ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 686 ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ AEEIS
วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม
เผยเชียนเข้าออฟฟิศตามปกติ แต่ไม่มีใครมาเคาะประตูห้องทำงาน
เขาท่องโลกอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ เลยหยิบมือถือ
ขึ้นมาเช็กเว่ยป๋อของหม่าหยาง
เว่ยป๋อของไอ้หม่าไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์!
เผยเชียนแปลกใจเล็กน้อย หมายความว่าไงกัน ไอ้หม่าลืมเรื่องนี้ไปแล้วรึ
ยังไง
มัวแต่ไปเที่ยวเล่นตลอดช่วงวันหยุดจนไม่ได้เข้าไปเช็กเว่ยป๋อเหรอ
เป็นไปไม่ได้ ถึงไอ้หม่าจะจดจ่อกับอะไรไม่ได้นาน แต่นี่ก็สั้นเกินไป ไอ้หม่าไม่
น่ามีเหตุผลอะไรให้ยอมแพ้เร็วขนาดนี้
ถ้างั้นทำไมถึงไม่โพสต์อะไรในเว่ยป๋อเพิ่มเลยตลอดช่วงวันหยุดที่ผ่านมาล่ะ
เผยเชียนกลัวว่าจะมีปัญหาจึงรีบโทรหาไอ้หม่า
“ฮัลโหล ว่าไงพี่เชียน” ไอ้หม่าตอบเสียงชัดเจน ไม่ได้ฟังดูเหมือนเพิ่งตื่น
เผยเชียนรู้ดีว่าไอ้หม่าไม่ใช่คนตื่นสาย ขนาดช่วงหน้าหนาวก็ยังตื่นมาเรียนได้
ไอ้หม่าเป็นจอมอู้ที่ขยัน จึงถือว่าแปลกที่หมอนั่นไม่ยอมโพสต์เว่ยป๋อเพิ่มอีก
โพสต์เผยเชียนไม่มัวอ้อมค้อมและถามออกไปตรงๆ “โอนเงินไปเท่าไหร่แล้ว”
หม่าหยาง “ยังไม่ได้โอนสักหยวนเลยพี่”
เผยเชียนอึ้งไป “ทำไมล่ะ”
หม่าหยางตอบตามตรง “ทุนตามฝันนี้ผมได้มาด้วยการบากบั่นทำงานอย่าง
หนัก เป็นเครื่องยืนยันผลงานของผมจากพี่! ผมต้องเห็นฝันที่แท้จริงก่อนถึงจะ
ยอมส่งเงินต่อ ไม่มีทางให้ไปแบบไม่มีเหตุผลหรอก!”
เผยเชียนแทบหลุดหัวเราะ
เป็นงี้นี่เอง!
พอลงโพสต์ไปแล้ว ไอ้หม่าก็นั่งไล่อ่านคอมเมนต์และรีโพสต์ของตัวเอง เขาจะ
ยอมให้เงินก็ต้องเมื่อเจออะไรที่เกี่ยวข้องกับฝัน
แต่เว่ยป๋อของเขามีคนติดตามแค่ไม่กี่คน จึงมีคนเห็นโพสต์แค่น้อยนิดและคน
ที่เห็นก็ไม่เชื่อเขาอีก ส่วนใหญ่คิดว่าโกหก คนที่สงสัยก็ไม่ได้บอกความฝันอย่าง
จริงจังเหมือนกัน
ดังนั้นจึงไม่มีคอมเมนต์ไหนเข้าตาหม่าหยาง เขาเลยไม่ยอมให้เงินสักคน
ยิ่งเขาไม่ยอมให้ ผู้คนก็ยิ่งคิดว่าเขาเป็นพวกสแกมเมอร์ จึงไม่ยอมคอมเมนต์
อย่างจริงจัง
เรื่องเลยลากยาวมาตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์
เผยเชียนได้แต่ถอนหายใจ สมแล้วที่เป็นไอ้หม่า แกนี่เก่งจริงๆ!เขาถามออกไปด้วยความสงสัย “งั้นทำไมไม่ย้ำว่าให้ทุกคนเขียนคอมเมนต์ที่
เพ้อฝันมากกว่านั้นล่ะ”
หม่าหยาง “ไม่ได้! ผมเป็นพนักงานของเถิงต๋า จะเสียจุดยืนไปไม่ได้! อีกอย่าง
ผมเป็นคนให้เงิน ถ้าโพสต์เว่ยป๋อย้ำอีกรอบก็เหมือนผมไปอ้อนวอนขอให้เงินพวก
เขาสิ ไม่ได้หรอกพี่!
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขา ผมจะรอดูว่าผู้โชคดีคนแรกจะเป็นใคร”
เผยเชียนแอบยกนิ้วโป้งให้ในใจก่อนจะพูดขึ้น “สมัยก่อนมีซางยางย้ายเสาไม้
สร้างศรัทธา[1] สมัยนี้มีหม่าหยางแจกเงินบนเว่ยป๋อ สองวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่”
ตอนเกิดเรื่องย้ายเสาไม้สร้างศรัทธาของซางยาง มีคนมากมายมามุงดู แต่ก็ไม่
มีใครลงมือ เพราะไม่มีใครเชื่อ
สองเรื่องนี้มีส่วนคล้ายกันอยู่หน่อยๆ
แน่นอนว่าเผยเชียนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องดีหรือแย่
ถึงจะไร้ความเสี่ยงที่ไอ้หม่าจะกลายเป็นเน็ตไอดอล แต่เงินก็ยังไม่ได้ใช้สัก
แดง!
เพราะงั้นเผยเชียนเลยไม่รู้ว่าควรสนับสนุนหรือต่อต้านพฤติกรรมนี้ดี
หลังจากคิดๆ ดู เขาก็ตัดสินใจว่าจะปล่อยให้ไอ้หม่าตัดสินใจเอาเอง!
“อืม ทำถูกแล้วละ ยึดมั่นแบบนี้ต่อไป!”
พอวางสายเสร็จ เผยเชียนก็เช็กดูเวลาแล้วเตรียมตัวเดินทางไปบริษัท OTTOเผยเชียนลงเงินกับบริษัท OTTO ไปมาก หลักๆ ใช้ไปกับการก่อตั้งห้องวิจัย
ซอฟต์แวร์และอัลกอริทึมรูปภาพของ OTTO ขึ้นใหม่ในรอบบัญชีก่อน
การวิจัยของ OTTO ต้องมีผลงานออกมาภายในรอบบัญชีนี้ ไม่งั้นจะ
กลายเป็นการละเมิดกฎระบบ
เผยเชียนรู้สึกว่ารอบบัญชีนี้เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด เขาเลยต้องแวะไปดู
เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะปล่อยผลงานที่ไม่สร้างกำไรใหญ่โตออกมา
…
ห้องประชุมบริษัท OTTO
ฉางโหย่วกับพนักงานหลักของบริษัท OTTO มารวมตัวเพื่อรายงานความ
คืบหน้า
“บอสเผยครับ ตามภารกิจที่ได้จากบอสรอบก่อน เรามีงานหลักต้องทำสอง
งานจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า
“งานแรกคือการอัปเดต OTTO OS ให้มีฟีเจอร์มากขึ้น ซึ่งก็รวมถึงฟังก์ชันใช้
งานระบบ โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบกล้องในห้องวิจัย
“สำหรับระบบกล้องใหม่ เราเตรียมปรับปรุงเรื่องอัลกอริทึม รวมไปถึง
ฟิลเตอร์เพิ่มความสวยงามสำหรับผู้ใช้งานเมื่อถ่ายเซลฟี่
“นอกจากนั้น เรายังบรรลุข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับบริษัทซวิ่นเคอในการพัฒนา
ระบบผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ ซึ่งจะอัปเดตให้พร้อมใช้งานใน OTTO OS ครับ!“บอสน่าจะรู้ว่าตอนนี้มีแค่มือถือรุ่นเรือธงของ Pineapple ที่มีฟีเจอร์นี้ ถ้า
เราอัปเดตฟีเจอร์นี้ให้มือถือ OTTO E1 เป็นเจ้าแรกๆ ก็จะช่วยส่งเสริมมูลค่าแบ
รนด์ได้มากทีเดียวครับ!
“งานที่สองคือ เราตั้งใจว่าจะพัฒนาลำโพงอัจฉริยะสำหรับผู้ช่วยเสียง
อัจฉริยะตัวใหม่ ตอนนี้วงการนี้ในจีนยังว่างอยู่ ถ้าคว้าโอกาสนี้มาได้ก็จะดีต่อการ
เพิ่มคุณค่าไลน์ผลิตภัณฑ์เราได้มากเลยครับ!”
เครื่องหมายคำถามค่อยๆ ปรากฏขึ้นเหนือหัวเผยเชียน
?
ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ?
ไม่ควรมีเจ้านี่อยู่ในแผนพัฒนารอบที่แล้วนี่นา
แถมยังไม่น่าจะมีในจีนเร็วขนาดนี้ด้วย
มือถือรุ่งเรือธงล่าสุดของ Pineapple มีฟีเจอร์ผู้ช่วยเสียงเพราะ Pineapple
ทุ่มเงินสองร้อยล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อบริษัทปัญญาประดิษฐ์ซึ่งมีธุรกิจหลักคือ
บริการแชตด้วยข้อความ จากนั้นก็ร่วมมือกับผู้พัฒนาระบบจดจำเสียงรายใหญ่
ที่สุดในโลกเพื่อพัฒนาฟังก์ชันการจดจำเสียงขึ้นมา
เหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นปีนี้
เผยเชียนคาดว่ากว่าผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะจะมีในจีนก็อย่างน้อยอีกห้าปี เพราะ
ภาษาที่ใช้แตกต่างกันแต่จากที่ฉางโหย่วบอกมา บริษัทซวิ่นเคอเหมือนจะทำวิจัยในแวดวงนี้อยู่และ
มีผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะภาษาจีนที่ค่อนข้างก้าวหน้าแล้ว ปรับแต่งนิดหน่อยก็
สามารถนำมาใช้ได้โดยตรง!
เผยเชียนสัมผัสได้ถึงสัญญาณอันตรายและนึกถึงรางวัลพิเศษที่ได้ตอนปิด
บัญชีรอบที่แล้วออก
หรือว่านี่จะเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ระบบบอก
เทคโนโลยีนี้ของจีนก้าวหน้าเร็วกว่าเดิมห้าปีเนี่ยนะ เร่งจนชนกับบริษัทแนว
หน้าของต่างประเทศได้เลยเหรอ
เผยเชียนตื่นตระหนก แต่พอสงบใจคิดดูก็รู้สึกว่าไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
ผู้ช่วยเสียงปัญญาประดิษฐ์ค่อนข้างใช้การไม่ได้ตอนช่วงเปิดตัวแรกๆ เรียกได้
ว่าปัญญานิ่มมากกว่าที่จะเป็นปัญญาประดิษฐ์
ต้องใช้เวลาอีกสามถึงห้าปีถึงจะก้าวหน้ามากพอ เพราะงั้นก็ยังไม่จำเป็นต้อง
กังวลอะไรมาก
แน่นอนว่าเผยเชียนจะวางใจไปไม่ได้
เพราะยังไงก็เป็นของใหม่ ถึงจะปัญญานิ่ม แต่ก็ดึงดูดใจลูกค้าที่ไม่เคยเห็นมา
ก่อนได้ ตัดความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจจะซื้อกันอย่างบ้าคลั่งทิ้งไม่ได้
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ “แต่แผนพัฒนาเดิมของเราไม่
มีผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะนะ พวกคุณเพิ่งตัดสินใจเพิ่มเข้ามาหลังจากได้เห็น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัทซวิ่นเคอใช่มั้ย“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ชะลอไปก่อนดีกว่า
“งานส่วนอื่นยังมีอีกเยอะ ผมกลัวว่าพวกคุณจะจัดการเวลากันไม่ได้ แล้ว
กระทบกับงานส่วนอื่นๆ”
ฉางโหย่วยิ้ม “ไม่ต้องห่วงครับบอสเผย ไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน
“ก่อนหน้านี้เราวางแผนจะทำซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ให้มือถือใหม่ แต่บอ
สเผยบอกว่าให้ทำแค่ซอฟต์แวร์แล้วปล่อยปีละครั้ง เพราะงั้นเราเลยตัดเรื่อง
ฮาร์ดแวร์ออกจากแผนค้นคว้าและพัฒนา
“พวกเราเลยมีเวลาว่างครับ! ซึ่งก็เหมาะมากๆ ที่เราจะทำผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ
ประจำ OTTO OS!
“เพราะงั้นบอสเผยคิดถูกแล้วครับ เราต้องเว้นช่องไว้ในแผนค้นคว้าและ
พัฒนา ไม่งั้นคงคว้าโอกาสแบบนี้มาไม่ได้!”
เผยเชียน “…”
เจื่อนเลย
ความผิดฉันอีกแล้วเหรอ
เมื่อไหร่ที่เจอสถานการณ์แบบนี้ เผยเชียนจะอยากย้อนเวลากลับไปในรอบ
บัญชีที่แล้วเพื่อกระทืบตัวเองซะทุกครั้ง
ดูเหมือนว่ายังไงก็ต้องทำผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะออกมา
ถ้างั้นก็ต้องเดินหน้าไปขั้นต่อไปหาทางป้องกันไม่ให้มันประสบความสำเร็จ!
ในสภาพตลาดปัจจุบัน บ้านอัจฉริยะเข้ามามีบทบาทแล้ว ตัวอย่างเช่น เหลียง
ชิงฟานใส่กระจกและระบบแสงอัจฉริยะในอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ซึ่ง
สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอ LCD
แต่ของพวกนี้แทบไม่ค่อยเห็นติดตั้งในบ้าน เพราะราคาค่อนข้างสูงและใช้การ
ไม่ได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่
เผยเชียนคงไม่คิดติดตั้งของพวกนี้ถ้าไม่ได้อยากเพิ่มค่าเช่าอพาร์ตเมนต์บ้าน
จอมเฉื่อย
ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะในมือถือเองก็เหมือนกัน ราคาไม่ได้ถูกเลยสักนิด มีแค่มือ
ถือรุ่นเรือธงของ Pineapple ที่ใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามา เพราะเป็นโอกาสในการลงทุน
ถ้าพวกเขาทำลำโพงอัจฉริยะขึ้นมาก็อาจขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
เผยเชียนไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งและคิดหามาตรการป้องกัน
แต่… จะเริ่มจากตรงไหนล่ะ
จากชื่อ!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “แล้ว…ลำโพงอัจฉริยะมีชื่อรึยัง”
ฉางโหย่วผงะไป “โอ้ ยังครับ รบกวนบอสเผยตั้งให้ได้มั้ยครับ
“ผมคิดว่าชื่อที่บอสเผยตั้งมักจะมีความหมายมาก”เผยเชียนพยักหน้า “ชื่อ อ้ายอีซือ
“ชื่ออังกฤษคือ AEEIS”
“อ้ายอีซือ…” ฉางโหย่วทวนซ้ำ “มีความหมายเบื้องลึกอะไรมั้ยครับ”
เผยเชียนอธิบาย “ย่อจาก ‘An Efficient and Effortless Intelligent
System’ เป็น A.E.E.I.S”
ฉางโหย่วตอบกลับ “ระบบตัวช่วยอัจฉริยะที่ทั้งมีประสิทธิภาพและทุ่นแรงได้
มากเหรอครับ สุดยอดเลย! เหมาะมากๆ ครับ!
“ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะมีหน้าที่ช่วยทุ่นแรง ประหยัดเวลา และเพิ่ม
ประสิทธิภาพ ชื่อนี้เลยเหมาะสุดๆ ครับ!”
เผยเชียนยิ้ม
จริงๆ แล้วชื่อนี้ย่อมาจาก An Elegant and Easy-going Intelligent
System ซึ่งก็คือ ตัวช่วยอัจฉริยะที่สง่างามและง่ายๆ สบายๆ
ทุกคนรู้ดีว่าความสง่างามและง่ายๆ สบายๆ[2] เป็นยังไง
แน่นอนว่าเผยเชียนมีแผนเตรียมไว้แล้วถึงได้ตั้งชื่อแบบนี้[1] ซางยางคือชาวบ้านแคว้นฉินในยุครณรัฐของจีนโบราณซึ่งเป็นยุคที่มีการ
รวบรวมแคว้น เขาเสนอตัวช่วยอ๋องแคว้นหนึ่งปฏิรูปแคว้น และเรื่องที่โด่งดังของ
ซางยางคือ ‘ย้ายเสาไม้สร้างศรัทธา’ โดยซางยางมีคำสั่งให้เอาเสาไม้ต้นหนึ่งไปตั้ง
ไว้ ณ ประตูทิศใต้ ปิดประกาศว่าใครสามารถย้ายเสาไม้ไปยังประตูทิศเหนือได้จะ
มีรางวัลให้สิบตำลึงทอง ชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์แต่ไม่มีใครเสนอตัว ต่อมา
จึงมีการเปลี่ยนประกาศว่า ใครที่ย้ายเสาไม้ได้ จะให้ห้าสิบตำลึงทอง สุดท้ายก็มี
คนย้ายเสาไม้จากประตูทิศใต้ไปสู่ประตูทิศเหนือ ทางการก็ให้รางวัลห้าสิบตำลึง
ทองจริงๆ เป็นการยืนยันว่า คำสั่งใดๆ จากทางการนั้นพูดจริงทำจริง
[2] 儒雅随和 เป็นวลีจาก ซุนเสี่ยวฉวน พิธีกรรายการทีวีออนไลน์ ตอน
ที่พูดจาหยาบคายและด่าพ่อล่อแม่ผู้ชมระหว่างไลฟ์สตรีมอยู่ห้านาที ก่อนจะบอก
ว่า ‘จริงๆ ผมเป็นคนสง่างามและง่ายๆ สบายๆ พูดคำหยาบคายไม่เป็น’ ชาวเน็ต
จึงนำคำนี้มาใช้ประชดเมื่อเจอคนที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน