ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 682 โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม
สำนักงานใหญ่เถิงต๋า
เลขาซินนำชิวหงเข้าไปในห้องรับแขกแล้วเตรียมชาให้ดื่ม
“เชิญดื่มชารอก่อนค่ะ เดี๋ยวบอสเผยเข้ามานะคะ”
ชิวหงรีบพยักหน้า “ครับๆ”
พอเลขาซินออกจากห้องรับแขกไป เขาก็จิบชาพลางคิดคำนึงถึงฝ่ายเกม
เถิงต๋า
หลังจากติวให้ ‘บอสหม่า’ ไป ชิวหงก็เตรียมติดต่อเพื่อนในวงการ เพราะ
อยากรวมกลุ่มกันอีกครั้งเพื่อเปิดบริษัทพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่
แต่เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำโปรเจ็กต์อะไร ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะโน้ม
น้าวให้นักลงทุนมาลงทุนได้
ชิวหงสั่งสมความมั่งคั่งได้สูงมากผ่านเกมเน้นระบบเติมเงิน แต่เงินที่ว่าก็หาย
เกลี้ยงไปกับการเปิดธุรกิจของตัวเองครั้งล่าสุด
อุตสาหกรรมด้านวัฒนธรรมนั้นมีความเป็นอัตวิสัยสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรม
เกมถ้าประสบความสำเร็จก็จะลำพองใจและรู้สึกว่าทำถูกไปซะทุกอย่าง แต่ถ้า
ล้มเหลวขึ้นมาก็จะจมอยู่กับความคลางแคลงใจในตนเองและคิดว่าตัวเองไร้ค่า
ชิวหงกำลังดิ้นรนกับเรื่องนี้ เขาอยากเปิดบริษัทใหม่และพัฒนาเกมที่ประสบ
ความสำเร็จอีกครั้ง แต่ก็รู้สึกว่ายังเตรียมตัวไม่พอ เลยรู้สึกสับสน
พอดีกับที่ ‘บอสหม่า’ โทรมาชวนเขาให้เขามาจิงโจว บอกว่าอยากให้ร่วมงาน
กับเถิงต๋าและต้องหารือกันแบบตัวต่อตัว
อีกฝ่ายไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีก
ถ้าเป็นบริษัทอื่น ชิวหงอาจไม่สนใจ เพราะพอเริ่มโปรเจ็กต์แล้ว เขาจะต้อง
ทำงานให้คนอื่น จากคนที่ตัดสินใจอะไรเองทุกอย่างกลายมาเป็นโดนคนอื่น
ควบคุม จุดนี้จะทำให้เขารู้สึกเหมือนต้อง ‘พึ่งพาคนอื่น’ ตลอดเวลา
แต่นี่เป็นเถิงต๋า แถมชิวหงก็สนิทกับบอสหม่า เขาจึงตัดสินใจแวะมา
ทุกครั้งที่มาจิงโจว เขาจะตรงไปที่คาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัยฮั่นตงตลอด แต่รอบ
นี้เขาได้มาที่เถิงต๋าคอร์เปอเรชัน
โต๊ะทำงานกว้างขวาง สวัสดิการแสนน่าอิจฉา สภาพการทำงานอัน
กระฉับกระเฉงของพนักงาน…
ทุกอย่างทำให้ชิวหงรู้สึกอิจฉาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขาเคยเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองจึงรู้ว่ามันยากลำบากขนาดไหนกว่าจะปั้น
เถิงต๋ามาอยู่ในสภาพแบบทุกวันนี้ได้น่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่สามารถการันตีความกระตือรือร้นและประสิทธิภาพการ
ทำงานของพนักงาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานและบรรยากาศ
การทำงานที่ผ่อนคลาย
สรุปแล้ว พอได้เห็นสภาพแวดล้อมการทำงานของเถิงต๋า ชิวหงก็รู้สึกว่าไม่เสีย
เปล่าแล้ว
ส่วนวันนี้จะคุยเรื่องการร่วมงานกันยังไง
ชิวหงบอกไม่ได้จริงๆ
เขารู้จุดยืนตัวเองดี ถึงจะมีชื่อเสียงในวงการเกมจีน แต่ก็แค่ในแวดวงเกมเน้น
ระบบเติมเงิน แม้จะทำเงินได้ แต่ก็ยังเทียบเถิงต๋าไม่ได้อยู่ดี
เถิงต๋าไม่ได้ต้องการเขา
ระหว่างที่คิดอยู่ เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังมาจากด้านนอกห้องรับแขก เขาได้ยิน
เสียงเลขาซินรางๆ เหมือนเธอจะพูดว่า ‘บอสเผยคะ บอสชิวรออยู่ในห้องแล้วค่ะ’
ชิวหงนั่งหลังตรงโดยไม่รู้ตัว
บอสเผยมาแล้ว!
ชิวหงเคยได้ยินเรื่องราวของบุคคลระดับตำนานคนนี้ แต่ไม่เคยเจอตัวมาก่อน
ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกแอบคาดหวังอยู่หน่อยๆ
พอได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็รีบพูดขึ้น “เชิญครับ”
เลขาซินเปิดประตู ก่อน ‘บอสหม่า’ จะเดินเข้ามาด้านใน“เรียกดิฉันได้ทุกเมื่อเลยนะคะบอสเผย” เลขาซินปิดประตูออกไปหลังจาก
พูดจบ
ชิวหงลุกยืนเตรียมจับมือทักทายบอสเผย แต่ก็ต้องตะลึงงันไปเมื่อได้เห็นเผย
เชียน
บนหัวของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
???
บอสเผยยิ้มให้ชิวหงที่กำลังตะลึงงันอยู่ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับบอสชิว”
ชิวหงนึกอยู่พักใหญ่
นี่บอสหม่าไม่ใช่เหรอ
ทำไมเลขาที่ดูจะมีตำแหน่งสูงในบริษัทถึงเรียกคนคนนี้ว่าบอสเผยล่ะ
ชิวหงพอจะคิดอะไรออก แต่ก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อเกินไป เพราะไม่เข้าใจเหตุผล
และตรรกะเบื้องหลังเรื่องนี้
เผยเชียนนั่งลงบนโซฟา ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ชิวหงเดาไปเรื่อยเปื่อย
แล้ว เขาเตรียมตัวไว้เรียบร้อยจึงเข้าประเด็นทันที
“บอสชิวครับ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณด้วยครับ ตัวตนที่แท้จริงของผมไม่ใช่
บอสหม่าแห่งบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง แต่คือเผยเชียนครับ“ส่วนที่ผมเรียกตัวเองว่าบอสหม่ามาตลอด… เหตุผลหลักคือต้องการติดต่อ
คุณด้วยตัวตนที่ต่างออกไป เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และพิจารณาความ
เป็นไปได้ในการร่วมงานกันครับ”
พอได้ฟังเหตุผลชิวหงก็ดูจะงงน้อยลง
พูดอีกอย่างคือ จริงๆ บอสเผยไม่ได้สนใจสิ่งที่ฉันสอน แต่กำลังประเมินและ
สัมภาษณ์แบบไม่ระบุตัวตนอยู่
เหมือนครูใหญ่ที่แอบมานั่งฟังครูสอนเพื่อให้เข้าใจระดับความสามารถที่
แท้จริงของครูคนนั้น
ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมบอสเผยถึงปลอมเป็น ‘บอสหม่า’ แล้วติดต่อเขามา
แต่ชิวหงก็ยังมีข้อสงสัยอยู่
เขาเป็นนักออกแบบเกมธรรมดาๆ ถึงจะมีชื่อเสียงนิดหน่อย แต่ก็มีหลายคน
ในวงการเกมจีนที่มีผลงานในระดับเดียวกันกับเขา
ความสามารถและจุดเด่นไหนที่ทำให้บอสเผยถึงขั้นลงมาพิจารณาความ
เป็นไปได้ในการร่วมงานด้วยตัวเอง แถมบอสเผยยังจ่ายค่าเรียนให้อีก!
บอสเผยอยากร่วมงานอะไรกับฉันกันนะ
เผยเชียนไม่อยากติดอยู่ในหัวข้อนี้นานเกินไปจึงรีบเข้าประเด็นต่อไป
“บอสชิวครับ ผมขอเล่าแผนร่วมงานให้ฟังคร่าวๆ ลองพิจารณาดูนะครับ
“โปรเจ็กต์ที่ผมอยากทำชื่อว่า ‘โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน’“เป็นโปรเจ็กต์สนับสนุนผู้พัฒนาเกมสแตนด์อโลนและเกมอินดี้ในจีน โดยจะ
จัดหาเงินทุนที่จำเป็นให้พวกเขา
“ผมอยากเชิญคุณมาเป็นผู้จัดการโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานและรับตำแหน่ง
ผู้บริหารเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน เงินเดือนกับสวัสดิการจะได้ตามเกณฑ์ของกิจการ
อื่นๆ แต่มีจุดเน้นย้ำหนึ่งเรื่องคือ โบนัสของคุณจะไม่เชื่อมโยงกับกำไรของโปร
เจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน
“โบนัสของคุณจะขึ้นอยู่กับอัตราส่วนการทำกำไรของโปรเจ็กต์ย่อยต่อ
จำนวนโปรเจ็กต์ย่อยทั้งหมด ยิ่งอัตราส่วนต่ำ คุณจะยิ่งได้โบนัสมากขึ้น
“ผมเปิดเผยจำนวนที่เจาะจงไม่ได้ แต่การันตีได้เลยว่าไม่น้อยไปกว่าโบนัสที่
คุณได้ตอนรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนในโปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จของ
คุณ แต่ผมคงต้องบอกตามตรงว่าคงไม่สูงเท่ารายได้ของผู้ประกอบการที่ประสบ
ความสำเร็จ
“แน่นอนว่าเราเจรจากันใหม่ได้ในอนาคตถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจ และอยาก
ลาออกหรืออยากปรับฐานเงินเดือน
“คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ ถ้าบอสชิวมีคำถามอะไรก็เชิญถามได้เลยครับ”
เผยเชียนยกชาขึ้นจิบพลางยิ้มให้ชิวหง
ส่วนทำไมตั้งชื่อว่า ‘โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน’ แทนที่จะเป็น ‘โปรเจ็กต์ปั้น
ฝัน’ หรือ ‘โปรเจ็กต์ช่วยชีวิต’ ก็ชัดเจนว่าบอสเผยอยากให้โปรเจ็กต์นี้ไปไม่รอด
เลยตั้งชื่อเอาฤกษ์เอาชัยชิวหงเงียบไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีคำถาม แต่มีมากเกินไปจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน!
จริงๆ แล้วในจีนก็มีหลายบริษัทที่ทำแบบนี้
บริษัทสองประเภทที่มีผลงานด้านนี้มากที่สุดคือบริษัทลงทุนหรือที่เรียกว่า
‘ท่อน้ำเลี้ยง’ ซึ่งเน้นวงการเกมเป็นหลัก อีกประเภทคือช่องและแพลตฟอร์มเกม
ถึงแพลตฟอร์มทางการ ESRO จะใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้
หมายความว่าไม่มีแพลตฟอร์มเกมเจ้าอื่น ร้านค้าแอปพลิเคชันของเฉินฮว่าเองก็
นับว่าเป็นแพลตฟอร์มเกมเหมือนกัน
บริษัททั้งสองประเภททำโปรเจ็กต์สนับสนุนคล้ายๆ กันนี้เพราะทำกำไรได้
บริษัทสตาร์ตอัปในวงการเกมหลายแห่งดังระเบิดขึ้นมาในชั่วข้ามคืน
โดยเฉพาะในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่อินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง
ตำนานบริษัทเกมมือถือประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืนจึงดำเนินต่อไป ถ้าลงทุน
ในบริษัทมือถือที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ผลตอบแทนจากการลงทุนจะสูงขนาด
นี้ทำให้นักลงทุนทุกคนอิจฉา
ถึงจะมีบริษัทลงทุนมากมาย แต่ก็มีหลักเกณฑ์มากมายในการลงทุน บาง
บริษัทไม่เข้าใจอุตสาหกรรมเกมจึงไม่กล้าสุ่มลงทุนในบริษัทเกมเล็กๆ
เพราะงั้นเลยมีบริษัทลงทุนที่เจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทเกมเป็นหลักถือกำเนิด
ขึ้นมาแพลตฟอร์มเกมให้การสนับสนุนบริษัทเกมสตาร์ตอัปด้วยเหตุผลเดียวกัน ใน
ฉากหน้าอาจพูดอย่างสวยหรูว่าอยากให้มีเกมดีๆ เยอะขึ้นบนแพลตฟอร์ม แต่
สุดท้ายแล้วก็ล้วนเป็นเรื่องของผลประโยชน์
ดังนั้นบริษัทพวกนี้จึงมีลักษณะเฉพาะอยู่หนึ่งอย่าง พวกเขาลงทุนและ
สนับสนุนหลายบริษัทก็จริง แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเกมออนไลน์กับบริษัทเกมมือ
ถือ
เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะทำเงินได้!
ลงทุนในบริษัทกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงแต่ก็ได้ผลตอบแทนสูง
ลงทุนในเกมสแตนด์อโลนกับเกมอินดี้มีความเสี่ยงสูงแต่ไร้ผลตอบแทน
บริษัทลงทุนมีสัญชาตญาณในการไขว่คว้าหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงความ
เสียเปรียบ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะลงทุนในเกมออนไลน์แทนที่จะเป็นเกมสแตนด์
อโลน และลงทุนในเกมมือถือแทนที่จะเป็นเกมอินดี้
แต่โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานของบอสเผยดันวางเป้าหมายที่เกมสแตนด์อโลน
กับเกมอินดี้
แถมตำแหน่ง โบนัสและผลงานของผู้จัดการโปรเจ็กต์ยังไม่ได้คำนวณจาก
รายได้ของโปรเจ็กต์อีก
แต่ไปคำนวณจากสัดส่วนกำไรของโปรเจ็กต์ย่อยต่อจำนวนโปรเจ็กต์ย่อย
ทั้งหมด
ก็เท่ากับว่ายิ่งลงทุนเยอะแล้วได้กำไรน้อย ก็ยิ่งได้โบนัสเยอะสิมันกลับตาลปัตรไปรึเปล่า
แบบนี้ก็เหมือนสนับสนุนให้เขาเลือกโปรเจ็กต์ที่ดูไม่รุ่งสิ
ชิวหงสับสนมาก
เรื่องรายได้นั้นเห็นถึงความจริงใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว
ชิวหงเคยรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนของโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่าการซื้อขาย
ต่อเดือนสูงถึงหนึ่งร้อยล้านหยวนก่อนจะออกไปทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นรายได้
สูงสุดที่ทำได้ในชีวิตของเขา ถึงอย่างนั้นโบนัสที่เขาได้ก็แค่ประมาณแสนกว่าๆ
เกณฑ์การให้โบนัสของบริษัทนั้นคือทีมพัฒนาทั้งทีมจะได้โบนัสแค่ 3% ของ
รายได้โปรเจ็กต์ ไอ้ที่ว่า ‘มีมูลค่าการซื้อขายต่อเดือนสูงถึงหนึ่งร้อยล้านหยวน’
จริงๆ แล้วเอาไว้โม้ ไม่ได้หมายความว่ามีรายได้สุทธิหนึ่งร้อยล้านหยวน
พวกเขาต้องแบ่งรายได้ให้แพลตฟอร์ม (หักหัวคิวเยอะมาก) หักค่าใช้จ่ายทาง
การตลาด (ส่วนใหญ่บริษัทเป็นฝ่ายระบุตัวเลข) และในเวลานั้นทีมพัฒนาก็มี
ขนาดค่อนข้างใหญ่ โบนัสจึงถูกแบ่งให้ทั้งทีม แม้ว่าหัวหน้าฝ่ายวางแผนจะได้ส่วน
แบ่งเยอะกว่า แต่ก็มีขอบเขตจำกัด
เมื่อคำนวณรายจ่ายเบ็ดเตล็ดทั้งหมดแล้ว เงินจริงที่ได้รับเมื่อเทียบกับเงินที่
โปรเจ็กต์ทำได้ก็เหมือนหยดน้ำในมหาสมุทร
เพราะงั้