ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 48 ศึกษาดูงานพร้อมผลาญงบประมาณ
เดือนนี้ เผยเชียนพยายามอย่างสุดความสามารถในการผลาญเงิน
เขาแบ่งรายจ่ายค่าทรัพยากรงานภาพออกเป็นสองงวด งวดแรกจ่ายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนงวดที่สองจ่ายสัปดาห์นี้
ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานก็จ่ายไปแล้ว
เงินเดือนและค่าล่วงเวลาของพนักงานก็จ่ายแล้วเช่นกัน
ยังมีรายจ่ายอื่นๆ อยู่อีก
เผยเชียนผลาญเงินทุนระบบเกือบทั้งหมดไปอย่างบ้าคลั่ง
แต่ทุกอย่างยังไม่จบ
เหลืออีกสองเดือนจนกว่าจะถึงวันสรุปบัญชีครั้งต่อไป
ตลอดสองเดือนที่ว่า เกมแม่ทัพผียังทำเงินเข้าเงินทุนระบบอย่างต่อเนื่อง นอกจากรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือนอย่างค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและเงินเดือนพนักงานแล้ว เผยเชียนต้องคิดหาทางเสียเงินอื่นเพิ่ม!
ชายหนุ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“การผลาญงบประมาณต้องใช้หัวคิดจริงๆ”
“ทำยังไงถึงจะผลาญงบได้ดีที่สุดกันนะ”
“อืม…สัมมนาเหรอ”
“ใช่แล้ว สัมมนา!”
จู่ๆ เผยเชียนก็นึกอะไรดีๆ ออก
คงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะใช้เงินทุนระบบจัดงานสัมมนาใช่ไหม
พวกเขาสามารถหาร้านอาหารหรูๆ กินกันสามสิบคน หัวละหนึ่งร้อยหยวน แค่นี้ก็ผลาญเงินไปได้ทันทีหลายพันหยวนแล้ว!
ไม่สิ ไม่ได้
ไม่กี่พันหยวนมันน้อยเกินไป
เผยเชียนคิดเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าตนคิดตื้นไป เขาควรให้เลขาซินช่วยจัดการเรื่องนี้
เขาเรียกซินไห่ลู่ให้มาหาที่ห้องทำงาน
“เราจะจัดงานสัมมนาให้พนักงานปลายเดือนนี้ คุณช่วยจัดการเรื่องกำหนดการที” เผยเชียนสั่ง
“ได้ค่ะ ขอทราบรายละเอียดด้วยค่ะ”
เลขาซินเป็นคนฉลาด เธอไม่มีวันนึกคลางแคลงใจคำสั่งของเผยเชียน ที่เธอทำมีแค่ขอรายละเอียดเพิ่มเติมว่าอยากได้แบบไหนเท่านั้น
เผยเชียนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมกะว่าจะพาพนักงานไป…ใช่ ไปกว่างโจว! เราจะไปเที่ยวพร้อมศึกษาดูงาน! ไม่ไปกันนานหรอก ห้าวันน่าจะพอ”
ตอนแรกชายหนุ่มเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน
ถ้าคิดจะไปต่างประเทศ พวกเขาก็ต้องขอวีซ่า แล้วก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่ที่จะไป
ถ้าเป็นภายในประเทศ บริษัทเกมส่วนมากมักตั้งรวมกันอยู่ที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว เผยเชียนคิดถึงจุดนี้และตัดสินใจได้ว่ากว่างโจวอยู่ไกลสุด ค่าตั๋วเครื่องบินไปกว่างโจวน่าจะแพงที่สุด!
ระบบไม่ได้แจ้งเตือนอะไร
เผยเชียนรู้สึกเบิกบานขึ้นมาในใจ เขาเริ่มอ่านระบบออกได้มากขึ้น!
ชายหนุ่มบอกว่าจะไปสัมมนาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฟังดูมีเหตุผล
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องไปศึกษาดูงานจากบริษัทเกมหลายๆ บริษัทด้วย…อย่าถามเลยดีกว่า! คำตอบก็คือไปเรียนรู้ประสบการณ์ของบริษัทเกมที่ประสบความสำเร็จไง!
“ห้าวัน เราจะไปดูงานบริษัทละวัน เลขาซิน อย่าลืมประสานงานกับทางนู้นไว้ก่อนด้วย พอไปถึง เราจะได้เลี้ยงข้าวพวกนักออกแบบ ไม่ก็พวกประธานบริษัทด้วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“จะดีมากถ้าได้บริษัทที่สร้างพวกเกมฟอร์มใหญ่ ได้บริษัทที่สร้างเกมแนว FPS จะเป็นประโยชน์กับพวกเรามาก”
“เวลาที่เหลือจากนั้นก็ปล่อยอิสระให้ทุกคนได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหาร พวกเขาจะได้ทำงานได้ดีขึ้น”
“ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ทางบริษัทจะออกให้หมด!”
“จัดการเรื่องกำหนดการมา แล้วก็รายงานงบประมาณคร่าวๆ ให้ผมทราบด้วย”
เผยเชียนแจงรายละเอียดทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ บอสเผย เดี๋ยวดิฉันแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกทีนะคะ” เลขาซินเป็นคนพึ่งพาได้เหมือนอย่างเคย
เผยเชียนไม่กล้าพาพนักงานไปหลายวัน เพราะกลัวว่าระบบจะเตือนเอาได้ถ้าสนุกสนานกันมากเกินไป เพราะอย่างไร นี่ก็เป็นการศึกษาดูงาน ขณะเดียวกัน เขาก็กังวลว่าจะไปกระทบการสร้างเกม ถ้าเผยเชียนปล่อยตัวเกมไม่ทันเวลาและต้องเลื่อนวันสรุปบัญชีออกไปก็จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมาก
เนื่องจากตารางงานเดือนหน้าไม่ได้ยุ่งอะไรมาก เผยเชียนจึงคิดว่าคงจะดีถ้าได้หยุดงานห้าวัน พาทุกคนไปสนุกสนานพร้อมกับผลาญเงินทุนระบบ
พวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้ผลาญเงินได้หลายหมื่นหยวน!
ถึงจะเหมือนเอาน้ำหนึ่งแก้วไปดับไฟป่า แต่การผลาญเงินไปได้ขนาดนี้กับการจัดสัมมนาก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว!
…
เลขาซินทำงานไวมาก ช่วงบ่ายกำหนดการสัมมนาก็เสร็จเรียบร้อย
เผยเชียนแสนดีใจเมื่อได้รับกำหนดการมา เขาตรวจดูราคา
“ไม่ถึงแสนห้าเหรอ!” เขาค่อนข้างตกใจ
จำนวนที่ว่ามันน้อยกว่าที่คาดเอาไว้
เลขาซินยิ้มอย่างสุภาพ “ทุกอย่างคำนวณตามราคามาตรฐานปัจจุบันค่ะ”
เผยเชียนดูข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียด
เลขาซินทำแผนสำหรับสามสิบคน เพราะอาจจะมีพนักงานบางคนไม่อยากไปไกลถึงกว่างโจว
เผยเชียนไม่บังคับคนพวกนี้ ถึงอย่างไรที่จัดก็เพราะอยากให้สนุกกัน ไม่ใช่สิ อยากให้ได้ศึกษาดูงาน จึงแล้วแต่ความสมัครใจของทุกคน
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอยู่ที่ประมาณสองพันหยวนต่อคน
ค่าที่พักอยู่ที่คนละสามร้อยหยวน ห้องพักสองคนอยู่ที่หกร้อยหยวน
รวมกับค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าจิปาถะอื่นๆ และงบพิเศษสำหรับพนักงาน (ในกรณีที่มีคนอยากไปเกินสามสิบคนจะมาใช้งบนี้) งบรวมทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน
ถึงเผยเชียนจะลองคำนวณดู ตัวเลขก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย
เราบินเฟิร์สคลาสได้ไหมนะ
พอคิดเช่นนั้น ระบบก็แจ้งเตือนทันที
ไม่ได้อยู่แล้ว!
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแค่การสัมมนาธรรมดา ให้พนักงานทุกคนบินเฟิร์สคลาสนั้นล้ำเส้นเกินไป ระบบจึงไม่อนุญาตให้ทำแบบนั้น
ขณะเดียวกัน ค่าที่พักหัวละสามร้อยหยวนนั้นก็พอเสียยิ่งกว่าพอ จะใจกล้าหน้าด้านให้พนักงานพักแยกในห้องหรูๆ ห้องละคนคงไม่ได้แน่นอน
เผยเชียนดูกำหนดการทั้งหมด เขาไม่สามารถหาจุดให้เสียเงินเพิ่มได้เลย…
เห็นอย่างนั้นเขาก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจ
พาพนักงานสามสิบกว่าคนไปกว่างโจวเสียเงินแค่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนเองเหรอ
นี่มันน้อยกว่าที่เผยเชียนคาดไว้…
แน่นอนว่าที่ชายหนุ่มคิดว่าถูกนั้นเป็นเพราะเงินทุนระบบที่มีในปัจจุบัน
ถ้าเฉลี่ยออกมามันจะตกอยู่ประมาณคนละห้าพันหยวน
ถ้าเผยเชียนต้องเสียเงินตัวเองห้าพันหยวนไปกับการเที่ยวกว่างโจวแค่ไม่กี่วัน เขาคงรู้สึกว่าแพงมาก!
“ช่างเถอะ หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนก็ได้ เอางบตามนี้แหละ ช่วยเตรียมทุกอย่างไว้ให้ด้วย” เผยเชียนยื่นกำหนดการกลับไปให้เลขาซิน
เขาไม่กล้าทำอะไรล้ำเส้นเกินไป ถึงจะรู้สึกว่าจำนวนเงินที่จะเสียมันน้อยไป แต่แค่ระบบไม่เตือน เขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากพอแล้ว
…
เผยเชียนวางไว้ว่าจะไปสัมมนาช่วงปลายเดือนธันวาคม
ส่วนหนึ่งก็เพราะอากาศที่นี่จะเริ่มหนาวขึ้น จึงอยากไปหาอากาศอุ่นๆ ที่กว่างโจว
ขณะเดียวกัน ที่กว่างโจวก็มีบริษัทเกมมากมาย มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้อ้างว่าไปเพื่อศึกษาดูงาน
แต่ก็แน่นอนว่า ชายหนุ่มจะต้องเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า เช่น จองตั๋วเครื่องบินและประสานงานกับบริษัทเกมที่นั่น
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่เขาก็ต้องขอข้อมูลส่วนตัวพนักงานไปเพื่อจองตั๋วเครื่องบินและจัดการเรื่องอื่นๆ สุดท้ายข่าวคราวเรื่องนี้ก็กระจายไปทั่วบริษัท
ภายในกลุ่มคนวงในของทีมออกแบบ หลายคนไม่สามารถข่มความตื่นเต้นเอาไว้ได้จึงเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
“เราจะได้ไปดูงานที่กว่างโจวจริงๆ เหรอ”
“ฉันว่าจริง! ฉันได้ยินมาว่าเลขาซินเตรียมจองตั๋วเครื่องบินแล้ว!”
“สวัสดิการบริษัทนี้นี่ยอดไปเลย ไม่เคยเห็นเลยว่าบริษัทเกมไหนจะพาพนักงานไปดูงาน…”
“ใช่ ฉันก็ไม่เคยเห็น…”
“ผมว่าทริปแบบนี้ต้องเสียเงินเยอะแน่ ถ้าเป็นเงินตัวเอง ผมคงไม่ทำอะไรแบบนี้!”
“เราจะไปดูงานบริษัทไหนบ้าง ฉันว่าต้องมีเทียนหัวสตูดิโอ”
“ผมก็ว่างั้น เทียนหัวสตูดิโอดังจะตาย แถมยังเชี่ยวชาญเรื่องเกม FPS เหมาะกับเรามาก”
“โห ฉันเคยฝันอยากไปสตูดิโอเทียนหัวสักครั้งตั้งแต่ก่อนเข้ามาทำงานในวงการนี้อีก”
“เดี๋ยวก็จะได้ไปแล้วนี่ไง เราจะได้เรียนรู้การทำงานของสตูดิโอระดับท็อปด้วย!”
ทีมออกแบบตื่นเต้นกันยกทีม
ส่วนพวกที่เหลืออย่างทีมงานภาพและทีมบริหารจัดการนั้นสนใจเรื่องอื่นกัน
พวกเขากำลังตัดสินใจว่าจะกินอะไร จะไปไหนบ้าง มองว่าเป็นการได้ไปเที่ยวฟรีๆ
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ถึงอย่างไรหลายๆ คนในทีมออกแบบก็เป็นเด็กเสพติดอินเทอร์เน็ตที่ยกย่องสตูดิโอและบริษัทเกมมีชื่อเสียงภายในประเทศ
ส่วนคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้สนใจสตูดิโอเทียนหัวอะไรนั่นเท่าไหร่
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนล้วนตื่นเต้นกับการที่บริษัทจะพาไปเที่ยวฟรีไม่ต่างกัน!
……………………………