ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 646 บทเรียนสุดท้ายของอาจารย์เหอ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง เผยเชียนเลื่อนอ่านโพสต์เว่ยป๋อของเหออันกับคอมเมนต์ใต้โพสต์ของเหล่า เกมเมอร์ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ลิ้นจุกปาก ตะลึงงันไป “งี้นี่เอง! เข้าใจแล้วๆ!” “รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันตอนเกมเพิ่งปล่อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงล็อกแล้ว!” “เกมของบอสเผยมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ ยักษ์ใหญ่ในวงการเกมจีนถึงกับออกมา วิเคราะห์เกมเพื่อให้พวกเราเข้าใจเชียว” “ผมเชื่อโพสต์เว่ยป๋อของแพลตฟอร์มเว่ยป๋อและคิดว่าเกมดิ้นรนนำชีวิตจริง มาเปลี่ยนเป็นกระจก เพื่อที่แต่ละคนจะได้บทเรียนบางอย่างกลับไป แต่พอได้มา อ่านคำอธิบายของรุ่นใหญ่ในวงการ ในที่สุดผมก็เข้าใจ ผมยังอยู่แค่ขั้นแรก แต่เกม ดิ้นรนมีขั้นสอง สาม และสี่!” “เหอะๆ เขารู้กันดีว่าบอสเผยเป็นคนมีหลายชั้นมาก” “เกมของเถิงต๋าสุดยอดเกินไปแล้ว กลับใจคือฟากฝั่งก็ทำลายกำแพงที่สี่ แต่ ดิ้นรนทำลายหลายรอบเลย กระหน่ำขนาดนี้ กำแพงที่สี่ นายยังอยู่ดีรึเปล่า” ท่ามกลางคอมเมนต์มากมาย มีคอมเมนต์หนึ่งที่มีคนกดไลก์มากที่สุด
“สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจที่สุดคือจิตวิญญาณที่ฝังอยู่ในเกมดิ้นรน มีการ ตีความคำว่า ‘ดิ้นรน’ ในหลากหลายความหมาย ดูผิวเผินเหมือนจะพลิกทฤษฎี พื้นฐานทั้งหมด แต่ก็ยังสอดคล้องกันในขั้นที่เหนือกว่า
“จากบทวิเคราะห์ของคุณเหออัน เกมดิ้นรนขัดกับทฤษฎีพื้นฐานทั้งหมดใน เบื้องหน้า แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไปจะพบว่าเกมนำทฤษฎีพื้นฐานทั้งหมดมา พัฒนาไปสู่จุดสูงสุดใหม่
“ซึ่งก็เหมือนกับแนวคิดเรื่อง ‘การดิ้นรน’ เนื้อหาหลักของเกมคือความคิด รวบยอดของการดิ้นรน โดยคอยนำเสนอให้เราเห็นว่าคนรวยดิ้นรนอยู่บนหมู่เมฆ ส่วนคนจนดิ้นรนอยู่บนโคลนตม
“คนรวยจะโกหกคนจนว่าพวกเขาสามารถไต่ขึ้นมาบนเมฆได้ถ้าดิ้นรนหนัก มากพอ คนจนก็จะโกหกลูกด้วยเจตนาที่ดีว่าพวกเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ถ้าดิ้นรน อย่างเต็มที่
“เกมเปิดโปงคำโกหกอย่างไร้ความปรานี เพื่อให้หลายคนที่โดนหลอกตาสว่าง
“ในเบื้องหน้า เกมเหมือนปฏิเสธว่าการดิ้นรนจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ เหมือนบอกว่าคนรวยอยู่บนหมู่เมฆ ส่วนคนจนอยู่ในโคลนตม ไม่ว่าจะดิ้นรน ขนาดไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนความแตกต่างอันใหญ่หลวงระหว่างทั้งสองชนชั้นได้
“แต่ส่วน ‘วัฒนธรรมบริโภคนิยม’ ทำให้เราย้อนมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริง แล้วพบว่าเรายังสามารถดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้
“การดิ้นรนนี้ไม่ใช่พฤติกรรมเฉพาะ แต่เป็นสภาวะของจิตใจและทางเลือก ก่อนจะจมลึกลงไปในโคลนตมจนกลับขึ้นมาไม่ได้ เราสามารถหาโอกาสมากมาย ในการมีชีวิตที่ดีขึ้นและสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับตัวเอง นี่สิคือการดิ้นรน
“ดังนั้น ถึงจะขึ้นไปบนหมู่เมฆไม่ได้แม้จะดิ้นรนหนักขนาดไหน เราก็ห้ามหมด หวังในชีวิต เพราะทุกคนต้องเลือกเส้นทางในชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งการยอมแพ้ ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องที่ควรเลือก”
ใต้คอมเมนต์ยาวเหยียดมีคนเข้ามาเล่าประสบการณ์เพียบ
“คอมเมนต์นี้ทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า เราถูกส่งขึ้นไปบนเวทีที่เราไม่ได้เลือก และแสดงบทที่เราไม่ได้เขียน บทนั้นอาจทรมานและเจ็บปวด แต่ตราบใดที่เรา พยายามเต็มที่เพื่อแสดงบทนั้นให้ออกมาดี เราก็สามารถสร้างความตื่นเต้นใน ความเจ็บปวดนั้นได้
“ฉันมาสะท้อนถึงชีวิตของตัวเอง พ่อแม่มอบสภาพความเป็นอยู่อันยอดเยี่ยม ให้และบังคับให้ฉันพยายามอย่างหนักเหมือนพวกเขา พอเห็นคนจนหลายคนเดิน ร่อนไปมา ทำตัวเอื่อยเฉื่อย ฉันก็คิดมาตลอดว่าพวกเขาจนก็เพราะขี้เกียจ
“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าตัวเองคิดผิด ไม่ใช่ทุกคนจะมีสภาพความเป็นอยู่เหมือน ฉัน ฉันซื้อทั้งเวอร์ชันคนรวยและเวอร์ชันคนจน หวังว่าเกมนี้จะย้ำเตือนฉันอยู่ เสมอไม่ให้ทำพลาดแบบเดียวกันกับตัวเอกคนรวย
“ก็จริงที่เกมเวอร์ชันคนรวยและคนจนต่างพยายามเต็มที่ในการให้แต่ละกลุ่ม เข้าใจซึ่งกันและกัน คนจนถูกกันไม่ให้ชื่นชมคนรวย เพื่อที่จะได้ไม่หลงกลเชื่อคำ หลอกลวง คนรวยถูกบังคับให้ลดทิฐิตัวเองที่ชอบดูถูกคนจน
“เกมนี้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างคนรวยกับคนจน ทั้งสองฝ่ายอาจจะไม่มีวัน เข้าใจกันเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อย สะพานก็ถูกสร้างขึ้นมาและถูกบอก ออกไป ยังไงก็ถือว่ามีความหมายแล้ว
“เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าทางที่ดีที่สุดไม่ใช่การซื้อแค่เวอร์ชันคนรวยหรือ เวอร์ชันคนจน แต่ให้ซื้อทั้งสองเวอร์ชัน! การมองชีวิตตัวเองจะช่วยสะท้อนกับตัว คุณและทำให้ย้อนกลับมาคิด การได้มองชีวิตของคนอื่นจะทำให้คุณตระหนักถึง จุดบอดที่ไม่เคยเห็น ความหมายที่แท้จริงของตัวเกมจะพบได้ก็ต่อเมื่อคุณซื้อทั้ง เวอร์ชันคนรวยและเวอร์ชันคนจน!”
“เพราะงั้นการซื้อเหมาสองเวอร์ชันเลยราคาแพงขึ้นเหรอ เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยว ไปซื้อเลย ฉันเต็มใจเสียเงินเพิ่มสามสิบหยวน!”
“เกมเมอร์ยอมเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อเกม แถมยังสบายใจมากๆ ที่ได้จ่ายเพิ่ม นี่ สินะที่เรียกว่าสุดยอดโมเดลการวางราคา!”
“เลือกไม่ซื้อแล้วไปดูคลิปคนอื่นเล่นก็ได้นี่”
“ไอ้น้อง ฟังนะ นายดูคนอื่นเล่นได้ แต่นายไม่มีวันได้สัมผัสถึงอารมณ์ที่เกมทำ ให้รู้สึกได้ ทำไมเกมถึงถูกยกให้เป็นศิลปะชนิดที่เก้าล่ะ ก็เพราะเกมมีปฏิสัมพันธ์ ได้ไง! ถ้าดูคนอื่นเล่น นายก็เป็นได้แค่ผู้เสพผลงานอยู่ไกลๆ ไม่สามารถเลือก ตัวเลือกต่างๆ เองได้ แบบนั้นจะเข้าถึงการมีปฏิสัมพันธ์ได้ไง”
“ทุกคนเลือกได้ว่าตัวเองอยากทำอะไร จะมองข้าม จะดูคนอื่นเล่น จะซื้อแค่ เวอร์ชันคนรวย หรือจะซื้อทั้งสองเวอร์ชัน… ฉันว่าบอสเผยก็ไม่น่าจะใส่ใจอะไร เกมดิ้นรนเป็นกระแสร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว แถมยังเป็นกระแสออกไป
นอกวงการเกมแล้วด้วย ขนาดคนที่ปกติไม่ค่อยเล่นเกมยังให้ความสนใจเลย ใน ฐานะที่เป็นเกมแนวภาพยนตร์เชิงตอบโต้ เกมนี้บรรลุภารกิจของตัวเองแล้ว”
“แต่ฉันว่าคนที่มีกำลังพอกับคนที่รักเกมสแตนด์อโลนจีนจริงๆ ควรซื้อทั้งสอง เวอร์ชันเก็บไว้ เพราะแค่เราสามารถซื้อเกมแบบนี้ได้ก็ถือเป็นเกียรติกับตัวเอง แล้ว!”
…
หลังจากอ่านคอมเมนต์ต่างๆ เผยเชียนก็ปิดโน้ตบุ๊กลงเงียบๆ
บ้า โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!
ตอนแรก เขาคิดว่าแค่พยายามกันไม่ให้อาจารย์เฉียวโผล่มาวิเคราะห์เกม อย่างเต็มที่ก็จะทำให้เกมดิ้นรนขาดทุนได้แน่นอน
ไม่คิดเลยว่าเหออันจะโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้!
โพสต์เว่ยป๋อของออฟฟิเชียลให้แรงบันดาลใจบางอย่างกับเหออัน ทำให้อีก ฝ่ายมีพื้นที่ในการแทงหลังเผยเชียนทะลุถึงหัวใจ!
เผยเชียนอึ้งไปหลังได้อ่านบทวิเคราะห์ของเหออัน
เหออันบอกว่าผู้สร้างผลงานทุกคนจะสื่อสารแนวคิดตัวเองลงไปในผลงาน เสมอ
แต่เผยเชียนอยากบอกใจจะขาดว่าเขาไม่ได้สื่อสารอะไรเลย!
ส่วนเรื่องพลิกสี่ทฤษฎีการออกแบบเกมพื้นฐานก็บอกได้เลยว่าเผยเชียนตั้งใจ ให้เป็นแบบนั้น!
หลังจากเหออันเล่าทฤษฎีทั้งหมดให้ฟัง เผยเชียนก็ตั้งใจทำในทางตรงข้าม หมด แต่อาจารย์เหอกลับตลบหลัง อีกฝ่ายเป็นคนสอนบทเรียนนี้มาแท้ๆ แต่ดัน มาบอกว่าคำตอบที่ผิดเพี้ยนทั้งหมดของเผยเชียนนั้นถูกต้องหมดเลย นี่มันบ้าไป แล้ว!
ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าต้องทำยังไงถึงจะทำให้เกมเจ๊งได้
ฉันทำทุกอย่างที่จะทำให้เกมเจ๊งแล้ว แต่แกดันมาบอกว่าฉันทำเกินเลยจนวน กลับมาประสบความสำเร็จงั้นเรอะ!
บ้าไปแล้ว!
บ้ามากๆ!
เผยเชียนโกรธจัด ชัดเจนว่าเรื่องนี้ต้องโทษอาจารย์เหอ!
ทฤษฎีที่หมอนั่นสอนมาต้องมีช่องโหว่ขนาดใหญ่อยู่แน่ ไม่งั้นทำไมฉันถึง ขาดทุนไม่สำเร็จ ทั้งๆ ที่ทำตรงข้ามกับทุกอย่างที่แกบอก!
ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ เหออันโพสต์บทวิเคราะห์ยาวเป็นพืดลงเว่ยป๋อ รับบท อาจารย์เฉียวแทนซะงั้น!
ฉันคิดว่ารุ่นใหญ่ในวงการเกมอย่างแกจะโพสต์แค่ข้อมูลเชิงลึกของวงการลงเว่ ยป๋อ ไม่คิดเลยว่าจะมาโพสต์มโนซี้ซั้วแบบนี้!
หดหู่ น่าหดหู่จริงๆ!
เผยเชียนไม่ยอมรับเรื่องนี้ เขาต้องหาทางแก้แค้นแน่นอน!
ใกล้จะวันศุกร์แล้ว เหออันต้องมาจิงโจวเพื่อสอนคลาสต่อไปซึ่งเป็นคลาส สุดท้าย เผยเชียนต้องถามให้ได้ว่าทำไมบทเรียนที่เหออันสอนมาถึงใช้การไม่ได้ เลย! ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด!
…
…
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน
เผยเชียนเดินตึงตังเข้าไปในคาเฟ่แห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยฮั่นตง
ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนที่เกมดิ้นรนออกวางขาย กระแสวิจารณ์เกมก็พลิกกลับ ตาลปัตรอยู่สองตลบ สุดท้ายคะแนนเกมก็พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 9.5 บนแพลตฟอร์ม ทางการและ 9.3 บน TPDb
เผยเชียนทนดูตัวเลขนี้ไม่ได้อีกต่อไป!
คะแนนสูงกว่ากลับใจคือฟากฝั่งอีก
ช่วงแรก กลับใจคือฟากฝั่งได้คะแนนต่ำมาก แต่พอเวลาผ่านไปก็ค่อยๆ ไต่ ขึ้นมา ปัจจุบันอยู่ที่ 9.2
บอสเผยตั้งความหวังกับเกมดิ้นรนไว้มาก แต่เกมกลับเอาชนะกลับใจคือฟาก ฝั่งได้ภายในสัปดาห์เดียว ถือว่าบ้ามากๆ สำหรับเขา!
แน่นอนว่า ไม่มีเกมดีเกมไหนที่ชนะใจได้ทุกคน
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ตีความจากเกมไม่สามารถสะท้อนถึงใจทุกคนได้ บางคนรู้สึก เหนื่อยกับการดิ้นรนและอยากพัก เพราะรู้สึกว่าการดิ้นรนนั้นไร้ความหมาย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเบื้องหลังเกมและให้คะแนนเกมแค่ หนึ่งดาวพร้อมทิ้งรีวิวเชิงลบไว้
ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีอะไรในโลกที่สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกพอใจกันหมดได้ ก็เหมือนที่เหออันบอก กุญแจสำคัญของเกมอยู่ที่สิ่งที่เกมส่งเสริมและไม่ส่งเสริม
ถ้าไม่ส่งเสริมเรื่องการกระตือรือร้นพัฒนาตัวเองก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ ยอมแพ้ ชัดเจนว่าการยอมแพ้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะส่งเสริม ไม่ว่าจะอยู่ใน สถานการณ์ไหนก็ตาม
การส่งต่อพลังลบจะทำให้เกินอารมณ์แง่ลบในจิตใจผู้เล่นและทำให้เกมเป็น กระแส แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด
พลังลบไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตใครให้ดีขึ้นได้
ยอดขายเกมดิ้นรนในตอนนี้ไม่ได้พุ่งทะลุเพดาน ถ้าปล่อยไปสักปีก็อาจทำ กำไรได้นิดหน่อย ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงวันปิดบัญชี ไม่ว่าจะมอง ยังไง เขาก็ไม่พบช่องทางที่จะทำเงินคืนทุนทั้งหมดที่ลงกับตัวเกมไป
ถือว่าในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่
เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์ทุ่มทุนก้อนโตกับเกมตั้งแต่แรกเริ่มนั้นประสบผลสำเร็จ มาก ผลงานออกมาดี พัฒนาเกมได้ง่าย
แต่บอสเผยก็ยังรู้สึกผิดแปลกอยู่!
เขาไม่ควรจะได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ตอนนี้ถึงจะทำเงินไม่ได้มาก แต่ก็ สร้างชื่อเสียงได้กระฉ่อนสุดๆ!
เกมดิ้นรนหลุดจากวงจรได้สำเร็จ นอกจากชาวเกมเมอร์จะให้ความสนใจแล้ว คนทั่วไปที่ไม่ได้เล่นเกมก็หันมาสนใจด้วยเหมือนกัน บนเว็บอ้ายลี่เต่ามีคลิปแนว ทางการเล่นเกมดิ้นรนมากมาย กระแสพูดคุยนั้นร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่
ทั้งหมดที่เผยเชียนอยากทำตอนนี้คือถามอาจารย์เหอ
ไหนว่าถ้าทำตรงกันข้ามกับทฤษฎีทั้งสี่จะล้มเหลวแน่นอน แล้วดูสิว่ามัน ออกมาเป็นยังไง
เนื้อหาที่อาจารย์สอนมีอะไรผิดพลาดรึเปล่า
เผยเชียนจิบกาแฟอย่างหงุดหงิดใจ ไม่นานเหออันก็มาถึง
“อาจารย์เหอครับ เรื่องเกมดิ้นรน…”
เผยเชียนอยากถามว่าทำไมเนื้อหาที่สอนถึงไม่เป็นจริงเลยสักอย่าง แต่เห ออันกลับระเบิดหัวเราะแล้วพูดขัดขึ้น
“บอสหม่า ผมรู้ว่าคุณอยากพูดเรื่องอะไร!”
เผยเชียน “?”
เหออันนั่งลงตรงข้ามเผยเชียน “คุณบอกบอสเผยเรื่องสี่ทฤษฎีพื้นฐานที่ผม สอนคุณใช่มั้ยครับ”
เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือหัวบอสเผย
?
ฉันบอกตัวฉันเองงี้เหรอ
เผยเชียนถามด้วยความงุนงง “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ”
เหออันยิ้ม “ก็เห็นๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ เกมดิ้นรนบังเอิญทำตรงข้ามกับ ทฤษฎีทั้งสี่ที่ผมสอนคุณไปหมดเลย หรือเพราะบอสเผยมีโทรจิตกันล่ะครับ ผมว่า ไม่ใช่แน่นอน!
“บอสหม่า คุณต้องเผลอบอกบอสเผยไปแน่ บอสเผยเลยตัดสินใจใช้เกมดิ้น รนในการแสดงฝีมือของตัวเอง!
“ทำไมถึงบอกว่าแสดงฝีมือน่ะเหรอ
“เพราะมีแค่ผู้พัฒนาเกมด้วยกันเท่านั้นที่จะบอกได้ เกมเมอร์ทั่วไปไม่มีทาง บอกได้แน่นอน!
“บอสเผยทำลายสี่ทฤษฎีพื้นฐานการออกแบบเกมและนำไปผสานรวมให้ เหนือไปอีกขั้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเขียนแบบเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีเหล่านี้
“บอสเผยต้องรู้แน่ว่าคุณกำลังเรียนทฤษฎีพวกนี้อยู่ ก็เลยใช้เกมที่สร้างเป็น จุดอ้างอิงเพื่อสนับสนุนการเรียนของคุณ!
“ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าคุณกับบอสเผยน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่มีอะไรก็บอกกัน ทุกอย่าง ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว บอสเผยน่าจะไม่ได้ตั้งใจให้เกมออกมาเป็น
แบบเรียนเพื่อคุณในตอนแรก แต่รายละเอียดบางอย่างในเกมก็ถูกปรับแก้เพื่อการ เรียนรู้ของคุณ!
“ต้องบอกเลยนะครับว่ามิตรภาพของคุณกับบอสเผยนั้นน่าชื่นชมมาก
“บอสหม่าช่วยนัดบอสเผยให้ผมเจอบ้างได้มั้ยครับ ผมอยากรู้จักผู้พัฒนาเกม ที่ยอดเยี่ยมแบบบอสเผย!”
เผยเชียนตะลึงงันไปเมื่อได้ยินที่เหออันบอก เขาพูดสิ่งที่ตั้งใจจะพูดในตอน แรกออกไปไม่ได้อีก
เราสองคนไม่เคยคิดตรงกันเลย!
คุยกันคนละเรื่องตลอด!
เหออันวิเคราะห์หนักจนรู้นิสัยและความสัมพันธ์ระหว่างหม่าหยางกับเผย เชียน แต่ยังไม่รู้ว่าหม่าหยางคนนี้แหละคือบอสเผย
เผยเชียนสิ้นหวังสุดๆ!
ยิ่งวิเคราะห์เหออันก็ยิ่งคิดว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น และยิ่งเชื่อมั่นใน ความคิดตัวเองขึ้นไปอีก
เผยเชียนพบว่าตั้งแต่เริ่มสวมบทเป็นหม่าหยาง เขาก็เจอความเข้าใจผิดที่ไม่ สามารถแก้ให้กระจ่างมากขึ้นเรื่อยๆ!
ตอนนี้เหออันเชื่อเต็มที่ว่าเขาคือหม่าหยาง ถ้าบอกความจริงไปว่าตัวเองคือ บอสเผย ชายแก่ตรงหน้าจะไม่เป็นลมไปเลยเหรอ
ดังนั้นแม้จะรู้สึกเดือดพล่าน เผยเชียนก็ได้แต่กลืนความโกรธเกรี้ยวลงคอและ ไม่พูดอะไร
เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาเป็นคนเลือกสวมรอยเป็นหม่าหยางเอง ตอนนี้จึงทำ อะไรไม่ได้
ไม่เป็นไร เห็นแก่อายุของอีกฝ่าย จะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแล้วกัน
เผยเชียนกำลังจะบอกให้เหออันเริ่มบทเรียน แต่ก็สังเกตเห็นว่าเหออันไม่ได้ เตรียมเอกสารการสอนมาเลย
ตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
“เอ่อ… อาจารย์เหอ วันนี้เราไม่ได้จะมาคุยเรื่องเกมดิ้นรนใช่มั้ยครับ”
เหออันยิ้ม “เยี่ยมเลยครับบอสหม่า คุณหัวใสขึ้นเรื่อยๆ เลย! คุณเองก็คิดว่า วันนี้การคุยเรื่องเกมดิ้นรนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดใช่มั้ยครับ
“เกมนี้ยกขึ้นมาเป็นแบบเรียนได้เลย เพราะงั้นก็เลยเหมาะที่สุดที่จะเอามาปิด คลาสสุดท้าย ทบทวนทุกอย่างที่เราเรียนไปก่อนหน้านี้ แล้วเอาทฤษฎีทั้งหมดมา ผนวกรวมเข้าด้วยกัน!
“จริงอยู่ครับบอสหม่า ผมโพสต์เรื่องนี้ลงเว่ยป๋อไปแล้ว เพราะงั้นผมเลย ตัดสินใจว่าจะไม่เก็บเงินคลาสนี้! ผมจะโอนเงินจำนวนหนึ่งคลาสที่คุณโอนมาให้ คืนไป รบกวนขอบัญชีบริษัทด้วยครับ…”
เผยเชียนอึ้งไป
คืนเงินค่าเรียน?
เลิกก่อปัญหาได้แล้ว! เงินค่าเรียนจะไปหักออกจากเงินทุนระบบตอนปิดบัญชี ถ้าโอนคืนมาสองแสนหยวน ก็เท่ากับว่าจะได้สิทธิ์ลดเงินทุนระบบตอนปิดบัญชี น้อยลงแปดเท่าสิ!
แกตั้งใจสร้างเรื่องให้ฉันจริงๆ ใช่มั้ย!
นอกจากจะมโนตีความเกมดิ้นรนแล้วเอาไปโพสต์ออนไลน์ แกยังพยายาม แทงหลังฉันอีกเรอะ
ไม่ไหวแล้วนะโว้ย!
เผยเชียนรีบปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ! ห้ามโอนคืน! ถ้าโอนคืนผมจะแย่เอา!”
เหออันผงะไป ทำไมบอสหม่าถึงร้อนรนขนาดนั้นล่ะ
อืม เขาน่าจะให้คุณค่ากับความรู้และกระหายอยากเรียนเพิ่ม ไม่เลวเลย
เหออันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อ๋อ ได้ครับ บอสหม่าทำความเข้าใจ เรื่องต่างๆ ได้ไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ แต่คุณเป็นคนจริงใจและใฝ่เรียนรู้มาก ทัศนคติ ของคุณน่ายกย่องมากๆ
“ผมขอเริ่มบทเรียนเลยแล้วกัน!
“อันดับแรก ผมจะพูดเรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสเผยตอนที่คิดคอน เซ็ปต์ของเกมนี้…”
เผยเชียนจิบกาแฟเงียบๆ ในใจรู้สึกอ้างว้างเกินจะทน
น่าหดหู่จริงๆ!