ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 14 การคัดเลือกของราชวงศ์ซ่างเสวียน
บทที่ 14 การคัดเลือกของราชวงศ์ซ่างเสวียน
แปลกมาก
ไป๋ชิวหรานถอนสัมผัสเทวะออกพร้อมความรู้สึกประหลาดใจ
ขณะอยู่ในร่างเด็ก เขาใช้เวลาที่นี่มาสามวันแล้ว ภายในสามวันนี้ เขาได้ใช้สัมผัสเทวะสอดแนมซือหม่าอิงป๋อ จักรพรรดิของซ่างเสวียน องค์ชายรัชทายาท และมหาราชครูฝูเชียนชิว แต่เขากลับไม่พบสิ่งผิดปกติเลย
จักรพรรดิซ่างเสวียนจะขึ้นศาลตรงตามเวลาเพื่อจัดการเรื่องในราชสำนัก ในตอนกลางคืน เขาจะเข้าไปเลือกนางสนมสองสามคนเพื่อเสพสุข ในฐานะของจักรพรรดิ ถึงแม้จะไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติ
องค์ชายรัชทายาทจากราชวังตะวันออกก็ยังคงเยาว์วัย เขากำลังเรียนรู้วิทยายุทธ์หลากหลายแขนงผ่านองค์ชายฝูที่จัดเตรียมโดยจักรพรรดิ ดูจากท่าทาง เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างฉลาด
ซือหม่าอิงป๋อและฝูเชียนชิวทำหน้าที่ในการเป็นองครักษ์และมหาราชครูอย่างปกติในช่วงสามวันมานี้ ไป๋ชิวหรานยังเห็นพวกเขาบ่มเพาะพลัง ซือหม่าอิงป๋อบ่มเพาะพลังไฟระดับพื้นฐาน ส่วนทักษะของฝูเชียนชิวนั้น ดูคล้ายกับของสำนักกระบี่ชิงหมิงเล็กน้อย
จากที่ไป๋ชิวหรานเห็นมา ดูเหมือนคนทั้งสองจะไม่ได้บ่มเพาะพลังเกี่ยวกับวิชามารเลย เพราะมันมียอดฝีมือด้านอาคมมากมายในแขนงนี้ เขาเองก็ได้พบพานมาไม่มากก็น้อย
ในหมู่คนพวกนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักอสูรสวรรค์เคยถูกเขาจัดการมาแล้ว เนื่องจากผู้อาวุโสคนนั้นสอนศิษย์ในเชิงไม่ดี อีกทั้งยังใช้ศิษย์สำนักมารมาทำให้บ้านเมืองล่มจมและไม่มีอนาคต แม้แต่เจ้าสำนักคนก่อนของสำนักโลหิตเทวะก็ไป๋ชิวหรานสังหาร
ไป๋ชิวหรานสามารถมองเห็นวิชาอาคมและวิชามารของพวกเขาได้เพียงการมองครั้งเดียว ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกตนขั้นสร้างรากฐานและขั้นกลั่นลมปราณระดับแปดถึงเก้า
ในช่วงสองสามวันที่สังเกตการณ์มานี้ กล่าวได้ว่าคนที่ไป๋ชิวหรานรู้สึกสงสัยมากที่สุดก็คือถังรั่วเวยที่กลับมาแต่งกายเป็นหญิงดังเดิม นางมักจะวัดระดับหน้าอกปลอมก่อนจะออกไปด้านนอกด้วยความภาคภูมิใจ ดังนั้นเขาจึงแอบใช้สัมผัสเทวะสังเกตคนเป็นองค์หญิงและภายในห้องนอนของนางตลอดเวลา ภายในนั้นจะมีกระจกสีน้ำตาลวางอยู่เสมอซึ่งข้างหลังนั้นเป็นห้องลับ
เมื่อใดก็ตามที่นางเข้าไปและออกมา ร่างกายส่วนหน้าอกของนางจะเปลี่ยนจากแบนราบเป็นใหญ่โตทันที ถังรั่วเวยไม่เคยฝึกฝนวิชาดัดแปลงกายเหมือนเขามาก่อน แต่กลับสามารถปรับเปลี่ยนร่างกายภายนอกได้ตามต้องการ ดังนั้นในมุมมองของไป๋ชิวหราน สิ่งนี้นับว่าคล้ายกับวิชาของสำนักมาร
หากไม่ใช่เพราะรู้จักนิสัยและตัวตนของถังรั่วเวยมาก่อน ที่ว่านางเป็นคนดื้อรั้นและมีความเป็นธรรม ไป๋ชิวหรานก็คงจะตั้งข้อสงสัยว่านางเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมดนี้ นับตั้งแต่การปลอมตัวจากหญิงเป็นชาย
หรือว่าทั้งหมดจะเป็นการเข้าใจผิด? รัฐซ่างเสวียนปรากฏความทุกข์ยากเพราะโชคชะตาของพวกเขาจริง มหาราชครูแค่เคยรู้จักกับศิษย์สำนักกระบี่ชิงหมิง ความเกลียดชังในผู้ฝึกตนของถังรั่วเวยมาจากเป็นความรู้สึกส่วนตัวของนางเท่านั้น และการที่วัตถุดิบหมดคลังก็เป็นเพียงเพราะศิษย์สำนักมารได้เดินทางผ่านมายังรัฐซ่างเสวียนเท่านั้น?
เคยมีคำกล่าวที่ว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนปราศจากความบังเอิญ…หรือจะมีภูตผีอยู่!
ไป๋ชิวหรานไม่อาจเชื่อได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
หากเขาเชื่อในเรื่องโชคชะตาและความบังเอิญ ไป๋ชิวหรานคงหมดอายุขัยและไปเกิดใหม่นานแล้ว
ยิ่งคนเหล่านี้ไม่แสดงความผิดปกติเท่าไร ไป๋ชิวหรานก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น
เราคือไป๋ชิวหราน เราต้องสืบหาความจริงให้ได้ เมื่อพวกเขาไม่ยอมเผยธาตุแท้ เช่นนั้นเราจะเป็นคนบังคับให้ทำเอง!
เมื่อนึกได้เช่นนี้ ไป๋ชิวหรานจึงยื่นมือออกไปและใช้วิชาลับบางอย่าง
พลังปราณในกายของเขาเริ่มหลั่งไหลอย่างไม่มีสิ้นสุด หลังจากเสร็จสิ้นวิชา ไป๋ชิวหรานก็เดินออกมาจากร่างกายและทิ้งร่างจำแลงที่เป็นเด็กอยู่ในห้อง
ตัวเขาและร่างจำแลงมองหน้ากัน ร่างนั้นยังคงทัศนคติของเด็กไว้และเดินกลับไปยังเตียงเช่นเดิม ขณะเดียวกัน ร่างกายที่แยกออกมาของไป๋ชิวหรานได้ขยายขึ้นจนกลับสู่สภาวะปกติ จากนั้นเขาก็ก้าวเดินออกไปจากห้องนี้อย่างเงียบ ๆ
—
ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ สวนหลังวังของรัฐซ่างเสวียน ถังรั่วเวยซึ่งสวมอาภรณ์หรูหราได้เข้าพบบิดาที่กำลังชื่นชมดอกไม้พลางจิบชาอยู่
“ท่านพ่อ” ใบหน้าของถังรั่วเวยเต็มไปด้วยความร้อนรน “ข้าได้ยินมาว่าท่านเปลี่ยนกฎกะทันหัน อีกทั้งยังนำเด็กชายและเด็กหญิงสองร้อยคนมาร่วมพิธีบวงสรวงสวรรค์งั้นหรือ?”
“รั่วเวย เจ้าก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เหตุใดถึงไม่สำรวมเอาเสียเลย” จักรพรรดิซ่างเสวียนวางจอกน้ำชาลงและถอนหายใจ เขาชี้ไปยังที่นั่งด้านข้างพร้อมกล่าวว่า “นั่งลงก่อน หากเจ้าใจร้อนเช่นนี้ ในอนาคตข้าจะวางใจได้อย่างไร”
“อย่ามากล่าวถึงอนาคตเลย ท่านบอกข้าเสมอว่ากฎของบรรพบุรุษเราไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ แต่เหตุใดท่านจึงเปลี่ยนมันแบบกะทันหันตอนนี้?” ถังรั่วเวยนั่งลงด้านข้างบิดาและกล่าวถามอย่างต่อเนื่อง
“นี่คือการปรับเปลี่ยนหลังจากหารือกับมหาราชครู” จักรพรรดิซ่างเสวียนตอบอย่างเฉยเมย “ยามนี้รัฐซ่างเสวียนประสบเคราะห์ภัยและการรุกรานของปีศาจมาหลายครั้ง โชคชะตาของรัฐก็ลดถอย ข้าจึงต้องจำใจใช้วิธีนี้เพื่อเปลี่ยนโชคชะตา”
“มหาราชครูอีกแล้วหรือ?” ถังรั่วเวยกล่าวอย่างขมขื่น “แทนที่จะใช้เรื่องพวกนี้มาทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เหตุใดท่านถึงไม่พยายามในการปกครอง และทำให้บ้านเมืองดีขึ้นเองตามความสามารถของท่านเล่า?”
“รั่วเวย!” จักรพรรดิซ่างเสวียนเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียว “ระวังคำพูดของเจ้าด้วย ข้าไม่ต้องการจะเสวนาเรื่องนี้กับเจ้า”
ถังรั่วเวยหน้าแดงขึ้นจากความโกรธ นางเงียบไปนานและไม่กล่าวสิ่งใดอีก
เมื่อเห็นบุตรสาวสงบเสงี่ยมมากขึ้น จักรพรรดิซ่างเสวียนจึงกล่าวต่อ “จริงสิ เจ้าหนีออกจากวังไปนาน ข้ายังไม่ได้จัดการเรื่องนี้กับเจ้าเลย”
“วันนี้ข้าจะจัดการให้มันเสร็จสิ้น เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่หนีออกจากวังอีก” เขากล่าวอย่างหนักแน่น
“ใครก็ได้ไปเชิญองครักษ์ซือหม่ามาให้ข้าที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังรั่วเวยจึงรู้สึกไม่ดีภายในใจ
ไม่นานหลังจากนั้น ซือหม่าอิงป๋อได้ถูกเชิญมายังสวนหลังวัง
“องค์เหนือหัว องค์หญิง”
เนื่องจากเขาเป็นศิษย์ของมหาราชครู ซือหม่าอิงป๋อจึงมีสถานะพิเศษในราชวังซ่างเสวียน มันจึงเป็นผลให้เขาไม่ทำการเคารพแบบปกติเมื่อพบจักรพรรดิและถังรั่วเวย เขาเพียงแค่กุมมือแต่ไม่ยอมคุกเข่า
“ซือหม่าอิงป๋อทำตัวตามสบาย”
จักรพรรดิซ่างเสวียนยิ้ม จากนั้นประโยคถัดมาเขาได้เอ่ยถึงบุตรสาวตรงหน้าจริง ๆ
“ข้าเรียกเจ้ามาเพื่อชี้แจงบางอย่าง ข้าเห็นว่าเจ้ายังไม่เคยสมรสกับสตรีใด อีกทั้งอายุรั่วเวยก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว เหตุใดข้าถึงไม่ให้นางสมรสกับเจ้าเพื่อมาเป็นราชบุตรเขยของข้าล่ะ? เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”
“ท่านพ่อ!” ถังรั่วเวยตะโกนขึ้นทันที แต่ถูกจักรพรรดิซ่างเสวียนยกมือขึ้นปรามนางไว้
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงบังคับให้ข้าแต่งกับซือหม่าอิงป๋อ?” ถังรั่วเวยเดินไปหาบิดาของนางอย่างรีบร้อน “ข้าไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย!”
“รั่วเวย…” จักรพรรดิซ่างเสวียนกล่าวเสียงต่ำ “องครักษ์ซือหม่าทั้งหล่อเหลาอ่อนโยน ตัวสูงถึงสี่ศอก มากด้วยพรสวรรค์ และเป็นยอดฝีมือในรัฐของเรา ยิ่งกว่านั้น…ข้าได้ตรวจสอบวงศ์ตระกูลเขามาแล้ว มารดาของเขานั้นเป็นหญิงที่มีน้ำมีนวลอย่างมาก”
ขณะมองบุตรสาวที่เผยใบหน้าซีดเผือด จักรพรรดิซ่างเสวียนจึงกล่าวอย่างเงียบ ๆ “รั่วเวย ราชวงศ์ซ่างเสวียนต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนความจริงที่ว่า หญิงในราชวงศ์นั้นมีหน้าอกที่เล็ก หากเทียบกับผู้ชายแล้วยิ่งน่าอับอายอย่างมาก แต่เรื่องนี้ไม่ได้อับอายเพียงแค่เจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นความอัปยศของราชวงศ์ซ่างเสวียนเช่นกัน ข้ารู้ความฝันของเจ้าดี อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากเจ้าสมรสกับซือหม่าอิงป๋อ บุตรของพวกเจ้าจะต้องสืบทอดสิ่งดี ๆ มาได้แน่นอน บางทีพวกเขาอาจจะไม่เป็นเหมือนกับเจ้า”
“นี่มันเหตุผลบ้าบออะไรกัน!” ถังรั่วเวยกล่าวด้วยความโกรธเคือง “ความฝันที่ไปอยู่กับลูกหลานมันใช่ความฝันงั้นหรือ? ยิ่งกว่านั้นมันผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ข้ายังไม่เห็นมีใครได้รับพันธุกรรมดี ๆ จากท่านแม่เลย”
แต่จักรพรรดิซ่างเสวียนหาได้สนใจไม่ เขาเพิกเฉยต่อคำของนางและมองไปยังซือหม่าอิงป๋อ
“ซือหม่าอิงป๋อ เจ้าจะสมรสกับรั่วเวยหรือไม่?” จักรพรรดิซ่างเสวียนถาม
ซือหม่าอิงป๋อเหลือบมองถังรั่วเวย จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปยัง ‘หน้าอก’ ที่บวมโตของนางก่อนจะก้มศีรษะตอบ
“ข้าเต็มใจ”
“ดี” จักรพรรดิซ่างเสวียนลูบฝ่ามือพร้อมหัวเราะเสียงดังเพื่อแสดงถึงความสำเร็จ “เนื่องจากตอนนี้ได้ตกลงปลงใจกันแล้ว แม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของมหาราชครู แต่หากในอนาคตเจ้าทำผิดต่อรั่วเวย ข้าจะกล่าวโทษไปถึงมหาราชครูด้วย”
“เรื่องเช่นนี้ย่อมไม่ควรนำมาพูดเล่น” ซือหม่าอิงป๋อก้มศีรษะอีกครั้ง
จักรพรรดิซ่างเสวียนหัวเราะอย่างมีความสุขพร้อมกับซือหม่าอิงป๋อ ขณะเดียวกันใบหน้าของถังรั่วเวยมืดมนราวกับถ่านก้นหม้อ
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะถูกจัดเตรียมไว้นานแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาได้จัดเตรียมก่อนที่ถังรั่วเวยจะกลับมา
เหตุผลหนึ่งที่จักรพรรดิซ่างเสวียนให้นางแต่งงาน นั่นก็เพราะไม่ต้องการให้นางเป็นคนหัวรั้นต่อไป และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือธรรมชาติของร่างกาย เขารู้ว่าถังรั่วเวยแอบยัดสิ่งใดไว้ตรงหน้าอก เมื่อนางเกิดในรัฐซ่างเสวียนที่เต็มไปด้วยสาวงาม ในอนาคตถังรั่วเวยจะไม่สามารถหาสามีได้โดยง่าย อีกทั้งจักรพรรดิยังไม่ต้องการให้บุตรสาวของเขาไปแต่งกับคนต่างถิ่นนอกรัฐ
หากซือหม่าอิงป๋อล่วงรู้รูปร่างที่แท้จริงของถังรั่วเวย เช่นนั้นเขาจะต้องหัวเราะอย่างเจ็บปวด
แน่นอนว่าถังรั่วเวยเองก็ไม่ได้เต็มใจจะแต่งกับศิษย์ของมหาราชครูที่นางเกลียดมากที่สุด แทนที่จะแต่งกับซือหม่าอิงป๋อ นางต้องแต่งกับบุรุษผู้สง่างามที่อยู่ในขั้นพลังเดียวกันมากกว่า
แต่มันเป็นคำบัญชาของบิดานาง จักรพรรดิแห่งซ่างเสวียน ถังรั่วเวยจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธโดยตรง
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์มันเลวร้ายมากยิ่งขึ้น นางจึงได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแอบย่องออกจากราชวังเมื่อถึงวันทำพิธีบวงสรวงสวรรค์ และออกจากเขตของรัฐซ่างเสวียนโดยไม่หวนกลับมาอีก