ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 185 ขอโทษด้วยที่ข้าไม่ใช่เทพ
“แสดงว่า ท่านตั้งใจจะขัดคำสั่งของจักรพรรดิสวรรค์เพื่อนางอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าของแม่ทัพเทพหมองคล้ำ ขณะถามด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
“คำสั่งจักรพรรดิตะวันออกไท่อีจริงจังมากงั้นหรือ?”
ชายหนุ่มพยุงเจียงหลานขณะถามกลับไป
“ในอดีตไป๋ผู้นี้รับคำสั่งของเขา เช่นนั้นจะยอมไว้หน้าให้… แต่ตอนนี้ในเมื่อเขาทำตัวหน้าไม่อาย ไป๋ผู้นี้จึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าอีกต่อไป”
“เช่นนั้นอย่าโทษเทพผู้น้อยที่ทำตัวเสียมารยาท”
เทพองค์นี้ยอมแพ้ไป๋ชิวหรานขณะกล่าว
“แม่ทัพเทพจักรพรรดิหวงเฉิงเทียน โปรดชี้แนะท่านแม่ทัพไป๋ผู้นี้ที!”
“รบกวนด้วย”
ชายหนุ่มโบกมืออย่างไม่ใส่ใจด้วยท่าทีค่อนข้างหยาบคาย
“เทพผู้น้อยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงด้านเคล็ดวิชาของท่านแม่ทัพไป๋ ไม่คิดเลยว่าจะได้พบเห็นความเย่อหยิ่งของท่านในวันนี้!”
แม่ทัพเทพจักรพรรดิหวงเฉิงเทียนเห็นท่าทีของไป๋ชิวหรานเป็นเช่นนั้น เขาจึงเดือดดาลทันที
“เอาเถอะ ตำแหน่งของจอมพลใหญ่แห่งเทพตะวันออก ถึงคราวต้องผลัดเปลี่ยนแล้ว!”
เขาถือแส้ศักดิ์สิทธิ์ไว้ในมือ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นไป๋ชิวหรานผู้เคยปะทะกับเทพตัวต่อตัวมาก่อน แต่แม่ทัพเทพผู้นี้ก็ไม่มีความหวาดกลัวอยู่ในใจ
ขอเพียงถูกสัมผัสด้วยแส้ไม้นี้ นอกจากจักรพรรดิตะวันออกไท่อีแล้ว… ไม่ว่าเทพองค์ใดจะถูกพรากพลังศักดิ์สิทธิ์ออกไป ต่อให้ไป๋ชิวหรานจะอาจหาญเพียงใด แต่ถ้าสูญเสียสิ่งเหล่านี้ เขาก็เป็นเพียงเจ้าโง่คนหนึ่งเท่านั้น
การโจมตีเมื่อครู่ ถึงแม้สีหน้าจะไม่แปรเปลี่ยน แต่แม่ทัพเทพจักรพรรดิหวงเฉิงเทียนก็มั่นใจว่าชายหนุ่มกำลังฝืนอยู่อย่างแน่นอน เทพระดับนี้ คงจะมีกระแสพลังมากกว่าหนึ่งอย่างแน่นอน
เขาชูแส้ศักดิ์สิทธิ์ในมือขึ้น พลังศักดิ์สิทธิ์ถูกถ่ายเทเข้าไป ไม่นานแส้ศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงเจิดจ้า
“รับแส้ข้าไป!”
แม่ทัพเทพตะโกนเสียงดัง แส้ศักดิ์สิทธิ์ในมือเปี่ยมด้วยพลังน่าสะพรึง ฟาดเข้าใส่ศีรษะของไป๋ชิวหราน!
แต่ชายหนุ่มกลับไม่หลบหลีกแต่อย่างใด และยังใช้ศีรษะรับแส้ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ฟาดด้วยหลังมือ ปราณกระบี่ทะยานพุ่งออกไป ตัดศีรษะของเทพองค์นี้ ปราณกระบี่ที่เหลือไหลหลั่งเข้าสู่ร่างกายอีกฝ่าย อวัยวะภายใน ร่างกาย กระดูก พลังศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณและสิ่งอื่น ๆ ล้วนทุกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แม่ทัพเทพองค์นี้ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้ประหลาดใจ เขากลายเป็นเนื้อเหลว ก่อนตกลงสู่พื้นดังแหมะ
“ได้อย่างไร?”
เทพองค์อื่นเห็นว่าไป๋ชิวหรานฉีกแม่ทัพเทพจักรพรรดิหวงเฉิงเทียนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ต่างรู้สึกหวาดกลัวทันที ก่อนชี้ไปที่ไป๋ชิวหรานแล้วตะโกนว่า
“เจ้าไม่ใช่เทพ…”
ไป๋ชิวหรานชำเลืองมองพวกเขา วารีสารทกระจ่างฟ้าในฝักกระบี่ที่อยู่ด้านหลังถูกชักออกมา ปราณกระบี่จำนวนมากทะยานออกไป เหล่าเทพต่างถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
“เจ้าปลอดภัยหรือไม่?”
หลังจากจัดการกับเทพเหล่านี้เสร็จ ไป๋ชิวหรานก็ย่อตัวลงพยุงเจียงหลานไว้ในอ้อมแขน ก่อนเอ่ยปากถาม
“ตอนนี้ข้ายังไม่ตายหรอก”
เจียงหลานไอสองสามครั้ง ไป๋ชิวหรานเช็ดโลหิตออกจากมุมปากนาง จากนั้นจึงส่งพลังงานแรงกล้าเข้าไปในร่างกาย พลังชีวิตจากธาตุไม้หมุนเวียนอยู่ในร่างของเจียงหลานอยู่หลายครั้ง ผิวพรรณของนางก็ฟื้นคืนสภาพกลับมาทันที
แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่เป็นแหล่งกำเนิดในร่างกายถูกพรากไป… นั่นทำให้เจียงหลานยังอ่อนแอมาก
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นมนุษย์จริง ๆ ”
ขณะมองเค้าโครงของไป๋ชิวหราน เจียงหลานก็เผยรอยยิ้มอ่อนแรงออกมา
“เมื่อหลายปีก่อน ข้าเคยบอกเจ้าเรื่องนี้ก่อนที่จะแต่งงานกันแล้วไม่ใช่หรือ?”
ไป๋ชิวหรานถอนหายใจ
“ในตอนนั้นข้าไม่คุ้นชิน… ไม่รู้ว่าเจ้ากำลังปลอมตัวอยู่”
เจียงหลานยิ้มแล้วกล่าวว่า
“แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้ามั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าเมื่อครู่ ในที่สุดข้าก็มั่นใจ เจ้าไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์หรือกระแสพลังอยู่ภายในร่างกาย”
ไป๋ชิวหรานยื่นมือออกไปคว้าบางสิ่ง แส้ไม้จากพื้นถูกหยิบขึ้นมา เขาเพ่งพินิจศึกษาอยู่สักพัก นอกจากพลังศักดิ์สิทธิ์ในแส้ไม้นี้แล้วก็ไม่มีอะไรอีก พลังศักดิ์สิทธิ์และกระแสพลังของเจียงหลานไม่หลงเหลือแต่อย่างใด
“หายไปแล้ว”
เมื่อเห็นการกระทำของไป๋ชิวหราน เจียงหลานจึงเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
“ข้าเห็นว่าก่อนหน้านั้นเจ้านั่นส่งแสงสว่างกลับท้องฟ้า เกรงว่ากระแสพลังของข้าจะถูกพรากไปโดยจักรพรรดิตะวันออกไท่อี”
“ใช่แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนี้ ไป๋ชิวหรานจึงวางแส้ไม้ลง และยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากสตรี
“ดูก่อนว่าเจ้าจะสามารถลุกขึ้นได้หรือไม่”
เขาพยุงไหล่ของเจียงหลานเอาไว้ พยายามประคองให้นางยืนขึ้น การเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
“เจ้าพบคนที่กำลังตามหาหรือไม่?”
หลังจากฟื้นฟูมาได้สักพัก เจียงหลานที่ได้รับการพยุงจากไป๋ชิวหรานก็ลุกขึ้นจากพื้น พลางเอนกายพิงอีกฝ่ายแล้วถาม
ไป๋ชิวหรานเงียบสักพัก จากนั้นตอบว่า
“เขาตายแล้ว”
ขณะมองนภายามค่ำคืนที่ไร้แสงดาว เขาถอนหายใจยาวออกมา
“เส้นทางถูกตัดขาด ต่อไปนี้ข้าจึงทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเองเท่านั้น”
เจียงหลานไม่พูดสิ่งใด นางเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าของไป๋ชิวหราน เพื่อปลอบประโลมอีกฝ่าย
ผ่านไปสักพัก นางก็กระซิบว่า
“ไม่เป็นไร คนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังตามหาอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่เจ้าตามหา… ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน”
ไป๋ชิวหรานหัวเราะอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงนำกระบี่ที่อยู่ข้างหลังออกไป ย่อตัวลงแล้วแบกเจียงหลานก่อนจะยืนขึ้น
“ไว้คุยเรื่องนี้กันในมิติว่างเปล่าเถิด เผ่าพันธุ์มนุษย์บนทวีปนี้ยังคงทุกข์ทรมาน อย่างน้อยคืนนี้ ข้าก็ช่วยเท่าที่ทำได้ไปแล้ว… จะว่าไป เกิดอะไรขึ้นกับที่อยู่อาศัยของลี่?”
“ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย ก่อนที่จะออกมาข้าขอให้พวกเขาหนีไปยังหุบเขาที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกับกลุ่มผู้รอดชีวิตคนอื่น”
เจียงหลานเอนกายอยู่บนหลังไป๋ชิวหราน นางบินไปพร้อมกับเขา
“ตอนพบกันครั้งแรกเป็นข้าที่พาเจ้าบินไป ในที่สุดตอนนี้ก็เป็นเจ้าที่พาข้าบิน”
“ถ้าในภายภาคหน้าเจ้าอยากเหาะเหิน… เช่นนั้นข้าจะพาไปด้วยแล้วกัน”
ไป๋ชิวหรานแน่นิ่ง ก่อนจะถามว่า
“เกิดอะไรขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา? เหตุใดจู่ ๆ จักรพรรดิตะวันออกไท่อีถึงโจมตีเผ่าพันธุ์มนุษย์เล่า?”
“ข้าได้ยินมาว่าหลังจากเจ้าไป เขาประสบกับฝันบอกอนาคต… ฝันที่ว่าคือความตายของเหล่าเทพ”
เจียงหลานตอบอย่างแผ่วเบา
“หลังจากนั้น ปราสาทสวรรค์ก็ส่งกองกำลังออกไป ต่อมาในคืนเดียวกัน พวกเขาได้เปิดฉากต่อต้านทุกเผ่าพันธุ์บนปฐพี คนแก่ล้วนถูกฆ่า ผู้ใหญ่ถูกจับไปใช้เป็นแรงงานทาส ผู้หญิงถูกจับไปเป็นของเล่น เด็กถูกจับไปเป็นอาหารสำรองให้กับเหล่าเทพ… แน่นอน เทพหลายองค์ที่อยู่ขั้นต่ำกว่าไม่ลงมือทำตามกฎ แต่นั่นเป็นสิ่งที่จักรพรรดิตะวันออกไท่อียอมให้เกิด”
“แล้วเจ้าล่ะ?”
ไป๋ชิวหรานถามอีกครั้ง
“เจ้าตกเป็นเป้าของแม่ทัพเทพนั่นได้อย่างไร? สมบัติที่อยู่ในมือของเขา เกรงว่าไม่ใช่สิ่งที่เทพธรรมดาจะถือครองได้ไม่ใช่หรือ? ข้าเดาว่าคงจะมีเพียงชิ้นเดียวในตำหนักสวรรค์”
“เขาถูกส่งเพื่อมาจัดการข้า”
เจียงหลานตอบพร้อมกับรอยยิ้มบิดเบี้ยว
“เหล่าเทพกำลังต่อสู้ในถิ่นฐานที่พวกลี่อาศัยอยู่ ตอนไปถึง เทพองค์หนึ่งกำลังดูถูกภรรยาของลี่ ภรรยาของเขายอมตายดีกว่าจะยอมแพ้ในการขัดขืน… จากนั้นจึงถูกเหล่าเทพฆ่า จากนั้นจู่ ๆ เขาก็เดือดดาลขึ้นมา ด้วยหมัดและกระบี่ที่คิดค้นด้วยตัวเอง อาศัยจังหวะที่เหล่าเทพยังไม่เตรียมการ แล้วชิงกระบี่จากมือของเทพที่อยู่ด้านข้าง ก่อนใช้กระบี่เพื่อฆ่าเทพที่ฆ่าภรรยาของตน”
เจียงหลานนิ่งไป
“ข้าวางโอสถพิษเหล่าเทพในถิ่นฐานนั่น ก่อนช่วยเหล่าผู้รอดชีวิตออกมา แต่ทันทีที่ออกจากถิ่นฐานมาก็ได้พบกับจักรพรรดิหวงเฉิงเทียน… เพื่อหันเหความสนใจ ข้าจึงแยกตัวออกมาจากพวกเขา”
หลังจากไป๋ชิวหรานกลับไปถึงแหล่งค้าขาย เวลาได้ผ่านไปอีกหลายปี ตอนนี้ลี่กลายเป็นผู้ฝึกตนขั้นปฐมวิญญาณ ทว่าไม่คาดคิดว่าพรสวรรค์จะโดดเด่นเพียงนี้ ประกอบกับวิชาที่เรียนรู้มาจากรากฐานของไป๋ชิวหรานเอง คาดไม่ถึงว่าเขาจะโจมตีจนฆ่าเทพได้องค์หนึ่ง
ถึงแม้จะเป็นเทพชั้นต่ำ แต่กำลังของอีกฝ่ายก็ใกล้เคียงกับผู้ฝึกตนขั้นแยกวิญญาณ จึงกล่าวได้ว่าลี่สมควรกับการเป็นร่างเซียนรุ่นแรกในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง
“อย่างนี้นี่เอง”
ไป๋ชิวหรานตอบ
“เช่นนั้นเริ่มจากไปช่วยพวกเขาระหว่างทาง จากนั้นก็รวมกลุ่มกับพวกลี่กันเถอะ”
ทันทีที่กล่าวจบ ไป๋ชิวหรานก็แบกเจียงหลานไว้บนหลัง มุ่งสู่หุบเขาที่นางเคยอยู่ ระหว่างทางได้ให้การช่วยเหลือถิ่นฐานมนุษย์จำนวนมาก ฆ่าเทพบ้าคลั่ง ผู้รอดชีวิตกับเหล่าวิญญาณทั้งหมดถูกรวมเข้าไปในภาพ ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงตีนเขา
สัมผัสเทวะกวาดผ่าน นั่นทำให้ไป๋ชิวหรานพบลี่ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้สารพิษพร้อมกับผู้คน เมื่อรับรู้เช่นนั้นเขาจึงเคลื่อนลงไปพร้อมกับเจียงหลาน