ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 671 โมเดลธุรกิจแบบพิเศษของบอสเผย
คืนวันพฤหัสที่ 29 กันยายน
หลี่สือรีบกลับอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยในคอมมูนิตี้สู่กวง แล้วเปิดทีวีรอดู
รายการสังเกตโลกเศรษฐกิจในช่องเศรษฐกิจของสถานี CCTV
สกู๊ปนี้โฆษณามาพักใหญ่แล้ว เป็นสกู๊ปที่จะขุดลึกลงไปในโมเดลธุรกิจของ
เถิงต๋า ซึ่งชื่อสกู๊ปคือ
‘เถิงต๋าคอร์เปอเรชัน: เชื่อเสมอว่าสิ่งแปลกเกินเข้าใจกำลังจะเกิดขึ้น’
แค่อ่านชื่อสกู๊ปก็กระตุกต่อมความอยากรู้อยากเห็นสุดๆ!
มีหลายคนรอดูสกู๊ปนี้เหมือนหลี่สือ
เพราะทุกคนต่างอยากรู้ว่าสกู๊ปนี้จะวิเคราะห์โมเดลธุรกิจของเถิงต๋าคอร์เปอ
เรชันออกมายังไง
รายการสังเกตโลกเศรษฐกิจเป็นรายการด้านเศรษฐกิจระดับมืออาชีพ ซึ่ง
รายงานข่าวในรูปแบบนั่งคุยและถกกัน แขกรับเชิญมักเป็นผู้คนจากสื่อด้าน
การเงิน ผู้เชี่ยวชาญ และนักธุรกิจมาคุยเรื่องเศรษฐกิจในแง่มุมที่ย่อยง่ายและขาย
ได้ รายการนี้ทั้งเข้าใจได้ง่ายและมีความเป็นมืออาชีพสูง
แน่นอนว่าหลายคนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง’ มัก
ได้ออกทีวีบ่อยและได้รับการยกย่องจากสื่อ แต่เอาเข้าจริง คนพวกนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
ตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ แถมยังขาด ‘จริยธรรม’ ที่นักวิชาการพึงมีมากที่สุดด้วยแต่รายการสำรวจโลกเศรษฐกิจไม่เคยมีปัญหาแบบที่ว่า จึงค่อนข้างเป็นที่
นิยมในหมู่ผู้ชม
หลี่สือได้ดูรายการมาบ้างและได้ประโยชน์มากมายจากบทวิเคราะห์โมเดล
ธุรกิจของรายการนี้
แต่ครั้งนี้รายการสำรวจโลกเศรษฐกิจจะวิเคราะห์เถิงต๋าคอร์เปอเรชันซึ่ง
เติบโตอย่างรวดเร็วภายในสองปี ก็ไม่รู้จะจุดประกายอะไรให้เขาได้บ้าง
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
ไม่นานรายการก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
…
“พบการรายการสำรวจโลกเศรษฐกิจที่จะมอบความรู้อันเป็นประโยชน์แก่
สาธารณชน สวัสดีครับทุกคน ผมหวังเจ๋อผิงเป็นพิธีกรรายการ
“บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2009 ที่เมืองจิงโจว ใน
เวลาสั้นๆ เพียงแค่สองปี กิจการก็ขยายเพิ่มเติมครอบคลุมทั้งเรื่องเทคโนโลยี
วิดีโอเกม ร้านอินเทอร์เน็ต อาหารและเครื่องดื่ม นิยายออนไลน์ โลจิสติกส์ ฟิต
เนส และอพาร์ตเมนต์
“เมื่อเทียบกับบริษัทต่างๆ ที่รายการของเราเคยทำสกู๊ปแล้ว บริษัทนี้สเกลไม่
ใหญ่เท่า ยังไม่ได้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าในหลายมณฑลทั่วประเทศ
จากสถานการณ์ในตอนนี้ ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ครอบคลุมกิจการหลาย
อุตสาหกรรม แต่ก็ยังไปไม่สุดในทุกทาง“หลายคนวิจารณ์โมเดลธุรกิจของเถิงต๋าว่าเป็นการ ‘ทำเกินตัว’ และ ‘โลเล’
“ในเบื้องหน้าดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ทุกครั้งที่เถิงต๋าประสบความสำเร็จใน
วงการหนึ่ง พวกเขาจะพุ่งเข้าไปอีกวงการหนึ่งทันทีโดยไม่มัวรีรอ เอาเข้าจริงทำ
ให้รู้สึกว่า ‘ใจร้อนเกินไป’ ด้วยซ้ำ
“แต่เถิงต๋าก็ขยายกิจการไปเรื่อยๆ บางทีเราควรเริ่มคิดได้แล้วว่าบริษัทนี้ ‘ทำ
เกินตัว’ อย่างที่ผู้คนว่ารึเปล่า บอสเผย ชายผู้ที่สร้างอาณาจักรกิจการนี้ขึ้นมา
ภายในเวลาแค่สองปี พลาดเรื่องไม่ควรพลาดในการวางกลยุทธ์บริษัทจริงๆ หรือ
เขามีจุดพิจารณาอื่นกันแน่
“สกู๊ปรายการสำรวจโลกเศรษฐกิจวันนี้ เราเชิญศาสตราจารย์ไป๋ฉีเหมี่ยว
ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มาร่วมวิเคราะห์เชิงลึกถึงโมเดลธุรกิจของเถิงต๋าที่ดูจะ
ไม่สมเหตุสมผลและจุดประสงค์เบื้องลึกที่แฝงอยู่ครับ!”
ก่อนจะเริ่มสกู๊ปอย่างเป็นทางการ มีคลิปสั้นเปิดเกริ่น ซึ่งนำเสนอความสำเร็จ
ส่วนใหญ่ของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน
ความสำเร็จที่ว่ามีทั้งเกมสุดยอดเยี่ยมที่ได้รับการชมเชยหลายหนจาก
แพลตฟอร์มทางการ โมหยูเดลิเวอรี่ที่กระตือรือร้นเรื่องการจัดแยกขยะ โซน
อุตสาหกรรมเก่าที่แปลงโฉมกลายเป็นโปรเจ็กต์โดดเด่นอย่างโฮสเทลเขย่าขวัญ
แอปชีวิตเถิงต๋าที่มอบความสะดวกสบายให้กับจิงโจว และอื่นๆ
หลังจากนั้นพิธีกรก็เริ่มเปิดประเด็นถกกับศาสตราจารย์ไป๋ฉีเหมี่ยว
ศาสตราจารย์ไป๋ฉีเหมี่ยวมีผมขาวโพลนและรอยเหี่ยวย่นแห่งวัย เขาพูดช้าๆ
ทำให้ผู้ชมฟังตามได้สบายมาก“เถิงต๋าคอร์เปอเรชันเป็นบริษัทที่น่าสนใจมาก ผมลองสืบค้นข้อมูลบริษัทนี้
มาคร่าวๆ บ้างแล้วเหมือนกัน
“ในช่วงต้น ชาวเน็ตวิจารณ์ว่าโมเดลธุรกิจของเถิงต๋าครอบคลุมหลายอย่าง
แต่ก็ยังไปไม่สุดในทุกทาง ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะเมื่อมองย้อนไปในประวัติ
การประกอบธุรกิจของเถิงต๋า จะเห็นว่าบริษัทเริ่มต้นมาจากการทำเกม ผ่านไปได้
ครึ่งทางก็เปิดร้านอินเทอร์เน็ต เสร็จจากนั้นก็แตกกิจการไปทำภัตตาคาร ฟิตเนส
อพาร์ตเมนต์ และอื่นๆ
“เห็นได้ชัดว่าเป็นวิธีการที่แตกต่างจากบริษัททั่วไปมากๆ
“บริษัททั่วไปจะเน้นปั้นธุรกิจในอุตสาหกรรมหนึ่งให้ดีไปเลย ตัวอย่างเช่น
บริษัทที่เปิดร้านอินเทอร์เน็ต ถ้าร้านอินเทอร์เน็ตประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะ
เปิดสาขาเพิ่มในเมืองอื่นๆ จากนั้นก็จะหานักลงทุนมาทุ่มเงินทุนกับกิจการนี้
เพื่อให้เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด พอมีสาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศแล้ว ก็จะ
พยายามครองตลาดให้ได้
“แต่เถิงต๋าทำตรงกันข้าม พอประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมหนึ่ง ก็จะ
ปล่อยทิ้งไว้ก่อนแล้วก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอื่น กิจการเดิมจะโดนปล่อยให้เอาตัว
รอดด้วยตัวเองและค่อยๆ พัฒนาขึ้นโดยไม่ต้องระดมทุนหรืออัดฉีดเงิน
“ดังนั้นจนถึงตอนนี้ นอกจากธุรกิจเกม หนัง มือถือ และธุรกิจอื่นๆ ในทำนอง
เดียวกันแล้ว กิจการหน้าร้านส่วนใหญ่ของเถิงต๋ายังกระจุกตัวอยู่ในจิงโจวและ
มากสุดคือมณฑลฮั่นตง“แม้บริษัทสตาร์ตอัปส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่เมืองอันดับหนึ่ง เถิงต๋ากลับเลี่ยง
เมืองเหล่านั้น
“หลายคนคิดว่ากลยุทธ์ของเถิงต๋าโง่เง่ามาก ทำไมคนถึงคิดกันแบบนั้น ดูร้าน
อินเทอร์เน็ตเป็นตัวอย่าง ถ้าพวกเขาเอาทุนทั้งหมดไปทุ่มกับการขยายสาขาเพิ่ม
ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะกินส่วนแบ่งตลาดใหญ่ได้ และ
อาจทำเงินได้มากกว่าเดิมหลายสิบเท่า แล้วยิ่งถ้าเอาเข้าตลาดจะทำเงินได้
มากมายขนาดไหน
“แต่ช่วงที่ผ่านมา มีคนวิจารณ์ไปในทางนั้นน้อยลง ทำไมล่ะ ก็เพราะคนส่วน
ใหญ่ตระหนักถึงข้อดีของโมเดลธุรกิจของเถิงต๋าแล้ว
“เราสังเกตเห็นว่ากิจการต่างๆ ของเถิงต๋านั้นสนับสนุนซึ่งกันและกัน การ
ตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างหุนหันพลันแล่น เห็นได้ชัด
ว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งผ่านการคิดมาอย่างละเอียดรอบคอบ
“แต่ข้อเสียของโมเดลธุรกิจแบบนี้คือเห็นผลลัพธ์ช้า
“บริษัทต้องพึ่งทุนตัวเองและขยายกิจการต่อได้เมื่อมีเงินเหลือเท่านั้น ซึ่งช้า
กว่าโมเดลแบบดั้งเดิมทั่วไป บริษัทสตาร์ตอัปหลายแห่งมักระดมทุนหลายครั้งใน
หนึ่งหรือสองปี เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 60 – 70% หรืออาจจะมากกว่านั้น
กลับกัน ธุรกิจหน้าร้านของเถิงต๋านั้นแม้จะค่อนข้างใหญ่โต แต่พวกเขาก็ไม่ยอม
ขยายออกมานอกมณฑลฮั่นตง
“ความเร็วในการขยายกิจการในอุตสาหกรรมบางประเภทเทียบกับโมเดล
ดั้งเดิมไม่ได้เลย“แต่ข้อดีของโมเดลธุรกิจแบบนี้คืออะไร ก็คือมีรากฐานที่มั่นคง!
“จะเห็นได้ว่าแต่ละกิจการเชื่อมโยงและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเกิดเป็น
วงจรปิดทางธุรกิจที่มั่นคง
“ทุกครั้งที่เปิดกิจการใหม่ ลูกค้าจากกิจการอื่นๆ จะหันไปสนใจกิจการนั้น
ทันที ซึ่งช่วยแก้ปัญหาที่บริษัทสตาร์ตอัปส่วนใหญ่เจอได้ พอลูกค้าคุ้นชินกับ
กิจการใหม่ พวกเขาก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำ ถึงคู่แข่งจะเปิดสงครามหั่นราคาก็
ไม่มีทางแย่งลูกค้าไปได้!
“แน่นอนว่า สองโมเดลธุรกิจนี้ไม่มีโมเดลไหนดีกว่ากัน ทั้งสองโมเดลนำไปสู่
ความสำเร็จได้ แต่ก็ชัดเจนว่าโมเดลของเถิงต๋านั้นมั่นคงและน่าเชื่อถือกว่า พอตั้ง
หลักขึ้นมาได้ก็ไม่มีวันสั่นคลอน
“ผมจึงคิดว่าเถิงต๋ามีความทะเยอทะยานที่ต่างออกไป
“ทุกวันนี้ หลายบริษัทคิดแต่จะทุ่มเงินเพื่อสร้างข้อมูลและเรียกให้คนมา
ลงทุนเพิ่มขึ้น แล้วหาบริษัทใหญ่มาซื้อกิจการต่อ เพื่อที่พวกคนก่อตั้งจะได้มี
อิสรภาพทางการเงิน
“พฤติกรรมแบบนี้ถูกต้องรึเปล่า ผมขอไม่ออกความเห็น บอกได้แค่ว่ามอง
ระยะสั้นเกินไป โมเดลธุรกิจแบบนี้ไม่มีทางไต่เต้าขึ้นไปเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการได้
“กลับกัน โมเดลธุรกิจของเถิงต๋านั้นมั่นคงกว่า เพราะค่อยๆ พัฒนาไปทีละ
ขั้น! เป้าหมายสูงสุดคือเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ที่มีความสามารถในการป้องกันความ
เสี่ยงที่แข็งแกร่ง คู่แข่งในอนาคตคือองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับนานาชาติอย่างเฉินฮว่า
กับ Pineapple“ชัดเจนว่าเป้าหมายของบอสเผยไม่ใช่การขายบริษัทเพื่อให้ตัวเองมีอิสรภาพ
ทางการเงิน เป้าหมายจริงๆ ของเขาคือการต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่
“ความอดทนและทักษะในการมองการณ์ไกลเช่นนี้หาได้ยากในตัว
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากส่งเสริมมาก”
พิธีกรหวังเจ๋อผิงพยักหน้า “ศาสตราจารย์ไป๋คิดว่าบริษัทอื่นสามารถเรียนรู้
หรือเลียนแบบโมเดลธุรกิจของเถิงต๋าได้มั้ยครับ”
ไป๋ฉี่เหมี่ยวส่ายหน้า “ยากมากครับ
“ที่เถิงต๋าใช้โมเดลธุรกิจนี้ได้ก็เพราะบอสเผยที่เป็นผู้ก่อตั้งมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
และเก่งกาจด้านการวางแผน ขณะเดียวกัน ฝ่ายเกมเถิงต๋าก็หาเงินทุนมาได้ไม่
จำกัด ซึ่งเพียงพอต่อการขยับขยายกิจการเป็นวงกว้าง
“หากบริษัทอื่นคิดจะนำโมเดลนี้ไปใช้ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าถ้ามีสักโปร
เจ็กต์ล่มจะฉุดรั้งห่วงโซ่ลงทุนของทั้งบริษัท ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงเกินไป!
“ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน เราควรทะนุถนอมองค์กร
เอกชนแบบนี้เอาไว้”
พิธีกรหวังเจ๋อผิงพยักหน้าอีกครั้ง “ศาสตราจารย์ไป๋คิดยังไงกับสโลแกนของ
เถิงต๋าที่นำมาใช้เป็นชื่อสกู๊ปนี้ครับ”
ศาสตราจารย์ไป๋ยิ้มบาง “เป็นสโลแกนที่น่าสนใจมาก และอธิบายเถิงต๋าคอร์
เปอเรชันได้เป็นอย่างดี
“สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าสามารถตีความได้สองแบบ“แบบแรกคือการสื่อสารโดยตรงถึงลูกค้าทุกคนเพื่อบอกให้พวกเขาเชื่อว่า
เถิงต๋าเป็นบริษัทอัศจรรย์ที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้
“ลูกค้าต้องเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าเถิงต๋าจะสร้างความประหลาดใจให้พวกเขาได้
“เพราะแผนของบอสเผยมีความซับซ้อนสูง มองเผินๆ กิจการส่วนใหญ่ดูไม่มี
ความเชื่อมโยงกันเลย เพราะงั้นจึงทำให้ผู้คนรู้สึกว่าช่าง ‘แปลกเกินเข้าใจ’
“แต่พอความลับถูกเปิดเผย ผู้คนจะคิดว่าช่างเหนือความคาดหมาย แต่ก็
สมเหตุสมผล
“แบบที่สองคือการสื่อสารกับพนักงานให้เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกและ
ตระหนักถึงความเสี่ยง
“นักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติเคยเสนอ ‘ทฤษฎีหงส์ดำ’ ซึ่งเป็นเรื่องซับซ้อน ผม
จะไม่ลงลึกในเรื่องนี้มาก
“สโลแกนของเถิงต๋าตรงกับทฤษฎีนี้เป๊ะ
“เชื่อเสมอว่าสิ่งแปลกเกินเข้าใจกำลังจะเกิดขึ้น ประโยคนี้เน้นย้ำถึงการมีอยู่
ร่วมกันของโอกาสและความเสี่ยง เราต้องเตรียมพร้อมที่จะคว้าโอกาสและเจอ
ความเสี่ยงได้ทุกเมื่อ
“บางครั้งสิ่งที่ไม่รู้ก็มีความหมายมากกว่าสิ่งที่คุณรู้
“ผมคิดว่าการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงในระดับสูงนี้ทำให้บอสเผยให้
ความสำคัญกับความสามารถในการต้านทานความเสี่ยงของบริษัท ซึ่งก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้เขาสร้างต้นแบบของอาณาจักรธุรกิจสุดพิเศษอย่างเถิงต๋าคอร์เปอเร
ชันขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว”
พิธีกรหวังเจ๋อผิงพยักหน้าเป็นครั้งสุดท้าย “ครับ ขอบคุณศาสตราจารย์ไป๋
มากครับสำหรับบทวิเคราะห์เชิงลึกถึงโมเดลธุรกิจของเถิงต๋า ศาสตราจารย์ไป๋มี
แนวทางอะไรที่ได้จากสกู๊ปนี้อยากจะบอกให้นักธุรกิจทราบไหมครับ”
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ไป๋ฉีเหมี่ยวก็พูดขึ้น “แม้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบ
โมเดลธุรกิจของเถิงต๋า แต่บริษัทอื่นๆ สามารถร่วมงานกับเถิงต๋าให้มากขึ้นได้
“ผมคิดว่าเถิงต๋าคอร์เปอเรชันคือคู่ค้าทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมมากๆ ดูได้จาก
การรับรู้ความเสี่ยงของบอสเผยและความสามารถในการต้านทานความเสี่ยงของ
เถิงต๋า
“การร่วมงานกับผู้ประกอบการประเภทนี้ดีกว่าร่วมงานกับคนที่คิดแต่เรื่อง
ผลาญเงินและขายต่อกิจการเป็นไหนๆ!”
…
ดูมาถึงตรงนี้ คนที่พักชั้นสิบเอ็ดและสิบสองของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย
ในคอมมูนิตี้สู่กวงก็ตกอยู่ในความเงียบ
บนหัวเผยเชียนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม แต่บนหัวหลี่สือเต็มไปด้วย
เครื่องหมายตกใจ
หลี่สื่อเพิ่งจะตระหนักถึงปัญหาร้ายแรงอีกไม่นานจะมีบริษัทมากมายแห่มาร่วมงานกับเถิงต๋า ผลประโยชน์ที่ควรเป็น
ของเขาก็จะโดนคนอื่นแย่งไป!
ด้านเผยเชียนเองก็เพิ่งจะตระหนักถึงปัญหาร้ายแรงเหมือนกัน
ตอนแรกเขาแค่ตั้งหม้อเปล่าไว้บนไฟ แต่บอสหลี่ดันพาพรรคพวกมาเท
วัตถุดิบต่างๆ ใส่หม้อ แล้วตักเนื้อยัดใส่ปากเผยเชียน ส่วนพวกตัวเองก็ตักแบ่งซุป
กินกันอย่างเต็มใจ
ทีนี้จะมีคนขนวัตถุดิบมาใส่หม้อเพื่อขอแบ่งซุปเพิ่มขึ้นอีก!
เผยเชียนแทบจะนึกภาพตัวเองทนทุกข์ทรมานกับเนื้อที่ถูกยัดไว้เต็มปากได้
เลยทีเดียว
ข่าวดีเพียงเรื่องเดียวคือพรุ่งนี้เป็นวันสรุปบัญชี จะได้กินเนื้อเยอะขนาดไหนก็
เป็นเรื่องของรอบบัญชีหน้าแล้วกัน
คืนก่อนวันสรุปบัญชี เผยเชียนรู้สึกผสมปนเป
แถมยังรู้สึกเศร้าอยู่หน่อยๆ ด้วย
การขาดทุนเงียบๆ คนเดียวมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ