ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 259 ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเข้าสู่ขั้นสอง!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมองจางหยวน “สภาพการเงินของร้านเราตอนนี้เป็นยังไง”
จางหยวนรีบตอบอย่างภาคภูมิใจ “กำลังไปได้สวยเลยครับ!
“ร้านสาขาหลักมีรายได้ประมาณเจ็ดแสนหยวนต่อเดือน หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะได้กำไรประมาณสองถึงสามแสนหยวนต่อเดือน
“สาขาอื่นๆ แย่กว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าถัวเฉลี่ยกันได้
“สาขาหมิงหยุนวิลล่าขาดทุนเยอะที่สุดในบรรดาสาขาทั้งหมด แต่ช่วงนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น ผมว่าเราน่าจะพลิกกลับมาทำกำไรได้เร็วๆ นี้”
ได้ยินอย่างนั้นเผยเชียนก็รู้สึกปวดใจ
แต่นั่นก็ช่วยยืนยันความคิดของเขา
เผยเชียนถามต่อ “ตอนนี้รายได้หลักของร้านมาจากการขายเครื่องดื่มใช่มั้ย”
จางหยวนพยักหน้า “ใช่ครับ รายได้หลักของร้านมาจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ และทิปนักร้องประจำ รายได้หลักอีกแหล่งคือค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ถึงจะมีคนมาเล่นอินเทอร์เน็ตร้านเราเยอะขึ้น ในภาพรวมก็ไม่ได้ถือว่ามากมายอะไร”
เผยเชียนพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ
“เราต้องขยายสาขา เราจะเปิดสาขาใหม่ในทำเลที่มีค่าเช่าแพงที่สุด!”
คำแนะนำให้ขยายสาขาของหม่าหยางทำให้เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้
เผยเชียนไม่คิดจะเอาเงินไปผลาญกับโปรเจ็กต์ล้มเหลวอย่างร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีก
ตอนนี้ทั้งสาขาหลักและสาขาหมิงหยุนวิลล่ากลายเป็นที่นิยม ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้คะแนนดีบนเว็บฉวนหมินรีวิว เรียกได้ว่ากลายเป็นร้านที่ดังมากๆ ในจิงโจว
พอลูกค้าเริ่มติดใจแบรนด์คุณภาพสูงพวกเขาก็จะจำไปตลอด พอมีสาขาใหม่เปิด คนก็จะเข้าไปใช้บริการ
ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่จึงเป็นผลเสียกับเผยเชียน
ทำไมต้องเปิดสาขาใหม่ด้วยถ้าทำให้ขาดทุนไม่ได้
แต่หลังจากคิดสักพัก เผยเชียนก็นึกปัญหาอีกข้อออก
จากกิจการทั้งหมด นี่เฟิงโลจิสติกส์น่าจะช่วยผลาญเงินได้ดีที่สุด
แต่หม่าหยางเป็นผู้บริหารร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ในเมื่อร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกำลังไปได้สวยและเริ่มทำกำไรได้ ทำไมถึงจะหยุดอยู่แค่นี้ล่ะ
เผยเชียนจะอธิบายเรื่องนี้กับหม่าหยางยังไง
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับใคร เขาเลือกไม่สนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็ได้ถ้าอยากทำ เพราะการปล่อยให้มีกำไรเข้าเดือนละไม่กี่แสนก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรสำหรับเขา
แต่ถ้าเกิดคนนึกสงสัยกันขึ้นมาล่ะ
เพราะมันจะดูแปลกๆ
ดังนั้นเผยเชียนจึงผุดคิดขึ้นได้อีกไอเดียหนึ่ง
การทำกำไรไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้ ยังเหลืออีกเดือนกว่าๆ ก่อนจะถึงวันสรุปบัญชี เขายังผลาญเงินกับนี่เฟิงโลจิสติกส์และการเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาใหม่ได้
ตอนนี้มีสาขาที่ทำกำไรได้บ้างก็ไม่เป็นไร ขอแค่สาขาใหม่ทำกำไรไม่ได้ก็ถือว่าโอเค
ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขาทำกำไรได้ก็เพราะเหตุผลหลักๆ สองข้อ
ข้อแรกคือ รายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายเครื่องดื่มและทิปนักร้องประจำ ตอนนี้ลูกค้าหลายคนมองว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นร้านกาแฟหรือไม่ก็บาร์ ไม่ได้มองว่าเป็นร้านที่เอาไว้เล่นอินเทอร์เน็ต
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออกกับเรื่องนี้
ความตั้งใจเดิมของเขาคือจับทุกอย่างมายัดรวมกัน เพื่อทำให้ทุกคนงงว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือร้านอะไรกันแน่ จะได้ลดโอกาสที่ร้านจะดังขึ้นมา
เขาไม่ได้คิดเลยว่าโซนบาร์กับโซนกาแฟจะขายดีกว่าโซนอินเทอร์เน็ต!
เหมือนคำที่ว่า คนคํานวณ มิสู้ฟ้าลิขิต
ข้อสองคือ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ ต่างอยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้คน ค่าเช่าจึงถูก
เผยเชียนเลือกทำเลเหล่านี้เพื่อซ่อนร้านไว้ในที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ด้วยความหวังที่ว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะไม่กลายเป็นที่รู้จักและพวกไฮโซจะไม่ติดใจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะหาเงินได้ไม่พอกลบรายจ่ายประจำวัน
แต่สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว
ในเมื่อร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่รู้จักไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปตั้งร้านในทำเลห่างไกลผู้คนอีก ไปหาทำเลในแหล่งคนพลุกพล่านที่ค่าเช่าแพงๆ ดีกว่า!
เผยเชียนคิดว่าถ้าเขาแก้ปัญหาสองข้อนี้ได้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะกลับมาขาดทุนเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นคนเราต้องหัดมองมุมกลับปรับมุมมอง
นักร้องประจำทำเงินได้เหรอ งั้นตัดออก!
ค่าเช่าถูกไปเหรอ งั้นหาทำเลแพงๆ!
เผยเชียนคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาทางออกที่สมบูรณ์แบบได้
“ถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าสู่ขั้นที่สองของแผนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกันเลย” เผยเชียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หม่าหยางกับจางหยวนตื่นเต้นขึ้นมาทันที ทั้งสองฟังเผยเชียนอย่างตั้งใจ
ขั้นที่สอง!
ดูเหมือนว่าความพยายามอย่างหนักของเรากับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะส่งผลแล้ว บอสเผยยอมรับพวกเราแล้ว!
เผยเชียนพูดต่อ “พอเข้าสู่ขั้นที่สอง เราจะเน้นสร้างชื่อเสียงให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ขณะเดียวกันเราก็จะเน้นหนักไปที่แก่นหลักที่แท้จริงของกิจการนี้ ซึ่งก็คือร้านอินเทอร์เน็ต”
หม่าหยางงุนงง
จางหยวนเองก็ตะลึงงันไป
ที่บอกว่าจะเน้นแก่นหลักที่แท้จริงของกิจการมันหมายความว่ายังไง
ไม่ใช่ว่าความหลากหลายเป็นจุดขายของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ
ตอนนี้พวกเขาทำเงินจากยอดขายเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากที่สุดนะ!
จางหยวนรอฟังเผยเชียนพูดต่อแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถาม
เผยเชียนหยิบมือถือออกมาเปิดแอปพลิเคชันแผนที่ หลังจากเลื่อนดูสักพัก เขาก็กดปักหมุดห้างใหญ่ๆ ในจิงโจวสองสามแห่ง
“ในขั้นที่สอง เราจะเปิดสาขาใหม่หนึ่งสาขาเพื่อลองตลาด เรื่องทำเล…เราจะเลือกจากห้างพวกนี้
“ที่ของเราอาจไม่กว้างเหมือนที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นให้ลืมเรื่องขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับกาแฟไปได้เลย เพราะเราจะใช้พื้นที่ทั้งหมดวางคอมพิวเตอร์”
ความคิดของเผยเชียนชัดเจนมาก
หลายๆ สาขาทำเงินได้แค่ถึงจุดคุ้มทุน ขนาดสาขาหลักที่ทำรายได้ได้เยอะที่สุดยังทำกำไรได้แค่เดือนละสองถึงสามแสนหยวน
ถ้าเกิดเพิ่มค่าเช่าต่อเดือนไปอีกสามถึงสี่แสนหยวนล่ะ
แบบนั้นก็จะเปลี่ยนจากทำกำไรได้มาเป็นขาดทุน
อีกอย่างรายได้หลักของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาจากยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ รวมถึงทิปนักร้องประจำ
ถ้าสาขาใหม่ตัดนักร้องประจำออก ลูกค้าก็จะให้ทิปไม่ได้ ร้านก็จะไม่ได้ส่วนแบ่งรายได้ตรงนี้
แน่นอนว่าห้าสาขาก่อนหน้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามนี้ ปล่อยให้ดำเนินกิจการต่อไปตามเดิมได้
มีแค่สาขาใหม่ในห้างเท่านั้นที่จะเป็นร้านอินเทอร์เน็ตล้วนๆ
จางหยวนมองดูแผนที่แล้วรู้สึกสับสน “เราจะเปิดสาขาใหม่ตรงนี้จริงๆ เหรอครับบอสเผย”
การเปิดร้านสาขาในห้างช่วยให้มั่นใจว่ามีคนผ่านไปมาเยอะแน่นอน แต่ค่าเช่าก็แพงมากด้วย!
ตอนนี้สาขาส่วนใหญ่จ่ายค่าเช่าที่ประมาณสามถึงสี่หยวนต่อตารางเมตรต่อวัน พื้นที่ขนาดสามพันตารางเมตรก็เท่ากับสามแสนหยวนต่อเดือน
แต่ค่าเช่าที่ในห้างนั้นไม่ได้ถูก!
อย่างน้อยก็เริ่มต้นที่เจ็ดถึงแปดหยวนต่อตารางเมตรต่อวันและอาจจะสูงไปมากกว่านั้น
เท่ากับว่าค่าเช่าจะเพิ่มจากเดิมสองเท่า
ร้านส่วนใหญ่ในห้างเหล่านี้จะเป็นพวกแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า และเครื่องสำอางจากต่างประเทศ เพราะร้านค้าทั่วไปสู้ค่าเช่าราคาแพงขนาดนั้นไม่ไหว
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ได้ทำเงินได้มากมายอะไร ถ้าต้องจ่ายค่าเช่าราคาแพงขนาดนั้นจะต้องขาดทุนแน่ๆ
อีกอย่าง ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานี้จะมีทิศทางคนละแบบกับสาขาก่อนๆ
สาขาก่อนเน้นความหลากหลาย โดยในร้านมีทั้งโซนอินเทอร์เน็ต โซนคาเฟ่ และโซนบาร์
ถ้าสาขาใหม่ใช้โมเดลนี้ อย่างน้อยก็น่าจะทำรายได้ได้จากยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟในห้าง
แต่บอสเผยแนะนำว่าแผนขั้นที่สองของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะเน้นเรื่องแก่นหลักของกิจการนี้ ซึ่งก็คือร้านอินเทอร์เน็ต หมายความว่าสาขาใหม่จะให้บริการแค่เรื่องอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
ดูไม่น่าจะไปรอดเลย
ใครจะถ่อไปถึงห้างหรูในเมืองจิงโจวเพื่อเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตกัน
แบบนี้ก็เท่ากับเอาเงินไปละลายแม่น้ำสิ
จางหยวนรู้ว่าอาจจะมีพวกผู้ชายที่ทนรอแฟนช็อปปิ้งไม่ไหว แล้วอยากเล่นเกมระบายความหงุดหงิด
แต่ตอนนี้เรื่องแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่พบเห็นได้ตามปกติอีก
ถึงแฟนจะใจดีอนุญาตให้ไปเล่นเกมแล้วตัวเองไปช็อปปิ้งต่อคนเดียว แต่พวกเขาจะได้เล่นเกมนานเท่าไหร่กันเชียว
ช่วงเช้าอาจจะเล่นได้สักหนึ่งชั่วโมงก่อนไปกินข้าวเที่ยง ถ้าดูหนังเสร็จแล้วแฟนอยากช็อปปิ้งต่อก็น่าจะใช้เวลาอย่างมากแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับบ้านไปกินข้าวเย็น
ดังนั้นพวกเขาก็น่าจะได้เล่นเกมได้อย่างมากแค่ประมาณสองชั่วโมง ในกรณีที่แฟนใจดีอนุญาตให้เล่นได้
คนกลุ่มนี้น่าจะสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมได้ไม่เต็มที่ แถมทางร้านยังได้เงินจากพวกเขาไม่มากด้วย
ถ้าคิดตามนี้ โอกาสที่ร้านจะหาเงินคืนทุนได้นั้นเป็นไปได้น้อยมาก
เว้นเสียแต่ว่า…จะขึ้นราคา!
จางหยวนรีบถาม “บอสเผยครับ เราขึ้นราคาสาขาใหม่ดีมั้ยครับ อาจจะเก็บสักยี่สิบหยวนต่อชั่วโมง”
เผยเชียนส่ายหน้าทันที “ไม่ ราคามาตรฐานของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือสิบหยวน เราจะไม่ขึ้นราคาตามใจชอบ”
จางหยวน “…”
ตอนนั้นเองหม่าหยางที่เงียบมาตลอดก็ยกนิ้วโป้งขึ้น “เยี่ยมเลยพี่เชียน! ไอเดียดีมาก
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสร้างชื่อให้ตัวเองได้แล้ว จะมัวเช่าแต่ทำเลร้างผู้คนแบบนี้ก็ไม่ดี ถ้าอยากเป็นที่รู้จักขึ้นอีกก็ต้องย้ายไปห้างนั่นแหละ!
“จากนั้นเราก็จะยกระดับแบรนด์เราให้เหมือนพวกแบรนด์เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับของต่างประเทศ ผลลัพธ์ที่ได้ต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ!”
เผยเชียนกับหม่าหยางตบมือกัน “คิดเหมือนกันเลย!”
จางหยวน “…”
เห็นจางหยวนยังดูงุนงง หม่าหยางก็ยิ้มให้ “ในระยะสั้นจะขาดทุนเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญหรอกพี่
“เป้าหมายระยะยาวคือสร้างชื่อให้แบรนด์ของเรา
“ดูร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักสิ ตอนแรกขาดทุนหนักเลยไม่ใช่เหรอ สักพักเราก็ค่อยๆ สร้างรายได้แล้วพลิกกลับมาทำกำไร ตอนนี้ไปได้สวยเลยเห็นมั้ย!
“ดูคอมเมนต์ที่คนพูดถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูในฉวนหมินรีวิวสิ มีแต่คอมเมนต์ด้านบวก เรียกว่าอะไรนะ ผลลัพธ์จากความยากลำบากของเราไง เราอดทนสร้างชื่อให้กับตัวเองและตอนนี้ก็ได้ผลตอบแทนนั้นแล้ว!
“พี่เข้าใจที่ผมพูดรึเปล่า”
เผยเชียน “…”
ไอ้หม่าแย่งพูดหมดเลย!
แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เผยเชียนพูดเรื่องนี้กับหม่าหยางมาสี่ห้าครั้งแล้ว ถึงจะหัวทึบ แต่การล้างสมองซ้ำๆ ทำให้เรื่องนี้ฝังลงหัวหม่าหยาง
แม้จะโดนแย่งสิ่งที่ตั้งใจจะพูดไปหมด แต่เผยเชียนก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร เขากลับรู้สึกสบายใจด้วยซ้ำ
ไอ้หม่าเข้าใจความคิดฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
ถ้าพนักงานทุกคนเข้าใจฉันเหมือนไอ้หม่า ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งกังวลและหนักใจแบบนี้
หลังจากสั่งงานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เผยเชียนก็มอบหมายให้หม่าหยางจัดการเรื่องเปิดสาขาใหม่
พอคิดว่าสาขาใหม่จะขาดทุนได้ เผยเชียนก็ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนพลาดไปแล้ว แต่ยังพอคุมสถานการณ์ได้อยู่ ขอแค่ผลาญเงินไปกับการเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาใหม่และการเปิดจุดบริการนี่เฟิงเพิ่ม สุดท้ายเขาก็น่าจะทำให้ตัวเองขาดทุนได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร