ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 197 ข้อเท็จจริงของสวรรค์ริษยา
บทที่ 197 ข้อเท็จจริงของสวรรค์ริษยา
“ในขณะที่เขามีคุณสมบัติทั้งหมดเฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์… เช่นนั้นก็ได้ครอบครองพลังอันทรงพลังของเหล่าทวยเทพ นั่นทำให้ข้าพึงพอใจยิ่ง ดังนั้นจึงให้การสนับสนุนเขามากกว่าเทพเจ้าจากราชวงศ์ก่อนหน้าทั้งหมด”
ร่างจุติของวิถีสวรรค์กล่าวเบา ๆ
“ด้วยรูปแบบวิถีชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งขึ้น เขาจึงทะเยอทะยานจะขึ้นครองบัลลังก์แห่งจักรพรรดิสวรรค์ต่อจากตี้จวิน และกลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์องค์ใหม่ ทว่าหลังจากนั้นกลับปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งในการนำทางเผ่าพันธุ์มนุษย์… เป็นข้านั่นเองที่ประเมินความทะเยอทะยานของมนุษย์ต่ำไป ทำให้ความทะเยอทะยานที่เขาได้รับมาโดยสมบูรณ์สร้างความพึงพอใจให้เป็นเทพเจ้าผู้มีอำนาจมากล้นในช่วงเวลาหนึ่ง เขาไม่อยากให้ผู้คนแข็งแกร่งประหนึ่งมังกร แต่หวังให้มนุษย์เป็นมังกรขาเดียวที่ต้องการพึ่งพาเขา… อีกทั้งยังอยากเป็นเจ้าแห่งโลกตลอดไป ดังนั้นเขาจึงอาศัยช่วงจังหวะที่ข้าไม่ทันสังเกตเห็น ลอบศึกษา กระทั่งค้นพบกฎเกณฑ์ที่ผูกมัดข้าไว้ แล้วขโมยพลังไปเพื่อฝึกฝนให้ตนแข็งแกร่ง ก่อนจะล้มล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์”
หลังจากหยุดชะงักไปชั่วขณะ ร่างจุติของวิถีสวรรค์ยังคงดำเนินเรื่องราวต่อไป
“และหลังจากที่ค้นพบพฤติกรรมเช่นนั้นของเขา ข้าอยากตอบโต้กลับบ้างเช่นกัน ทว่ากลับพบจุดอ่อนของข้าเสียก่อน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือจัดการกับเขาโดยตรงได้ตราบใดที่ไม่ละเมิดกฎ”
ที่แท้ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ละเมิดกฎแห่งวิถีสวรรค์ วิถีสวรรค์ก็ไม่อาจเข้าไปจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโลกโดยพลการ… ซึ่งทำได้เพียงเก็บความแค้นเอาไว้
เมื่อไป๋ชิวหรานได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากมุมมองของร่างจุติแห่งวิถีสวรรค์ ตำราเล่มเล็กภายในหัวใจของเขาก็ลอบจดบันทึกบางอย่างไว้ เตรียมพร้อมที่จะนำกลับไปบอกเล่าแก่ไป๋ลี่
“ฉะนั้น ข้าถึงต้องสร้างเผ่ามนุษย์ให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิตะวันออกไท่อีอย่างเร่งด่วน เพื่อต่อต้านการปกครองของเขา เวลานี้ห้วงแห่งความว่างเปล่าภายนอกโลก รวมถึงกระแสคลื่นของความว่างเปล่าได้ทำการชะล้างศพหนึ่ง ศพดังกล่าวคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักเช่นกัน ทำให้ข้า รวมถึงสวรรค์และโลกรู้สึกถึงความกลัวโดยสัญชาตญาณ เพราะความสามารถในร่างกายดังกล่าวนั้นไร้ที่สิ้นสุด… นั่นเปรียบเสมือนเป็นโมฆะ”
ขณะที่ร่างจุติของวิถีสวรรค์กล่าว มันเกิดความลังเล
“ข้าใคร่จะทำลายมันทิ้งไปเสียในเวลานั้น ทว่าพฤติกรรมของจักรพรรดิตะวันออกไท่อีกลับทำลายแผนการนั้นไปจนสิ้น ดังนั้นจึงวิเคราะห์ซากของสิ่งมีชีวิตนี้ แปรเปลี่ยนร่างกาย และพัฒนาโดยใช้เขาเป็นต้นแบบ ก่อนจะสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้ถือกำเนิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ และมนุษย์คนดังกล่าวคือผู้ครอบครองสรีระสวรรค์ริษยารุ่นแรก”
“นั่นคงเป็นเหตุผลที่เขาโกรธมากก่อนที่ตนเองจะตาย”
ไป๋ชิวหรานครุ่นคิดว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทุกอย่างล้วนสมเหตุสมผล เดิมทีผู้อาวุโสสวรรค์ริษยารุ่นแรกได้รับแต่งตั้งจากวิถีสวรรค์ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนจักรพรรดิตะวันออกไท่อี ทว่าวิถีสวรรค์กลับทำให้เขาตกอยู่ในกับดัก
“หลังจากที่สร้างเขาขึ้นมา ข้าก็ต้องเสียใจอีกครั้ง เพราะเป็นเหมือนเนื้อร้ายของโลกใบนี้ นับตั้งแต่เขาเกิดมาก็มองไม่เห็นทิศทางในอนาคตที่สดใสอีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด คนรอบข้าง สถานการณ์รอบตัว ข้าล้วนมองไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพึงพอใจกับศักยภาพของจักรพรรดิตะวันออกไท่อีเพียงใด ศักยภาพของเขายิ่งทำให้ข้าหวาดกลัวมากขึ้น”
วิถีสวรรค์กระซิบ
“จักรพรรดิตะวันออกไท่อีค้นพบความกังวลของข้า ดังนั้นในท้ายที่สุด เมื่อสวรรค์ริษยารุ่นแรกถูกจักรพรรดิตะวันออกไท่อีสังหารในซากปรักหักพังหวนคืน ข้าจึงไม่ได้หยุดยั้งหรือห้ามปราม แต่ไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากการตายของสวรรค์ริษยา การดำรงอยู่ของเขาจะถูกบันทึกไว้โดยโลกใบนี้ แม้ว่าข้าจะถือเป็นเจตจำนงหลักของโลกทั้งใบ แต่ไม่สามารถต้านทานสัญชาตญาณดังกล่าวได้ นานทีปีหนสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันจะถือกำเนิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ ข้ามักจะจำกัดพวกเขาด้วยชีวิตและความตาย ทว่าในที่สุด วิวัฒนาการภายใต้การควบคุมของข้า… โลกจึงได้ให้กำเนิดเจ้าขึ้นมา”
ร่างจุติของวิถีสวรรค์ยังคงอธิบายให้ไป๋ชิวหรานทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิตะวันออกไท่อีและสวรรค์ริษยารุ่นแรก หลังจากฟังคำอธิบายแล้ว ไป๋ชิวหรานก็เริ่มจะเข้าใจอย่างถ่องแท้
จุดประสงค์ที่แท้จริงของวิถีสวรรค์ คือเพื่อส่งเสริมเผ่ามนุษย์ให้แข็งแกร่งขึ้น ก่อนจะขึ้นมาอยู่ในฐานะแทนที่เผ่าเทพ… จากนั้นก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดของโลก
เดิมทีมันต้องการสร้างผู้ปกครองที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับเผ่ามนุษย์ทุกประการ ทว่าได้ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าร่วมด้วย เพื่อให้เป็นผู้นำของพวกเขา… นำทางให้เติบโตและได้รับการบ่มเพาะอย่างเหมาะสม
ดังนั้นด้วยพื้นฐานมาจากซากศพไร้ที่มาที่ไปที่ล่องลอยมาจากสักแห่งหนหนึ่งในห้วงแห่งความว่างเปล่า หลังจากการเพิ่มเสริมเติมแต่งมนุษย์ที่ครอบครองสรีระสวรรค์ริษยาขึ้นด้วยศักยภาพอันไร้ที่สิ้นสุดแล้ว ศักยภาพของสวรรค์ริษยารุ่นแรกกลับทำให้มันรู้สึกกลัว เพราะรู้ดีว่าจักรพรรดิตะวันออกไท่อียังมีขีดจำกัด ตรงข้ามกับสวรรค์ริษยาที่ปราศจากขีดจำกัด
แม้ว่าจักรพรรดิตะวันออกไท่อีจะขโมยพลังอำนาจของตนไป ทว่าวิถีสวรรค์ไม่ได้มีความคิดตื้นเขินอย่างที่คาดการณ์ในตอนแรก ต่อให้จักรพรรดิตะวันออกไท่อีจะกำจัดเผ่ามนุษย์หลังจากการปรับเปลี่ยนหลายครั้ง แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้า ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้มนุษย์ลุกฮือขึ้นมาโค่นล้มจักรพรรดิตะวันออกไท่อีได้ในสักวัน
ในทางกลับกัน หากสวรรค์ริษยารุ่นแรกบ่มเพาะจนมีศักยภาพที่สูงส่งยิ่งขึ้น หากวิถีสวรรค์ต้องการที่จะกำจัดหรือควบคุมเขา บางทีอาจไร้หนทางที่จะรับมือกับสวรรค์ริษยารุ่นแรก!
เมื่อมาถึงจุดนี้ วิถีสวรรค์ยังบอกเล่าให้ไป๋ชิวหรานรับรู้ถึงความลับทั้งหมดระหว่างสวรรค์ริษยา วิถีสวรรค์ จักรพรรดิตะวันออกไท่อี จักรพรรดิสวรรค์รุ่นแรก และจักรพรรดิจากราชวงศ์ก่อนหน้า
“ถึงเวลาที่เจ้าควรปฏิบัติตามข้อตกลงแล้ว”
ในที่สุดร่างจุติของวิถีสวรรค์กล่าวเตือน
“อย่าลืมเสีย หากทำผิดข้อตกลง ข้าจะเริ่มต้นทำลายและสร้างโลกขึ้นใหม่”
“เช่นนั้นเจ้าเองก็ควรจดจำให้ขึ้นใจเช่นเดียวกัน อย่าได้ติดตามหรือปิดกั้นไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใดก็ตาม”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับ
“มิฉะนั้นข้าจะไม่ปรานีเจ้าเช่นเดียวกัน”