ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 86 จ้างตัวเองเหรอ
ตอนบ่าย หวงซื่อปั๋วเข้ามาที่บริษัท
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้ถามถึงความคืบหน้า แต่หวงซื่อปั๋วก็รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร
เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถใช้เงินหนึ่งล้านได้ตามใจชอบ ควรมาปรึกษาบอสเผยก่อนจะดีกว่า หวงซื่อปั๋วไม่อยากทำลายความเชื่อใจที่บอสเผยมีให้ตัวเอง!
หลังจากถามสารทุกข์สุขดิบทุกคนโดยเฉพาะเสี่ยวลู่เสร็จ หวงซื่อปั๋วก็พาเด็กหนุ่มนักศึกษาเข้าไปในห้องรับแขก
“บอสเผยครับ นี่ผู้กำกับที่ผมชวนมาทำงานด้วย เขาเป็นนักศึกษาปีสี่ เรียนด้านการกำกับที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง ชื่อจูเสี่ยวเช่อครับ” หวงซื่อปั๋วแนะนำอีกฝ่ายอย่างอบอุ่น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ บอสเผย!” จูเสี่ยวเช่อมีท่าทางกระตือรือร้นและมั่นใจในตัวเองมาก ไม่ได้ดูตื่นเต้นหรือกังวลอะไรเลย
เผยเชียนดีใจมากพอได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่
ถ้าผู้กำกับที่หามาเป็นพวกมืออาชีพ เขาคงจะต้องหาทางปฏิเสธ
นักศึกษาเนี่ยแหละดี ถึงจะเรียนการกำกับมา แต่ก็ยังห่างชั้นจากพวกมืออาชีพอยู่มาก!
การกำกับเป็นงานซับซ้อน
ผู้กำกับหลายคนต้องพิสูจน์ฝีมือจนอายุปาไปสามสิบสี่สิบกว่าจะดังได้และยังถือว่าเป็นผู้กำกับ ‘เด็ก’ ในวงการ
แค่เด็กปีสี่…จะไปทำอะไรได้
“ผมได้ยินมาว่าพวกคุณจะถ่ายซีรีส์ตอนสั้นกัน คิดไว้รึยังว่าจะถ่ายแนวไหน” เผยเชียนถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “คิดไว้แล้วครับ บอสเผย พวกผมอยากถ่ายบอส!”
เผยเชียนคิดว่าตัวเองหูฝาด
“ผมเหรอ
“ผมมีเรื่องราวอะไรให้ถ่ายด้วยเหรอ”
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “นี่เป็นไอเดียของผมเอง ผมคิดว่าบอสเป็นคนที่จะกลายเป็นตำนานในอนาคต ทำให้เหมาะมากๆ ที่จะถ่าย!
“ผมก็ไม่รู้เรื่องเนื้อหาซีรีส์เหมือนกัน ผู้กำกับจูจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ผู้กำกับจู ช่วยอธิบายไอเดียของคุณให้บอสเผยฟังด้วยครับ”
“ได้เลยครับ” ผู้กำกับจูรับช่วงต่อ “ผมได้ยินเรื่องราวของบอสจากพี่หวงแล้วคิดว่าบอสเป็นคนที่เหมาะมาก! ผมตั้งใจจะถ่ายชีวิตการทำงานของบอสครับ”
เผยเชียนงงเล็กน้อย “ระหว่างทำงาน…มีเรื่องอะไรน่าสนใจให้ถ่ายด้วยเหรอ”
เขาพยายามนึกว่างานของเขามีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า
โดดงานนี่นับไหม
ถึงเกมจะใช้เวลาพัฒนาสองเดือนเต็ม แต่เขาก็แวะเข้าออฟฟิศแค่ไม่กี่ครั้ง
ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจให้ถ่ายเลย
ทำไมหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อถึงอยากถ่ายฉันล่ะ
หรือว่า…จะพยายามประจบประแจง
อืม… น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ…
เผยเชียนไม่ได้ต่อต้านอะไร ใครๆ ก็ชอบให้คนมาประจบเอาใจทั้งนั้น
ขอแค่ได้ผลาญเงินก็พอ!
เนื้อหาที่จะถ่ายดูน่าเบื่อ ซึ่งก็หมายความว่าซีรีส์ตอนสั้นนี้ไม่น่าจะดังได้ โฆษณาไม่น่าเข้า เว็บไซต์ต่างๆ ก็ไม่น่าซื้อไปลง มีโอกาสเจ๊งสูงมาก
ฟังดูดีเลยทีเดียว
จูเสี่ยวเช่อรีบพูดขึ้น “บอสเผยไม่ต้องกังวลเรื่องเนื้อหานะครับ ศิลปะมาจากชีวิตประจำวันของเรานี่แหละครับ แต่ก็มีอะไรมากกว่านั้นอีกอยู่ ตอนผมถ่ายทำจะใช้เทคนิคต่างๆ ให้เข้ากับอิมเมจของบอสนะครับ
“แน่นอนว่าจะต้องมีการวางเซ็ตติ้งหรือวางสไตล์เป็นพิเศษ ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจตอนถ่ายทำครับ”
จูเสี่ยวเช่อพ่นศัพท์เทคนิครัวๆ ฟังดูไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็เหมือนจะติดเป็นนิสัยตอนคุยเรื่องงาน
เผยเชียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาชอบกล เหมือนมีอะไรเกิดขึ้นซ้ำรอย
แต่ชายหนุ่มก็นึกไม่ออกว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น
เรื่องเนื้อหาซีรีส์ เขาไม่ได้มีความเห็นอะไรมากนัก ขอแค่ทำเงินไม่ได้ก็พอ
เผยเชียนกังวลเรื่องอื่นมากกว่า ถ้าถ่ายทำซีรีส์แบบนี้จะใช้เงินล้านหยวนหมดเหรอ
ถ้าจะถ่ายชีวิตทำงานของเขาก็ต้องถ่ายที่ออฟฟิศ
ก็ประหยัดไปได้ทั้งค่าเช่าที่ ค่าอุปกรณ์ประกอบฉาก ค่าเสื้อผ้า รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ถ้าต้นทุนต่ำแบบนี้ ถึงจะขาดทุนขึ้นมาก็เสียไม่มาก
ต้องเป็นปัญหาขึ้นมาแน่ถ้าใช้เงินหนึ่งล้านหยวนไม่หมด!
“ถ้าถ่ายทำตามนี้จะใช้เงินหนึ่งล้านหมดมั้ย พวกคุณไม่ต้องกังวลเรื่องงบมากนะ ถ้าไม่พอผมให้เพิ่มได้ ที่สำคัญเลยคือต้องถ่ายทำให้ออกมาดี เข้าใจมั้ย”
เผยเชียนทำเหมือนเป็นห่วงเรื่องซีรีส์
จูเสี่ยวเช่อยิ้มแล้วตอบออกไป “ไม่ต้องห่วงครับ บอสเผย! พี่หวงกับผมคุยกันแล้ว ตั้งใจไว้ว่าจะให้ค่าแรงบอสกับพนักงานคนอื่นๆ ที่มาช่วยถ่ายทำ ถึงบอสจะไม่ได้ติดขัดเรื่องเงิน แต่พวกผมก็อยากให้เป็นการขอบคุณ
“ส่วนเรื่องค่าสถานที่ พวกผมก็จะจ่ายเหมือนกัน
“แล้วก็จะใช้เงินซื้ออุปกรณ์กับเป็นทุนใช้ตอนตัดต่อไฟนอล ส่วนเงินที่เหลือเราจะเอาไปลงตรงโฆษณา ผมคำนวณไว้แล้ว พองบที่ให้มาเลยครับ”
“ค่าแรงกับค่าสถานที่เหรอ”
จูเสี่ยวเช่อตอบ “ใช่ครับ บอสเผย เราตั้งใจจะให้ค่าแรงตามจำนวนต่อ แต่ละตอนยาวหนึ่งนาที บอสเผยจะได้ค่าแรงตอนละหนึ่งพันหยวน ส่วนคนอื่นๆ จะได้สองร้อยหยวนต่อตอน”
“บอสเป็นตัวละครหลัก ต้องออกหลายตอนเลย
“เราวางไว้ว่าจะมีสามซีซั่น ซีซั่นละสิบตอน กะไว้ว่าจะลงทุนน้อยๆ แต่ได้ผลตอบแทนเร็ว รวมแล้วบอสจะได้ค่าแรงสามหมื่นหยวน
“ค่าสถานที่ห้าหมื่นหยวนจะพอมั้ยครับ
“ผมรู้ว่าจำนวนเงินมันไม่ได้มากอะไร บอสไม่ได้ต้องการเลย แต่ที่สำคัญคือพวกผมอยากให้เป็นการขอบคุณ พวกผมไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเหนื่อยเพิ่มฟรีๆ”
เผยเชียนตาลุกวาว
เดี๋ยวนะ
ให้ค่าแรงฉันเหรอ
ไม่น่าใช่นะ
เอาใหม่ๆ
ฉันให้เงินหวงซื่อปั๋วไปหนึ่งล้านให้เอาไปลงทุนอะไรก็ได้ตามใจชอบ
แล้วหวงซื่อปั๋วก็เอาเงินก้อนนี้มาจ้างฉันไปเป็นพระเอก บอกว่าอยากให้ค่าตอบแทน…
เงินที่ฉันให้ไปเวียนกลับมาถึงตัวเอง ฉันกำลังจะใช้เงินตัวเองจ้างตัวเองทำงาน…
บ้าไปแล้ว!
เอ๊ะ!
ไม่นะ เดี๋ยวก่อน
ฉันว่าไม่น่าใช่!
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรแปลกๆ
เขาไม่ได้กำลังจะใช้เงินตัวเองจ้างตัวเอง
แต่กำลังจะแปลงเงินทุนระบบมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลต่างหาก!
เงินหนึ่งล้านหยวนก้อนนี้ตอนแรกเป็นเงินทุนระบบ จากนั้นเขาก็ให้หวงซื่อปั๋วไปในชื่อทุนในฝันเพื่อให้เอาไปลงทุนต่อ
ถ้าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจ่ายค่าจ้างให้ฉันก็จะถือว่าเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล!
ระบบบอกไว้แค่ว่าในฐานะเจ้าของกิจการ ฉันไม่สามารถให้เงินเดือนตัวเองด้วยเงินของบริษัทได้
แต่ระบบไม่ได้ห้ามคนอื่นให้!
อย่างตอนที่ครอบครัวเผยเชียนส่งเงินมาให้ ระบบก็ไม่ได้สนใจ!
ในเมื่อให้เงินหวงซื่อปั๋วไปก็เท่ากับว่าได้ใช้เงินทุนระบบไปแล้ว
อีกอย่างการที่เผยเชียนจะได้ค่าจ้างจากการเป็นนักแสดงซีรีส์ตอนสั้นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเป็นการทำงานตามปกติ ระบบไม่ได้มีข้อห้ามตรงนี้!
เผยเชียนตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ใครบอกว่าเขาไม่อยากได้ค่าแรง
ฉันอยากได้จะตายโว้ย!
เผยเชียนถามขึ้นในใจ “ระบบ ฉันรับเงินค่าจ้างได้มั้ย”
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ <เงินค่าจ้างใดๆ ที่เจ้าของระบบได้จากการทำงานถือเป็นรายได้โดยชอบธรรม ระบบจะไม่ริบเงินส่วนนี้ ห้ามแปลงเงินทุนระบบโดยมิชอบธรรม เงินค่าจ้างที่ได้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของตลาด>
คำตอบคือได้!
เผยเชียนโบกมือ “ไม่ต้องจ่ายค่าสถานที่หรอก เอาไปใช้จ่ายตรงอื่นดีกว่า ส่วนเรื่องค่าแรง…ถ้าอยากให้ไว้เป็นการขอบคุณ ผมก็เต็มใจรับ”
“ถ้างั้น…ก็ดีเลยครับ” จูเสี่ยวเช่อดีใจมาก “ขอบคุณมากครับ บอสเผย!”
ค่าเช่าสถานที่ห้าหมื่นหยวนเหรอ
เผยเชียนไม่ได้สนใจเลยสักนิด
เพราะ…เงินก้อนนั้นไม่ได้เข้ากระเป๋าเขายังไงล่ะ!
ค่าเช่าตรงนี้จะเข้าบริษัท พอเข้าบัญชีปุ๊บก็จะกลายเป็นเงินทุนระบบ
เผยเชียนไม่สามารถเลี่ยงระบบไม่ให้รับเงินจำนวนนี้ได้เพราะถือเป็นรายได้ของบริษัท
กลับกัน การที่เผยเชียนไปเป็นนักแสดงก็เท่ากับเป็นลูกจ้างของจูเสี่ยวเช่อ เป็นข้อตกลงร่วมกับจูเสี่ยวเช่อและบริษัทสาขาของหวงซื่อปั๋ว
ถือเป็นรายได้แยกจากบริษัทเถิงต๋า ไม่ต้องนำเข้าบัญชีบริษัท อีกอย่างเหตุผลก็หนักแน่นเพียงพอ ระบบไม่น่าจะสนใจอะไร!
ก็เหมือนกับเผยเชียนตั้งใจไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อหารายได้ ระบบก็ไม่ได้สนใจเงินตรงนี้ มีข้อแม้คือห้ามสมรู้ร่วมคิดกับร้านอาหารเพื่อโกงระบบ
อะไรถือเป็นการโกงระบบบ้าง
ก็อย่างเช่น เผยเชียนวางแผนกับหม่าหยางไว้แล้วให้เงินหนึ่งร้านไปลงทุนเปิดร้านอาหาร จากนั้นหม่าหยางก็เอาเงินสามแสนมาจ้างเผยเชียนล้างจาน แบบนี้ถือว่าเป็นการโกงระบบ
หนึ่ง เงินที่เผยเชียนได้รับจะต้องสอดคล้องกับงานที่ทำ
สอง เงินที่ได้มาจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเงินของทางบริษัทโดยตรง
ถ้าเผยเชียนใช้เงินจากบัญชีบริษัทมาจ่ายเป็นเงินเดือนตัวเองโดยตรงก็จะไม่ได้เงินสักหยวน
แต่ถ้าได้ผ่านบริษัทสาขาและจากบุคคลที่สามก็จะไม่ติดปัญหาอะไร เพราะถือว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับบัญชีบริษัท และงานที่ทำก็เหมาะสมกับค่าแรงที่ได้รับ
ดังนั้นระบบจึงอนุญาตให้เผยเชียนรับเงินตรงส่วนนี้โดยถือว่าไม่ผิดกฎอะไร!
ก่อนหน้านี้ เผยเชียนต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะแปลงเงินแค่สองหมื่นหยวนเข้ากระเป๋า
แต่คราวนี้เขาจะได้เงินจากซีรีส์ตอนสั้นตอนละหนึ่งนาทีเหมาสามสิบตอนสามหมื่นหยวน โคตรจะสุดยอดไปเลย!
ทำไมก่อนหน้านี้ถึงคิดแผนแบบนี้ไม่ออกนะ
เผยเชียนแอบดีใจอยู่เงียบๆ แผนนี้ต้องสำเร็จแน่!
“โอเคครับ บอสเผย มาเซ็นสัญญากัน!”
จูเสี่ยวเช่อหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋านักเรียนก่อนจะยื่นให้เผยเชียน
“ถามให้มั่นใจก่อนอีกรอบ ซีรีส์ตอนสั้นที่พวกคุณจะถ่ายกันไม่ได้ชื่อเรื่อง Unexpectedness ใช่มั้ย” เผยเชียนแกล้งถามออกไป
จูเสี่ยวเช่อรู้สึกงงนิดหน่อย “ไม่ครับ ไม่ใช่”
เผยเชียนโล่งอก
………………….