ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 719 – ปรับแก้ข้อสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า
วันศุกร ์ที่ 4 พฤศจิกายน
เผยเชียนกินข้าวเช ้าที่ร ้านอินเทอร ์เน็ตโมหยูเสร็จแล้วเดินไป ออฟฟิศ
ไลฟ์ สตรีมของหม่าหยางเมื่อวานถือว่าค่อนข้างประสบ ความส าเร็จ
ถึงจะไม่ได้เป็ นกระแสยกใหญ่ แต่ผลตอบรับก็ดีมากทีเดียว แถม ยังมีคนเอาคลิปไลฟ์ สตรีมไปอัปโหลดลงเว็บอ้ายลี่เต่าและ แพลตฟอร ์มใหญ่อื่นๆ ด้วย
แบรนด์เครื่องเขียนสารพิษโดนเปิดโปงหมดเปลือกชั่วข้ามคืน บางบริษัทที่ดังหน่อยถึงขั้นออกประกาศฉุกเฉินแจ้งว่าจะตรวจสอบ ข้อกล่าวหาโดยละเอียด
ส่วนไลฟ์สตรีมของหม่าหยางก็มีกระแสได้แค่นั้น
ไลฟ์ สตรีมของหม่าหยางท าให้เกิดกระแสพูดคุยในกลุ่มเล็กๆ ไม่ได้เป็ นกระแสฮือฮาใหญ่โต มีชื่อเสียงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทา ก าไรหรือสร ้างกระแสมากนัก
เผยเชียนมองว่ายังถือว่ารับได้
ปล่อยให้ไอ้หม่าสร ้างความขุ่นเคืองใจและเปิดโปงบริษัทมากขึ้น จะได้ดูว่าโมเดลนี้ขาดทุนได้จริงๆ รึเปล่า
ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะกลับไปออฟฟิ ศ แต่ช่วงเที่ยงเขา ได้รับข้อความจากห่าวหยุนบอกว่ามีเรื่องจะรายงาน และเป็ นเรื่อง เกี่ยวกับการสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋า
เนื่องจากไม่มีอะไรทา เขาเลยแวะไปที่ออฟฟิ ศเพื่อฟังรายงาน จากห่าวหยุน
หลังมาถึงได้ไม่นาน ห่าวหยุนก็มาเคาะประตู
“บอสเผยคะ แผนกของเราพบภัยแอบแฝงระหว่างการสอบ คัดเลือกพนักงานครั้งนี้ค่ะ เขาไม่รู ้ว่าควรจะจัดการดีไหมและจะ จัดการยังไงดี ก็เลยมารายงานให้บอสทราบค่ะ”
เผยเชียนเอื้อมไปหยิบกระดาษรายงาน เขาไล่สายตาอ่านคร่าวๆ ระหว่างฟังห่าวหยุนอธิบาย
ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งรู ้สึกเหลือเชื่อ
เกิดห่วงโซ่ธุรกิจขึ้นจากคู่มือการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าได้ ด้วย?
สถาบันฝึ กอบรมวิชาชีพนั่นคิดจะหากาไรจากการสอบวัดจิต วิญญาณเถิงต๋าจริงๆ เหรอ
ดูเหมือนว่าเถิงต๋าจะกลายเป็ นบริษัทที่มีอิทธิพลมากจริงๆ มีคน อยากเข้ามาเป็ นพนักงานเถิงต๋ามากขึ้นจนเกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมา
เผยเชียนอดขมวดคิ้วด้วยความกังวลไม่ได้
พวกที่ซื้อคู่มือกับไปเข้าอบรมน่าจะได้คะแนนสอบข้อเขียนสูง เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย
งั้นก็หมายความว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่ผู้สมัครที่เถิงต๋ารับเข้ามาจะ เป็ นคนเก่งและขยันสิ
แต่เผยเชียนก็ทาอะไรไม่ได้ เพราะชื่อเสียงของเถิงต๋ากระจายไป ไกลแล้ว หลายคนพยายามเต็มที่เพื่อจะได้เข้ามาทางาน
พวกเขาเปลี่ยนเนื้อหาการสอบและกฎการคัดเลือกได้ตามใจ ชอบ ถึงสุดท้ายจะไม่ได้หัวกะทิ แต่ก็อาจจะได้พวกเก่งรอบด้านที่ ไม่ได้แย่ที่สุดมาแทน
ปัญหานี้แก้ยากมาก
อีกอย่างเผยเชียนเองก็ไม่ชอบพฤติกรรมของสถาบันฝึกอบรม วิชาชีพ โดยพื้นฐานแล้ว นี่ก็เหมือนกับเหตุการณ์ ‘Super High School[1]’ หลายๆ กรณีที่เกิดขึ้น
โควตามีจากัด แต่บางคนก็เริ่ม ‘ขนอาวุธมาสู้’ ทาให้คนอื่นๆ ต้องทาตาม เกิดเป็ นวงจรอุบาทว์ที่ทุกคนเหนื่อย แต่ไม่มีใครได้ ประโยชน์
ถึงจะไม่wfhขัดขวางเผยเชียนจากการขาดทุน แต่เรื่องนี้ก็ทาให้ เขารู ้สึกไม่พอใจ
พอเห็นเผยเชียนยังคงเงียบอยู่ สีหน้าของห่าวหยุนก็จริงจังขึ้นมา “บอสเผยเองก็สังเกตเห็นเหมือนกันใช่มั้ยคะ”
เผยเชียน “?”
ฉันสังเกตเห็นอะไรล่ะนั่น
ห่าวหยุนพูดต่อ “บอสเผยคะ ดิฉันคิดว่าการช าระล้างบรรยากาศ ภายในและสร ้างแรงต้านทานการล่อลวงจากภายนอกเป็ นเรื่องที่ สาคัญมากขึ้นเรื่อยๆ!
“เมื่อวานนี้มีสถาบันหนึ่งติดต่ออู๋ปินมา บอกว่าจะให้เงินก้อนโต แลกกับข้อสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า โชคดีที่อู๋ปินหักห้ามใจตัวเอง และปฏิเสธอีกฝ่ายได้
“แต่นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ๆ ค่ะ พนักงานที่รับผิดชอบตาแหน่ง สาคัญๆ ในเถิงต๋าอาจจะทนต่อแรงยั่วยุไม่ได้ เราต้องหาทางป้ องกัน ความเสี่ยงนี้!”
เผยเชียนกะพริบตา
อ๋อ เรื่องนี้เองหรอกเหรอ…
เขาไม่ได้สังเกตเห็นเรื่องนี้มาก่อน แต่พอมาคิดดู ก็เหมือนจะเป็ น ปัญหาจริงๆ
“คุณคิดว่าเราควรท ายังไง” เผยเชียนถาม
ชัดเจนว่าห่าวหยุนคิดถึงคาถามนี้ไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงตอบกลับ ทันที “บอสเผยคะ ดิฉันคิดว่ามีหลักๆ อยู่สองทาง
“ทางแรก เพิ่มอานาจให้แผนก HR กับแผนกธุรการในการ ก ากับดูแลกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าและพนักงานในต าแหน่งส าคัญ ทาแบบนี้จะป้ องกันไม่ให้พนักงานขายผลประโยชน์บริษัทหรือใช ้ อานาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวได้
“ทางที่สอง จัดอบรมเชิงอุดมการณ์ให้พนักงาน เพื่อให้พวกเขา ตระหนักถึงความจริงจังของเรื่องนี้ และระบุผลลัพธ ์ที่ตามมาและ มาตรการลงโทษ
“ส่วนเรื่องแนวทางการลงโทษ ดิฉันแนะนาให้วางมาตรการ ลงโทษตามความผิดแต่ละแบบ การลงโทษสถานเบาสุดคือหักเงิน และสถานหนักสุดคือไล่ออก โดยต้องจาแนกระดับการลงโทษเมื่อมี การละเมิดกฎให้ชัดเจน ต้องรายงานการละเมิดกฎทันทีทุกกรณีและ ไม่ควรผ่อนปรนเด็ดขาด”
เผยเชียนตกสู่ภวังค์ความคิดอีกครั้ง
เขาต้องลงโทษคนที่ทาผิดกฎหมายหรือผิดระเบียบให้หนักๆ เพราะระบบระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามมีกรณีแบบนี้
ส่วนพนักงานที่ใช ้ตาแหน่งหาเงินเข้ากระเป๋ าตัวเองจะจัดการ ยังไงดี
ดูอย่างเรื่องเมื่อวานเป็ นตัวอย่าง คนนอกจากสถาบันฝึกอบรม วิชาชีพติดต่อหาอู๋ปิ นเพื่อให้ช่วยทาคู่มือสาหรับการสอบวัดจิต วิญญาณเถิงต๋า ถ้าอู๋ปินตอบตกลง เผยเชียนจะจัดการยังไง อู๋ปินควร โดนลงโทษยังไง
เผยเชียนคิดเรื่องนี้ไม่ตก เพิ่มอานาจในการกากับดูแลให้แผนกธุรการไม่ได้แน่นอน ถ้าพวกอู้งานเลิกอู้ขึ้นมาจะทายังไง แต่จะให้เพิกเฉยปัญหานี้ไปเลยก็ไม่ถูก
เผยเชียนกระแอมกระไอ “เอางี้เป็ นไง จากที่ผมมอง เราไม่ จาเป็ นต้องวางมาตรการลงโทษที่แตกต่างกัน เมื่อไหร่ที่พบเห็นใคร ใช ้อานาจหน้าที่เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะได้รับเงินมาเยอะ เท่าไหร่และเป็ นปัญหาเล็กใหญ่แค่ไหน คนคนนั้นจะโดนไล่ออกทันที เราจะไม่รับคนแบบนี้เข้ามาทางานด้วยอีก!
“แน่นอนว่า ถ้าไล่ออกเราก็ต้องจ่ายค่าชดเชยด้วย เพราะ พนักงานทุกคนต่างก็ทาเพื่อเถิงต๋ามาไม่มากก็น้อย
“ส่วนเรื่องการอบรมเชิงอุดมการณ์ ก็จัดการตามที่คุณ เห็นสมควร ถ้าอยากท าก็ท าได้เลย แต่ไม่จ าเป็ นต้องจริงจังมาก เกินไป”
เผยเชียนคิดว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ ก็แค่ไล่คนที่ทาผิด ออก!
เพราะยังไง คนที่ใช ้อานาจหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวได้ก็ เป็ นพวกที่มีตาแหน่งสาคัญๆ ในบริษัท ถ้าคนแบบนั้นอยู่ในตาแหน่ง ได้นาน ก็แสดงว่าน่าจะเป็ นคนเก่ง เขาใช ้โอกาสนี้ไล่คนเก่งออกได้ เพื่อที่จะได้ไม่มาขัดขวางการผลาญเงินของเขา
อีกอย่างถ้าเสียค่าชดเชยหลังไล่พนักงานออก เขาก็จะใช ้ ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
เขาต้องผลาญเงินให้ได้มากที่สุด
ไม่รู ้ทาไม ห่าวหยุนรู ้สึกตื้นตันใจมาก เธอพยักหน้า “รับทราบค่ะ บอสเผย!”
ถึงบอสเผยจะพูดด้วยน้าเสียงสบายๆ แต่ห่าวหยุนก็สัมผัสได้ว่า ค าพูดของบอสมีความหมายแฝงอยู่
บอสเผยปฏิเสธค าแนะน าในการ ‘เพิ่มอานาจการกากับดูแล’ ซึ่ง หมายความว่า ในมุมมองของบอสเผย ถึงการเพิ่มอานาจการกากับ ดูแลภายในและป้ องกันไม่ให้หากาไรส่วนตัวจะเป็ นเรื่องสาคัญ แต่ การรักษาสภาพแวดล้อมการทางานที่มีอิสระในบริษัทเป็ นเรื่องที่ ส าคัญกว่า
ท าไมถึงไม่จ าเป็ นต้องวางมาตรการลงโทษหลายแบบ
เห็นได้ชัดว่าในสายตาบอสเผย ไม่ว่าจะท าผิดเล็กน้อยแค่ไหน คนกระท าผิดก็ต้องได้รับการลงโทษอย่างหนัก!
บริษัทอื่นอาจจะหาทางปกป้ องพนักงานที่มีความสามารถโดด เด่นแต่กระทาผิดทางจริยธรรม พวกเขาไม่ได้เป็ นห่วงเรื่อง มนุษยธรรม แต่แค่อยากปกป้ องผลประโยชน์ของบริษัท
เพราะยังไงถ้าต้องหาคนมาแทนตาแหน่งสาคัญๆ คนที่มาแทนก็ อาจทางานไม่เก่ง และถ้าต้องทาแบบนั้น ก็อาจส่งผลกระทบกับการ ท างานประจ าวันได้
แต่การปล่อยให้พวกเขาอยู่ในบริษัทต่ออาจส่งผลแง่ลบกับ บรรยากาศภายในบริษัท เพราะถือว่าไม่ยุติธรรมและเลือกที่รักมักที่ ชัง
จุดนี้แหละที่ทาให้บอสเผยแตกต่างจากบอสคนอื่นๆ
ส่วนหนึ่งก็เพราะบอสเป็ นคนเคร่งขรึม เสียสละ และไม่สนใจ ความสัมพันธ ์ที่ผ่านมา ถ้ามีใครใช ้อานาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ ส่วนตัว คนคนนั้นจะโดนไล่ออกทันทีไม่ว่าจะอยู่ตาแหน่งไหนและเคย มีความสัมพันธ ์อะไรกับบอสเผยมาก่อน
อีกส่วนหนึ่งก็เพราะถ้าเป็ นแค่ความผิดพลาดเรื่องงาน พนักงาน จะไม่โดนลงโทษ ถึงจะโดนไล่ออก คนที่โดนไล่ออกก็จะได้รับเงิน ชดเชยเพื่อเป็ นการแสดงความขอบคุณและความมีน้าใจที่บอสเผยมี
ให้ในฐานะเพื่อนร่วมงาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบอสดูแลพนักงานดี ขนาดไหน
พอมาคิดดูแล้ว วิธีนี้ถือเป็ นวิธีที่เหมาะที่สุดในการจัดการปัญหา ตามแบบฉบับของจิตวิญญาณเถิงต๋า
พอเห็นสีหน้าสลับซับซ ้อนของห่าวหยุน เผยเชียนก็รู ้สึกว่า ตัวเองโดนเข้าใจผิดอีกแล้ว
แต่ก็ไม่เป็ นไร ชินแล้ว…
ห่าวหยุนถามขึ้นอีก “ถ้างั้นเรายังต้องจัดการเรื่องที่สถาบัน ฝึ กอบรมวิชาชีพพยายามหาก าไรจากการสอบคัดเลือกพนักงาน ของเราไหมคะบอสเผย”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ตอนนี้ผลกระทบยังไม่ รุนแรงมาก ไม่ต้องห่วง ไว้เดี๋ยวผมค่อยคิดเรื่องนี้ที่หลัง”
พฤติกรรมของสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพสร ้างความวุ่นวายในหมู่ ผู้สมัครสอบเข้าเถิงต๋า แถมการหาผลประโยชน์จากผู้สมัครสอบก็ท า ให้เผยเชียนรู ้สึกรังเกียจ
แต่ผลกระทบในตอนนี้ยังถือว่าไม่ใหญ่เท่าไหร่ เผยเชียนเองก็ยัง คิดทางออกดีๆ ไม่ได้ จึงได้แต่ทดเอาไว้ก่อน รอให้คิดหาไอเดียดีๆ ได้ ก่อนค่อยว่ากัน
ห่าวหยุนหันหลังกลับ
“เดี๋ยว”
เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้จึงรีบหยุดอีกฝ่ ายไว้ “ช่วงนี้การสอบวัด จิตวิญญาณเถิงต๋ามีอัตราการผ่าน 100% คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้”
เผยเชียนสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว
แต่ก็คิดหาค าอธิบายดีๆ ไม่ได้
ว่ากันตามหลักการแล้ว การสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าถูกท า ออกมาให้ยาก จะมีอัตราการผ่าน 100% ได้ยังไง
แต่ความเป็ นจริงคือพนักงานใหม่ส่วนใหญ่สอบผ่านตั้งแต่ครั้ง แรก คนที่แย่ที่สุดสอบผ่านได้ภายในหนึ่งเดือน ไม่มีใครโดนคัดออก เลย
แปลกมาก
ห่าวหยุนผงะไป ก่อนจะรีบพูดขึ้น “อาจจะเพราะ… ทุกคนมีความ เข้าใจเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ลึกซึ้งมากขึ้นรึเปล่าคะ เพราะ บรรยากาศภายในบริษัทก็มีอิทธิพลต่อพนักงานใหม่เหมือนกันนะ คะ”
เผยเชียนพยักหน้าเบาๆ
ก็มีความเป็ นไปได้
“โอเค ไม่มีอะไรแล้ว” เผยเชียนบอก
ห่าวหยุนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนจะกลับออกไป
เผยเชียนเข้าไปดูแพลตฟอร ์มการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าอีก ครั้ง แล้วตรวจดูคาถามที่เปลี่ยนมาหลายครั้งอย่างละเอียด
จริงๆ แล้วเผยเชียนเข้ามาเปลี่ยนคาถามบ่อยๆ บางครั้งก็เปลี่ยน คีย์เวิร ์ดในคาถาม ทาให้ต้องเปลี่ยนคาตอบ บางครั้งก็คิดค าถาม ขึ้นมาใหม่เลย
แต่ไม่ว่าจะท ายังไง พนักงานใหม่ก็สอบผ่านอยู่ดี
เผยเชียนแอบเช็กพนักงานที่รับผิดชอบแพลตฟอร ์มอยู่หลาย ครั้ง แต่ก็ไม่พบความเป็ นไปได้ที่ข้อสอบจะหลุดออกไป
เพราะงั้นจึงเป็ นไปได้ว่าพนักงานพวกนี้เข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋า อย่างแท้จริง และสอบผ่านได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
ในเมื่อพนักงานเข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าและอู้งานได้อย่าง ภาคภูมิใจ แล้วท าไมเขาถึงยังท าเงินได้อยู่ล่ะ
เผยเชียนคิดไม่ออกว่าเรื่องราวเป็ นยังไงกันแน่
“ไม่ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่!
“เรื่องนี้ปล่อยไปไม่ได้!”
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู ้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
จิตวิญญาณเถิงต๋าอาจจะโดนตีความไปผิดๆ
คนพวกนี้อาจบังเอิญตีความไปอีกแบบ และดันได้คาตอบที่ ตรงกันพอดี
มีโอกาสเป็ นได้เหมือนกัน!
คิดได้แบบนั้นเผยเชียนก็เริ่มวางแผน
ผ่านไปครู่ใหญ่เขาก็ส่งข้อความหาพนักงานที่รับผิดชอบเว็บ TPDb
“ปรับแก้ข้อสอบจิตวิญญาณเถิงต๋า ท าให้เสร็จก่อนพนักงาน ใหม่เข้า
“ลดจานวนคาถามลงแล้วเพิ่มเวลาทาข้อสอบแต่ละข้อ ทุกข้อให้ เพิ่มช่องให้ผู้เข้าสอบเขียนอธิบายคาตอบอย่างละเอียดด้วยว่าทาไม ถึงเลือกตอบข้อนี้!”
……………..
[1] หมายถึงปรากฏการณ์ดึงตัวนักเรียนหัวกะทิเข้ามาเรียนใน โรงเรียน เพื่อเพิ่มอัตราการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนา โดยมี เป้ าหมายเป็ นการเก็บค่าเล่าเรียนที่แพงขึ้น