นเกมอยู่แห่เข้ามาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่พร้อมๆ กัน พอมาอยู่รวมกันแบบนี้ก็ทำให้เกมดูคึกคักขึ้นมากทีเดียว
เยว่จือโจวรีบหันไปสั่ง “พี่หวัง รีบเปิดอีกเซิฟเร็วครับ!”
หวังเสี่ยวปินเลื่อนเมาส์อย่างรวดเร็ว “จัดให้เดี๋ยวนี้แหละ ถ้าเซิฟเวอร์ที่สร้างใหม่ที่สุดเต็ม ระบบจะเปิดเซิฟเวอร์ใหม่อัตโนมัติ”
เขากระซิบกับตัวเอง “แปลกจัง พวกผู้เล่นตื่นเต้นกับเซิฟเวอร์ใหม่ขนาดนี้เลยเหรอ ที่เราปรับปรุงตัวเกมไปมีผลจริงเหรอเนี่ย เร็วไปมั้ย”
ทุกคนในทีมออกแบบตื่นเต้นกันใหญ่ หลายคนไม่ได้เล่นเกมเพลงรบโลหิตมานาน พวกเขาพากับสมัครบัญชีผู้ใช้ใหม่เป็นครั้งแรก
“แยกย้ายกันไปสำรวจสถานการณ์แต่ละเซิฟเวอร์
“ถ้าเข้ากิลด์ใหญ่ๆ แล้วไปร่วมวงคุยกับผู้เล่นได้จะดีมาก เช็กดูว่าผู้เล่นสายวาฬกับผู้เล่นทั่วไปคิดเห็นยังไงกับการปรับปรุงตัวเกมใหม่!”
เยว่จือโจวตื่นเต้นมาก เขารีบสั่งให้ทุกคนในทีมออกแบบแฝงตัวเข้าไปในเซิฟเวอร์ใหม่เพื่อสังเกตกระแสตอบรับของผู้เล่นต่อเกมเวอร์ชันใหม่!
หัวหน้าหลิวไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยตอนที่ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์
แค่ดูยอดสถิติต่างๆ ของเกมก็พอแล้ว ไม่เห็นจะต้องแฝงตัวเข้าไปฟังความคิดเห็นเลย
แต่เยว่จือโจวไม่ได้คิดแบบนั้น
เขาคิดมาตลอดว่าหัวหน้าฝ่ายวางแผนต้องลองเล่นเกมของตัวเอง แฝงตัวเข้าไปในหมู่ผู้เล่น ดูว่าแต่ละคนคิดเห็นยังไง
ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนไม่ชอบเกมของตัวเอง ใครหน้าไหนจะมาชอบ
หลังจากเล่นไปได้สักพักก็มีคนชวนเยว่จือโจวเข้ากิลด์ จากนั้นก็ชวนเข้าห้องแชต
พอเข้าห้องแชตไป เขาก็เจอข้อความเด้งเข้ามารัวๆ
“รีบไปหาคนจากแชแนลโลกเร็ว!”
“วันนี้ต้องเลเวลยี่สิบให้ได้ กิลด์เราต้องพร้อมรบให้เร็วที่สุด!”
“นายมีเพื่อนที่เลิกเล่นเกมไปแล้วมั้ย บอกให้รีบกลับมาเล่นเร็ว”
“เดี๋ยวฉันไปถามดูในกลุ่มเก่า จะพยายามหามาให้ได้สักสิบคน พวกนั้นเป็นผู้เล่นเก่าหมดเลย!”
เยว่จือโจวเผลอละสายตาไปแป๊บเดียว ข้อความก็พุ่งทะลุร้อย เขาไม่มีเวลาไปตามไล่อ่านให้ครบทุกข้อความ
ที่ทำให้เยว่จือโจวแปลกใจกว่าเดิมคือ คนกลุ่มนี้คิดจะดึงเพื่อนๆ ที่เลิกเล่นเกมไปนานแล้วให้กลับมาเล่น
เยว่จือโจวไม่เคยเห็นผู้เล่นไฟแรงขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงจะเข้ามาทำงานในฉางหยางเกมส์ช่วงเกมเพลงรบโลหิตกำลังมีกระแส แต่เขาก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน!
เขาเปิดดูกระทู้ต่างๆ ในเว็บบอร์ด
ตอนหัวหน้าหลิวเปิดขายอาวุธราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน มีแต่กระทู้ด่าเต็มไปหมด ผู้เล่นถล่มคอมเมนต์ตรงกระทู้ประกาศจากทางเกมจนมีหน้าคอมเมนต์เป็นร้อยๆ หน้า พวกเขารุมด่ากันอยู่อย่างนั้นไปสองถึงสามสัปดาห์
หลังจากนั้นพอผู้เล่นเริ่มทยอยเลิกเล่นกันไปเรื่อยๆ เว็บบอร์ดก็ค่อยๆ ซบเซาลง แต่กระทู้ใหม่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกระทู้ตำหนิบริษัทแทบทั้งนั้น
แต่หลังจากปล่อยอัปเดตตัวเกมรอบนี้ออกไป เว็บบอร์ดก็ไม่เหมือนเดิมอีก!
ก่อนหน้านี้ทุกวันมีแต่กระทู้ด่าหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่ตอนนี้ไม่เห็นกระทู้แบบนั้นอีก มีแค่กระทู้หากิลด์ เตรียมตัวสำหรับการรบ และแจ้งปัญหาอื่นๆ ที่พบในเกม
เยว่จือโจวอ่านกระทู้ต่างๆ และบทสนทนาในกิลด์อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง เขาเริ่มครุ่นคิดว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ยังไง
“หรือว่า… จะเป็นการชุบชีวิตใหม่”
ในที่สุดเยว่จือโจวก็เข้าใจ
เกมนักรบโลหิตเป็นแม่น้ำที่หยุดนิ่ง หัวหน้าหลิวกับตู้รุ่ยเจี๋ยพยายามทุกวิธีทางเพื่อที่จะทำให้เกมไปต่อได้ แต่ตัวเกมก็เกินเยียวยาแล้ว
ทั้งปัญหาระหว่างผู้เล่นกับทีมงานและปัญหาระหว่างผู้เล่นสายวาฬกับผู้เล่นทั่วไปทะลุจุดเดือดไปไกลจนหาทางแก้ไม่ได้
หลังจากนั้นด้วยเพดานค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้สูง พวกเขาจึงเสียผู้เล่นทั่วไปไปหลายกลุ่ม ผู้เล่นปัจจุบันที่เหลืออยู่ก็เล่นกิจกรรมกิลด์ในเกมไม่ได้ ถึงผู้เล่นสายวาฬจะเติมเยอะแค่ไหน ถ้าไม่มีใครเล่นก็ไม่มีความหมายอะไร
พอผู้เล่นทั่วไปเลิกเล่นไป ผู้เล่นสายวาฬก็เลิกตาม เหลือผู้เล่นเก่ากลุ่มเล็กๆ ที่ยังเล่นอยู่ เกมก็ดิ่งลงเหวทุกวันๆ
แต่ตอนนี้ช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นทั้งหมดถูกตัดทิ้ง เหลือไว้แค่ยาเพิ่มพลัง
การปรับปรุงตัวเกมครั้งนี้เปลี่ยนบรรยากาศในเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือ!
สำหรับบผู้เล่นทั่วไป พอไม่ต้องเติมเงินซื้ออะไรมากมาย พวกเขาก็สามารถกลับมาเล่นได้อีก
ไอเทมที่เคยต้องใช้เงินจริงซื้อก่อนหน้านี้กลายมาเป็นของแจกฟรีหมด
พวกเขามีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นสายวาฬที่สามารถต่อกรกับศัตรูหลายคนด้วยตัวคนเดียวได้ในเซิฟเวอร์ใหม่
ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะย้ายมาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่โดยไม่ลังเล!
แน่นอนว่าก็มีผู้เล่นสายวาฬจำนวนไม่น้อยที่เลิกเล่นเกมไป แต่บอสเผยก็บอกมาแล้วว่าให้ปล่อยพวกเขาไป!
ยิ่งกว่านั้นผู้เล่นสายวาฬก็ไม่ได้เลิกเล่นกันหมด ยังมีบางกลุ่มที่ยังเล่นอยู่
ถึงรายได้จะตกลงไปเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์แต่ผู้เล่นปัจจุบันก็ลืมไปแล้วว่าเกมเคยมีปัญหาอะไร ตอนนี้พวกเขาสามารถเล่นเกมกันได้อย่างสนุกสนานอีกครั้ง!
เยว่จือโจวเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
“บอสเผยรู้จริงๆ ด้วยว่าปัญหาของเกมเพลงรบโลหิตอยู่ตรงไหน บอสรู้ว่าการนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่และการยกเครื่องงานภาพใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ก็เลยบอกให้เราตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกให้หมด!
“นี่มัน… นักรบตัดข้อมือ!
“ยอมตัดยอดขายเพื่อรักษาชื่อเสียงของเกมไว้ นี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้เกมเพลงรบโลหิตไปต่อได้!”
ปัญหาที่ดูเหมือนจะแก้ไม่ตกในตอนแรกกลับแก้ได้อย่างง่ายดายด้วยคำสั่งง่ายๆ ของบอสเผย
เยว่จือโจวรู้สึกเคารพยกย่องบอสเผยอย่างสุดซึ้ง
เขารู้ดีว่านี่เป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น
การปรับปรุงครั้งนี้ช่วยรักษาชื่อเสียงของเกมเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการที่เกมไม่สามารถทำเงินได้เยอะอีกต่อไป!
พอไม่มีผู้เล่นสายวาฬมาคอยเปย์ รายได้ก็หายไปถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์
รายได้ต่อเดือนของเกมเพลงรบโลหิตอยู่ที่สามถึงแสนหยวนก่อนปรับปรุงตัวเกม ตอนนี้หลังจากปรับปรุงตัวเกมไป เยว่จือโจวก็ไม่แน่ใจว่าจะทำเงินได้ถึงแปดหมื่นหยวนต่อเดือนหรือเปล่า
นอกจากนั้นพวกเขายังตัดสินใจไม่เพิ่มช่องทางการเก็บเงินใหม่ๆ เข้าไปในเกม เพราะจะทำให้ผู้เล่นกลับมาสาปส่งตัวเกมอีกรอบได้ ทีนี้ผู้เล่นได้หายไปหมดแน่ แม้แต่บอสเผยก็คงช่วยกู้สถานการณ์ไม่ได้!
เยว่จือโจวรู้สึกเหมือนกำลังเปิดขายสินค้าลดราคากระหน่ำ ถึงจะเรียกกระแสกลับมาได้ แต่จะให้ผลาญเงินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะยาวก็ไม่ได้
“ช่างเถอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากตอนนี้เลย
“คิดว่าบอสเผยจะไม่รู้เหรอว่าจะมีปัญหานี้
“ทุกอย่างน่าจะอยู่ในแผนของบอสเผยแล้ว เราแค่ต้องทำตามคำสั่งบอสอย่างเคร่งครัด แค่นั้นก็น่าจะพอ”
เยว่จือโจวรู้สึกมั่นใจในตัวเองและอนาคตของฉางหยางเกมส์อีกครั้ง!
……………