ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 691 แอ็กชัน
ตอนบ่าย
ลู่จือเหยากับจูเสี่ยวเช่อมาถึงสตูดิโอถ่ายทำ
ที่นี่คือสตูดิโอเมืองจิงโจวที่ใช้ถ่ายทำวันพรุ่งนี้ที่สดใส ลู่จือเหยากับทุกคนใน ทีมโปรดักชันค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นี่ดี
ทีมงานเร่งมือตั้งฉากและจัดการกับพร็อบ
ฉากและพร็อบส่วนหนึ่งเคยใช้ในการถ่ายทำวันพรุ่งนี้ที่สดใส เนื่องจากเป็น แนวไซไฟเหมือนกัน แค่เอามาปรับนิดหน่อยก็ใช้ได้อีกครั้ง
แต่เมื่อเทียบกับวันพรุ่งนี้ที่สดใส การถ่ายทำครั้งนี้ใช้ฉากและพร็อบที่สมจริง กว่า จึงต้องใช้เวลาเตรียมการนานกว่า
“ผู้กำกับจู แน่ใจนะครับว่าเราเริ่มถ่ายตอนนี้ได้เลย” ลู่จือเหยามองทีมงานทั่ว สตูดิโอที่กำลังขะมักเขม้นกับงานตัวเองด้วยแววตาสับสน
จูเสี่ยวเช่อพยักหน้า “ใช่ครับ เราเริ่มถ่ายวันนี้ได้เลย เดี๋ยวมาถ่ายลองกล้อง กันก่อน”
ลู่จือเหยายังคงสับสน “แต่… ฉากกับพร็อบยังไม่พร้อมเลยนะครับ “แล้วนักแสดงคนอื่นล่ะครับ จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่เจอใครเลยสักคน “คงไม่ได้จะให้ผมฉายเดี่ยวใช่มั้ยครับ”
จูเสี่ยวเช่อยิ้มบาง “ไม่ต้องห่วงครับ คุณต้องเข้าฉากเยอะหน่อย ผมจัดแจง เตรียมสิ่งที่จำเป็นไว้หมดแล้ว เราสองคนเตรียมถ่ายฉากคุณก่อนได้เลย หลังจาก นั้นระหว่างถ่ายทำ ฉากกับพร้อมก็จะเร่งทำให้เสร็จ”
ลู่จือเหยาเงียบไป
ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอก
พวกเขาเดินลึกเข้าไปในสตูดิโอ จูเสี่ยวเช่อพาลู่จือเหยาไปยังห้องที่เต็มไปด้วย ฉากเขียว “การถ่ายทำส่วนใหญ่จะอยู่ที่นี่
“ส่วนฉากเหตุการณ์จริงๆ เป็นยังไง… ดูจากผังนี้ได้ครับ ทุกอย่างระบุไว้ ชัดเจนมาก”
จูเสี่ยวเช่อเปิดแผนผังในมือถือแล้วยื่นให้ลู่จือเหยา
แผนผังหน้าตาเหมือนด้านในยานอวกาศในสภาพแวดล้อมไซไฟ การจัดวาง เรียบง่ายมาก มีเคบินสำหรับนอนหนึ่งห้องกับส่วนควบคุมขนาดใหญ่
บนส่วนควบคุมมีจอขนาดใหญ่หนึ่งจอและจอขนาดเล็กอีกหลายจอ มีที่นั่ง หนึ่งที่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่นั่งสำหรับคนขับยาน ด้านหน้าที่นั่งมีจอทัชสกรีน ขนาดใหญ่ แผงควบคุมทรงครึ่งวงกลม และปุ่มมากมายหลายสี
ลู่จือเหยามองไปรอบๆ สถานที่ถ่ายทำแล้วพบว่ามีส่วนควบคุมที่ทำเสร็จแล้ว ที่นั่งหนึ่งที่ และเคบินสำหรับนอน ทุกอย่างน่าจะเป็นพร็อบที่เร่งทำภายในไม่กี่ วันที่ผ่านมา ส่วนฉากอื่นๆ จะใช้ฉากเขียวแล้วตัดต่อเข้ามาทีหลัง
“ผู้กำกับจู นี่คือ…”
ลู่จือเหยาดูสับสนสุดๆ อย่างน้อยตอนถ่ายวันพรุ่งนี้ที่สดใส ห้องนี้ก็จัดเซ็ตติ้งโดยใช้พร็อบจริงหมด ตอนนี้เซ็ตติ้งของสิ่งที่กำลังจะถ่ายทำกลับเต็มไปด้วยฉากเขียว ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยเอฟเฟ็กต์พิเศษ ยิ่งทุนหนาเอฟเฟ็กต์ก็จะยิ่งออกมา ดูดี แต่ยังไงพร็อบกับฉากหลังจริงก็ทำให้ดูสมจริงกว่า เป็นไปได้รึเปล่าว่า… ผู้กำกับจูใช้ฉากเขียวเยอะแยะขนาดนี้เพื่อโกงเอาเงิน บอสเผย แน่นอนว่าลู่จือเหยาถามออกไปตรงๆ แบบนั้นไม่ได้ เขากระแอมกระไอ “ผู้ กำกับจู เราใช้พร็อบจากวันพรุ่งนี้ที่สดใสก็ได้นี่ครับ ยังไงก็เป็นแนวไซไฟ เหมือนกัน ผมว่าเราเอาพร็อบพวกนั้นมาปรับนิดหน่อยก็น่าจะใช้ได้แล้ว” จูเสี่ยวเช่อยิ้ม “ใช่ครับ ดูเคบินกับส่วนควบคุมสิ ทุกอย่างทำมาจากพร็อบที่ เหลือจากวันพรุ่งนี้ที่สดใส ไม่งั้นคงทำเสร็จไม่เร็วขนาดนี้หรอก “ส่วนทำไมที่เหลือถึงใช้ฉากเขียวหมด ก็เพราะว่าเราต้องใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษ เยอะมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พิเศษ “ส่วนเอฟเฟ็กต์ที่เราจะใช้… ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคุณก็ได้รู้เอง “ลองอ่านบทส่วนแรกก่อนครับ” ระหว่างที่พูด เขาก็หยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ ลู่จือเหยา
ลู่จือเหยารับมาแล้วไล่สายตาดูตั้งแต่ต้นจนจบอย่างรวดเร็ว
“แค่นี้เหรอครับ” ลู่จือเหยามองบทด้วยสายตางุนงง ฉากที่ต้องเล่นดูเหมือน ไม่มีฉากเปิดและฉากจบเป็นเรื่องเป็นราว อ่านแล้วชวนสับสนมาก
จูเสี่ยวเช่อผุดยิ้มอีกครั้ง “ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ เราจะถ่ายทีละฉาก ผม จะไม่ให้บททั้งหมดกับคุณ เพื่อที่คุณจะได้สัมผัสความรู้สึกของตัวเอกในเรื่องได้ดี ขึ้น
“โอเคครับ เดี๋ยวคุณไปหาที่นั่งแต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า ช่วยจำบทให้ได้ระหว่าง ผมไปจัดการงานอื่นด้วยนะครับ”
ลู่จือเหยาพยักหน้า “ได้ครับ ผู้กำกับจู ผมต้องใส่ชุดบินอวกาศหรือชุดเอ็กโซส เกเลตันเหรอครับ”
เนื่องจากได้ยินมาว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามนอกโลก เขาจึงคิดว่าน่าจะ ได้ใส่ยูนิฟอร์มรบเท่ๆ
ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกคาดหวังกับเรื่องชุดอยู่หน่อยๆ
ถึงชุดเอ็กโซสเกเลตันจะหนักและใส่ไปสักพักจะรู้สึกเมื่อย แต่มันก็เท่มาก!
“อ๋อ เปล่าครับ คุณจะสวมชุดนี้” จูเสี่ยวเช่อกวักมือเรียกทีมคอสตูมและช่าง แต่งหน้า จากนั้นทีมคอสตูมก็ถือชุดเสื้อยืดกางเกงรัดรูปสีเทาเข้มธรรมดาๆ มา
ลู่จือเหยาอึ้งไป
“ผู้กำกับจูแน่ใจนะว่าจะให้ผมใส่ชุดนี้ มีอะไรผิดพลาดรึเปล่าครับเนี่ย”
จูเสี่ยวเช่อยิ้ม “ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ชุดนี้แหละ ถ้าไม่แน่ใจก็ลองอ่านบท ดูอีกรอบนะครับ”
ลู่จือเหยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอ่านบทอีกรอบเงียบๆ
…
ในเคบินสำหรับนอน ฉากแรกเปิดด้วยภาพซูมระยะใกล้
เปลือกตาของฉินอี้ปิดสนิท แต่ลูกตากำลังกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว คิ้วขมวด เป็นปม เม็ดเหงื่อผุดเต็มทั่วหน้าผาก ปฏิกิริยาเหมือนคนกำลังฝันร้ายสุดๆ
ตอนนั้นเองดวงตาของเขาก็เบิกโพลง!
ลูกตาของเขาแดงก่ำ แววตาฉายชัดถึงความหวาดผวา
กล้องค่อยๆ แพนขึ้นด้านบนขณะที่เคบินเปิดออกเอง ฉินอี้ลุกขึ้นนั่งยกมือ ก่ายหน้าผาก หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ก่อนที่เขาจะรวบรวมสติ กลับมาได้
ความทรงจำอันเลวร้ายนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าสู่สมอง ฉินอี้หันมองท้องแขน ตามสัญชาตญาณ บริเวณนั้นมีบาดแผลทะลุจนแขนแทบจะฉีกขาดออกเป็นสอง ท่อน แต่ตอนนี้แผลเริ่มตกสะเก็ดแล้ว
เขาจำได้รางๆ ว่าได้แผลนี้มายังไง เขาบุกลึกเข้าไปในรังของเซิร์กหมาย ทำลายเครื่องปฏิกรณ์ขนาดจิ๋วผ่านรอยแตกตรงเกราะอกด้วยปืน แต่ก็พลาดและ จบที่โดนกรงเล็บแหลมของเซิร์กแทง
“ฉันรอดมาได้เหรอ” ฉินอี้สับสนไปหมด ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองตายอยู่ในรังของเซิร์ก แต่ไม่นานภาพเหตุการณ์ตอนก่อนตายก็แล่นเข้าหัว สวีไข่เล่อ เมิ่งอวี่ เจ้าหย่งซิ่ว อูเซ่าจวิน… สมาชิกทีม AS-371-45 ทุกคนยก เว้ยฉินอี้ตายในรังของเซิร์ก ฉินอี้ยังจำเสียงและรอยยิ้มของทุกคนได้ แต่ในชั่วพริบตาก็โดนความตาย พรากให้จากกัน แต่เขาก็รีบกำจัดความรู้สึกเจ็บปวดและเรียกสติตัวเองกลับคืน ก่อนจะลุก ออกจากเคบิน เขาเห็นจอขนาดใหญ่ ที่นั่ง และส่วนควบคุมห่างจากจุดที่ยืนไปไม่ไกล เขา ไม่ได้เดินไปตรงนั้น แต่ก้าวเท้าไปที่มุมหนึ่งแล้วพยายามหาทางออก ยานอวกาศนี้ไม่มีทางออกกำหนดไว้ตายตัว ผนังรอบๆ ทุกส่วนสามารถ กลายเป็นประตูได้หมดถ้าได้รับอนุญาต ฉินอี้พยายามผลักผนังให้เปิดแต่ก็ไม่เป็นผล แสดงว่าเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ ออกจากยานนี้ “ขออภัยค่ะกัปตันฉิน คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากที่นี่ค่ะ” เสียงผู้หญิงนุ่ม ละมุนดังขึ้น
ฉินอี้หันมองไปรอบห้องและพบกับภาพฉายโฮโลแกรมของนักบินอวกาศหญิง ยืนอยู่กลางห้อง ใบหน้าของเธอสะสวยตามแบบพิมพ์นิยมของผู้หญิงสัญชาติ ตะวันออก แม้บนหน้าจะมีรอยยิ้มละมุน แต่เธอก็ดูหาญกล้าตามแบบทหาร
เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “สงครามยังไม่จบสินะ”
ภาพโฮโลแกรมของทหารหญิงพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
ฉินอี้นั่งลงในเคบิน ยกสองมือกุมหน้า ก่อนจะถอนหายใจยาว
ภาพโฮโลแกรมของทหารหญิงเดินตรงมาหาฉินอี้ แต่สีหน้าของฉินอี้กลับ แสดงออกถึงความเย็นชาทันที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “AEEIS กลับสู่ภาพ ตั้งต้น”
ทหารสาวชะงัก ก่อนจะค่อยๆ โปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ แล้วหายไปในที่สุด
หลังจากนั้นกระแสข้อมูลสีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศและรวมตัวกัน เป็นภาพคลื่นเสียงที่ผันแปรไปมา
เสียงของ AEEIS เปลี่ยนเป็นเสียงที่เย็นชาและไร้ความรู้สึก “กัปตันฉินอี้ ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกไม่พอใจ แต่มนุษยชาติต้องการให้คุณปฏิบัติภารกิจนี้ให้ เสร็จในฐานะทหาร”
เสียงของฉินอี้ทุ้มต่ำเพราะเก็บงำความโกรธอยู่ “ราชินีเซิร์กตายแล้ว แต่ สงครามยังไม่จบ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ฉันอยากรู้ความจริง”
AEEIS “เพราะกองกำลังเสริมและจิตใต้สำนึกของเซิร์ก
“ราชินีเซิร์กเป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตระดับสูงที่มีปัญญาก้าวหน้า สามารถวาง มาตรการป้องกันเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์จากการโดนฆ่าล้างบางหลังตัวเองตายได้ ราชินีเซิร์กคลอดราชินีรองและซ่อนแต่ละตัวไว้ในรังต่างๆ เมื่อมันตาย ราชินีรอง จะกลายเป็นราชินีตัวใหม่
“ราชินีเซิร์กควบคุมเซิร์กทุกตัวได้เพราะถูกวางโปรแกรมไว้ในจิตใต้สำนึก พูด ง่ายๆ คือพวกมันมีโทรจิตและสามารถอัปโหลดข้อมูลผ่านจิตใต้สำนึกได้ การที่ ราชินีเซิร์กคุมทั้งเผ่าพันธุ์ได้ เป็นเพราะการมีอยู่ของจิตใต้สำนึกในพวกเซิร์ก
“ทันทีที่ราชินีเซิร์กตาย มันก็อัปโหลดข้อมูลทั้งหมดในจิตใต้สำนึกไว้บน เครือข่ายจิตใต้สำนึกเซิร์ก หลังจากนั้นราชินีรองที่ซ่อนตัวอยู่จะรับข้อมูลทั้งหมด มาและเลื่อนตำแหน่งเป็นศูนย์สั่งการใหม่”
สีหน้าของฉินอี้เคร่งเครียดขึ้น “ข้อมูลนี้ได้มาก่อนหรือหลังปฏิบัติการล่าตัด หัว
“ฉันอยากได้ความจริง”
AEEIS เงียบไปสองวินาทีก่อนจะตอบกลับ “ก่อน”
ฉินอี้สูดหายใจลึก “เราเห็นชิ้นส่วนยูนิฟอร์มรบสกายลาร์ก 2 ระหว่างที่บุกลึก ลงไปในรังเซิร์ก
“แกโกหกทุกคน แกรู้ว่ารอบนี้เราไม่น่าจะทำภารกิจสำเร็จ และถึงแม้เราจะ ทำได้ ก็คงไม่มีความหมายอะไร แต่แกกลับปล่อยให้คนเกือบร้อยทีมเข้าไปตาย เนี่ยนะ
“นี่คือการตัดสินใจของแก หรือการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารสูงสุด หรือของผู้บัญชาการ”
AEEIS ไม่ได้ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา “แน่นอนว่าภารกิจนี้มี ความหมาย
“จิตใต้สำนึกของพวกเซิร์กมีขอบเขตกว้างไกล แต่ก็ไม่ได้ไร้ขีดจำกัด ราชินี รองต้องใช้เวลาในการดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อขึ้นเป็นราชินีตนใหม่ ระหว่างนี้เรา สามารถตักตวงความได้เปรียบในสนามรบได้
“การเสียสละของทุกคนจะนำพาเราไปสู่ชัยชนะสูงสุด”
ฉินอี้ตอบกลับเสียงเย็นเยียบ “ในฐานะทหาร ฉันพร้อมสละชีพ แต่ฉันยอมรับ ไม่ได้ที่โดนหลอก!”
เขากำมือขวาแน่นด้วยความโกรธ แต่ไม่นานก็คลายออก ภาพเพื่อนร่วมทีม ปรากฏขึ้นในหัวอีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย
“ฉันขอลางานสามเดือนเพื่อกลับบลูสตาร์ อีกสามเดือนฉันจะกลับมาเข้ากอง ประจำการ
“แล้วฉันจะสละชีพตามที่แกต้องการ”
AEEIS “ขออภัย กัปตันฉิน ฉันไม่สามารถอนุมัติคำขอของคุณได้
“คณะกรรมการบริหารสูงสุดแห่งกองกำลังสมาพันธ์บลูสตาร์ได้แต่งตั้งให้คุณ เป็นผู้บัญชาการคนใหม่เพื่อนำทัพรบกับเซิร์ก
“คุณต้องช่วยบลูสตาร์”