ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 665 เรียกเผยเป็นหม่า
วันศุกร์ที่ 23 กันยายน
เผยเชียนรู้สึกว่าหลังหลีกหนีจากผู้คนได้สองสามวัน เขาก็กลับไปทำกิจกรรม
ตามปกติได้แล้ว
หลังจากหวงซื่อปั๋วลงคลิปไปเมื่อวันอาทิตย์ เขาก็ยังไม่กล้าออกไปเดินตาม
ถนนหรือไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เอาแต่จับตาดูกระแสในโลกอินเทอร์เน็ตแทน
จนถึงตอนนี้ คนที่รู้จักเผยเชียนตัวจริงมีแค่พนักงานเถิงต๋ากับ ‘เพื่อน’ อย่าง
เฉียวเหลียง หร่วนกวางเจี่ยน และหลี่สือ พวกเขาต่างเข้าใจตรงกันว่าต้องเก็บ
เรื่องบอสเผยไว้เป็นความลับ
แฟนๆ ที่อยากรู้อยากเห็นส่วนใหญ่เลิกขุดคุ้ยตัวตนที่แท้จริงของบอสเผย แต่
เลือกที่จะมองนักแสดงในซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเป็นบอสเผยแทน
และดูเหมือนว่าจะเบนความสนใจผู้คนไปจากตัวตนที่แท้จริงของบอสเผยได้
สำเร็จ
แน่นอนว่าออกไปข้างนอกตอนนี้น่าจะมีปัญหาอยู่บ้าง เป็นไปได้ว่าหลายคน
อาจเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยในฐานะนักแสดงที่รับบทบาทเป็นบอสเผย แต่
นอกจากนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าถึงเวลาออกไปต้อนรับ ‘ตัวตน’ ใหม่ของเขาแล้วเขาจะไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตงเพื่อจิบกาแฟเป็น
อันดับแรก
แต่เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าจะแวะไปสักบ่ายสามหรือสี่โมงเย็น เพราะช่วงเที่ยง
คนน่าจะเยอะ
…
ขณะเดียวกัน หร่วนกวางเจี่ยนที่เพิ่งกินอาหารจากโมหยูเดลิเวอรี่เสร็จกำลัง
บิดขี้เกียจ พร้อมจะลุกขึ้นเดินย่อยอาหาร มองดูทิวทัศน์สีเขียวในสตูดิโอเพื่อผ่อน
คลาย
หลังเกมดิ้นรนออกวางจำหน่าย งานของเขาก็เหลือแค่ออกแบบคอนเซ็ปต์
อาร์ตให้ GOG ซึ่งถือว่าง่ายกว่า จึงมีเวลาพักผ่อนเยอะขึ้น
ตอนนั้นเอง เขาก็เห็นชายวัยกลางคนอายุราวช่วงสี่สิบปีเดินเข้ามาในสตูดิโอก
วงหวง
หร่วนกวางเจี่ยนผงะไปครู่หนึ่ง ถือว่าแปลกมากที่จะมีคนแปลกหน้าแวะเข้า
มา
ถึงสตูดิโอกวงหวงจะเช่าที่อยู่ตรงข้ามร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่งานหลักๆ ได้
จากแพลตฟอร์ม ESRO หรือฝ่ายเกมเถิงต๋า ธรรมชาติของที่นี่จึงเป็นสำนักงาน
ไม่ใช่หน้าร้านไว้รับลูกค้า ปกติจึงไม่มีใครแวะเข้ามา
เขามองชายคนนั้นอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วรู้สึกคุ้นหน้าเล็กน้อย แต่ก็จำไม่ได้
ว่าเคยเจอที่ไหน“สวัสดีครับ?” หร่วนกวางเจี่ยนทักทายอย่างสุภาพ
ชายวัยกลางคนยิ้ม “สวัสดีครับ ผมเหออันจากเหมิ่งกั่วเกมส์ พอดีผ่านมาแล้ว
เห็นป้ายสตูดิโอกวงหวง เลยแวะเข้ามาดู”
หร่วนกวางเจี่ยนนึกออกทันใด
คนที่ตีความเกมดิ้นรนนี่นา!
เหออันคือบรรพบุรุษวงการเกมสแตนด์อโลนจีน หร่วนกวางเจี่ยนเคยเห็นรูป
อีกฝ่ายมาก่อน แต่รูปกับตัวจริงก็แตกต่างกันอยู่บ้าง แถมความจำเขาก็เลือนราง
เลยนึกไม่ออกในทีแรก
“บอสเหอ รุ่นพี่ของพวกเรา! เชิญทางนี้เลยครับ ผมเป็นคนดูแลสตูดิโอกวง
หวง ชื่อหร่วนกวางเจี่ยน
ครับ”
เหออันแปลกใจเล็กน้อย “คนดูแลสตูดิโอกวงหวง? คนที่ทำงานกับบอสเผย
มาตลอดน่ะเหรอครับ บังเอิญดีจัง!”
เขาแปลกใจเล็กน้อยกับความเด็กของหร่วนกวางเจี่ยน
ทั้งสองเคยได้ยินเกี่ยวกับกันและกันมาก่อน หลังแนะนำตัวคร่าวๆ ก็สนิทกัน
ทันที
มืออาชีพมักมีนิสัยเหมือนกัน นั่นคือเคารพวิชาชีพของคนอื่นหร่วนกวางเจี่ยนรู้ว่าเหออันเป็นผู้บุกเบิกวงการเกมสแตนด์อโลนจีน เหออัน
เองก็รู้ว่าหร่วนกวางเจี่ยนเป็นนักวาดและนักออกแบบคอนเซ็ปต์ชั้นแนวหน้า มี
หัวข้อมากมายให้คุยกันได้
หร่วนกวางเจี่ยนให้พนักงานไปซื้อกาแฟร้านตรงข้าม ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งคุย
กันในสตูดิโอ
“มาจิงโจวครั้งแรกรึเปล่าครับ” หร่วนกวางเจี่ยนถาม
เหออันยิ้มบางแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ ผมเคยมาหลายครั้งแล้ว
“ที่ผ่านมา ผมเคยมาสอนบอสหม่าจากเถิงต๋าคอร์เปอเรชันในคาเฟ่เล็กๆ
ใกล้ๆ นี้ ตอนนี้คลาสจบแล้ว แต่คลิปของอาจารย์เฉียวทำผมสนใจจิงโจวขึ้นมาอีก
รอบ ก็เลยอยากแวะมาเที่ยวเล่นสุดสัปดาห์นี้
“ผมแค่อยากเดินดูรอบๆ เมือง ไม่คิดเลยว่าจะเจอสตูดิโอกวงหวง ก็เลยแวะ
เข้ามาเพราะสงสัย”
หร่วนกวางเจี่ยนสับสนเล็กน้อย “บอสหม่าจากเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน?”
เหออันพยักหน้า “ใช่ครับ บอสหม่า หม่าหยางจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง”
หร่วนกวางเจี่ยนพยายามนึกดูอย่างเต็มที่ เขาจำได้รางๆ ว่ามีคนชื่อนี้อยู่ เคย
ได้ยินว่าบอสหม่านี่แหละที่ทำเงินให้เถิงต๋าได้ห้าร้อยล้านหยวน แต่ก็ไม่เคยเจอตัว
เลยสักครั้ง
แต่ทำไมบอสหม่าถึงอยากเรียนกับคุณเหออันล่ะหรือจะคิดว่าการลงทุนนั้นง่ายเกิน ไม่เร้าใจ เลยอยากหันมาทำเกมแทน
ถ้างั้นทำไมไม่ให้บอสเผยสอนล่ะ
อืม… บอสเผยอาจจะยุ่งมากจนไม่มีเวลาสอน
ก็เป็นไปได้
หร่วนกวางเจี่ยนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เลยถามขึ้นอย่างไม่คิดอะไร “บอ
สเหอเคยเจอบอสเผยรึยังครับ บอสเผยน่าจะรู้เรื่องที่บอสหม่าเรียนกับคุณนะ
ครับ”
เหออันตอบอย่างเสียดาย “ไม่เคยโชคดีได้เจอบอสเผยเลยครับ ค่าเรียนของ
บอสหม่า บอสเผยเป็นคนออกให้เพราะได้รางวัลพนักงานยอดเยี่ยม เพราะงั้น
บอสเผยก็น่าจะรู้เรื่องนี้ครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “งั้นก็ไม่น่าใช่แล้วล่ะครับ บอสเผยเป็นคน
ชอบต้อนรับแขกและดูแลเพื่อนทุกคนที่มาจิงโจวเป็นอย่างดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่
บอสจะไม่มาเจอรุ่นพี่อาวุโสแบบคุณ”
เหออันไม่ได้คิดอะไรมาก “บอสเผยอาจจะยุ่งมาก เพราะช่วงที่ผ่านมา เถิงต๋า
เติบโตไวมาก บอสเผยน่าจะทุ่มพลังไปกับการพัฒนาเกมดิ้นรน ไม่แปลกที่จะปลีก
ตัวมาไม่ได้
“แต่ผมก็สงสัยนะว่าบอสเผยเป็นคนยังไง คุณน่าจะได้เจอบอสเผยบ่อยใช่มั้ย
ครับ ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับบอสเผยให้ฟังหน่อยได้รึเปล่า”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “ได้สิครับ!“บอสเผยจริงใจกับเพื่อนมาก เป็นผู้พัฒนาเกมที่ยอดเยี่ยม เข้าใจรายละเอียด
ของเกมเป็นอย่างดี สไตล์เกมดิ้นรนก็บอสเผยนี่แหละครับที่เป็นคนกำหนดทิศทาง
…”
หร่วนกวางเจี่ยนเล่าเหตุการณ์ต่างๆ อย่างกระตือรือร้น
ตอนนั้นคอนเซ็ปต์อาร์ตชุดแรกของเกมดิ้นรนเพิ่งเสร็จดี หร่วนกวางเจี่ยนทำอ
อกมาโดยใช้สไตล์สมจริงสุดยอด บอสเผยตระหนักถึงปัญหาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
คอนเซ็ปต์อาร์ตและบอกให้แก้ทั้งหมด โดยเน้นลักษณะเด่นตามพิมพ์นิยมของแต่
ละตัวละคร
สไตล์ของเกมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ตามที่คาดไว้หลังออกวาง
จำหน่าย
ต่อจากนั้น หร่วนกวางเจี่ยนก็เล่าประสบการณ์การร่วมงานกับบอสเผยในเกม
อื่นๆ อย่างเกมแม่ทัพผีกับ GOG
เหออันพยักหน้าและร้องอุทานเป็นช่วงๆ
การร่วมงานกันระหว่างนักออกแบบเกมกับนักวาดมักเป็นปัญหาที่จัดการได้
ยากเสมอ เมื่อการสื่อสารไม่ราบรื่น แต่ละฝ่ายก็จะลากกันลงเหว
แต่การร่วมงานระหว่างบอสเผยกับหร่วนกวางเจี่ยนไม่มีปัญหาแบบนั้นเลย
พวกเขาร่วมงานกันได้อย่างดี ถือว่าสุดยอดจริงๆ!เหออันรู้สึกทึ่งมาก เขาพูดเรื่องทฤษฎีที่เล่าให้บอสหม่าฟังในจิงโจว โดยเน้น
เอาเกมของบอสเผยมาเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าจากความ
พยายามเพียงครึ่งเดียว
ยิ่งได้คุยพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกสนิทกันเหมือนเป็นญาติพี่น้อง
หร่วนกวางเจี่ยนเป็นเพื่อนบอสเผย ส่วนเหออันเป็นเพื่อนบอสหม่า บอสเผย
กับบอสหม่าเป็นเพื่อนกัน สรุปแล้วทั้งสองย่อมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้!
อีกอย่าง ทั้งสองก็เป็นคนดังในวงการเกมจีน น่าจะมีโอกาสร่วมงานกันอีกใน
อนาคต จึงยิ่งต้องทำความรู้จักกันไว้
ทั้งสองคุยกันไปเรื่อยๆ จนผ่านไปสองชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
เหออันมองเวลาแล้วพูดขึ้น “โอ๊ะ ลืมดูเวลาไปเลย ผมรบกวนการทำงานของ
คุณรึเปล่าครับเนี่ย”
หร่วนกวางเจี่ยนส่ายหน้า “ไม่เลยครับ เวลางานของผมยืดหยุ่น ไม่รบกวน
เลยครับ”
แต่เหออันก็ยังลุกยืน “ผมไม่รบกวนเวลาคุณแล้วดีกว่า เอางี้มั้ยครับ พรุ่งนี้
เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าคุณว่างผมอยากชวนไปเลี้ยงข้าว เราจะได้คุยกันต่อ
ระหว่างกิน คุณคิดว่าไงครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนรีบลุกตาม “ได้เลยครับ! แต่เจ้าบ้านอย่างผมต้องเป็นคนเลี้ยง
สิครับ”
เหออันยิ้ม “ไม่ต้องเกรงใจครับ เอาละ ผมขอตัวก่อน ไว้คุยกันนะครับ”พอแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อกันเสร็จ หร่วนกวางเจี่ยนก็เดินไปส่งเหออัน
ที่หน้าสตูดิโอกวงหวง
จังหวะนั้นพวกเขาก็เห็นร่างคุ้นตาเดินผ่านมาพอดี
หร่วนกวางเจี่ยนตาเป็นประกาย เพิ่งพูดถึงเมื่อกี้เอง!
บังเอิญเกินไปรึเปล่า
“บอสเผย!” หร่วนกวางเจี่ยนดีใจมาก “พวกผมเพิ่งพูดถึงบอสไปเอง!”
หลังรวบรวมความกล้าออกจากอพาร์ตเมนต์ได้ เผยเชียนก็บังเอิญเจอเหออัน
กับหร่วนกวางเจี่ยนที่เพิ่งเดินออกมาจากสตูดิโอกวงหวงขณะที่ตัวเองกำลังจะเดิน
เข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เผยเชียนนิ่งไปเมื่อเห็นสีหน้าของเหออันเปลี่ยนจากดีใจเป็นแปลกใจ ก่อนจะ
เปลี่ยนเป็นงุนงงและตกใจ
สถานการณ์กระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
เครื่องหมายคำถามมากมายปรากฏเหนือหัวเผยเชียน เขาไม่เคยคิดว่าตัวเอง
จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้!
ทำไมเหออันมาอยู่ที่นี่ได้
เขากลับไปแล้วนี่ ทำไมกลับมาอีกล่ะ
แล้วไปรู้จักหร่วนกวางเจี่ยนตั้งแต่เมื่อไหร่จะอธิบายยังไงดี…
บนหัวเหออันก็มีเครื่องคำถามมากมายไม่ต่างจากเผยเชียน
เขาดีใจมากตอนเห็น ‘บอสหม่า’ จนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเชื่อ
แต่พอหร่วนกวางเจี่ยนร้องทักว่า ‘บอสเผย’ รอยยิ้มของเหออันก็ค้างอยู่แบบ
นั้น
บอสเผย? หร่วนกวางเจี่ยนเรียกบอสหม่าว่าบอสเผยเหรอ
เรียกเผยเป็นหม่า
ไม่สิ ต้องเรียกหม่าเป็นเผย
ดูแปลกๆ นะ
ทำไมหร่วนกวางเจี่ยนถึงเรียกผิดแบบนั้น
เป็นไปไม่ได้ หร่วนกวางเจี่ยนร่วมงานกับบอสเผยมาหลายครั้งแล้ว ไม่มีทาง
เรียกผิดหรอก!
ต้องมีปัญหาใหญ่ตรงไหนแน่ๆ!
ทั้งสองยืนเก้อ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
หร่วนกวางเจี่ยนมองเหออันสลับกับบอสเผยแล้วสังเกตเห็นว่าไม่มีใครพูด
อะไร จนเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอคิดๆดูเขาก็เข้าใจ ทั้งสองน่าจะตื่นเต้นเล็กน้อยกับการพบกันครั้ง
ประวัติศาสตร์เช่นนี้ เพราะงั้นก็เข้าใจได้!
งั้นอย่าไปกวนดีกว่า ปล่อยให้พวกเขาดื่มด่ำกับช่วงเวลานี้กันไป
คิดได้แบบนั้นหร่วนกวางเจี่ยนก็ยิ้มบาง “พวกคุณคงมีเรื่องให้คุยกันเยอะเลย
งั้นผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน ไว้เจอกันใหม่นะครับ!”
หร่วนกวางเจี่ยนกลับเข้าไปในสตูดิโอกวงหวง
ลมพัดผ่านพาใบไม้บนพื้นปลิว ทุกอย่างราวหยุดนิ่ง
เผยเชียนกับเหออันมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่แตกต่าง ต่างฝ่ายต่างพูดอะไรไม่
ออก