ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 622 บอสเผยทำลายวงจรอุบาทว์ของเกมผลรวมศูนย์

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม อู๋ปินกับชุยเกิ่งแวะไปที่สตูดิโอกวงหวงเพื่อพบหร่วนกวางเจี่ยน พวกเขานัดสัมภาษณ์หร่วนกวางเจี่ยนไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์อาจารย์เฉียว แต่การวิเคราะห์และสรุปงานหลังการสัมภาษณ์นั้นกินเวลานานมาก ทำให้ การสัมภาษณ์ล่าช้ามาจนถึงวันนี้ อู๋ปินรู้ดีว่าหร่วนกวางเจี่ยนเป็นทั้งเพื่อนและคู่ค้าทางธุรกิจระยะยาวของบอส เผย เพราะงั้นอีกฝ่ายก็น่าจะมีวิธีตีความบอสเผยในแบบฉบับของตัวเอง หร่วนกวางเจี่ยนเข้าสู่ภวังค์ความคิด “ความประทับใจแรกของผมที่มีต่อบอส เผย…

“น่าจะเป็น ลูกค้าที่วิเศษมากๆ ครับ “จะว่ายังไงดี “ผมเคยเจอลูกค้าบนอินเทอร์เน็ตที่มีปัญหา เช่น…

“ไม่ชัดเจน แต่อยากได้ไปหมดทุกอย่าง หรือ ‘รู้สึกว่าทุกอย่างแปลกๆ’ บาง คนไม่มีคอนเซ็ปต์ในหัวเลยว่าอยากได้งานแบบไหน แล้วก็ไม่สามารถสื่อสาร ออกมาได้ แต่มักจะขอให้ทำอะไรสักอย่างที่แม้แต่พวกเขายังนึกภาพไม่ออก

“แก้งานเพราะแค่อยากให้แก้ ไม่มีคอมเมนต์งานที่เป็นประโยชน์ พอแก้ไปแก้ มา สุดท้ายก็กลับไปที่งานเวอร์ชันแรกสุด

“ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง เอาแต่เร่งงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร่งได้และ ยืดวันจ่ายเงินออกไปให้นานที่สุด แล้วก็ชอบขออะไรที่ไม่สมเหตุสมผลสุดๆ อยู่ บ่อยๆ

“แต่บอสเผยแตกต่างจากลูกค้าคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง

“บอสไม่ระบุสิ่งที่ต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงและไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับงาน ของอีกฝ่าย แต่จะแนะนำแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานด้วยวิธีอื่นเพื่อให้งานและ จุดประสงค์ดั้งเดิมของบอสผสานเข้ากันได้

“บอสเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ให้เวลาและเงินในจำนวนที่มากพอ ไม่ เคยติ ไม่เคยให้แก้ แต่คนที่ร่วมงานด้วยจะได้เงินก้อนโตและตั้งใจทำงานอย่าง เต็มที่เพราะกลัวจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไป

“นอกจากนั้น ในกรณีส่วนใหญ่ งานเวอร์ชันแรกสุดของพวกเรามักเป็นงานที่ ดีที่สุด เพราะมักเป็นช่วงที่เรามีแรงบันดาลใจและพลังงานเต็มเปี่ยม เวอร์ชันแก้ หลังๆ มักจะอยู่ในช่วงที่ล้าทั้งกายและใจจากการโดนลูกค้าเข้ามาวอแว ทำให้งาน ไม่ดีเท่าเวอร์ชันแรกๆ

“ดังนั้นลูกค้ามักจะบอกว่าเอาเวอร์ชันแรก เพราะเวอร์ชันแรกมักจะดีที่สุด

“จุดนี้น่าจะเป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างบอสเผยกับลูกค้าคน อื่นๆ”

อู๋ปินจดทุกอย่างตามพร้อมพยักหน้าเป็นช่วงๆ

“แล้วคุณหร่วนคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้เหรอครับ”

หร่วนกวางเจี่ยนตอบกลับหลังคิดอยู่ครู่ใหญ่ “ผมคิดว่าเหตุผลหลักอยู่ที่ แนวคิด

“ทำไมลูกค้าถึงชอบให้แก้งานซ้ำๆ ล่ะ ผมคิดว่าปัญหาใหญ่สุดคือความ ขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามธรรมชาติระหว่างทั้งสองฝ่าย และพื้นฐานความ เชื่อมั่นระหว่างกันอยู่ในจุดย่ำแย่ เพราะงั้นลูกค้ากับผู้รับงานส่วนใหญ่จึงมองการ ร่วมมือนี้เป็นเกมผลรวมศูนย์

“ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีความรับผิดชอบบางคนอาจจะคิดว่าตัวเองควรโกงเอาเงินให้ ได้มากที่สุดและทำงานส่งๆ ออกมาให้ลูกค้า ถ้าลูกค้าไม่ติอะไรก็จะได้เงินมาง่ายๆ ประหยัดทั้งแรงและเวลา ถ้าลูกค้าอยากแก้ ก็แก้ได้ง่ายกว่าการเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ ต้น

“พฤติกรรมแบบนี้ทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อฟรีแลนซ์ ลูกค้าหลาย คนจะคิดว่าพวกฟรีแลนซ์นั้นไม่มีความรับผิดชอบ ในเมื่อเวอร์ชันแรกที่ส่งมานั้น ใช้การไม่ได้ก็ต้องให้แก้ แล้วค่อยเลือกงานที่น่าพอใจที่สุดหลังให้แก้อยู่หลายครั้ง ถึงจะคุ้มเงินที่จ้างไป

“นอกจากนี้ ลูกค้าเป็นคนจ่ายเงินจึงเป็นฝ่ายที่ถือไพ่เหนือกว่า เพื่อให้เห็น ผลลัพธ์ของการทำงาน คนคุมงานก็จะเสนอให้แก้งานเพิ่มเรื่อยๆ ถ้างานผ่าน ตั้งแต่แรกก็จะทำเมินเพื่อที่จะได้หาจุดติได้

“ด้วยเหตุนี้ สุดท้ายแล้วเพราะลูกค้าและฟรีแลนซ์ต่างก็คิดว่าการร่วมงานกัน เป็นเหมือนเกมผลรวมศูนย์ ลูกค้าคิดว่าตัวเองจะขาดทุนถ้าตกลงรับงานตั้งแต่ เวอร์ชันแรก ส่วนฟรีแลนซ์ก็จะคิดว่าตัวเองขาดทุนถ้าทุ่มเทเต็มที่ตั้งแต่รอบแรก

“ทั้งสองฝ่ายดึงเชิงกันและเข้าสู่วงจรอุบาทว์ ยิ่งลูกค้าอยากแก้ ฟรีแลนซ์ก็ยิ่ง ไม่ค่อยทุ่มเทกับงานเวอร์ชันแรก ยิ่งฟรีแลนซ์ไม่ทุ่มเทกับงานเวอร์ชันแรก ลูกค้าก็ ยิ่งอยากให้แก้

“พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นสถานการณ์อย่างในปัจจุบัน

“เหตุผลที่บอสเผยกลายเป็นลูกค้าสุดวิเศษคือ บอสไม่ได้มองว่าการร่วมงาน กันเป็นเกมผลรวมศูนย์ แต่เป็นงานที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย ซึ่งช่วยทำลาย วงจรอุบาทว์นี้!

“ในฐานะลูกค้า บอสเผยนั้นจริงใจมากๆ บอสให้ค่าจ้างฟรีแลนซ์สูงกว่าราคา มาตรฐานในวงการ เคารพความเป็นมืออาชีพของฟรีแลนซ์ และพยายามผสาน แนวคิดของตัวเองเข้ากับแนวคิดของฟรีแลนซ์ เพื่อให้ฟรีแลนซ์ปล่อยของได้เต็มที่

“ดังนั้นฟรีแลนซ์จึงสามารถผลิตงานออกมาได้เหนือจากมาตรฐานตามปกติ ของตัวเอง พอนำไปผสานกับแนวคิดของบอสเผย ผลงานนั้นก็ดังเป็นพลุแตก ทันที

“นอกจากโปรเจ็กต์ของบอสจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แล้ว โปร เจ็กต์ยังได้รับความสนใจสูงมากและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น

“เพราะงั้นจึงเกิดเป็นวงจรประเสริฐ ลูกค้ากับฟรีแลนซ์เชื่อใจกันและพยายาม เต็มที่ในการทำรายละเอียดยิบย่อยทุกอย่างในโปรเจ็กต์ออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด

“ลูกค้ากล้าให้ราคาสูงโดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนฟรีแลนซ์โกง ฟรีแลนซ์ สามารถออกแบบงานได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนลูกค้าเข้ามายุ่งวุ่นวายให้ ปรับแก้งานซ้ำไปมา

“ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนี้เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วก็ไม่สามารถทำลายลงได้ ทำให้ ได้ประโยชน์เต็มที่ทั้งสองฝ่าย

“นี่คือส่วนที่ดีที่สุดจากการได้บอสเผยเป็นลูกค้า นอกจากจะให้ผลประโยชน์ ทางการเงินกับฟรีแลนซ์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ยังเชื่อใจในตัวฟรีแลนซ์เต็มที่ และเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของอีกฝ่าย ผมสัมผัสเรื่องนี้ได้อย่างลึกซึ้ง”

อู๋ปินพยักหน้า รู้สึกได้แรงบันดาลใจสุดๆ

ทุกคนเห็นว่าบอสเผยเป็นห่วงคุณหร่วนขนาดไหน

ทั้งการตั้ง ‘มาตรฐานเถิงต๋า’ เพื่อขึ้นอัตราค่าจ้างฟรีแลนซ์ ช่วยกวงหวง สตูดิโอก้าวข้ามความยากลำบากตอนย้ายมาจิงโจว หรือแม้กระทั่งสร้างโฮสเทล เขย่าขวัญตามความชอบของคุณหร่วน การกระทำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบอสเผย ใส่ใจเพื่อนและคู่ค้าทางธุรกิจขนาดไหน

อู๋ปินได้แรงบันดาลใจขึ้นมา “เหมือนบอสเผยกับพนักงานก็มีความสัมพันธ์ แบบเดียวกันนะครับ

“บอสบริษัทอื่นๆ มองความสัมพันธ์กับพนักงานเป็นเกมผลรวมศูนย์ คิดแต่ จะลดค่าใช้จ่ายและทำเงินให้ได้มากขึ้นด้วยการขูดรีดพนักงานเพิ่ม

“พนักงานไม่เชื่อใจบอสเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเอาเปรียบ ก็เลยอู้ไม่คิด จะพยายามเต็มที่ และคิดแต่เรื่องหางานใหม่ในเวลางาน

“บอสเผยทำลายวงจรอุบาทว์นี้ด้วย ‘การแสดงความจริงใจ’ ตามแบบฉบับ ของบอส และสร้างความเชื่อใจระหว่างบอสกับพนักงานขึ้นมาใหม่!

“ทำให้บอสสร้างปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์ขึ้นมาได้ บอสเผยช่วยบริษัทที่ กำลังจะล้มละลายให้ฟื้นกลับมามีชีวิตใหม่ได้หลังเข้าซื้อกิจการ พนักงานที่ไม่มี แรงใจและไม่สนเรื่องงานก็หันกลับมาพยายามอย่างจริงจังเพื่อสร้างมูลค่าให้ บริษัท!

“ผมเคยคิดว่าเป็นเพราะ ‘จิตวิญญาณเถิงต๋า’ อันเป็นปริศนาในการทำงาน ของเรา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความพยายามของบอสในการสร้างความเชื่อมั่น ระหว่างบอสกับพนักงานนั้นมีส่วนสำคัญมากๆ”

หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “ใช่ครับ ผมก็เห็นด้วยกับมุมมองนี้

“เพราะช่วยแสดงให้เห็นว่าบอสเผยไม่เคยมองว่าพนักงานเป็นทรัพย์สิน ส่วนตัวหรือสัตว์เลี้ยงสำหรับใช้แรงงานเหมือนบอสคนอื่นๆ

“โดยปกติแล้ว สถานะพนักงานนั้นต่ำกว่าฟรีแลนซ์ เพราะฟรีแลนซ์มักจะเป็น บริษัทนอกที่มีปากมีเสียงมากกว่า พนักงานเป็นแค่คนคนหนึ่งที่ไม่กล้าปฏิเสธคำ ขอของบอส

“ดังนั้นพนักงานระดับล่างในบริษัทเอ้าต์ซอร์สที่โดนกดขี่จึงมักลาออกเป็น จำนวนมากทุกๆ ปี บริษัทเหล่านี้จึงได้แต่จ้างเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาอุด

ตำแหน่งว่าง พอไม่มีประสบการณ์ งานที่ออกมาก็ตอบโจทย์ความพึงพอใจลูกค้า ได้ยากและยิ่งโดนกดหนักขึ้นไปอีก

“แต่บอสเผยนั้นต่างออกไป บอสดูแลพนักงานและฟรีแลนซ์เป็นเหมือน ผู้ร่วมงาน ยิ่งพนักงานทุ่มเททำงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น พอมีเครื่องกระตุ้นแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็มีแรงฮึด เพราะความทุ่มเทพยายามไม่ ได้มาจากแรงกดดัน แต่เป็นการพยายามเพื่อตัวเอง”

อู๋ปินดีใจมาก เขารู้สึกว่าได้อะไรจากการสัมภาษณ์วันนี้มากจริงๆ!

ในฐานะคนของฝ่าย HR และผู้ที่ย้ายมาเถิงต๋าจากบริษัทอื่น อู๋ปินสัมผัสได้ถึง ความแตกต่างระหว่างการทำงานที่เถิงต๋าและบริษัทอื่นอย่างชัดเจน

แต่ความแตกต่างนี้จริงๆ แล้วมาจากไหน

อู๋ปินไม่เคยพบคำตอบที่ถูกต้อง

จิตวิญญาณเถิงต๋านั้นอธิบายในจุดนี้ได้ แต่ก็เป็นเหมือนข้อสรุปมากกว่า สาเหตุ ซึ่งตอนนี้เขาเจอสาเหตุแล้วในที่สุด

นั่นก็คือแนวคิดของบอสเผยในการทำลายวงจรอุบาทว์ของเกมผลรวมศูนย์ และสร้างสังคมที่ได้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างบริษัทกับพนักงานและระหว่างลูกค้า กับฟรีแลนซ์!

ผลประโยชน์ของบริษัท พนักงาน และลูกค้านั้นผสานรวมเป็นหนึ่ง ทุกอย่าง จึงเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ฟังดูเหมือนง่าย แต่พอวิเคราะห์ดูอย่างละเอียดแล้ว อู๋ปินก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีแค่ คนที่กล้าหาญและอดทนในระดับที่เหนือคนทั่วไปเท่านั้นที่จะทำได้!

บอสเผยแลกผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของตัวเองในระดับที่เกินกว่าพนักงานทุก คนจะจินตนาการได้เพื่อทำลายวงจรอุบาทว์นี้

จากการเสียสละนี้ ผลประโยชน์สุดท้ายที่บอสเผยได้รับในฐานะบอสของ เถิงต๋าจึงอาจไม่มากเท่าบริษัทใจอำมหิตที่ขูดรีดพนักงานแบบสุดฤทธิ์

แต่ก็เห็นได้ชัดว่าบอสเผยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ในระยะยาวมากกว่า

บริษัทอื่นๆ ที่ขูดรีดพนักงานอาจจะร่ำรวยกว่าบอสเผย แต่ถ้ามาแข่งกับ เถิงต๋า บริษัทพวกนั้นก็จะพ่ายแพ้และตกจากบัลลังก์

บอสเผยยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัว จึงสร้างเครือธุรกิจที่เติบโตไวแบบ เถิงต๋าขึ้นมาได้ภายในสองปีและยังคงเติบโตต่อไปอย่างรวดเร็ว!

อู๋ปินยืนขึ้นจับมือกับหร่วนกวางเจี่ยน “ขอบคุณครับคุณหร่วน! สิ่งที่คุณพูด ทำให้ผมได้แรงบันดาลใจสุดๆ!

“ผมคิดว่าได้ข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการอธิบายจิตวิญญาณเถิงต๋ามา ครับแล้วครับ!

“ต่อไปผมจะเริ่มเก็บตัวเพื่อวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลที่รวบรวม มากับจิตวิญญาณเถิงต๋าในเชิงลึก แล้วก็จะพยายามยกตัวอย่างอธิบายจิตวิญญาณ เถิงต๋าให้เห็นภาพและตรงกับแนวคิดของบอสเผยที่สุด”

หร่วนกวางเจี่ยนเองก็ยินดีไม่แพ้กัน “ยินดีมากๆ เลยครับ ผมควรจะมีส่วนใน เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่…ถ้าคู่มือเสร็จเมื่อไหร่ ขอผมสักเล่มได้มั้ยครับ”

อู๋ปินพยักหน้า “ได้แน่นอนอยู่แล้วครับ!”